แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1083
นรมนอดไม่ได้ที่จะหมกมุ่นอยู่กับรอยยิ้มของบุริศร์
บุริศร์มองไปยังภรรยาของตัวเองที่กำลังมองมาที่เขา และอดไม่ได้ที่จะยื่นนิ้วของเขาไปแตะที่ปลายจมูกของเธอ
“โอ๊ย”
นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย โกรธเล็กน้อย
บุริศร์กลับชอบมันมากขึ้นเรื่อย ๆ
“คิดออกหรือยัง?”
“คิดไม่ออก แต่คุณเคยบอกว่าจะพาฉันไปทะเล”
นรมนพูดด้วยรอยยิ้ม
โลกของเราสองคน?
ไม่ใช่โลกของเราสองคนในทะเลหรือ?
บุริศร์ยิ้มจาง และไม่ได้บอกว่ามันถูกหรือผิด แต่สั่งให้คนไปเก็บของและพานรมนไปยังเฮลิคอปเตอร์
นรมนตกใจเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่บนเฮลิคอปเตอร์
“นักบินละคะ?”
บุริศร์ยิ้ม ก่อนจะพูดว่า “ตั้งแต่วันนี้ต่อไป ผมจะเป็นนักบินของคุณ”
“คุณ? คุณทำได้เหรอ?”
นรมนพลันตกใจ
บุริศร์ขมวดคิ้วเพราะความแคลงใจของภรรยา
“คุณผู้หญิง อย่างไรก็ห้ามพูดคำว่าไม่ได้ต่อหน้าผู้ชาย”
“แค่กแค่ก”
ใบหน้าของนรมนเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันใด แต่เพื่อเห็นแก่ชีวิตของเธอ เธอถามอีกครั้งว่า “คุณขับได้นะ?”
“ผมทำได้ ไปเถอะที่รัก”
บุริศร์ทำท่าทางเชิญชวนอย่างสุภาพบุรุษ
แม้ว่านรมนจะลังเล แต่เมื่อเห็นท่าทางที่มั่นใจของบุริศร์ เธอก็สูดหายใจเข้าลึก ก่อนพูดว่า “ช่างเถอะ ตายด้วยกันก็ถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งแล้ว”
มุมปากของบุริศร์กระตุกอย่างกะทันหัน
เขาเพิ่งทำให้ภรรยาของเขาไม่ไว้วางใจ?
นรมนขึ้นไปนั่งบนที่นั่งของผู้โดยสาร และรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็ว
เมื่อบุริศร์ขึ้นมา นรมนก็ถามอีกครั้ง
“สามี ทำได้แน่นะ?”
บุริศร์กลอกตาใส่เธอ แววตานี้ความหมายช่างลึกล้ำนัก นรมนรีบหัวเราะแห้งๆ ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
เมื่อเครื่องบินเริ่มออกตัว นรมนก็จับที่วางแขนแน่น หัวใจของเธอเต้นเร็วมาก
ตื่นเต้นอะไรเบอร์นี้!
นึกไม่ถึงว่าเธอจะถูกสามีขับเครื่องบินให้เพื่อรับลมเล่น พูดออกมาคงโดนผู้หญิงริษยา
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นรมนหยิบโทรศัพท์ออกมาราว ถ่ายรูปใบหน้าด้านข้างของบุริศร์ตอนเขากำลังบิน และโพสต์บนWeiboว่า “ว้าว สามีของฉันขับเครื่องบินกินลมหล่อมาก!”
Weiboนี้ ทำให้เกิดกระแสตอบรับอย่างยิ่งใหญ่
นรมนไม่สนใจ และส่งรูปไปยังกลุ่มเพื่อนอีกครั้ง
รมิดาเป็นคนแรกที่ตอบกลับ
“ผู้หญิงที่แสดงความรัก ฉันถามหามโนธรรมของเธออยู่? ยังอยู่ไหม?”
