แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1035
รถของเธอโดนคนชนเข้าแล้วจริง ๆ!
“ไม่ทราบว่า คุณเป็นเจ้าของรถคันนี้เหรอ?”
เด็กผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาคนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงหน้านรมนด้วยท่าทางเก้อเขิน ท่าทีดูหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
“ใช่ค่ะ”
นรมนจ้องมองดูท่าทางของเธอ ดูแล้วก็อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปด เด็กผู้หญิงแบบนี้ยังถือว่าเป็นเด็กคนหนึ่งอยู่เลยมั้ง?
เธออดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจทีหนึ่ง
“นี่คุณทำอะไรเนี่ย?”
หน้ารถของนรมนเป็นรอยบุ๋มลงไป นี่ถ้าไม่ใช่เพราะว่าอยู่ในลานจอดรถ เธอก็คงจะคิดว่าโดนคนชนเข้าตอนที่ขับอยู่บนท้องถนนนะ
เด็กผู้หญิงรู้สึกเซ็งเล็กน้อยแล้วเกาหลังหัวของตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า “คือว่าฉันเพิ่งได้ใบขับขี่มา ตอนแรกกะว่าจะถอยรถเข้าซอง แต่ว่าถอยยังไงก็ถอยเข้าไม่ได้ แต่ว่าถอยสี่ห้าครั้งก็ยังชนโดนจุดเดิมของรถคุณติด ๆ ไปสี่ห้าครั้ง”
“สี่ห้าครั้งติด ๆ? แถมยังเป็นจุดเดิมซ้ำ ๆ อีก? นักเรียน ครูฝึกของคุณคนนี้ควรจะปลดได้แล้วมั้ง”
นรมนรู้สึกว่าวันนี้ไม่น่าออกจากบ้านจริง ๆ เลย
ตอนแรกกะว่าจะมาดูพฤกษ์และคมทิพย์ที่โรงพยาบาลสักหน่อย แต่ปรากฏว่าคนอื่นเขากลับแสดงสดชุดหนึ่งออกมากระตุ้นเธอ พอเธอจะออกไปซื้อผัก แต่ก็มาเจอคนห่วยแตกที่ขับรถแบบนี้คนหนึ่ง หรือว่าแม้แต่สวรรค์ก็ยังไม่ถูกชะตากับเธอเหรอ?
พอเด็กผู้หญิงเห็นปฏิกิริยาแบบนี้ของนรมน ก็รีบพูดขึ้นว่า “ฉันชดใช้! ฉันจะต้องชดใช้ให้แน่! แต่ว่าตอนนี้ฉันยังไม่มีเงิน สามารถเจรจากันแบ่งเป็นผ่อนจ่ายได้ไหมคะ?”
นรมนจ้องมองดูการแต่งกายทั้งตัวของเธอ ก็เป็นแค่การแต่งตัวธรรมดาทั่วไปของเด็กนักเรียน ก็เลยอดไม่ได้ที่จะใจอ่อนขึ้นมาเล็กน้อย
“ช่างเถอะ ฉันซ่อมเองก็ได้ ต่อไปคุณก็ขับรถให้มันน้อย ๆ ดีกว่า หรือโบกรถจะปลอดภัยมากกว่านะ”
ถือได้ว่าเธอเตือนด้วยความจริงใจแล้วนะ
แต่ว่าเด็กผู้หญิงกลับส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ได้ รถคันนี้ฉันเป็นคนชนพัง และฉันก็รู้ว่ารถคันนี้มีมูลค่าแพงมาก ฉันอาจจะชดใช้ไม่หมดทั้งชีวิต แต่ว่าเมื่อทำผิดแล้วก็จะต้องรับผิดชอบ ฉันชื่ออรอุรชา นี่เป็นเบอร์โทรศัพท์ของฉัน เดี๋ยวคุณส่งบิลค่าซ่อมมาให้ฉัน ฉันจะแบ่งจ่ายคืนให้คุณทุกเดือนแน่”
อรอุรชายืนกรานอย่างหนักแน่น
นรมนจ้องมองเธอดูดี ๆ ทีหนึ่ง
ดวงตาของเด็กผู้หญิงคนนี้ใสแจ๋วเป็นอย่างมาก ทำให้คนมีความรู้สึกสบายใจอย่างหนึ่ง เหมือนกับว่าเมื่อมองดวงตาของเธอก็สามารถขจัดความสกปรกและความผิดบาปทั้งหมดที่อยู่ในใจออกไปได้ยังไงอย่างงั้น
หน้าตาของเธอไม่ได้แบบที่ทำให้คนรู้สึกตกตะลึงแบบนั้น แต่ว่าอวัยวะจิ้มลิ้มทั้งห้ามาอยู่บนใบหน้าตุ๊กตานี้ ทำให้น่ามองเป็นอย่างมากเลย
นรมนรู้สึกดีต่ออรอุรชาคนนี้มาจากใจจริง
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อนรม”
“ห๋า? คุณชื่อนรมนหรือคะ? ”
แววตาของอรอุรชาดูไม่เหมือนเดิมขึ้นมาบ้างแล้ว
“ใช่ ทำไมเหรอ? คุณรู้จักฉันเหรอ?”
