แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1078
ตามคำแนะนำของผู้ชายมีเครา นรมนกับนภดลมาถึงบ้านหลังหนึ่งทางสุดทิศใต้ของตลาดมืด
บ้านหลังนี้มีความเก่าแก่ ให้ความรู้สึกลึกลับแก่ผู้คน แต่นรมนกลับมองเห็นลวดลายลิลลี่แมงมุมของบ้าน
หัวคิ้วของเธอขมวดเบา ๆ
เห็นได้ชัดเจนว่านภดลก็มองเห็น
เขากระซิบถาม “จะต้องเข้าไปเหรอครับ?ที่นี่อาจจะเป็นฐานที่มั่นของ HG มิลินล่อคุณมาที่นี่ไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไร ตอนนี้ถ้าคุณเข้าไปแล้วเกิดอันตรายอะไร ผมไม่อาจช่วยได้ทัน”
“ไม่เข้าไปจะรู้ได้อย่างไรว่าแท้จริงแล้วมิลินมีแผนการอะไร?”
แววตาของนรมนเฉียบแหลม
“นายรอฉันอยู่ข้างนอก ทุกคนถ้าไม่มีคำสั่งจากฉันไม่อนุญาตให้เข้าไป”
คำพูดของนรมนทำให้นภดลโต้แย้งขึ้นมาทันที
“ไม่ได้ ผมจำเป็นต้องไปกับคุณ”
นรมนมองเห็นแววตาที่มุ่งมั่นของนภดล รู้ว่าเขาเป็นคนดื้อรั้น จึงถอนหายใจและกล่าวว่า “นายเข้าไปกับฉัน ส่วนคนอื่นรอฟังคำสั่งอยู่ที่เดิม”
“ครับ”
นภดลจัดการคนด้านนอก
นรมนเปิดประตูเข้าไปทันที
ด้านในไม่มีใครสักคน มีแค่เพียงมิลิน
เธอไม่แปลกใจสักนิดที่เห็นนรมน และกล่าวอย่างเรียบเฉย “มาแล้วเหรอ?”
“เธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพาฉันมาที่นี่ ไม่ใช่ต้องการให้ฉันเข้ามาที่นี่หรอกเหรอ?มีเรื่องอะไรก็พูดมาเถอะ ทุกคนต่างรู้จักกันดีอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำให้มันซับซ้อน”
นรมนหาที่นั่งลงไป เธอมองมิลินและถามอย่างเย็นชา “กิจจาถูกจับตัวมาที่นี่เกี่ยวข้องกับเธอหรือเปล่า?”
“เปล่า ฉันปฏิบัติต่อกิจจาเหมือนลูกของตัวเอง ถ้ามีสักวันที่พวกเราต้องเป็นศัตรูกันจริง ฉันจะไม่มีทางทำร้ายกิจจาแน่นอน”
คำพูดของมิลินทำให้นรมนพอใจมาก
ฉันเชื่อเธอ ตราบใดที่ไม่ทำร้ายกิจจา ฉันสามารถให้อภัยทุกอย่างที่เธอทำกับฉันได้ แต่ก่อนอื่นเธอต้องไม่ทำร้ายฉัน”
“ไม่มีทาง ฉันไม่กล้าหรอก”
มิลินพูดจบ ก็เหลือบมองไปข้างใน และกล่าวเสียงเบาว่า “วันนี้คนที่ต้องการพบเธอไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคุณนาย”
ร่างกายของนรมนชะงักงันเล็กน้อย
นงลักษณ์?
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร นรมนรู้สึกกังวล
“ทำไมถึงเลือกเจอกันที่นี่?ไม่ได้บอกว่าจะไปประเทศ F หรือไง?”
“ประเทศ F ไม่ปลอดภัย คุณนายจะถูกเปิดโปงได้ง่าย แต่ที่นี่ไม่เหมือนกัน ที่นี่คือตลาดมืด ไม่ว่าใครก็สามารถมาซื้อของที่นี่ได้ ผู้คนค่อนข้างวุ่นวาย แต่กลับมีความปลอดภัยที่สุด”
คำอธิบายของมิลินทำให้นรมนพูดไม่ออก
เธอคิดอยู่สักพักถึงจะพูดออกมา “คนที่ขายข้อมูลคือคนของพวกเธอ?”