โพนี่ตอบเป็นคนที่สอง
“ใครว่าสามีของใครขับเครื่องบินไม่ได้ ป้องของฉันขี้เกียจจะขับ”
งามสุดากดถูกใจแต่ไม่พูดอะไร แต่ในวินาทีต่อมากลุ่มของเธอ WeChat ก็ได้ส่ง WeChatมา
เป็นวิดีโอที่คริชณะขับเครื่องบิน
รมิดายิ้มทันที ก่อนจะตอบด้านล่างนรมนว่า “อะไรกัน? ตบหน้าเหรอ? ดูทักษะของพี่ใหญ่สิ”
นรมนหัวเราะเยาะ และตอบว่า “มีความสามารถก็ให้คุณชายอรรณพมาตบหน้าฉันบ้างสิ”
รมิดารู้สึกหดหู่อย่างกะทันหัน
เธอมองไปที่อรรณพที่กำลังถือโทรศัพท์มือถือสำหรับการประชุมทางวิดีโอข้างๆ เธอเตะเขาอย่างช่วยไม่ได้
“ทำอะไร?”
เมื่ออรรณพถูกภรรยาของเขาเตะ เขาเลยคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงถามอย่างรวดเร็ว
รมิดาถามเสียงเบา “คุณขับเครื่องบินได้ไหม?”
“ป่วยเหรอ? ผมมีนักบินสี่คนจะเรียนขับมันไปทำไม? มันอันตรายนะ คุณอยากเป็นม่าย?”
ปากของรมิดากระตุกเมื่อได้ยินอรรณพกวนส้นเท้า
“ฉัยไม่สนว่าจะเป็นม่าย พรุ่งนี้คนต้องเริ่มเรียนขับเครื่องบิน”
รมิดาพูดออกมา
อรรณพทำสีหน้าพูดไม่ออก
“ทำไมผมต้องเรียนขับ”
“ให้เรียนก็เรียนไปเถอะนา”
รมิดาทนอรรณพไม่ได้อีกต่อไป
นรมนไม่รู้เลยว่ารูปถ่ายของเธอเอง จะทำให้อรรณพต้องเริ่มเรียนอะไรที่น่าเศร้า
เมื่อเธอกำลังคุยกับโพนี่ บุริศร์ก็ได้พาเครื่องบินไต่ขึ้นที่ระดับความสูง 5,000 เมตรแล้ว
นรมนมองดูเมฆข้างนอก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามันแตกต่างจากตอนที่คนอื่นขับเครื่องบิน
เธอหันไปมองบุริศร์ และยิ่งเธอมองมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้ว่าชายผู้นี้ดูดี 360 องศาจริงๆ ไม่มีจุดบอดเลย
“น้ำลายจะไหลออกมาแล้ว เช็ดหน่อย”
บุริศร์พูดโดยไม่ได้มอง กลับยิ้มพลางพูด
นรมนรีบยื่นมือออกมาเช็ดปาก เมื่อเช็ดดูแล้วไม่เจออะไรจึงค่อยรู้ตัวว่าโดนบุริศร์หลอกเสียแล้ว
“บุริศร์!”
เธอคำรามเสียงต่ำ
บุริศร์หัวเราะขึ้นมาทันที
เมียเขานี่น่ารักไร้เดียงสาเสียจริง
นรมนถูกเขาส่งยิ้มละลายใจมาให้
เธอเท้าคางเอียงคอมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา ถอนหายใจพลางพูดว่า “บุริศร์ รู้ไหมว่าคุณดูดีมาก?”
“ขอบคุณ ชมเกินไปแล้ว”
“ฉันคิดว่ากานต์คงไม่ต้องกังวลเรื่องหาคู่ในอนาคตแล้วละ แค่เขาได้หน้าตาคุณมา หัวกระไดก็ไม่แห้งแล้ว”
นรมนกังวลใจ
บุริศร์เห็นน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของเธอ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ก่อนพูด “กานต์ยังเด็กนะ คุณจะคิดมากไปทำไม?”
“เด็กอะไร? นั่นลูกชายฉันนะ ฉันคิดมากสิถูก”
บุริศร์ไม่พูดอะไรแล้ว
เด็กสี่ขวบกำลังมองหาลูกสะใภ้?
