เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก - ตอนที่ 9
‘…พ่อ?’
อีแวนส์อุทานทันที เมื่อเขาเห็นเปลวไฟสีดำที่เปลี่ยนเป็นรูปของพ่อของเขา
‘นี่…ทำไมพ่อถึงมาในนี้!?’
อีแวนส์หายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่ความกังวลของเขาจะเข้าครอบงำเขา อีแวนส์หลับตาและหายใจเข้าลึก ๆ 3 ครั้งก่อนจะหลับตาลงในที่สุด
[รวบรวมวิญญาณ: 1]
‘นี่อาจจะเป็น…วิญญาณของพ่อฉันใช่ไหม’
หนึ่งในทักษะติดตัวของอีแวนส์ [ผู้ควบคุมวิญญาณ] บอกว่าเขาสามารถส่ง ‘วิญญาณ’ ไปสู่ชีวิตหลังความตายได้ นี่มันหมายความว่าอย่างนั้นเองเหรอ?
‘ฉัน…สามารถเก็บวิญญาณของพ่อฉันได้งั้นหรอ?’ แวนส์คิด
เขายังไม่เข้าใจทักษะของเขาอย่างเต็มที่ และเขาไม่รู้ว่ามันทำงานอย่างไร อีแวนส์หวังว่าเขาจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับระบบของเขาได้มากขึ้นตลอดเวลาที่อยู่ในสถาบันการศึกษา นอกจากนี้ยังมีความจริงที่ว่าเขาจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการอ่านและการเขียน เนื่องจากเขาแน่ใจเขายังไม่รู้รายละเอียดบางอย่างของทักษะ
ถ้านี่คือวิญญาณพ่อของเขาจริงๆ นั่นหมายความว่าพ่อของเขายังไม่ได้ไปต่อที่ภพต่อไปและติดอยู่ในโลกของพวกเขาหรือเปล่า?
แวนส์ค่อยๆ ชี้ไปที่เปลวไฟสีดำเพื่อดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่
และทันทีที่เขาทำเช่นนั้นหน้าต่างอีกบานก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ซึ่งมันมี 3 ตัวเลือก
[โปรดเลือกสถานที่ที่จะส่งวิญญาณแห่งความมืดไป:
ลานแห่งการลงโทษ | ทุ่งดอกไม้แห่งความตาย | สวรรค์]
แวนส์ขมวดคิ้วด้วยความสับสน จากนั้นเขาก็ลองคลิกที่ตัวเลือกหนึ่งในสามตัวเลือก
[ส่งวิญญาณแห่งความมืดไปยังลานแห่งการลงโทษ? : ใช่ | ไม่]
ภาพพ่อของเขาที่ถูกทรมานและถลกหนังถูกส่งเข้ามาในจิตใจของอีแวนส์ พ่อของเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและติดอยู่ในดินแดนที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่สร้างจากไฟและลาวา
วิญญาณพ่อของเขา…จะต้องทรมานแบบนี้ใช่ไหม ถ้าเขาส่งพ่อไปที่นั่น? แวนส์อดไม่ได้ที่จะคิดแบบนั้นในขณะที่เขาฉายภาพนิมิตนี้ในใจของเขาอีกครั้ง
และอีกครั้ง และอีกครั้งที่อีแวนส์ฉายซ้ำ จนกระทั่งรอยยิ้มเล็กๆค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา มือของเขาสั่นสะท้าน ขณะที่นิ้วของเขาค่อยๆเข้าไปใกล้คำว่า [ใช่]
แต่ก่อนที่เขาจะทำเช่นนั้น เขาถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของคนที่พูดบนเวทีทำให้เขาตื่นจากอาการมึนงง
“สิ่งที่คุณเห็นต่อหน้าของคุณคือเหตุผลที่คุณมาที่นี่ในตอนนี้”
ชายหัวโล้นซึ่งน่าจะเป็นอาจารย์ใหญ่กล่าวต่อไปขณะที่เขาเริ่มเดินบนเวที
“นั่นคือข้อพิสูจน์ว่าคุณนักเรียนใหม่ของ NYSA เป็นผู้ควบคุมระบบอย่างเป็นทางการ”
“ตอนนี้ หน้าต่างที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของพวกคุณจะกำหนดว่าคุณเป็นใคร คุณคือระบบของคุณ และระบบก็คือคุณ ไม่ใช่แค่พลังบางอย่างที่คุณมี แต่มันคือตัวตนของคุณ!”
