แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1036
“อรอุรชา โทรศัพท์ของเธอ!”
“อืม มาแล้ว!”
อรอุรชาจ้องมองนรมนอย่างขอโทษแล้วพูดขึ้นว่า “งั้นคุณนรมน ฉันไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ ส่วนอาหารฉันจะให้คนรีบส่งมาให้เร็วที่สุดค่ะ”
“ได้”
“อย่าลืมเพิ่มน่องไก่นะคะ”
กมลพูดเตือนขึ้นอย่างจริงจัง
นรมนหัวเราะขึ้นมาทันทีเลย
“พอแล้ว รู้จักแต่กินนั่นแหละ”
“มนุษย์ต้องเห็นอาหารเป็นปัจจัยหลัก คำพูดนี้พี่กิจจาเป็นคนบอกหนู เพราะฉะนั้นที่หนูชอบกินไม่ขายหน้าค่ะ”
กมลพูดขึ้นอย่างดื้อดึง
นรมนก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เซตถังครอบครัวมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว ข้างในนั้นมีน่องไก่เพิ่มขึ้นมาอันหนึ่งจริง ๆ ด้วย
นรมนรู้สึกว่าเด็กผู้หญิงอรอุรชานี่เป็นคนที่ซื่อสัตย์จริง ๆ
นี่ไม่ใช่ร้านของเธอ อย่างมากสุดเธอก็เป็นแค่พนักงานในร้านคนหนึ่ง แล้วตอนนี้เพิ่มน่องไก่มาให้หนึ่งอัน คิดว่าคงจะต้องควักเงินตัวเองจ่ายแล้ว
นรมนตัดสินใจว่าเดี๋ยวจะเอาเงินคืนให้กับเธอ
เด็กผู้หญิงออกมาทำงานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ จะมาให้คนอื่นเขาสิ้นเปลืองคงไม่ดี
ระหว่างที่คิดแบบนี้อยู่ สมจิตก็พาอิงฟ้ามาแล้ว
อิงฟ้าไม่มีความเย่อหยิ่งยโสเหมือนเมื่อก่อนเลย ตอนนี้กลับปิดบังตัวเองอย่างกับเป็นมัมมี่ตัวหนึ่ง แต่ว่ายังคงมองไปรอบ ๆ อย่างมีความกังวลในใจอยู่ และเดินมาถึงข้างหน้าพวกนรมนอย่างวิตกกังวลอยู่
นรมนไม่ได้ความรู้สึกดีต่อเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเพื่อกมลแล้ว เธอก็ยังคงอดทนไว้
“คุณนายบุริศร์ ขอโทษค่ะ เป็นเพราะว่ามีตาหามีแววไม่ คุณปล่อยฉันไปเถอะนะคะ คุณดูตอนนี้ฉันก็มีสภาพอนาถพออยู่แล้ว ไม่ว่าเมื่อก่อนฉันจะทำอะไรไปบ้าง คุณช่วยยกมือที่สูงส่งออกปล่อยฉันไปสักครั้งเถอะนะ?”