“ใช่”
“เข้าไปกันเถอะ”
นรมนลุกขึ้นทันที พูดกับนภดลข้างกาย “นายรออยู่ตรงนี้นะ”
“แต่ว่า ……”
“ไม่มีแต่”
ในครั้งนี้ นรมนมีความเด็ดเดี่ยวเป็นพิเศษ
นภดลเห็นเช่นนี้ เขาชะงักงันอย่างไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นจึงหยุดอยู่กับที่
มิลินก็ไม่ได้เข้าไป เพียงแค่กล่าวเสียงเบา “เดินเข้าไปตามทางเดินร้อยเมตรแล้วเลี้ยวไปที่ห้องทางขวา”
นรมนสูดลมหายใจเข้าลึก ก้าวเท้าเดินเข้าไป
อาศัยการบอกทางของมิลิน นรมนมาถึงหน้าประตูห้อง
นี่คือห้องที่มีกลิ่นอายโบราณ แต่นรมนกลับรู้สึกตึงเครียด
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกอีกครั้ง ผลักประตูเข้าไปทันที
ภายในห้องมีกลิ่นไม้จันทน์จาง ๆ
มีหญิงวัยกลางคนกำลังคุกเข่าหน้าแท่นบูชากลางห้องโถง
นรมนมองเห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคย คิดว่าเป็นคิมกลับมาเกิดใหม่ทันที
“แม่”
เธอร้องเรียกออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้นก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว
คิมไม่อยู่แล้ว ถึงแม้คนตรงหน้าจะเหมือนมาก แต่ก็ไม่มีทางเป็นคิมไปได้
แววตาของนรมนปรากฏความเจ็บปวด
นงลักษณ์หันกลับมาหลังจากได้ยินเสียง ใบหน้าที่ดูเหมือนคิมทำให้นรมนน้ำตาคลอ
“นรมน?”
เสียงอันอ่อนโยนของนงลักษณ์เรียกหาเธอ
นรมนพยายามควบคุมอารมณ์ที่ถาโถมอย่างหนัก เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “คุณนายนงลักษณ์เรียกหาฉันมีธุระอะไรเหรอคะ?”
ร่างของนงลักษณ์ชะงักไปทันที แววตามีความงงงัน
เพียงแต่เธอปล่อยวางมันลงทันที
“การนัดเธอมาเจอที่นี่ ความจริงแล้วไม่มีทางเลือก เธออย่าได้โกรธเคืองกันเลย”
“เรียกหาฉันมีธุระอะไรเหรอคะ?”
นรมนไม่อยากพูดคุยนอกเรื่องกับเธอ
นงลักษณ์คือลูกสาวคนโตของคุณท่านตนุวร ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกันจริง แต่เทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนาไปมากแบบนี้ หากต้องการทำหน้าให้มีความคล้ายกับคิมก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ก่อนที่ตัวตนของนงลักษณ์จะได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ นรมนไม่ต้องการปล่อยความรู้สึกของตนเองตามสบาย
เพราะความรู้สึกของคนถูกทำลายง่ายมาก
เธอถูกพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนทำลายมาครั้งหนึ่งแล้ว จึงไม่อยากถูกทำลายเป็นครั้งที่สอง แน่นอนว่ายิ่งไม่ต้องการให้คุณท่านตนุวรเจอกับความเจ็บปวดแบบนั้น
นงลักษณ์รู้สึกแปลกใจกับปฏิกิริยาและท่าทางที่นรมนมีต่อตนเอง
“เด็กน้อย เธอไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร?”
“ฉันรู้ คุณคือแม่ของราเชน กล่าวกันว่าเป็นคุณป้าของฉัน พี่สาวฝาแฝดของแม่ฉัน แต่นี่มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?”
วิธีการพูดและท่าทางที่เย็นชาของนรมนทำให้นงลักษณ์กระอักกระอ่วนใจ
“บางทีฉันอาจจะเจอกับเธออย่างฉุกละหุกไปหน่อย แต่ฉันแค่อยากเจอหลานสาวของฉันมาก เธอเข้าใจความรู้สึกของฉันใช่ไหม?”
“พูดตามตรง ฉันไม่เข้าใจ ถ้าคุณต้องการเจอฉัน ก็มีโอกาส ตอนที่แม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่คุณก็มีโอกาส แต่คุณมาเจอฉันในตอนที่แม่ไม่อยู่แล้ว ก็เพราะรู้ว่าฉันเป็นคุณนายบุริศร์ บางทีมิลินอาจจะเล่าให้คุณฟังว่าฉันเป็นคนสำคัญของบุริศร์ และยังมีตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับตระกูลพรโสภณอยู่ข้างหลังอีก เพราะการมีอยู่ของสถานะเหล่านี้ คุณถึงมาหาฉันใช่ไหม?คุณจึงเลือกโอกาสแบบนี้เจอฉัน คงจะไม่เกี่ยวข้องกับราเชนใช่ไหม?”
