แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1022
ราเชนโทรมา!
อารมณ์ในสายตานรมนหายไป กดรับสาย
“เนตราขึ้นเครื่องแล้วหรือยังคะ”
ราเชนได้ข่าวไวมาก
นรมนเพิ่งจะควบคุมแพรวาได้ เขาก็ได้ข่าวแล้ว นรมนสงสัยเขาติดเครื่องดักฟังที่ตัวเธอหรือเปล่า
“คุณต้องการให้แพรวาทำอะไรครับ”
ถึงแม้แพรวาจะสร้างปัญหายุ่งยากให้นรมน ตอนนี้เธอยังไม่รู้ควรจะทำอย่างไรดี แต่จู่ๆ ราเชนก็มาขอตัวแพรวา ทำให้นรมนแปลกใจ
ราเชนไม่ปิดบังเธอ กระซิบ “กล้าณรงค์สนิทสนมกับไอ้สาม ผมได้ยินมาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของซินดี้ ก็คือแพรวา ผมจึงต้องการตัวเธอ ขอแค่เธอสารภาพ บุริศร์จะต้องได้ปล่อยตัวไม่มีความผิดแน่”
“บุริศร์ไม่ได้ฆ่าคนตายอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีแพรวาทางนั้นก็ไม่มีทางตั้งข้อหาได้อยู่ดี”
นรมนรู้ว่าซินดี้ มีความหมายกับราเชนอย่างไร
ซินดี้ตายแล้ว แพรวาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ราเชนอยากฆ่าเธอก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่นรมนยังอยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้บุริศร์
ราเชนเงียบไปครู่หนึ่ง น้ำเสียงอ่อนลง
“ถือว่าผมขอร้องละกัน ความแค้นเรื่องซินดี้ถ้าผมไม่ได้แก้แค้นเอง ผมไม่มีทางอยู่สงบสุขได้แน่”
นรมนถอนหายใจ “คุณคิดจะทำยังไงกับเธอคะ”
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องห่วง แต่ผมรับประกันได้ต่อไปคุณจะไม่ได้เห็นแพรวาอีก เธอไม่สร้างปัญหาให้คุณอีกก็พอ”
ที่จริงเก็บแพรวาไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับนรมน สำคัญที่สุดคือเรื่องนี้เกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ระหว่างธิดาและแพรวา ไม่ว่าเธอจะจัดการแพรวาเบาหรือหนักก็ไม่เหมาะสม จำต้องยอมรับ ถ้าส่งแพรวาให้ราเชน เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่เลวจริงๆ
“ตกลงค่ะ”
“ขอบคุณครับ นรมน”
ราเชนพูดจบก็วางสาย
ลูกน้องยืนข้างหลังราเชน เห็นเขาวางสายแล้วก็พูดขึ้น “ส่งเนตราให้คนของตระกูลโตเล็กแล้ว คืนนี้ขึ้นเครื่อง แต่ทางองค์ชายสาม เหมือนจะได้ข่าวแล้ว อยากจะให้พวกเราลงมือเลยมั้ยครับ”
“ไมต้อง ถ้าเรื่องแค่นี้บุริศร์ทำไม่ได้ เขาก็ไม่สมควรเป็นคุณชายทั้งสี่ท่านแห่งเมืองชลธีแล้ว
นับแต่ซินดี้ตาย ราเชนก็ไม่มีรอยยิ้มอีก
เขาเก็บอารมณ์ไว้ลึกข้างใน
ลูกน้องถามอย่างเป็นกังวล “แต่ในเมื่อบุริศร์ถูกขังที่สถานีตำรวจ คงจะไม่ค่อยสะดวก”
“ไม่สะดวกหรือ นายประมาทเขาเกินไปแล้ว ถึงแม้ครั้งนี้กล้าณรงค์จะลอบกัดเขาแรงหน่อย แต่ไม่ถึงกับทำให้บุริศร์กลัวไม่กล้าลงมือ พวกเราทำอะไรไม่ได้ ถ้าขยับแล้วจะเปิดเผยทุกอย่าง แม้ว่าตอนนี้ไอ้สามจะสงสัยฉัน แต่ก็ไม่มีหลักฐานทำอะไรไม่ได้ ช่วงนี้แอบสืบเรื่องของเขา สั่งพวกลูกน้อง ให้เงียบเชียบที่สุด อย่าเพิ่งทำอะไรกระโตกกระตาก พยายามประหยัดแรงไว้”