พออิงฟ้าเห็นนรมนปุ๊บก็จะคุกเข่าลงทันที แต่กลับโดนสมจิตกลับยกเท้าขึ้นมาสกัดไว้ซะก่อน
เธอยังอยากจะใช่เรี่ยวแรงทั้งหมดมาคุกเข่าลงไปอีก แต่ว่าแรงขาข้างหนึ่งของสมจิตก็มากพอที่จะต่อกรกับเธอได้แล้ว
นรมนกวาดตามองทีหนึ่ง แสงแฟลชของกล้องถ่ายวิดีโอที่อยู่รอบข้างสะท้อนแสงกลับมา
มุมปากของเธอค่อย ๆ ยิ้มเย็นขึ้นมาเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนี้จนถึงตอนนี้แล้วยังไม่ทำตัวดี ๆ อีก ดูท่ายังไม่รู้จักจำนะ แต่ว่าก็ไม่เป็นไร เธอไม่รีบ
“ดูเหมือนว่าคุณจะมาขอโทษผิดคนแล้วนะ อิงฟ้า คุณทำกับลูกสาวฉันยังไงบ้าง เหมือนกับว่าฉันจะยังไม่รู้เลย แต่ว่าลูกสาวของฉันก็ได้พูดกับฉันไปบ้างแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าถูกต้องหมดหรือเปล่า เอาแบบนี้ละกัน คุณทำอะไรไปบ้าง พูดต่อหน้าลูกสาวฉันให้ชัดเจน แล้วก็ขอโทษให้เรียบร้อย ฉันก็จะเอาผิดกับคุณแล้ว”
นรมนเปิดปากพูดขึ้นเรียบ ๆ
ในตอนที่กมลเห็นอิงฟ้ามาถึงก็ได้หยุดกินไปแล้ว แล้วก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนอะไร และก็ไม่ได้แสดงท่าทางว่ากลัวอะไรออกมา แต่ว่าเธอนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบขนาดนั้น กลับทำให้นรมนปวดใจ ปวดใจจนแทบอยากจะถลกหนังของอิงฟ้าออกมา
อิงฟ้าเองก็เป็นคนฉลาด แน่นอนว่าต้องฟังความหมายใจคำพูดของนรมนออกอยู่แล้ว
เธอรีบคุกเข่าลงต่อหน้ากมล แต่ครั้งนี้ สมจิตไม่ได้ขัดขวางเธอ
และถือได้ว่าอิงฟ้าได้คุกเข่าลงไปจริง ๆ แล้ว จนหัวเข่าโขกพื้นจนเจ็บจี๊ด แต่เธอกลับทำได้แค่อดทนไว้
“คุณหนูกมล เป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรไม่ให้คุณกินข้าว ไม่ควรให้คุณตื่นมาวาดรูปตอนกลางดึก ยิ่งไม่สมควรที่จะตบตีคุณ เป็นความผิดของฉันทั้งหมด ฉันโดนปีศาจครอบงำจิตใจไว้ถึงได้ทำเรื่องที่โหดร้ายขนาดนี้กับคุณที่เป็นเด็กแบบนี้ได้ เพราะฉันไม่ดีเอง คุณได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วยนะ”
อิงฟ้าพูดมาข้อหนึ่ง มือของนรมนก็กำแน่นขึ้นอีกนิดหนึ่ง จนสุดท้ายเล็บก็ฝังเข้าไปในใจแล้วก็ยังไม่รู้ตัว
ผู้หญิงคนนี้นี่น่ารังเกียจมากจริง ๆ!
ให้กมลตื่นมาวาดรูปกลางดึก ยังไม่ให้เธอดื่มกินอีกเหรอ?
ถึงว่ารมิดาถึงได้พูดว่ากมลนอนหลับไม่เพียงพออย่างรุนแรง
ใจของเธอมันเป็นสีดำหรือยังไง?
ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ได้?
ดวงตาของนรมนนั้นเป็นเหมือนดาบคมสองเล่มที่แทบอยากจะแทงตัวอิงฟ้าให้พรุนไปเลย
กมลขมวดคิ้วไว้ แล้วมองนรมนทีหนึ่ง อย่างกับว่าร้องขอความช่วยเหลือ
นรมนพยายามข่มความโกรธของตัวเองเอาไว้ และพยายามพูดกับกมลอย่างสงบนิ่งที่สุด “กมล หนูตัดสินใจเองเลย จะยกโทษให้หรือไม่ยกโทษให้หม่ามี้ก็จะฟังหนูจ้ะ”
พออิงฟ้าได้ยินแบบนี้แล้ว ก็รีบจับขาของกมลไว้ทันที แต่กลับทำให้กมลตัวสั่นขึ้นมาทีหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว
“ปล่อยมือสกปรกของเธอออกนะ!”