คำพูดที่เย็นชาของนรมนทำให้นงลักษณ์ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรทันที
“เด็กน้อย เธอมีอะไรเข้าใจฉันผิดหรือเปล่า?”
“ฉันคิดว่าไม่มีอะไรเข้าใจผิด ก็เป็นแค่เพียงข้อโต้แย้ง ถ้าคุณต้องการฟื้นคืนความรู้สึกกับฉัน อย่างแรกคุณควรจะทำให้ฉันเชื่อ ว่าคุณเป็นญาติของฉันจริง ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงแค่รายงานการวินิจฉัยว่าเป็นญาติกันก็สามารถพิสูจน์ได้ คุณเป็นคนฉลาด ฉันเชื่อว่าคุณรู้ว่าคำพูดของฉันหมายความว่าอย่างไร”
นรมนพูดจบก็หัวตัวเดินไป เธอกล่าวเสียงเบา “คุณนายนงลักษณ์ ฉันหวังว่าพวกเราจะไม่กลายเป็นศัตรูกัน วันนี้พวกเราไม่ได้เจอกัน สามีของฉันรอฉันอยู่ที่ที่ตั้งกองกำลังทหาร ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
พูดจบ นรมนก็เดินออกไป
ครั้งนี้นงลักษณ์ไม่ได้ห้ามเธอเอาไว้
เมื่อนรมนออกมา นภดลก็รีบเข้าไปหา
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
“ฉันปลอดภัยดี พวกเรากลับกันเถอะ”
นรมนไม่หันไปมองมิลิน พานภดลเดินออกไปข้างนอกทันที เพียงแค่พูดเสียงเบาเมื่อเดินผ่านมิลิน “จำคำที่เธอเคยพูดเอาไว้ให้ดี ว่าจะไม่ทำร้ายกิจจา ไม่อย่างนั้นถึงแม้โลกจะแตก ถึงแม้ HG ของพวกเธอจะมีอำนาจแค่ไหน ฉันจะฝังพวกเธอทุกคน ฉันพูดจริงทำจริง”
พูดจบ นรมนก็เดินจากไป
มิลินขมวดคิ้วเบา ๆ รีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“คุณนาย!”
“หล่อนระมัดระวังตัวมากเกินไป และเย็นชามากเกินไป แถมยังฉลาดเป็นกรด เธอเชื่อไหม?ตั้งแต่เจอหน้ากัน ฉันได้พูดแค่เพียงสามสี่ประโยค หล่อนไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้พูดทุกอย่างที่ต้องการพูดเลย”
นงลักษณ์หัวเราะอย่างขมขื่น มองแสงแดดด้านนอก ดูเหมือนพึมพำกับตนเอง “หล่อนบอกว่าถ้าต้องการฟื้นคืนความรู้สึก อย่างแรกต้องทำให้หล่อนเชื่อว่าพวกเราเป็นญาติกัน ญาติเหรอ คำนี้อบอุ่นขนาดไหน แต่ไกลแค่ไหนก็เอื้อมไม่ถึง”
มิลินยืนอยู่ด้านข้างไม่ได้พูดอะไร
ผ่านไปสักพัก นงลักษณ์ถึงจะเหลือบมองเธอและกล่าวเสียงเบา “ให้คนของพวกเราถอยกลับมา นรมนพูดถูก คุณป้าอย่างฉันอยู่ดี ๆ ก็โผล่มา คิดจะมีชุบมือเปิบเส้นสายที่เธอสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากก็จะดูน่ารังเกียจไปหน่อย”
“แต่ว่าทางฝั่งขององค์ชายรอง……”
มิลินคิ้วขมวด คิดจะพูดอะไรแต่ก็หยุดเอาไว้
นงลักษณ์ถอนหายใจ “ถ้าเขาต้องการจะนั่งบนตำแหน่งนี้ เขาต้องพึ่งพาตนเอง จัดการให้ฉันด้วย ฉันจะอยู่ที่นี่สักวันสองวัน”
“ได้ค่ะ คุณนาย”
แล้วมิลินก็จากไป
หลังจากนรมนออกมา กลับไม่ได้รีบออกไปจากตลาดมืด แต่เดินวนไปรอบ ๆ และซื้อของเล็กน้อย ถึงจะนั่งรถกลับไปที่ตั้งกองกำลังทหาร
เมื่อบุริศร์ตื่นขึ้นมาก็หานรมนไม่เจอ เขากระวนกระวายจนแทบจะขับรถออกไป เมื่อออกมาถึงประตูก็พบนรมนถือถุงใบเล็กใบใหญ่กลับมา
“คุณออกไปช้อปปิ้งเหรอ?”