นรมนรู้สึกแปลก ๆ
เธอไม่เคยเจอเด็กผู้หญิงคนนี้นี่!
ถ้าเคยเจอละก็ จะต้องมีความคลับคล้ายคลับคลาซิ แต่นี่เห็นได้ชัดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้รู้จักเธอ
อรอุรชารีบส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วก็เอาการ์ดที่อยู่ในมือยื่นไปให้
“นี่เบอร์โทรศัพท์ของฉัน อย่าลืมติดต่อฉันนะ ฉันไปก่อนแล้วค่ะ ลาก่อน”
พอพูดจบเธอก็แทบจะเหมือนกับว่าหนีออกไปจากลานจอดรถเลย
มองดูแผ่นหลังของเธอ แล้วก็มาดูการ์ดที่อยู่ในมือ บนนั้นมีตัวหนังสือที่สวยงามเขียนเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ แค่ดูก็รู้แล้วว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนใสซื่อบริสุทธิ์ เพียงแต่ว่าปฏิกิริยาของเธอเมื่อกี้มันหมายความว่ายังไงกัน?
นรมนคิดไม่ตก
หรือว่าจะเป็นแค่การเสแสร้ง แต่จริง ๆ แล้วอรอุรชาไม่ได้อยากจะชดใช้ เพียงแต่แค่ใช้โอกาสมาหลบหนี?
นรมนคาดเดาไป แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
รถคันนี้ถึงราคาจะแพงมาก เวลาซ่อมก็ค่อนข้างเปลืองเวลา แต่ว่าสำหรับเธอและตระกูลโตเล็กก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องอะไร
และอย่างรวดเร็วนรมนก็ลืมเรื่องนี้และเด็กผู้หญิงคนนี้ไปจากหัวสมองแล้ว
เธอใช้แอปขนส่งเรียกรถไปส่งถึงบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กเลย
รถก็ใช้ไม่ได้แล้ว ยังจะซื้อผักอะไรอีก?
ตอนที่กลับมาถึงนั้นบุริศร์ไม่อยู่ ส่วนกมลนั่งวาดรูปอยู่บนโซฟา
นรมนเดินไปแล้วมองดูทีหนึ่ง หัวคิ้วก็ขมวดกันขึ้น
ผลงานที่เด็ก ๆ วาดออกมาจะสามารถแสดงออกถึงโลกในจิตใจของเด็กมากที่สุด เมื่อก่อนรูปที่กมลวาดออกมามักจะสดใส มีแต่พัฒนามากยิ่งขึ้น แต่วันนี้รูปภาพของกมลกลับแฝงไว้ด้วยความมืดหม่นและความน่ากลัวเสี้ยวหนึ่ง
ใจของนรมนเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที
เรื่องของอิงฟ้าบุริศร์ได้ไปจัดการแล้ว หลังจากที่โดนคนแฉหมดแล้ว เส้นทางการสอนหนังสือของเธอก็สิ้นสุดลง แล้วตัวตนคู่รักที่โดนเปิดเผยออกมา ก็โดนตัวจริงของผู้ชายพวกนั้นมาตามหาถึงบ้าน แล้วก็โดนคนเหยียดหยามและทุบตี ได้ยินมาว่าโดนถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเกลี้ยงแล้วเอามาโยนทิ้งไว้กลางถนน จนทำให้เธอโด่งดังขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ว่านรมนยังคงรู้สึกว่าแบบนี้แล้วก็ยังโดนลงโทษไม่พอ
สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นราคาที่เธอต้องจ่ายเพราะการกระทำของตัวเองทั้งนั้น แต่ว่าการทำร้ายที่เธอกระทำต่อกมลกลับไม่มีการแสดงออกใด ๆ อย่างแท้จริงเลย
เธอจำเป็นจะต้องขอโทษกมล!