สมจิตกลับฟาดลงไปเลย
อิงฟ้าถึงได้ยอมปล่อย แล้วก็พูดขึ้นอย่างร้องห่มร้องไห้ว่า “คุณหนูกมล เป็นเพราะว่าฉันไม่ดีเอง คุณปล่อยฉันไปเถอะนะคะคุณลองคิดดูซิ ฉันก็เคยสอนเทคนิคการวาดรูปให้คุณไปเยอะเลยไม่ใช่เหรอ? ถึงแม้ว่าฉันจะเข้มงวดกับคุณไปหน่อย แต่ว่าจุดประสงค์ของฉันก็ดีนี่คะ ฉันหวังดีกับคุณทั้งนั้น”
ตอนแรกกะว่าจะให้อิงฟ้ามาขอโทษ แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะหน้าด้านขนาดนี้ ตอนนี้กลับกล้ามาเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี
นรมนพรวดทีเดียวลุกขึ้นยืนขึ้นมา แต่กลับได้ยินกมลเปิดปากพูดขึ้นซะก่อนว่า
“หนูรู้ว่าครูอิงฟ้ามีความตั้งใจดี ในเมื่อครูที่เข้มงวดถึงจะได้ลูกศิษย์ที่เก่ง เพราะฉะนั้นหนูสามารถเข้าใจความตั้งใจของครูอิงฟ้าได้ แต่ว่าหนูไม่ยอมรับการขอโทษของคุณหรอกค่ะ”
อิงฟ้าและนรมนต่างก็อึ้งไปเลย
ใครจะไปคิดว่ากมลจะพูดคำพูดพวกนี้ออกมาได้ โดยเฉพาะนรมน
ภาพในความทรงจำที่กมลให้กับเธอนั้นคือเป็นคนชอบกินคนหนึ่ง เป็นคนชอบกินที่มีความสุข ขอแค่มีของกินท่าทีก็กลายเป็นพึงพอใจแล้ว ดูสดใสน่ารัก ทำให้คนรู้สึกว่าน่ารักมาก แต่ว่าก็ทำให้นรมนหลงลืมเรื่องอย่างหนึ่งไป
นั่นคือกมล โตเล็ก เป็นลูกสาวของบุริศร์ โตเล็กนะ
ความเฉลียวฉลาดที่กานต์แสดงออกมา ทำไมกมลจะไม่มีด้วยล่ะ?
วันนี้มองเห็นท่าทางลูกสาวแข็งแกร่งสงบนิ่งและไม่ตื่นกลัว นรมนก็รู้สึกราวกับว่ามองเห็นเงาของบุริศร์
ดวงตาของเธออดไม่ได้ที่จะเปียกชื้นขึ้นมา
ลูกสาวของบ้านเธอ!
ทำให้คนปวดใจมากจริง ๆ
อิงฟ้ากลับตื่นตกใจที่เด็กสี่ขวบคนหนึ่งแบบนี้ กลับสามารถพูดคำพูดที่มีเหตุมีผลอย่างนั้นออกมาได้ และที่สำคัญเธอพูดว่าอะไรนะ?
ไม่ยอมรับเหรอ?
กมลไม่ยอมรับการขอโทษของเธอเหรอ!
ปฏิกิริยาบนใบหน้าของอิงฟ้าเปลี่ยนเป็นหลากหลายสีขึ้นมาทันที
กมลยกเครื่องดื่มที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาดื่มคำหนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ไม่ใช่ว่าคนทุกคนทำผิดแล้วก็จะได้รับการให้อภัย ครูอิงฟ้า คุณรู้ไหมคะว่าตอนนี้ตอนกลางคืนหนูก็ยังนอนไม่หลับเลย? การทำร้ายที่คุณได้สร้างไว้กับหนูนั้น ไม่ใช่แค่คำขอโทษคำเดียวก็จะสามารถแล้วกันไปได้ค่ะ?”
“งั้น งั้นหนูอยากจะทำยังไงล่ะ?”
หัวคิ้วของอิงฟ้าขมวดเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว ในแววตามีแววหงุดหงิดเสี้ยวหนึ่งพาดผ่าน
กมลล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า แล้วพูดขึ้นเสียงเรียบว่า “คำพูดของคุณเมื่อกี้หนูได้อัดเสียงไว้หมดแล้ว แล้วหนูจะให้คุณอาตำรวจมาคุยกับคุณนะคะ!”
“ไม่! ไม่ได้นะ!”