“ใช่แล้ว ทำไมเหรอ?ใช้เงินของคุณแล้วมันปวดใจเหรอ?”
นรมนมองบุริศร์อย่างซุกซน
อยู่ดี ๆ บุริศร์ก็หัวเราะอย่างจนปัญญา
“จะเป็นไปได้อย่างไร ครอบครัวของเรายากจนเหลือเพียงแค่เงิน ถ้าคุณไม่ใช้ จะทิ้งเอาไว้ให้ราขึ้นหรือไง?”
“คำพูดของคุณสามีน่าฟังที่สุด รู้ไหมว่าผู้ชายแบบไหนหล่อที่สุด?”
บุริศร์แปลกใจเล็กน้อย รู้สึกงงงวย
“ผู้ชายที่ควักเงินจ่ายหล่อที่สุด!ดังนั้นเดี๋ยวคุณไปช้อปปิ้งเป็นเพื่อนฉันนะ ว่ากันว่าเพชรของที่นี่ค่อนข้างดี ฉันอยากซื้อกลับไป เอาไปแบ่งให้คมทิพย์สักหน่อย ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเราก็มาแอฟริกาแล้วจริงไหม?”
ท่าทางร่ำรวยของนรมนทำให้บุริศร์หัวเราะขึ้นมาทันที
“เหนื่อยหรือเปล่า?”
“จะไม่เหนื่อยได้อย่างไร? ปวดขาไปหมดแล้วเนี่ย ขี่หลังหน่อยได้ไหม?”
นรมนมองบุริศร์อย่างมีความหวัง
บุริศร์ถอนหายใจ ย่อตัวลงไปอย่างยอมรับชะตากรรม
“ขึ้นมาสิ”
นรมนค่อย ๆ ปีนขึ้นไปบนหลังของบุริศร์ สองมือโอบรอบลำคอของเขา ลมหายใจอุ่นรดใบหู
“คุณสามี คุณพักผ่อนแล้วใช่ไหม?”
“มีอะไรก็พูดมา อย่ามายั่วเย้าผม ออกไปห่างหูของผมหน่อย”
บุริศร์รู้สึกสั่นเทาไปทั่วทั้งร่างกาย
แม่สาวยั่วสวาทคนนี้ รอก่อนเถอะ สักวันเขาจะทำให้เธอต้องร้องขอความเมตตา
บุริศร์แอบคิดอยู่ในใจ
นรมนอิงแอบที่คอของเขาอย่างไม่สนใจ หายใจออกมา
“ไม่เอา”
“นรมน เคยได้ยินคำกล่าวนี้ไหม?”
“หือ?”
“แค้นนี้สิบปีก็ยังไม่สาย”
คำพูดของบุริศร์ดูสบาย ๆ จนแม้แต่นุ่มนวลด้วยซ้ำไป แต่กลับทำให้นรมนตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้
“เชอะ ขู่ฉันเหรอ”
นรมนทำปากแบะ ยังคงขัดจังหวะและแหย่ต่อไป เย้าแหย่ท่าทางของบุริศร์
เส้นประสาทที่ตึงของบุริศร์ในที่สุดก็ผ่อนคลาย
ทั้งสองคนจีบกันเหมือนรอบข้างไม่มีคนอยู่ สะเทือนจิตใจคนโสดจำนวนมากจริง ๆ ทหารในเขตทหารเหล่านั้นต่างมองดูพวกเขา สายตาจ้องมองมา
นัยน์ตาของบุริศร์เย็นชาทันที
“ยังฝึกกันไม่พอใช่ไหม?”
ทหารเหล่านั้นแทบจะมีขางอกออกมาเพิ่มจากประโยคนั้น พวกเขาวิ่งออกไปทันที
จู่ ๆ นรมนก็กล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “จริงสิ คุณสามี เมื่อไหร่คุณจะแต่งตัวเป็นผู้หญิงสารภาพรักกับฉันที่ข้างถนน?”
บุริศร์ตัวแข็งทื่อไปฉับพลัน
ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงได้ดึงดันเรื่องนี้นัก?คิดไม่ถึงว่าจะยังไม่ลืม
นรมนเห็นเช่นนี้ จึงรีบพูดขึ้น “ฉันจะบอกคุณให้นะ ก่อนคืนนี้ถ้าคุณไม่ทำตามสัญญา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันอาจจะไม่ให้คุณขึ้นมานอนบนเตียง เอาที่คุณคิดว่าดีแล้วกัน”