แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1034
บุริศร์รีบพูดขึ้นว่า “คือว่า ผมจะไปเยี่ยมพฤกษ์ที่โรงพยาบาลสักหน่อย”
พูดจบเขาก็หมุนตัวแล้วเดินไปเลย แต่กลับโดนนรมนเรียกไว้ซะก่อน
“ตอนนี้คุณไม่ชอบฉันแล้วใช่ไหม?”
น้ำหนักของคำพูดนี้นั้นแรงเกินไปแล้ว
บุริศร์พูดขึ้นอย่างเอาตัวรอดสูงมากขึ้นมาทันที “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? คนที่ผมรักที่สุดก็คือคุณ!”
“งั้นคุณเห็นฉันแล้วจะวิ่งหนีทำไม?”
นรมนก้าวเท้าที่สง่างามเดินลงมา
บุริศร์ถอยหลังไปเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว
“ผมหนีที่ไหนกัน? ผมก็แค่อยากจะไปเยี่ยมพฤกษ์สักหน่อย”
“พฤกษ์มีคมทิพย์อยู่เป็นเพื่อน เขาสองคนสามีภรรยาอยู่ด้วยกันดีออก คุณจะไปยุ่งวุ่นวายทำไม? หึ?”
ระหว่างที่นรมนพูดก็เดินมาถึงข้างกายบุริศร์แล้ว
บุริศร์ถอยร่นไปถึงขอบประตู จ้องมองมือของนรมนมาดึงคอเสื้อของตัวเองไว้โดยตรง จากนั้นมืออีกข้างหนึ่งก็ค่อย ๆ ยื่นออกมา แล้วก็วาดวงกลมอยู่บนหน้าอกของเขา
อยู่ ๆ เขาก็ลำคอแห้งผากขึ้นมาทันที
“นรมน คุณฟังผมพูดนะ ผมมีธุระจะไปหาพฤกษ์ คือว่าผม……”
“เจ้าชายนิทราคนหนึ่ง คุณพูดไปเขายังจะสามารถช่วยคุณทำอะไรได้?”
นรมนจ้องมองบุริศร์อย่างสงสัย
บุริศร์ถึงเพิ่งพบว่าตัวเองหลุดปากพูดไป
ทำยังไงดี?
จะเปิดอกพูดไปตรง ๆ ดีหรือว่าไม่พูด?
เขากำลังลังเลอยู่
ดวงตาของนรมนมืดขรึมลงเล็กน้อย
เจ้าตัวดี!
ให้โอกาสคุณแล้ว ก็ยังไปพูดอย่างตรงไปตรงมาใช่ไหม?
ไม่กลัวตายเลยจริง ๆ นะ
แล้วมือของนรมนก็ลูบไล้ลงไปจากหน้าอกของเขาทันที
“ที่รัก หลายวันมานี้คุณอยู่ในห้องขัง มีตำรวจหญิงสวย ๆ มาชอบคุณไหมคะ?”
“จะเป็นไปได้ยังไงกัน?”
บุริศร์รู้สึกว่าไฟทั้งตัวนั้นเหมือนไฟที่ลามทุ่งค่อย ๆ แผ่ซ่านออกไป
จะถึงชีวิตแล้ว!
นรมนนี่ปกติไม่เห็นว่าจะมายั่วยวนเขาเลย พอวันนี้ตัวเองเพิ่งจะทำการผ่าตัดมาไม่นาน ผู้หญิงคนนี้ได้รับการกระตุ้นมาจากไหนกัน?
หรือว่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้ทำให้เธอสมปรารถนาเหรอ?
ไม่น่าใช่นะ!
บุริศร์ยังไม่กล้าหลบหลีก ได้แต่เพียงรับโทษทัณฑ์ที่หอมหวานนี้อยู่อย่างน่าเศร้า
“ที่รัก คือว่ากมลนอนหลับไปแล้ว พวกเรา……”
“ความหมายของคุณคือเราขึ้นไปทำกันข้างบนเหรอคะ?”
ดวงตาของนรมนระยิบระยับขึ้น
บุริศร์เกือบจะโดนน้ำลายของตัวเองทำให้สำลักจนตาย
“ไม่ ความหมายของผมคือเราสามารถทำเรื่องอะไรอย่างอื่นที่มันมีความหมายมากกว่า”
พูดแล้ว เขาก็รีบกุมมือเล็ก ๆ ที่ซุกซนของนรมนเอาไว้ แล้วก็ดึงเธอไปอีกข้างหนึ่ง
แล้วนรมนก็ไม่พอใจขึ้นมาทันทีเลย
“บุริศร์ นี่คุณหมายความว่าไงเนี่ย? พูดมา คุณได้เรื่องอะไรที่ผิดต่อฉันมาใช่ไหม?”