เสียงของอาจารย์ใหญ่เริ่มเร่าร้อนมากขึ้น
“ดังนั้น คุณไม่ควรเปิดเผยรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับทักษะของคุณ เพราะคุณไม่รู้ว่าใครที่สามารถไว้ใจได้ แต่สิ่งที่เราสามารถสัญญากับคุณใน NYSA ก็คือคุณซึ่งเป็นนักเรียนที่รักของเราสามารถไว้ใจเราได้ หากมีคนๆหนึ่งที่คุณอาจบอกทักษะของคุณได้นั่นคือเราผู้สอนของคุณ คุณสามารถไว้วางใจให้เราฝึกฝนทักษะของคุณได้…ไว้วางใจให้เราช่วยให้คุณกลายเป็นคนที่คุณอยากจะเป็น!”
อาจารย์ใหญ่กำหมัดกลางอากาศ ขณะมองไปที่นักเรียนดวงตาของเขาเต็มไปด้วยไฟและความร้อนแรง
นักเรียนใหม่ทุกคนอดไม่ได้ที่จะปรบมืออย่างเร่าร้อน เมื่อคำพูดของอาจารย์ใหญ่เสียดแทงหัวใจพวกเขา
‘อย่าเปิดเผยรายละเอียดมากเกินไป’ แวนส์เป็นคนเดียวที่ไม่ได้ปรบมือ เขานึกถึงซาร่าห์ผู้หญิงจากสมาคมนักสำรวจ
‘นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่ถามเกี่ยวกับระบบของฉันมากเกินไปใช่ไหม?’
สุนทรพจน์ของอาจารย์ใหญ่ยังคงดำเนินต่อไปอีกประมาณ 30 นาทีก่อนที่เขาจะสรุปสุนทรพจน์และก้าวลงจากเวที
นักเรียนใหม่ปรบมือพร้อมกันอีกครั้ง เสียงกระซิบและเสียงพึมพำที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเต็มไปทั่วบริเวณนั้น อย่างไรก็ตามแวนส์กำลังจ้องมองไปที่หญิงสาวที่กำลังร้องไห้อยู่ข้างๆเธอ
“คือ…มีอะไรผิดปกติเบียทริซ?”
แวนส์พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เขากำลังจะแตะไหล่ของเบียทริซเพื่อปลอบโยนเธอ แต่เขาลังเลที่จะทำเช่นนั้น
“ไม่…ไม่”
เบียทริซส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
“คำพูดของอาจารย์ใหญ่ทำให้ฉันรู้สึกประทับใจและเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันทำให้ดีที่สุด”
เธอพูดขณะยกแว่นขึ้นเช็ดน้ำตา
“งั้นหรอ”
แวนส์อดไม่ได้ที่ปล่อยเสียงหัวเราะที่น่าอึดอัดเล็กน้อย
เขาได้ลิ้มลองแล้วว่านักเรียนของสถาบันนั้นโหดร้ายเพียงใด นี่…จะเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก
ขณะที่เสียงเชียร์ของนักเรียนดำเนินไปเรื่อยๆ มีผู้หญิงอีกคนเดินขึ้นไปที่กลางเวที
“เงียบเสียงลงเด็กๆ”
เธอพูดออกมา และเธอแตกต่างจากอาจารย์ใหญ่ที่สามารถพูดเข้าหูนักเรียนได้โดยตรง ผู้หญิงคนนี้ต้องใช้เครื่องมือที่มีลักษณะกลมๆเพื่อเพิ่มระดับเสียงของเธอ
‘นั่นคือ…สิ่งประดิษฐ์ที่มาจากประตูมิติงั้นหรือ’ แวนส์เหล่ตาของเขาเพื่อดูมันอย่างชัดเจน
“ฉันมาที่นี่เพื่อแนะนำคุณเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานที่สุดที่คุณจำเป็นจะต้องรู้เกี่ยวกับระบบของคุณ”
ผู้หญิงคนนั้นพูดต่อ
“ประการแรกประเภทของระบบมีหลายประเภท แต่หลักๆแล้วทั้งหมด แบ่งออกเป็น 4 ประเภท…”
ระบบประเภทนักเวทย์ ผู้ที่สามารถเรียกธาตุออกมาได้โดยใช้เจตจำนง ผู้ที่สามารถรักษาบาดแผลที่ร้ายแรงที่สุดได้ด้วยทักษะของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดอยู่ในประเภทนี้
นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าผู้ควบคุมระบบ ประเภทนักเวทย์บางคนสามารถเรียกคืนความตายได้ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครพูดออกมาว่าทำแบบนั้นได้
ระบบเสริมประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับชื่อ ช่วยเพิ่มความสามารถของผู้ควบคุมระบบ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือความแรง นี่อาจเป็นระบบที่พบบ่อยที่สุด แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอเลย นักสำรวจที่มีอันดับสูงสุดในโลกก็คือประเภทระบบเสริมประสิทธิภาพ และมีข่าวลือว่าเขาสามารถทำลายภูเขาได้ด้วยหมัดของเขา
ระบบวิวัฒนาการ ซึ่งช่วยให้ผู้ถือสามารถแปลงร่างหรือวิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตจากประตูมิติ และควบคุมพลังของพวกเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หมาป่า เซนทอร์ ไททัน แวมไพร์ หรือแม้แต่แมลงที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ขนาดมหึมา ระบบจะแสดงศักยภาพของคุณตั้งแต่เริ่มต้น
และสุดท้ายคือระบบที่ไม่ซ้ำใคร พูดอย่างตรงไปตรงมานี่คือระบบที่ไม่สามารถจัดหมวดหมู่ใน 3 ระบบใดๆ พวกเขายังเป็นตัวอันตรายที่สุดเนื่องจากทักษะที่คาดเดาไม่ได้
นักเรียนส่วนใหญ่รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ยกเว้นแวนส์ ขณะที่เขาเอามือกุมศีรษะพยายามจดจำแต่ละคำที่ผู้หญิงคนนั้นพูด
“ตอนนี้เราต้องการให้คุณหาประเภทระบบของคุณก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อที่เราจะได้พาคุณไปเรียนนอกหลักสูตรได้โดยเร็วที่สุด”
ผู้หญิงคนนั้นหายใจแรงขณะที่หยุดชั่วคราวเห็นได้ชัดว่าเหนื่อยล้าจากการพูดไม่หยุด
“มันเข้าใจได้ง่าย…”
หญิงสาวถอนหายใจขณะพูดต่อ
“เพียงแค่ศึกษาทักษะที่คุณมีในตอนนี้ แล้วคุณจะสามารถเรียนรู้ว่าระบบของคุณเป็นแบบไหน…และสุดท้ายนี้…”
หญิงสาวยกมือขึ้นถือคริสตัลแวววาวเล็กๆในอากาศ
“!!!”
ดวงตาของแวนส์เป็นประกายทันทีที่เห็นคริสตัลบนมือของผู้หญิงคนนั้น ในที่สุดสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องแนะนำให้เขารู้จักก็ปรากฏขึ้น
มันเป็นคริสตัลประตูมิติหรือคริสตัล เราสามารถรับพวกมันได้จากซากศพของสิ่งมีชีวิตจากประตูมิติ ผู้ควบคุมระบบสามารถเพิ่มเลเวลได้โดยการดูดซับแก่นแท้ของมัน
แต่ที่สำคัญที่สุด…มันขายได้ราคาสูง แวนส์อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายเมื่อมองไปที่คริสตัล
“ถ้าคุณทำได้ดีในสถาบันและแสดงสัญญานที่ดี…หน่วยสอดแนมจาก บริษัทนักสำรวจ ต่างๆอาจให้ของขวัญคุณเป็นคริสตัล”
“!!!”
ดวงตาของแวนส์เบิกกว้างด้วยความตกใจทันทีที่ได้ยินสิ่งนี้
“ได้ยินมั้ย!?”
“…งั้นมีโอกาสที่เราจะอยู่ในระดับสูง ก่อนที่จะจบการศึกษาจากสถาบัน!?”
“พวกคุณไม่รู้เรื่องนี้จริงๆเหรอ?”
เสียงตะโกนและเสียงกระซิบต่างๆดังขึ้นในอากาศขณะที่นักเรียนเริ่มส่งเสียงโห่ร้อง
อย่างไรก็ตามแวนส์คิดเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น…
‘ฉันสามารถ…ฉันสามารถขายมันได้ แม้ว่ามันจะมอบให้ฉันเป็นของขวัญก็ตาม!?’