นรมนไม่เคยมีความคิดที่แข็งกร้าวขนาดนี้มาก่อน แต่ว่าวินาทีนี้ พอมองเห็นลูกสาวที่ปกติร่าเริงสดใสกลายมาเป็นอย่างนี้ นรมนก็รู้สึกว่าตัวเองจำเป็นจะต้องช่วยลูกสาวทวงความยุติธรรมนี้กลับมา
เธอโทรศัพท์ให้กับสมจิต
ตั้งแต่บุริศร์กลับมา สมจิตก็กลับไปบ้านตระกูลพรโสภณ แล้วพอมาวันนี้ตอนที่ได้รับโทรศัพท์ของนรมนก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง
“คุณนาย?”
“ขับรถมารับฉัน แล้วก็ช่วยเช็กดูหน่อยว่าตอนนี้อิงฟ้าอยู่ที่ไหน ฉันจะไปหาเธอ”
“ได้ค่ะ”
หลังจากที่สมจิตวางสายลงแล้ว ก็รีบสืบค้นรอบหนึ่ง
ที่อยู่ในตอนนี้ของอิงฟ้านั้นหาง่ายมาก ในเมื่ออยู่ในโลกโซเชียลนั้นได้กลายเป็นศัตรูของผู้หญิงทั้งหมดไปแล้ว แต่ลองค้นหาดูง่าย ๆ ก็หาเจอแล้ว
สมจิตจดที่อยู่ไว้ แล้วถึงได้ขับรถมาที่บ้านใหญ่ตระกูลโตเล็ก
นรมนจ้องมองกมล แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ลูกรัก หม่ามี้พาหนูออกไปเที่ยวเล่นดีไหม?”
“ไม่อยากออกไปค่ะ”
กมลไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่
เมื่อก่อนกมลได้แต่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยทุกวัน สิ่งที่อยากจะทำมากที่สุดก็คือสามารถออกไปข้างนอกได้เหมือนอย่างกับเด็กคนอื่น และเล่นให้เต็มที่ แต่ตอนนี้เด็กที่ดี ๆ คนหนึ่งกลับต้องมาเป็นอย่างนี้ จิตใจของนรมนไม่ต้องถามเลยว่าเจ็บปวดมากแค่ไหน
“กมล ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือว่าผู้ใหญ่ ต่างก็ทำผิดกันได้ทั้งนั้น เพียงแต่ว่าทำผิดแล้วก็จะต้องรับผิด หม่ามี้พาหนูไปที่ครูอิงฟ้า ให้เธอรับผิดกับหนูดีไหมจ๊ะ?”
คำพูดของนรมนทำให้กมลอดไม่ได้ที่จะสั่นขึ้นมาทีหนึ่ง
“ผู้ใหญ่ทำผิดแล้วก็จะขอโทษเหรอคะ?”