อิงฟ้าจะเข้าไปแย่งโทรศัพท์ของกมลอย่างอัตโนมัติ แต่ว่าท่วงท่าของสมจิตกลับเร็วกว่าเธอ แล้วก็เตะเข้าที่กระดูกหัวเข่าเธอตรง ๆ
ตัวเธอทั้งตัวอดไม่ได้ที่จะต้องล้มลงไปคุกเข่าลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กระดูกหัวเข่าเธอเกือบจะแตกแล้วยังไงอย่างงั้น เจ็บจนเธออดไม่ได้ที่จะร้องโอดครวญขึ้นมา
แต่ว่ากมลกลับไม่ได้รู้สึกอะไรกับสถานการณ์แบบนี้เลย
เธอเก็บโทรศัพท์ให้เรียบร้อย มือทั้งคู่อุ้มถังไก่เซตครอบครัวเอาไว้ แล้วกะพริบดวงตาโตที่น่ารักจ้องมองนรมนอยู่ “หม่ามี้ พวกเราไปได้หรือยัง? หนูอยากกลับบ้านแล้ว”
“อ๋อ ได้จ้ะ”
แล้วนรมนถึงจะตั้งสติกลับมาได้
ตอนแรกเธอกะว่าจะมาทวงความยุติธรรมอันหนึ่งคืนให้กับลูกสาว แต่คิดไม่ถึงว่าตัวเองยังไม่ทันได้ทำอะไร ลูกสาวก็ลงมือด้วยตัวเองแล้ว
กมลคนเมื่อกี้ ใช่ลูกสาวของเธอจริง ๆ เหรอ?
นรมนรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
กมลในเวลานี้ได้อุ้มถังเซตครอบครัวเอาไว้แล้วก็กระโดดลงมาจากเก้าอี้ แล้วเดินมาถึงตรงหน้านรมนและพูดอย่างออดอ้อนขึ้นว่า “หม่ามี้คะ หนูไม่มีมือจูงมือของหม่ามี้แล้ว หม่ามี้อุ้มหนูไปขึ้นรถดีไหมคะ?”
“ได้”
ใช่ซิ!
น่ารักแบบนี้ กมลที่ชอบกินแบบนี้ซิถึงจะเป็นลูกสาวของเธอ!
นรมนรีบอุ้มกมลขึ้นมา แล้วพูดกับสมจิตขึ้นว่า “ที่เหลือมอบให้คุณจัดการแล้วนะ”
“ได้ค่ะ คุณนาย ฉันจะรีบจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
สมจิตจ้องมองอิงฟ้า
อิงฟ้าเห็นว่านรมนและกมลจะไปแล้ว ก็ร้อนรนขึ้นมาทันที
“คุณนายบุริศร์ คุณเคยพูดว่าขอแค่ฉันมาขอโทษก็จะเอาผิดกับฉันนี่”
“ก็ใช่ไง ฉันไม่ได้เอาผิดแล้ว แต่ว่าตำรวจจะเอาผิดหรือไม่เอาผิดอันนี้ฉันไม่รู้ จากสิ่งเหล่านี้ที่คุณทำ ก็น่าจะเพียงพอที่จะได้รับข้อหาทารุณและทำร้ายเด็กได้แล้วมั้ง?”
นรมนพูดจบก็ยกเท้าก้าวเดินออกไปเลย
เธอจะให้ลูกสาวมาโดนแปดเปื้อนไปด้วยไม่ได้
กมลคนเมื่อกี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!
เธอไม่มีทางที่จะยอมรับได้ว่าเด็กผู้หญิงที่เยือกเย็นและวางอำนาจคนเมื่อกี้เป็นกมลของเธอจริง ๆ
“หม่ามี้ หม่ามี้จะกินไก่สักชิ้นไหมคะ?”
กมลเงยหน้าขึ้นมาถาม แต่ว่ากลับถือชิ้นไก่ไว้ในมือ ท่าทางอย่างกับว่าไม่อยากจะแบ่งให้
ใช่ซิ!
กมลที่เป็นแบบนี้ถึงจะเป็นปกติ
นรมนส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่กิน หนูกินเองเถอะ”
“ขอบคุณค่ะหม่ามี้”
บนใบหน้าของกมลปรากฏรอยยิ้มออกมาทันที
นรมนอุ้มเธอไว้แล้วขึ้นรถ จ้องมองกมลที่กินอย่างมีความสุข ในใจก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก แต่ว่าท่าทางที่สงบเยือกเย็นของกมลเมื่อกี้ได้ทิ้งภาพฝังใจที่ลึกซึ้งไว้ในใจนรมนแล้ว
ในตอนที่สมจิตกลับมานั้น กมลก็กินไก่ถังเซตครอบครัวหมดพอดี และยังเรอออกมาทีหนึ่งอีกด้วย
“คุณน้าสมจิต คุณน้าช้าเกินไปแล้วนะคะ”
การดูถูกของกมล ทำให้สมจิตรู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย
“แค่ก แค่ก ได้ เดี๋ยวครั้งหน้าฉันจะแก้ไขให้ดีขึ้นนะ”
“อืม พวกเรากลับบ้านกันดีกว่า หนูคิดถึงแด๊ดดี้แล้ว”
กมลนี่กินอิ่มแล้วก็คิดถึงบุริศร์เลยนี่
หัวคิ้วของนรมนขมวดขึ้นเล็กน้อย
“กมล มาเจรจากันหน่อยนะ หนูอย่าเอาแต่แกะติดสามีของหม่ามี้มากเกินไปได้ไหม?”