แต่เขาไม่กล้าพูดสิ่งนี้ต่อหน้านรมน
บุริศร์จดจ่ออยู่กับการขับเครื่องบิน และนรมนก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
เธอง่วงนอนเล็กน้อย
หลังจากเดินของมานาน เธอเหนื่อยจริงๆ
นรมนหลับตาลง และงีบหลับไปโดยไม่รู้ตัว
บุริศร์มองไปยังใบหน้าที่หลับใหลที่สงบสุขของเธอ และเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว
เครื่องบินขับเป็นเวลาห้าหรือหกชั่วโมงก่อนลงจอด
นรมนเปิดตาของเธอราวกับว่าส่งกระแสจิตได้ เธอตกตะลึงกับฉากที่อยู่ตรงหน้า
“ตายละ! หิมะนี่?”
“ใช่”
บุริศร์เห็นความสุขพร้อมทั้งความประหลาดใจของนรมน และเขาก็รู้สึกว่าคุ้มค่ากับที่บินมา 5-6 ชั่วโมงแล้ว
นรมนรีบเกาะหน้าต่างเครื่องบินทันที
ด้านล่างเป็นมหาสมุทรที่ไกลสุดลูกหูลูกตา สีฟ้าคราม มีเกล็ดหิมะสีขาวลอยอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งละลายเมื่อตกลงสู่ทะเล แต่ฉากหิมะที่ตกลงมา มันทำให้ผู้คนทอดถอนใจออกมา
ทันใดนั้น นรมนก็เห็นเกาะสีขาวเหมือนหิมะในมหาสมุทร
เมื่อมองจากบนฟ้าลงไป เห็นที่เป็นสีเงินปกคลุมตรงนั้น เห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษในทะเลสีฟ้าคราม
“บุริศร์ ดูเร็ว ที่นั่นมีเกาะเล็กๆ ด้วย ดูแล้วใหญ่อยู่นะ”
“ก็นั่นแหละ เรามาถึงแล้ว”
คำพูดขอบุริศร์ทำให้นรมนตกใจ
“เกาะ?”
“เกาะส่วนตัว ผมซื้อมันมาเมื่อสองสามปีที่แล้ว มันยังไม่มีชื่อเลย คุณตั้งชื่อให้มันหน่อยสิ”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนตกตะลึงอีกครั้ง
“วันเกิดคุณแต่ให้ของขวัญฉัน?”
“ผมมีความสุข ใครให้ผมเป็นเจ้าของวันเกิดละ?”
คำพูดของบุริศร์ไม่ต้องการใช้อำนาจบาตรใหญ่
ความหวานของหัวใจของนรมนเกือบจะเบ่งบาน
“ที่นี่มีหิมะตกทุกฤดูกาลไหม?”
“เกือบหมด ไม่มีฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูร้อน มีหิมะตลอดทั้งปี”
เมื่อได้ยินคำพูดของบุริศร์ นรมนก็ประหลาดใจ
“มีสถานที่แบบนี้ในโลกจริงๆ”
“ในโลกใบใหญ่ไม่มีเรื่องเซอร์ไพรส์ใด ผมบังเอิญผ่านมาในปีนั้น และพบว่าสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ของที่นี่มีความพิเศษ ทิวทัศน์ของหิมะตลอดทั้งปีก็สวยงาม ผมจึงติดต่อรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อซื้อเกาะนี้”
บุริศร์พูดง่ายเหมือนซื้อนาฬิกาสักเรือน แต่นรมนรู้ดีว่าหากไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เขาจะไม่สามารถซื้อได้อย่างแน่นอน
แต่เธอไม่สนใจหรอก เธอรักที่นี่มากในตอนนี้
เครื่องบินยังคงลงจอด
เมื่อมันใกล้เข้ามา นรมนก็เฝ้าดูอย่างละเอียดขึ้นไปอีก
ดูเหมือนว่าเพื่อให้เข้ากับฉากหิมะของที่นี่ แม้แต่การก่อสร้างบ้านก็ใช้โทนสีขาว ดูเหมือนโลกเทพนิยายจริงๆ
ทันทีที่บุริศร์ทำให้เครื่องบินเสถียร นรมนก็วิ่งออกไป
“โว้”
เธอส่งเสียงร้อง กระโดด และวิ่งไปมาบนหิมะเหมือนเด็ก
บุริศร์ส่ายหัวอย่างตลกขบขัน เขาหยิบแจ็กเก็ตลงจากกระเป๋าของตัวเอง แล้วไล่ตามเธอ จากนั้นบังคับให้นรมนใส่
“อากาศที่นี่ค่อนข้างเย็น อย่าเป็นหวัด”
“บุริศร์ บุริศร์ ฉันชอบที่นี่มากเลยละ! มันสวยมาก!”