“ผม มีที่ไหนล่ะ!”
ตอนนี้บุริศร์มีทุกข์แต่พูดยาก
“ไม่มี แต่กลับไม่ให้ฉันแตะต้องตัวคุณ? บุริศร์ ถ้าวันนี้คุณไม่พูดต้นสายปลายเหตุมาให้รู้เรื่อง ฉันกับคุณไม่จบกันแน่ ๆ”
นรมนกลายร่างเป็นผู้หญิงไม่มีเหตุผลขึ้นมาทันที มือเท้าสะเอวเอาไว้ ท่าทางเหมือนอย่างกับจะทะเลาะกับบุริศร์ยังไงอย่างงั้น
จะไม่พูดก็ไม่ได้ นรมนที่เป็นแบบนี้ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบนะ
ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อนละก็ บุริศร์คงจะไม่พูดอะไรมากแล้วก็จัดการเธอไปเลย แต่ว่าตอนนี้เขากลับมีใจมากจริง ๆ แต่เรี่ยวแรงไม่เพียงพอ
“ที่รัก คือว่า ผมรู้สึกว่าคุณเหมาะสมที่จะเป็นสายแบบสง่างามมากกว่า จริง ๆ นะ สายแข็งแกร่งแบบนี้ไม่เหมาะกับคุณหรอก”
บุริศร์คิดวิเคราะห์อยู่ว่าจะพูดยังไงถึงจะไม่ให้นรมนบ้าคลั่งขึ้นมา
แล้วนรมนก็ลดมือที่เท้าเอวอยู่ทันที แล้วจ้องมองเขาอย่างเยือกเย็นและพูดขึ้นว่า “บุริศร์ ทางที่ดีที่สุดคุณอย่าให้ฉันรู้ว่าคุณมีเรื่องปิดบังฉันอยู่นะ ไม่งั้นละก็……หึ!”
คำพูดตัวสุดท้าย นรมนลงเสียงหนักมากเป็นพิเศษด้วย
หัวจิตหัวใจของบุริศร์ก็สั่นไหวตามด้วยทีหนึ่ง
ตอนนี้เขาจะเปิดอกพูดยังทันไหม?
บุริศร์ครุ่นคิดอย่างรวดเร็วขึ้นมาครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “ผมสารภาพ ผมยอมสารภาพแล้วพอหรือยัง?”
“พูดมา”
นรมนลุกขึ้นไปนั่งลงบนโซฟา แล้วก็ดื่มน้ำอุ่นคำหนึ่งให้ชุ่มคอสักหน่อย
จะเป็นผู้หญิงไร้เหตุผลนี่เป็นงานใช้แรงงานจริง ๆ ด้วย
เหนื่อยจริง ๆ เลย!
ถือโอกาสในตอนที่นรมนยังดื่มน้ำอยู่นั้น บุริศร์ก็รีบพูดขึ้นว่า “จริง ๆ แล้วพฤกษ์ไม่ได้เป็นเจ้าชายนิทรา แค่แกล้งทำเท่านั้น เรื่องนี้คุณรอผมค่อย ๆ อธิบายกับคุณนะ”
หัวคิ้วของนรมนขมวดเข้าหากันเล็กน้อยทีหนึ่ง
เรื่องที่เธอต้องการฟังเป็นเรื่องของพฤกษ์เหรอ?
พฤกษ์เป็นอะไร เป็นอะไร เป็นอะไรกับเธอเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าบุริศร์ยังไม่รู้อีกว่านรมนต้องการฟังอะไร
นรมนลุกพรวดทีหนึ่งขึ้นมายืนขึ้น จนทำให้บุริศร์ตกใจจนสะดุ้ง
“เป็นอะไรไป?”
“ฉันไม่อยากฟังแล้ว บุริศร์ คุณอย่ามาเสียใจทีหลังนะ!”
นรมนพูดแล้วก็หมุนตัวขึ้นไปข้างบนเลย
บุริศร์ตื่นตระหนกขึ้นมาแล้ว
เขาพูดอะไรผิดไปเหรอ?
ไม่ใช่ว่าจะให้เขาพูดอย่างตรงไปตรงมาเหรอ?
นี่ก็พูดอย่างตรงไปตรงมาแล้วไม่ถูกเหรอ?
ทำไมถึงรู้สึกว่าความในใจของภรรยายิ่งอยู่ก็ยิ่งเดายากแล้ว?