น้ำเสียงเบา ๆ ของเธอถามขึ้นมา แววตามีแววร้อนแรงเล็กน้อย
“แน่นอน ผู้ใหญ่ทำผิดแล้วก็จำเป็นจะต้องขอโทษ”
นรมนลูบหัวของกมลเบา ๆ แล้วก็ยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน
“แต่ว่าเธอดูดุมากเลยนะคะ”
เห็นได้ชัดว่ากมลยังมีความกลัวต่อเธออยู่ในใจ
“ไม่เป็นไรจ้ะ ครูอิงฟ้ารู้ตัวว่าผิดแล้ว ก็จะไม่ดุกมลอีกแล้ว หม่ามี้รับรองจ้ะ”
นรมนยังคงยิ้มอยู่ แต่ว่าในใจกลับเกลียดอิงฟ้าจะตายอยู่แล้ว
ถ้าหากว่าเธอขอโทษกับกมลดี ๆ ก็ยังดี ไม่งั้นละก็……
แววตาของเธอมีแววโหดเหี้ยมพาดผ่านเส้นหนึ่ง แต่ว่าแค่พริบตาก็หายไปแล้ว
กมลเอียงหัวคิดวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในคำพูดของนรมน
นรมนเองก็ไม่เร่งเธอ
พอผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดกมลก็พยักหน้าให้
“ก็ได้ค่ะ หนูจะไปกับหม่ามี้ หม่ามี้จะปกป้องหนูใช่ไหมคะ?”
“แน่นอนจ๊ะ”
นรมนอุ้มกมลขึ้นมา จากนั้นก็ออกจากประตูไป
สมจิตมองเห็นพวกเธอขึ้นรถแล้ว จึงถามเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณนาย ตอนนี้พวกเราจะตรงไปเลยเหรอคะ?”
“อืม”
นรมนพยักหน้าเล็กน้อย
กมลพิงอยู่ข้างลำตัวนรมนสงบนิ่งมาก แล้วเธอก็เอาโทรศัพท์ออกมาเล่นเกม
เมื่อก่อนกมลเป็นคนชอบพูดคุยมาก ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้แล้วก็ยิ่งทำให้นรมนปวดใจมาก
“อีกเดี๋ยวถ้าไปถึงแล้วคุณเข้าไปพูดคุณกับเธอก่อน ความหมายของฉันคุณเข้าใจดีใช่ไหม?”
“เข้าใจค่ะ”
สมจิตเป็นคนฉลาด และจากแววตาของนรมนสามารถมองออกถึงความใส่ใจที่นรมนมีต่อกมล
เด็กคนนี้จะต้องโดนทำให้ตกใจแล้วแน่ ๆ
กับเด็กที่อายุน้อยขนาดนี้ยังสามารถลงมือได้ อิงฟ้าคนนี้มีสภาพอย่างในตอนนี้ได้ ก็ไม่ถือว่าโดนปรักปรำแล้ว
รถมาถึงหน้าบ้านของอิงฟ้าอย่างรวดเร็ว
ที่นี่เคยโดนคนสาดสีน้ำมันใส่แล้ว และยังมีกระทั่งพวกเศษผักและไข่โดนปาใส่ประตู กลิ่นจึงไม่น่าดมนัก
นรมนค่อย ๆ ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เธอจะให้ลูกสาวเข้าไปในที่ที่มีสิ่งแวดล้อมแบบนี้ไม่ได้
“ฉันกับกมลจะไปรอพวกคุณอยู่ที่ร้านกาแฟทางโน้น”
นรมนรีบอุ้มกมลลงไปรถไปก่อน
แต่ว่ากมลกลับหยุดลงตรงหน้าร้านKFC
“หม่ามี้คะ หนูไม่อยากดื่มกาแฟ หนูอยากกินKFCค่ะ”
ดวงตาเล็ก ๆ ที่มีแววขอร้องของกมลจะให้นรมนปฏิเสธได้ยังไงล่ะ
“กินเยอะมากไม่ได้นะ”
“หนูรับรองค่ะ!”
บนใบหน้าของกมลมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาทันที
นรมนขยี้ผมของเธออย่างเบื่อหน่ายขึ้นมา แล้วพูดว่า “ไปเถอะ เดี๋ยวค่อยส่งข้อความให้คุณน้าสมจิต บอกกับเธอว่าพวกเราอยู่ที่นี่ ”
“หม่ามี้ หม่ามี้ดีที่สุดเลยค่ะ”
กมลประจบประแจงขึ้นอย่างไม่รู้สึกกดดันอะไรเลย
นรมนส่ายหน้าอย่างรักใคร่ขึ้น
“ในตอนที่แด๊ดดี้ของหนูไม่อยู่ ก็เป็นหม่ามี้ดีที่สุด ในตอนที่แด๊ดดี้ของหนูอยู่ หม่ามี้ก็ต้องหลบไปเลยใช่ไหม?”