“หนูขอคิดดูก่อน แต่ว่าก็จะต้องดูว่าหม่ามี้จะซื้อตัวหนูยังไงนะคะ”
กมลเอียงหัวไว้แล้วก็แลบลิ้นไปทางนรมนอย่างซุกซน
นรมนแทบจะโมโหจนตายแล้ว
“แย่แล้ว แย่แล้ว นี่ฉันถึงกับโดนเจ้าเด็กเมื่อวานซืนข่มขู่เลยเหรอ!”
“ฮิ ฮิ”
กมลมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
จ้องมองลูกสาวหัวเราะได้อย่างดีใจขนาดนี้ ใจของนรมนก็ถือได้ว่าวางลงมาแล้ว
ตอนที่พวกเขากลับมาถึงบ้านนั้น บุริศร์เองก็เพิ่งกลับมา พอเห็นพวกเธอสองแม่ลูกปรากฏตัวมาพร้อมกัน ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง
“พวกคุณสองคนไปไหนกันมา?”
“ไม่บอกคุณหรอก”
นรมนเอากมลยัดใส่ให้บุริศร์ไป แล้วก็พูดขึ้นอย่างเคือง ๆ ว่า “เอาไป เอาคนรักตัวเล็กของบ้านคุณคืนให้คุณ”
พูดจบเธอก็เดินเข้าบ้านก่อนเลย
บุริศร์มีสีหน้ามึนงงแล้วถามกมลขึ้นว่า “หนูทำให้หม่ามี้โกรธเหรอ?”
“เปล่านี่คะ หนูก็แค่พูดว่าหนูคิดถึงแด๊ดดี้เท่านั้น”
กมลใช้มือทั้งสองข้างคล้องคอบุริศร์ไว้ แล้วก็เอาใบหน้าเล็ก ๆ ของตัวเองชิดเข้าไปใกล้
“แด๊ดดี้คะ หนูคิดถึงแด๊ดดี้มาก มาก มากจริง ๆ เลยค่ะ”
ใจของบุริศร์แทบจะละลายแล้วจริง ๆ
“แด๊ดดี้ก็คิดถึงหนู แต่ว่าต่อไปอย่าพูดแบบนี้กับหม่ามี้อีกดีไหม?”
“เพราะอะไรคะ?”
“เพราะว่าหม่ามี้จะหึงไง!”
คำพูดของบุริศร์ทำให้กมลรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่เลย
“แต่ว่าหนูก็หึงเป็นเหมือนกันนะคะ! แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ไม่คิดถึงความรู้สึกของหนูบ้างเลยเหรอคะ?”
บุริศร์รู้สึกว่ากมลน่ารักมากเลย แล้วก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “กมลเป็นเจ้าหญิงน้อยที่ดีและน่ารักมาก อนาคตจะต้องเจอกับเจ้าชายขี่ม้าขาวคนหนึ่งที่รักหนูเหมือนกับแด๊ดดี้ พอถึงตอนนั้นกลัวว่าแด๊ดดี้อยากจะรั้งหนูไว้หนูก็คงจะไม่อยู่ข้างกายแด๊ดดี้แล้ว”
“ไม่มีทาง หนูจะรักแด๊ดดี้ทั้งชีวิตค่ะ”
กมลพูดอย่างเด็กไม่กังวลอะไรแล้วก็กอดคอบุริศร์ออดอ้อนไป
บุริศร์อุ้มเธอเดินเข้าประตูอย่างรักใคร่ แต่กลับเห็นนรมนเดินออกมาอย่างรีบร้อน แล้วก็อึ้งไปชั่วขณะ
“เพิ่งกลับมาเอง จะออกไปไหนอีกแล้ว?”