นรมนไม่ได้อยากจะสนใจว่าในใจของบุริศร์จะคิดยังไงเลยสักนิด
เจ้าผู้ชายตัวเหม็นคนนี้นี่น่ารังเกียจจริง ๆ
ทำหมัน เรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้ เขากะว่าจะปิดบังเธอไปถึงตอนไหน?
เรื่องที่แม้แต่รมิดายังรู้ เธอที่เป็นภรรยานี้กลับไม่รู้เรื่อง พอตอนนี้ให้โอกาสเขาแล้ว ยังไม่รู้พูดตรง ๆ อีก
เธอไม่อยากจะสนใจผู้ชายแบบนี้แล้ว
นรมนเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา แล้วลองดูหน้าโลกโซเชียลรอบหนึ่ง ก็มองเห็นเรื่องราวของณัจยายังคงใหญ่โตขึ้นอยู่
นรมนจะไม่พูดก็ไม่ได้ ความรุนแรงในโลกโซเชียลนี่น่ากลัวมากจริง ๆ
ตอนนี้เธอทำได้แค่รอให้ทางด้านพริมาหาหลักฐานที่มีประโยชน์มาหักมุมเท่านั้น
แล้วก็ไถ่ถามเรื่องอื่น ๆ ของบริษัทอีกนิดหน่อย นอกจากเรื่องของณัจยาแล้ว เรื่องอื่นยังถือว่าเดินอยู่บนทางที่ถูกที่ควรอยู่
ทางด้านริชาร์ดได้ทิ้งข้อความไว้ให้นรมน พอรู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บแล้วก็บอกให้เธอพักผ่อนดี ๆ และก็ยังขอบคุณเธอที่ส่งคนมาช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับทีม และก็ถามเธอว่าจะสามารถเกลี้ยกล่อมให้คมทิพย์กลับมาเริ่มงานเร็ว ๆ ได้ไหม ในเมื่อทั้งทีมยังหวังว่าคมทิพย์จะสามารถมาออกอัลบั้มให้โด่งดังไปสักรอบหนึ่งอยู่
แน่นอนว่านรมนตอบตกลงอยู่แล้ว
พอนึกถึงคมทิพย์กับพฤกษ์ จากนิสัยของคมทิพย์นั้น ถ้ารู้ว่าพฤกษ์โกหกตัวเองละก็ จะต้องมีใจที่อยากจะฆ่าพฤกษ์แล้วแน่ ๆ
แล้วนรมนก็เป็นกังวลขึ้นมาทันที
เธอจะต้องไปโรงพยาบาลสักเที่ยวจริง ๆ แล้ว
นรมนเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดหนึ่ง จากนั้นก็แต่งหน้าบาง ๆ แล้วก็ออกจากประตูไปเลย
“จะไปไหนนี่?”
บุริศร์น้อยครั้งนักที่จะเห็นนรมนแต่งหน้าออกจากบ้าน จึงอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเล็กน้อย
“คุณไม่ต้องมายุ่ง! ฉันจะออกไปเดท หึ!”
นรมนยืดอกเชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจในตัวเองมาก แล้วก็เดินออกไป
ดวงตาของบุริศร์หรี่ลงเล็กน้อย
ไปทำอะไรนะ?
เดทเหรอ?
เดทกับใครล่ะ?
อยู่ในเมืองชลธียังมีใครที่ไม่คิดจะเอาชีวิตแล้วมาขุดรูกำแพงของเขาอีก?
บุริศร์รีบตามออกไป แล้วถึงนึกขึ้นได้ว่ากมลยังนอนพักผ่อนอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะต้องย้อนกลับมา
“ป้าหวาน ช่วยดูคุณหนูกมลด้วยนะ”
“ได้ค่ะ คุณผู้ชาย”
หลังจากที่บุริศร์สั่งเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงได้ตามออกมา แต่ว่ายังจะไปมีเงาของนรมนอยู่ที่ไหนอีกล่ะ?
นรมนไม่สนใจหรอกว่าบุริศร์จะเป็นห่วงหรือไม่
ทางที่ดีสุดก็อิจฉาไปจนตายไปเลย
เธอไม่คิดว่าจะยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ แบบนี้หรอกนะ
นรมนขับรถแล้วตรงไปที่โรงพยาบาลเลย
ในตอนที่ยังเดินไปไม่ถึงห้องพักผู้ป่วยของพฤกษ์ นรมนก็ได้ยินเสียงของคมทิพย์แล้ว
“พฤกษ์ คุณนี่เก่งมากแล้วใช่ไหม คุณถึงกับกล้าปลอมเป็นเจ้าชายนิทรามาหลอกฉัน! คุณดูนะวันนี้ถ้าฉันไม่ตีคุณจนกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปจริง ๆ ฉันคมทิพย์ก็จะไปใช้นามสกุลเดียวกับคุณ!”