“ครับ”
ลูกน้องถอยออกไป
ราเชนยืนริมหน้าต่างบานใหญ่ มองวิวทะเลตรงหน้า นัยน์ตาเหม่อมอง ไม่รู้กำลังคิดอะไร
ฝ่ายนรมนหลังจากวางสายแล้ว ก็พูดกับสมจิต “คืนนี้ให้คนไปเตรียมเฮลิคอปเตอร์ ฉันจะส่งแพรวาไป”
“ไปไหนคะ”
สมจิตรู้ว่าเมื่อครู่นรมนรับสาย แต่ไม่รู้ใครโทรมาหาเธอ อีกฝ่ายต้องการตัวแพรวาไปทำอะไรกัน
นรมนไม่ตอบคำถาม เดินออกจากบ้านเก่าตระกูลโตเล็ก
ไม่มีบุริศร์อยู่ที่นี่ เธอรู้สึกว่าบ้านเก่าว่างเปล่ามาก ว่างเปล่าจนทำให้รู้สึกอ้างว้าง
กลับมาที่ลานใหญ่เขตทหาร คุณท่านตนุวรอยู่ที่ห้องหนังสือไม่รู้กำลังทำอะไร นรมนก็ไม่เข้าไปรบกวน
เธอให้สมจิตเรียกรมิดามาหา เพื่อช่วยทำแผลให้เธอ
รมิดาถอนหายใจพูดขึ้น “แผลเธอนี่ไม่คิดจะหายแล้วใช่มั้ย วันหนึ่งฉีกสองครั้ง เธอทำอะไรนี่”
“ทำตัวให้เหมือนคนป่วยหน่อยได้มั้ย ถ้าขืนเป็นอย่างนี้อีก ฉันมัดเธอบนเตียงแน่”
คำขู่ของรมิดาทำให้นรมนหัวเราะ
“รอเรื่องนี้จบแล้ว ฉันจะพักผ่อนเงียบๆ”
“ฉันเชื่อเธอก็โง่แล้ว”
รมิดามองบน
นรมนคลานขึ้นไปบนเตียง รู้สึกเจ็บแผลที่รมิดาทำให้
เธอกัดริมฝีปากล่างพูดขึ้น “บุริศร์มีข่าวอะไรมั้ย อาการปวดประสาทของเขาเป็นยังไงบ้าง”
“น่าจะดีขึ้นแล้วล่ะ วางใจเถอะ เขาเป็นผู้ชายอกสามศอกไม่ถึงตายหรอก”
นรมนรู้สึกกลุ้มใจ
“เธอก็พูดแบบนี้กับอรรณพหรือ”
“ไม่อย่างนั้นล่ะ ฉันยังจะควบคุมเขาได้หรือ”
รมิดาพูดเป็นธรรมชาติ
แม้เธอจะพูดว่ารำคาญ แต่นรมนก็ฟังออกถึงความรักที่เธอมีให้อรรณพ
คู่รักได้อยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องที่ดีมาก
ไม่เหมือนเธอ รู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว ตอนกลางคืนไม่มีแม้แต่คนนอนเป็นเพื่อน
คิดถึงตรงนี้ นรมนยิ่งรู้สึกหนาวเหน็บ
“บุริศร์จะกลับมาเมื่อไหร่”
“คดีจบแล้วก็คงจะกลับมา แต่ฉันได้ยินมาราเชนไม่คิดจะเอาเรื่องสาเหตุการตายของซินดี้แล้ว”
คำพูดของรมิดาทำให้นรมนอึ้งไปนิดหนึ่ง
“ไม่เอาเรื่องแล้วหรือ ซินดี้เป็นแค่ผู้จัดการของเขา เขามีสิทธิ์เด็ดขาดหรือ”
“เธอยังไม่รู้สถานะที่แท้จริงของราเชนใช่มั้ยล่ะ”
ได้ยินรมิดาพูดอย่างนี้ นรมนก็อดที่จะอึ้งไม่ได้
“ไม่ใช่แค่ดาราหนังหรือ จะมีสถานะอะไรได้อีก”
“เขาเป็นองค์ชายรองของประเทศF อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้”
นรมนตะลึง เหมือนเคยได้ยินใครพูด และเหมือนไม่เคยได้ยิน ช่วงนี้เกิดเรื่องมากมายเหลือเกิน สมองของเธอจะระเบิดแล้ว
ตอนนี้ได้ยินรมิดาเล่าอย่างนี้ ก็เกิดแสงสว่างวาบเข้าใจทุกอย่าง
“ความหมายของเธอก็คือ ราเชนใช้ความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างนั้นหรือ”
“นั่นแหละ ถูกแล้ว อีกอย่างซินดี้เป็นเด็กกำพร้า ราเชนถือเป็นญาติโดยตรง เขาบอกว่าไม่เอาเรื่องแล้ว บุริศร์ย่อมไม่เป็นไรแล้ว แต่กระทรวงการต่างประเทศของเรายังหวังว่าจะสืบสวนที่มาที่ไปเรื่องนี้ให้ชัดเจน ถึงได้มีคนเข้ามาแทรกแซง”
ได้ยินข่าวเช่นนี้ นรมนก็อารมณ์ไม่ดีแล้ว
“ใครกันน่ารำคาญขนาดนี้ราเชนไม่เอาเรื่องแล้ว ยังจะสืบอะไรอีก”
“ช่วยไม่ได้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมิตรภาพระหว่างประเทศ คดีนี้ได้ยินมาว่าต้องสืบให้ชัดเจน ดังนั้นเธอลำบากขนาดนี้จับแพรวาได้ สุดท้ายยังต้องส่งตัวเธอไป”
นรมนตะลึงอีกครั้ง
“เธอก็รู้ฉันจับแพรวาหรือ อย่าบอกนะทั้งเมืองชลธีก็รู้แล้ว”
รมิดายิ้ม “ไม่ถึงขนาดนั้น เธอลืมแล้วหรือ สามีฉันคืออรรณพ เขาก็จับตาใกล้ชิด ถ้าไม่เป็นเพราะเธอใช้โสธรไม่แน่เขาอาจจะลงมือแล้ว ฉันได้ยินเขาพูดอย่างนั้น เธอไม่ต้องกังวลไป โลกนี้ไม่มีความลับ อรรณพยังให้ฉันบอกเธอด้วย ถ้าเธอตัดสินใจใช้วิธีสอบสวนเอง เหยียบเรื่องนี้ไว้ให้มิดจะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นคนที่เบื้องบนส่งมาสืบ จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องส่งตัวแพรวาให้พวกนั้น”
นรมนขมวดคิ้วแน่น
อรรณพไม่น่าจะให้รมิดาบอกเธอโดยไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง รมิดาบอกว่าบุริศร์เดิมควรจะได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่เพราะคนของเบื้องบนต้องการสืบคดีนี้จึงถูกขังอีกครั้ง เรื่องนี้น่าสงสัยมาก
อีกอย่างเธอบอกด้วย เบื้องบนอาจจะต้องการตัวแพรวา
อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
หรือจะบอกว่าคนของเบื้องบนก็มีคนของกล้าณรงค์ด้วย
ตอนที่แพรวาถูกจับพูดอย่างมั่นใจเธอจับแพรวา ก็ไม่มีประโยชน์ กล้าณรงค์ไม่มีทางทอดทิ้งเธอ
นรมนไม่รู้ว่าตัวเองเดาถูกหรือไม่ แต่เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ส่งแพรวาให้ราเชน คือทางเลือกที่ดีที่สุด
“คิดอะไรอยู่เหรอ ผู้หญิงคนหนึ่ง จัดการกับพวกสมคบคิดทั้งวัน เธอเหนื่อยมั้ย อรรณพบอกแล้ว ถ้าเธอไม่รู้จะทำยังไง ส่งคนให้เขาก็ได้ เขาเป็นอสูรของอาณาจักรรัตติกาล อยากจะจัดการคนหนึ่งเงียบกริบได้สบาย”
รมิดา พูดสบายๆ แต่นรมนไม่อยากทำให้อรรณพลำบาก
ความสัมพันธ์ของอรรณพกับบุริศร์ทุกคนรู้ดี ถ้าหากส่งตัวให้อรรณพ ยากที่จะหลีกเลี่ยงคนที่ตั้งใจจะพูดอะไร
“ไม่ต้องหรอก ฉันมีแผนแล้ว”
“ก็ตามใจ เธอคิดเอาเองละกัน ฉันไปก่อนล่ะ ไม่ชอบยุ่งเรื่องวุ่นๆ ของพวกเธอ ถ้าไม่กลัวเธอนอนเหงาคนเดียว ฉันไม่มาเป็นโทรโข่งหรอก”
รมิดาเก็บของเสร็จก็กลับไป