นรมนกระโดดไปหาบุริศร์
บุริศร์จับมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่น มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความเอ็นดู
“ชอบ?”
“อืม ชอบ”
“ถ้าชอบก็จัดให้ครับ จากนี้ไป เราจะมาพักที่นี่ปีละสองสามวัน”
“โอเค”
นรมนหายใจออก รู้สึกถึงลมหายใจของเธอที่กลายเป็นสีขาวเหมือนหมอก มันสนุกมาก
เธอกระโดดออกจากร่างของบุริศร์ และวิ่งไปบนหิมะอย่างรวดเร็ว โดยทิ้งรอยเท้าเล็กๆ ไว้ข้างหลังเธอ
บุริศร์เดินตามรอยเท้าของเธอทีละก้าว
นรมนหันศีรษะไปมองทันที และเห็นพฤติกรรมเด็ก ๆ ของบุริศร์ อดไม่ได้ที่จะยิ้มและถามว่า “ทำอะไรนะ?”
“เดินตามรอยเท้าจนกว่าฟ้าดินจะมลายหายไป”
คำบอกรักกะทันหันทำให้นรมนรู้สึกอ่อนหวานในทันใด
“ไปขโมยกินอะไรมา ปากหวานจัง”
“ผมพูดจากก้นบึ้งของหัวใจ”
บุริศร์ยื่นมือออกมา
นรมนมองดูมือเรียวที่อยู่ไม่ไกล ราวกับว่าเหมือนถูกส่งมอบเมื่อตอนที่แต่งงาน และอดให้ใจรู้สึกพลุ่งพล่านไม่ได้
เธอวางมือลงบนฝ่ามือของบุริศร์ มันอบอุ่น ความร้อนไหลจากฝ่ามือเข้าสู่กลางใจ
บุริศร์มองมาที่เธอและพูดอย่างเสน่หา “คุณนรมนคนสวย ได้โปรดให้เกียรติเต้นรำกับผมได้ไหม?”
นรมนนิ่งไปเล็กน้อย
“ที่นี่?”
“คุณยินดีไหม?”
“แน่นอนค่ะ”
นรมนมองไปยังดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักของเขา ก่อนตอบตกลงทันที
ทั้งสองกอดและเต้นรำบนหิมะ
ท้องฟ้าคือผ้าห่ม พื้นดินคือกระท่อม หิมะที่ตกลงมาคือข้อพิสูจน์
นรมนรู้สึกว่าเลือดของเธอกำลังเดือดพล่าน และกรีดร้องอย่างต่อเนื่องราวกับว่าต้องการจะท่วมท้นร่างกายออกมาข้างนอก
ความรู้สึกแบบนี้ ท่าทีแบบนี้ไม่มีมาหลายปีแล้ว ตอนนี้ เธอเป็นเหมือนเด็กสาวอายุ 17 หรือ 18 ปี ที่ได้พบกับความรักครั้งแรกและได้เต้นรำกับคนรักของเธอเป็นครั้งแรก ความรู้สึกแม้ในสิบหรือยี่สิบปีที่ผ่านมา , เกรงว่ามันจะเป็นอะไรที่ลืมไม่ลง, ยากจะลืมเลือนไปตลอดชีวิต
นรมนและบุริศร์เต้นรำบนหิมะเป็นเวลานาน จนนรมนที่เต้นรำอยู่รู้สึกร้อนมากจนหยุด
“เกาะบุริศร์นรมน”
นรมนพูดอย่างกะทันหัน
บุริศร์ตกตะลึงครู่หนึ่ง
“อะไร?”
“เกาะนี้ ชื่อเกาะบุริศร์นรมน เป็นไง?”
นรมนมองไปที่บุริศร์ด้วยความตื่นเต้น
บุริศร์พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“ตกลง พรุ่งนี้ผมจะให้คนไปลงทะเบียนและโอนบัญชีเป็นชื่อของคุณ”
นรมนส่ายหัวและพูดว่า “ทำไมคุณถึงโอนกรรมสิทธิ์ให้ฉัน นี่คือเกาะที่คุณซื้อนะ”
“ของผมก็คือของคุณ!”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนยิ้มสดใส