พฤกษ์พูดขึ้นอย่างไม่กลัวตาย “นี่คุณเป็นคนพูดเองนะ จะใช้นามสกุลตามผมใช่ไหม? งั้นก็แสดงว่ายอมตอบตกลงแต่งงานกับผมแล้วใช่ไหม? ผมคิดจริง ๆ นะ”
“คุณนี่ ยังกล้าปากดีอีก คุณหยุดยืนให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
คมทิพย์ตะโกนขึ้นอย่างโกรธจัด
พฤกษ์กลับยิ้มแฉ่งแล้วพูดขึ้นว่า “คุณคิดว่าผมโง่เหรอ? ถ้าผมหยุดยืน แล้วโดนคุณตีจนกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปจริง ๆ ชาตินี้ผมยังจะได้แต่งงานกับคุณอีกเหรอ? เรื่องที่มันไม่คุ้มขนาดนี้ ผมพฤกษ์จะไปทำได้ยังไง”
“อ้า อ้า อ้า! ไอ้พฤกษ์! ไอ้เลว!”
คมทิพย์ร้องตะโกนขึ้นอย่างกับเป็นบ้า แล้วก็นั่งลงไปบนพื้นแล้วเริ่มร้องไห้ขึ้นมา
พอร้องไห้เสียงดังแบบนี้ขึ้นมา ก็ทำให้พฤกษ์ตกใจขึ้นทันทีเลย
เขาเคยเห็นท่าทางแข็งแกร่งของคมทิพย์ แต่ว่าก็ไม่เคยเห็นคมทิพย์จะร้องไห้ไปสักกี่ครั้ง ทุกครั้งที่เธอร้องไห้ ก็มักจะทำให้พฤกษ์ปวดใจมาก
“คุณ คุณอย่าร้องไห้ซิ! ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ผมยอมให้คุณตีแล้วยังไม่พอเหรอ?”
พฤกษ์พูดแล้วก็เดินเข้าไป
“คมทิพย์ คุณอย่างร้องไห้เลยนะ”
“ไสหัวไป! ฉันจะไม่ชอบคุณอีกแล้ว! คุณไสหัวไปเลย!”
แล้วคมทิพย์ก็ปฏิบัติกับพฤกษ์ก็คือทั้งหมัดทั้งแตะชุดหนึ่ง
พฤกษ์พยายามกัดฟันอดทนไว้ แล้วก็กอดคมทิพย์ไว้แน่น ๆ แล้วก็พูดอย่างไม่มีเหตุผลขึ้น “ไม่ไป! ไปแล้วก็ต้องเสียคุณไปแล้ว คมทิพย์คนดี ไม่ร้องแล้วดีไหม? ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริง ๆ จะตีจะลงโทษก็ตามใจคุณเลย ถ้าผมขัดขืนแม้แต่ทีหนึ่งก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย!”
“ไสหัวไปเลย! ฉันไม่ต้องการให้คุณเป็นลูกผู้ชาย! ไม่เอาอีกแล้ว! คุณลองพูดมาซิคุณหลอกให้ฉันน้ำตาไหลไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนที่ฉันรู้ข่าวว่าคุณกลายเป็นเจ้าชายนิทรานั้นความรู้สึกมันเป็นยังไง? แต่คุณกลับดี ได้นอนอย่างสบายเลยใช่ไหม? ฉันต้องเหนื่อยเหมือนหมาทุกวัน ยังจะต้องมาจ่ายค่ารักษาให้คุณอีก แล้วคุณไม่มีเรื่องอะไรจะมาระงับบริษัทไว้ทำไม? คุณทำให้ฉันต้องอยู่อย่างอนาถขนาดนี้ คุณดีใจแล้วใช่ไหม? พฤกษ์ คุณมันไม่ใช่คน ฉันคมทิพย์หน้าตาสะสวยราวกับดอกได้ ทำไมฉันจะต้องมาแขวนคอตายอยู่กับดอกหญ้าต้นหนึ่งอย่างคุณด้วยนะ ทำไม?”
“ดอกหญ้าทำให้คนแขวนคอตายไม่ได้”
“ไอ้พฤกษ์!”