นรมนรู้สึกเหนื่อยล้ามากแล้ว
เธออยากจะออกไปเที่ยวพักผ่อนกับบุริศร์เหลือเกิน
แต่คำถามคือบุริศร์จะกลับมาเมื่อไหร่
เรื่องราวพลิกไปพลิกมาจริงๆ
นรมนนอนบนเตียงหลับไป พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็บ่ายสี่โมงกว่าแล้ว
เธอลุกขึ้นอาบน้ำ แล้วลงไปชั้นล่าง เห็นคุณท่านตนุวรนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่โซฟา
“คุณตาคะ นี่มันยุคไหนแล้ว ทุกคนใช้มือถืออ่านข่าวกันหมดแล้ว ทำไมตายังอ่านหนังสือพิมพ์อีกคะ”
ขณะที่นรมนพูดก็ลงมาข้างล่างแล้ว
คุณท่านตนุวรครางในลำคอ พับหนังสือพิมพ์
“ก็ฉันชอบอ่านหนังสือพิมพ์ ทำไมเหรอ เธอมีความเห็นหรือไง”
“หนูจะกล้ามีความเห็นได้ไงคะ ตาเป็นตาของหนู ตาว่ายังไงก็ตามนั้นเถอะค่ะ”
นรมนรู้สถานการณ์รีบพูดเอาใจ
“หลานว่าตามใจใครนะ พ่อแม่หลานเป็นพวกพูดน้อยทั้งคู่ ทำไมพอมาถึงหลาน ถึงได้ตรงข้ามพูดเก่งอย่างนี้ล่ะ ปากทาน้ำผึ้งหรือไง”
แม้คุณท่านตนุวรจะบ่น แต่สายตาเต็มไปด้วยความรักเอ็นดู
นรมนกอดแขนเขางอนง้อ “คุณตา หนูทำกับคุณตาคนเดียว กับคนอื่นหนูออกจะเย็นชานะ”
“เหอะๆ เชื่อตายล่ะ?!”
คุณท่านตนุวร ไม่เถียงเรื่องนี้แล้ว มองหน้านรมน กระซิบถาม “พักผ่อนพอแล้วหรือ”
“พอได้ค่ะ ถ้ากินข้าวแล้วหนูยังนอนได้อีก”
นรมนพูดตามความจริง
หลังจากแท้งครั้งนั้นเธอรู้สึกร่างกายอ่อนแออยู่ตลอด เดินได้ไม่เท่าไหร่ก็รู้สึกวิงเวียน วันนี้ช่วงเช้ายังต่อสู้ที่ตระกูลโตเล็กอีก
เธอหาว แล้วหยิบแอปเปิลมาปอกเปลือก
“คุณตาคะ ใกล้ปีใหม่แล้ว แอปเปิลของตาสดจัง ซื้อที่ตลาดหรือคะ”
“คนอื่นให้มา”
คุณท่านตนุวรมองหน้านรมน อยากจะพูดบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูด
“เป็นอะไรไปคะ ตาอยากจะพูดอะไรกับหนูหรือคะ ทำไมหนูรู้สึกว่าสายตาที่ตามองหนูเหมือนกลัวอะไรบางอย่างล่ะคะ”
นรมนยิ้มหยอกเย้า
คุณท่านตนุวรกลับถอนหายใจ “ทางที่ดีหลานพักฟื้นร่างกายให้หายเถอะ อย่าเอาแต่ออกไปข้างนอก มีเรื่องอะไรให้เจ้าสองคนนั่นของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไปทำเถอะ หลานเป็นผู้หญิง ไม่ต้องไปทำทุกเรื่องเองหรอก แล้วเจ้าบุริศร์จะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะ”
นรมนได้ยินคำถามนี้ ก็สีหน้าเคร่งเครียด
“หนูจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ”
“น้อยๆ หน่อย คุณหมอรมิดาเป็นเมียของอรรณพไม่ใช่หรือ มีใครไม่รู้บ้างอรรณพกับบุริศร์สนิทกันขนาดไหน เธอยังบอกไม่ได้อีกหรือ แพรวาก็ถูกจับแล้ว หลานคิดจะทำอย่างไรล่ะ ไม่ส่งให้ตำรวจหรือ หรือหลานจะสอบสวนเอง นรมน ตาจะเตือนหลานนะ สอบสวนเองถือว่าผิดกฎหมาย! ครอบครัวเรา ห้ามทำเรื่องผิดกฎหมาย”
ได้ยินคุณท่านตนุวรพูดเช่นนี้ นรมนก็รู้สึกกลุ้มใจ