“ใช่ที่ไหนคะ ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนหม่ามี้ก็ดีที่สุดค่ะ”
ขอแค่ให้มีของกิน รับรองว่าคำพูดที่กมลพูดออกมาจะต้องทำให้นรมนชอบฟังเป็นพิเศษแน่
“เจ้าเด็กผีกะล่อน”
เธอจูงมือของกมลแล้วเดินเข้าไปในร้านKFC
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าจะสั่งอาหารไหมคะ?”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง
พอเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วก็เห็นอรอุรชาจ้องมองตัวเองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ
“นรมน?”
นรมนรู้สึกอยากจะหัวเราะขึ้นมาบ้างแล้ว
โลกใบนี้นี่แคบจริง ๆ เลย
“ฉันจะสั่งอาหาร ได้ไหมคะ?”
นรมนยิ้มอ่อน ๆ ขึ้น
อรอุรชารีบตั้งสติกลับมาได้
“อ๋อ ได้ค่ะ ได้ค่ะ”
พูดจบ เธอก็เอาเมนูยื่นให้กับนรมน
แต่นรมนกลับผลักไปให้กมล
“อย่าลืมนะ กินเยอะมากไม่ได้นะ”
“งั้นหนูเอาเซตถังครอบครัวได้ไหมคะ? หม่ามี้!”
กมลจ้องมองนรมนด้วยใบหน้าขอร้องทั้งหน้า
ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นกะพริบปริบ ๆ อยู่ จนทำให้หัวใจของนรมนสลายไปเลย
ในตอนที่อรอุรชาได้ยินกมลเรียกเธอว่าหม่ามี้นั้นก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง จึงถามขึ้นอัตโนมัติว่า “คุณแต่งงานแล้วเหรอคะ?”
“พูดไร้สาระ ถ้าฉันไม่แต่งงานจะไปเอาลูกมาจากไหนกัน? เด็กอย่างเธอนี่มันอะไรกันน่ะ?”
นรมนรู้สึกว่าอรอุรชามีความน่ารักอยู่บ้าง
สีหน้าของอรอุรชามีความไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย มีสีแดงปรากฏขึ้นบนใบหน้าเล็กน้อย
กมลถึงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าหม่ามี้กับพี่สาวคนนี้ เหมือนกับว่าจะรู้จักกัน
“พี่สาว ถ้าพี่รู้จักหม่ามี้หนูละก็ สามารถที่จะลดราคาให้พวกเราหน่อยได้ใช่ไหมคะ? หรือว่าให้ของสมนาคุณกับพวกเราเยอะหน่อย? อืม ให้น่องไก่เพิ่มอีกอันหนึ่งก็พอค่ะ”
คำพูดนี้ของกมลพูดออกมา ก็ทำให้นรมนอยากจะหัวเราะอยากจะร้องไห้ไปด้วยเลย
ยัยเด็กนี่รู้จักต่อรองราคาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ไม่ถูกซิ!
นี่มันหลอกขอของแถมนี่!
ดูท่าในด้านการกินแล้ว กมลมักจะคิดหาวิธีต่าง ๆ นานามาให้ได้กินมากขึ้นอีกหน่อย
เธอส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “ชุดเซตถังครอบครัวชุดหนึ่งก็พอแล้ว หนูยังอยากจะขอเพิ่มน่องไก่เพิ่มอีกอันเหรอ? กมล เป็นคนจะโลภมากเกินไปไม่ได้นะ!”
“แต่ว่าหนูก็แค่ขอน่องไก่ ไม่ได้เป็นคนสักหน่อย ไม่ได้ขัดแย้งกันนี่คะ”
กมลโต้เถียงขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง
แล้วอรอุรชาก็หัวเราะขึ้นมาทันทีเลย
“น่ารักจริง ๆ เลย ไม่มีปัญหา พี่เพิ่มน่องไก่ให้หนูอีกอันหนึ่งได้”
ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น อยู่ ๆ ก็มีคนเรียกอรอุรชาขึ้นมาคำหนึ่ง