คมทิพย์รู้สึกว่าตัวเองโมโหจนปอดจะระเบิดออกมาแล้ว
ผู้ชายคนนี้ ไม่มีความสำนึกผิดอะไรเลยแม้แต่น้อย ยังจะเอาได้อีกเหรอ?
ไม่เอาแล้ว!
ยืนหยัดไม่เอาแน่ ๆ!
คมทิพย์โกรธจนปีนอยู่ที่หัวไหล่ของพฤกษ์แล้วก็กัดอย่างแรงลงไปทีหนึ่ง
ทีหนึ่งนี้ก็ไม่คิดที่จะไว้หน้ากันเลยจริง ๆ
พฤกษ์รู้สึกว่าเนื้อหนังของตัวเองนั้นเลือดออกแล้วจริง ๆ แต่ว่านี่เป็นสิ่งที่เขาติดค้างคมทิพย์อยู่ จึงไม่กล้าขยับ และขยับไม่ได้ด้วย
คมทิพย์กัดเสร็จแล้วก็ยังคงไม่คลายโกรธอีก แล้วก็ผลักพฤกษ์ออกไปเลย
“ฉันจะกลับเมืองB ฉันจะได้กลายเป็นนักร้องในเร็ว ๆ นี้แล้ว ทำไมฉันยังจะต้องมาติดอยู่กับดอกหญ้าต้นหนึ่งอย่างคุณด้วย ผู้ชายที่มีทั้งเงินทั้งอำนาจมาตามจีบฉันเยอะแยะไป”
พูดแล้วคมทิพย์ก็ก้าวเท้าเดิน
พฤกษ์กลับกอดเอวเธอจากข้างหลังไว้โดยตรง แล้วก็เอาตัวเธอโยนลงไปบนเตียงผู้ป่วย และพูดขึ้นอย่างโกรธจัดว่า “ยิ่งพูดยิ่งเหลวไหลแล้วใช่ไหม? ยังอยากจะไปหาผู้ชายที่มีเงินมีอำนาจอีกเหรอ? คุณคิดว่าผมตายไปแล้วหรือไง?”
“คุณก็กลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว ฉันยังจะเอาคุณอีกทำไมล่ะ?”
แล้วคมทิพย์ก็ทั้งแตะทั้งต่อยใส่เขาอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้พฤกษ์กลับไม่ได้ตามใจเธอแล้ว แล้วก็ใช้มือเดียวกดขาของเธอเอาไว้ จากนั้นก็โถมตัวเข้าไป
“ผมว่าคุณนี่อยากจะโดนแล้วใช่ไหม”
“ยังไม่รู้ว่าใครที่อยากจะโดนกันแน่”
คมทิพย์ไม่ยอมอ่อนข้อ แต่ว่าวินาทีต่อมาก็พูดไม่ออกแล้ว เพราะโดนพฤกษ์ใช้ปากอุดปากไว้โดยตรงแล้ว
“อื้อ อื้อ……”
คมทิพย์พยายามขัดขืน พอผ่านไปไม่นานในห้องก็มีเสียงที่ทำให้คนหน้าแดงใจเต้นเร็วลอยออกมา
นรมนถอนหายใจทีหนึ่ง เป็นแบบนี้แล้วตัวเองยังจะเข้าไปอีกเหรอ?
เข้าไปทำไมล่ะ?
เธอปิดประตูห้องพักผู้ป่วยลงเบา ๆ จากนั้นก็แขวนป้ายห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปรบกวนไว้อันหนึ่ง จากนั้นถึงจะออกจากโรงพยาบาล
อยู่ ๆ ก็รู้สึกอิจฉาคมทิพย์และพฤกษ์ขึ้นมา ที่สามารถทำเรื่องอย่างนั้นได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไร
ส่วนบุริศร์บ้านเขานั้นเหรอ หึ!
นรมนคิดถึงเรี่ยวแรงที่แข็งแกร่งของคมทิพย์เมื่อกี้ แล้วก็รู้สึกหงุดหงิดที่ตัวเองทำแบบนั้นไม่ได้
เธอมาถึงลานจอดรถชั้นใต้ดิน กะว่าจะไปซื้อของสักหน่อยแล้วก็กลับบ้าน ในเมื่อบุริศร์เพิ่งจะกลับมา โกรธก็ส่วนโกรธ ยังไงก็จะต้องรีบฉวยโอกาสอยู่ด้วยกันทุกนาที ไม่งั้นถ้าเขาตัดสินใจที่จะกลับไปจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะได้เจอเขาอีกครั้ง
นรมนคิดไปอย่างนี้แล้วก็เดินไปทางรถยนต์
แต่ว่าพอมาถึงหน้ารถ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที