แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1093
บทที่ 1093 เธอธิดาวีร์ อะไรก็ไม่ใช่
นรมนกลับไม่ได้รีบร้อนที่จะโต้ตอบเธอ แต่มองเธออย่างเย็นชา แค่มองเธออยู่อย่างนี้ ธิดาก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองโดนคนถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเกลี้ยงแล้วยังไงอย่างงั้น และมีสภาพน่าอนาถดูไม่ได้
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน? ตัวคุณเองก็แค่เห็นแก่ความร่ำรวยของพี่ชายฉัน เห็นแก่สถานภาพของตระกูลโตเล็กเหมือนกัน ถ้าหากว่าบุริศร์ไม่มีอะไรเลย คุณยังจะแต่งงานกับเขาเหรอ?”
ธิดาร้องตะโกนขึ้นอย่างหน้าตาดุร้าย
“ฉันจะแต่ง”
นัยน์ตาของนรมนมีแววสงสารพาดผ่านเสี้ยวหนึ่ง
“ฐานะครอบครัวของฉันถึงแม้ว่าจะเทียบกับตระกูลโตเล็กไม่ได้ แต่ว่าก็ไม่ได้เป็นครอบครัวเล็ก ๆ ทั่วไป และที่สำคัญตั้งแต่ต้นจนจบฉันก็แต่งงานกับความรัก ไม่ว่าเขาจะมีเงินหรือว่าไม่มีเงินก็เหมือนกัน และฉันก็ยังไม่ได้ทอดทิ้งเขาไปเพราะเรื่องวุ่นวายพวกนี้ของตระกูลโตเล็ก แล้วก็ยิ่งไม่มีทางทอดทิ้งเขาไปอย่างไม่มีเยื่อใยในตอนที่เขาต้องการความห่วงใยมากที่สุด ธิดาวีร์ ทั้ง ๆ ที่เธอรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้นาวินต้องการเธอมากแค่ไหน แล้วเธอเลือกยังไงล่ะ?”
คำพูดของนรมนราวกับเป็นมีดแหลมคม ที่เชือดเฉือนลงกลางใจธิดาวีร์ทีละครั้งทีละครั้ง
ในเมื่อเสแสร้งต่อไปอีกไม่ได้แล้ว งั้นก็ไม่ต้องเสแสร้งแล้ว
สีหน้าของธิดาวีร์เคร่งขรึม จ้องมองนรมนอยู่อย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้นว่า “คุณจะทำยังไงกับฉันได้? ตอนนี้ที่นี่ไม่ใช่เมืองชลธีนะ และก็ไม่มีคนของตระกูลโตเล็กกับคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา คุณจะสามารถจับกุมตัวฉันไว้ได้เหรอ? คุณเชื่อไหม ขอแค่ฉันโทรศัพท์ออกไปสายเดียว ลูกพี่ลูกน้องของฉันก็จะพาคนมาจัดการคุณให้ราบคาบแล้ว ถ้าเกิดว่าคุณตายไป บุริศร์ก็จะบ้าคลั่งแน่ พอถึงตอนนั้นลูกพี่ลูกน้องของฉันออกโรงมา ตระกูลโตเล็กก็จะกลายเป็นของพวกเรา และความแค้นของแม่ฉันก็จะได้สะสางซะที”
“ในที่สุดก็เสแสร้งไม่ไหวแล้วใช่ไหม? ในที่สุดก็สามารถเผชิญหน้ากับด้านที่เห็นตัวที่สุดในก้นบึ้งหัวใจของตัวเองแล้วใช่ไหม?”
นรมนยิ้มเย็นขึ้น “ธิดา ถ้าเธอทำตัวดี ๆ ทำอย่างที่คุณหนูใหญ่ตระกูลโตเล็กคนหนึ่งควรจะทำ ทั้งชีวิตของเธอก็จะสวยงามมาก มีผู้ชายที่ดีอย่างนาวินคอยรักเธอ ยังมีลูกที่อยู่ในท้องคอยอยู่เป็นเพื่อนเธอ มีครอบครัวสุขสันต์ไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังต้องมาเดินทางที่ผิดด้วยล่ะ?”
“ทางที่คุณคิดว่าผิด แต่เป็นทางที่ฉันต้องการพอดี”
ธิดาวีร์ไม่อยากจะพูดไร้สาระกับนรมนอีกต่อไป
เธอดึงปืนไรเฟิลAK47ออกมาจากถุงอย่างรวดเร็ว แล้วยกขึ้นหันไปทางนรมน แต่น่าเสียดายเธอคาดคะเนความสามารถและการเคลื่อนไหวของนรมนผิดพลาดไป และลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่
นรมนเตะทีหนึ่งจนปืนของเธอกระเด็นไปไกล และเกิดเสียงที่ดังกึกก้องขึ้น
ในขณะเดียวกัน พวกพฤกษ์และคนอื่น ๆ ก็พุ่งเข้ามา แล้วควบคุมตัวธิดาวีร์ไว้เป็นอันดับแรก
ธิดาวีร์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพียงแค่ครู่เดียวตัวเองก็พ่ายแพ้ลงแล้ว เธอจ้องมองพฤกษ์ที่อยู่ ๆ ก็ปรากฏตัวออกมา แล้วถามอย่างตกใจขึ้นว่า “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? นายต้องอยู่ที่ยูนนานไม่ใช่เหรอ?”
“เมื่อวานคุณปรากฏตัวขึ้นที่นี่ พอประธานบุริศร์ได้รับข่าว ก็เรียกผมมาที่นี่ชั่วข้ามคืน ธิดา คุณนี่ช่างทำให้คนผิดหวังจริง ๆ”
นัยน์ตาของพฤกษ์มีแววโหดเหี้ยมเสี้ยวหนึ่งพาดผ่าน
ถ้าหากว่าเธอไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ ของบุริศร์ เขาแทบอยากจะสับเธอให้เป็นหมื่น ๆ ชิ้นแล้วจริง ๆ
ธิดาวีร์ถึงเพิ่งจะรู้ตัวขึ้นมา
ถ้านรมนอยู่ที่นี่ งั้นบุริศร์ก็จะต้องอยู่ที่นี่ด้วยแน่ ๆ แต่ว่าตอนนี้กลับไม่เห็นบุริศร์ จึงพูดได้แต่ว่าบุริศร์ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับตัวเอง หรือไม่อยากจะเห็นหน้าเธออีกแล้ว
อยู่ ๆ ธิดาวีร์ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
“พี่ฉันล่ะ? ฉันจะเจอพี่ชายของฉัน!”
“อย่าคิดเลย ชาตินี้ฉันจะไม่มีทางให้เธอได้เจอเขาอีก การมีตัวตนอยู่ของเธอนอกเหนือจากทิ่มแทงเขาและทำให้เขาเจ็บปวดแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
นรมนจ้องมองธิดาวีร์จากที่สูงลงต่ำ แล้วพูดขึ้นเสียงเย็นว่า “เอาเธอไปขังไว้ ฉันได้ยินมาว่าที่นี่มีคุกสากลอยู่แห่งหนึ่ง และไม่มีใครสามารถหนีออกมาจากที่นั่นได้ ขอแค่ให้เงินถึง เอาตัวเธอไปขังไว้ที่นั่นเถอะ รอให้ลูกคลอดออกมาแล้ว ค่อยส่งไปให้นาวินเลี้ยงดูต่อไป”
อยู่ ๆ สีหน้าของธิดาก็ขาวซีดขึ้นมา
“ไม่! นรมน เธอจะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ! ฉันเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของบุริศร์นะ?! ลูกพี่ลูกน้องของฉันคือกล้าณรงค์นะ เขาจะต้องมาช่วยฉันแน่! เธอมันก็เป็นแค่คนนอกคนหนึ่ง เธอมีสิทธิ์อะไรมาลงโทษฉัน?”
“ก็สิทธิ์ที่ฉันเป็นภรรยาของบุริศร์ไง แค่จุดนี้ก็เพียงพอแล้ว พาตัวไปเถอะ”
สีหน้าของนรมนเคร่งขรึมอยู่ตลอด
พฤกษ์จ้องมองนรมนทีหนึ่ง
ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเธอเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาแล้วจริง ๆ
พฤกษ์สะบัดมือทีหนึ่ง คนของอาณาจักรรัตติกาลก็มาอุดปากของธิดาวีร์ไว้เลย จากนั้นก็พาตัวออกไป
นรมนหมุนตัวเดินออกมาข้างนอก
กิมจิเห็นนรมนจัดการคนคนหนึ่งได้อย่างเฉียบขาดอย่างนี้ ประกายในดวงตาก็แวววาวขึ้นมารอบด้าน
“นายหญิง ผม……”
“รักษาตัวเองให้ดี ๆ รักษาขาให้หายไว ๆ แล้วก็รีบกลับมาช่วยฉัน คนของอาณาจักรรัตติกาลยังคงมอบให้นายดูแลต่อไป”
คำพูดของนรมนทำให้กิมจิรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก
ในที่สุดนรมนก็ให้อภัยเขาทุกอย่างแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?
เขารู้สึกแต่เพียงว่าจมูกจี๊ด ๆ ขึ้นมาเล็กน้อย
ช่วงระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เขาต้องแบกรับอะไรเยอะมาก สูญเสียไปก็เยอะมาก แต่ว่าเขารู้ สิ่งที่ตัวเองไม่อยากจะสูญเสียไปที่สุดก็คือนายหญิงแบบนรมน
“ขอบคุณครับนายหญิง”
นรมนยิ้มให้เขาเล็กน้อย จากนั้นก็เดินออกไปจากโรงแรม
ที่ขอบฟ้าได้เริ่มมีหิมะลอยละล่องมาแล้ว
พฤกษ์เห็นคนของอาณาจักรรัตติกาลเอาตัวธิดาวีร์ยัดเข้าไปในรถ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผมตามไปด้วยตัวเองดีกว่า จะได้ไม่ต้องเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้น ในเมื่อกล้าณรงค์ได้ติดต่อกับเธอ ก็จะต้องส่งคนมาเฝ้าอยู่รอบข้างแน่ ผมกลัวว่าระหว่างทางจะเกิดอะไรเปลี่ยนแปลงเข้า”
หัวคิ้วของนรมนขมวดขึ้นเล็กน้อย
ธิดาวีร์จำเป็นจะต้องขังไว้ให้ได้ ในเมื่อจะฆ่าก็ไม่ได้ จะปล่อยก็ไม่ได้ เมื่อมีความสัมพันธ์ชั้นนี้กับบุริศร์อยู่ ธิดาวีร์ก็จะตายไม่ได้ ฉะนั้นส่งไปเข้าคุกสากลเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว แต่ว่าที่พฤกษ์พูดถูก กลัวว่ากล้าณรงค์จะลงมือเข้านะซิ
นรมนครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “รอฉันเดี๋ยว ฉันโทรศัพท์สักหน่อย”
พูดจบเธอก็หมุนตัวไปอีกข้างหนึ่ง แล้วก็กดโทรศัพท์โทรหามิลิน
“ฉันขอสายนงลักษณ์หน่อย”
นรมนไม่ได้เรียกแทนสรรพนาม แต่กลับเรียกชื่อโดยตรงเลย
มิลินขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย และรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ว่าก็เอาโทรศัพท์ส่งให้กับนงลักษณ์
“นรมนเหรอ?”
เห็นได้ชัดว่านงลักษณ์รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง ในเมื่อการพูดคุยเมื่อครั้งที่แล้วของทั้งสองคนไม่ได้ถือว่าราบรื่นมากนัก เธอคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่านรมนจะโทรศัพท์หาตัวเอง
นรมนอืมไปคำหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นว่า “มีอยู่เรื่องหนึ่งอยากจะขอให้คุณช่วยหน่อย เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ต่อไปฉันจะลองพิจารณาช่วยเหลือราเชนตามดุลยพินิจดูก็แล้วกัน”
“ได้”
นงลักษณ์ตอบได้อย่างเด็ดเดี่ยวมาก แต่กลับเป็นนรมนที่นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง
“ไม่ถามว่าเป็นเรื่องอะไรเหรอ?”
“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ในเมื่อคุณมาหาฉันแล้ว งั้นก็แสดงว่าฉันสามารถทำได้แน่ ไม่ใช่เหรอ?”
นงลักษณ์เป็นคนที่ฉลาด และก็โปร่งใสมาก
นี่คือความรู้สึกในตอนนี้ของนรมน
อยู่ ๆ เธอก็รู้สึกดีต่อนงลักษณ์ขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แต่ว่าก็แค่เล็กน้อยบ้างเท่านั้น
นรมนพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “กล้าณรงค์เป็นคนขององค์ชายสาม ตอนนี้ฉันอยู่ต่างประเทศ แล้วก็จับตัวธิดาลูกพี่ลูกน้องของเขาเอาไว้ได้ ฉันอยากจะส่งเธอเข้าไปเข้าคุกสากล แต่ฉันกลัวว่าระหว่างทางจะเจอกล้าณรงค์มาแย่งคนตัดหน้า ที่นี่ค่อนข้างใกล้กับประเทศF ฉันอยากจะถามสักหน่อยว่า จะสามารถขอให้คุณช่วยสร้างความวุ่นวายขึ้นมาหน่อย แล้วทำให้กล้าณรงค์ปลีกตัวมาไม่ได้ ให้องค์ชายสามไม่มีเวลามาคำนึงถึงทางฉันนี้”
นงลักษณ์เงียบขรึมลง
นรมนเองก็ไม่รีบร้อน
ถ้าหากว่าทั้งสองคนร่วมมือกัน ก็จะต้องแสดงความจริงใจออกมาบ้าง และตอนนี้เธอก็แค่อยากจะดูความจริงใจของนงลักษณ์หน่อยก็เท่านั้น
นงลักษณ์เองก็รู้ ในเมื่อนรมนมีใจที่อยากจะส่งธิดาวีร์เข้าไปเข้าคุกสากล แน่นอนว่าอำนาจที่จะปกป้องตัวเองไว้นั้นจะต้องมีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่ใช้พลังอำนาจของตัวเอง แต่กลับโทรศัพท์หาเธอ งั้นก็ชัดเจนแล้วว่า นรมนอยากจะเป็นพันธมิตรกับเธอ หรือกระทั่งอยากจะเดินหน้าความสัมพันธ์ญาติมิตรขึ้นอีกก้าวหนึ่งด้วย
การรับรู้แบบนี้ทำให้นงลักษณ์รู้สึกดีใจขึ้นมาเล็กน้อย
“ได้ มอบให้เป็นหน้าที่ฉันเลย อีกครึ่งชั่วโมง อีกครึ่งชั่วโมงคุณค่อยออกเดินทาง”
นงลักษณ์ให้คำตอบเวลาที่แน่ชัดออกมา
หัวคิ้วที่ขมวดกันแน่นอยู่ของนรมนก็คลายออก
“ขอบคุณมาก”
หลังจากที่วางสายแล้ว นรมนก็ให้พฤกษ์พาตัวธิดาวีร์กลับเข้าไปในโรงแรมอีกครั้ง
ธิดาวีร์โดนมัดมือมัดเท้าและอุดปากไว้ โดนโยนลงไปบนเตียง
เธอจ้องมองนรมน ดวงตาคู่นั้นเยือกเย็นราวกับว่ากินยาพิษเข้าไปยังไงอย่างงั้น แต่ว่าสำหรับนรมนแล้วกลับไม่สะทกสะท้าน
ตอนนี้ธิดาวีร์ข่มขู่เธอไม่ได้เลยสักนิด
สิ่งที่เธอพึ่งพาก็มีแค่กล้าณรงค์เท่านั้น แต่ว่าเบื้องหลังนรมนมีอำนาจที่มากพอที่จะสกัดกล้าณรงค์อยู่ แต่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้ธิดาวีร์รู้
นรมนล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วก็เห็นข้อความที่บุริศร์ส่งมาให้ตัวเอง
“เรื่องยังไม่เสร็จเหรอ?”
“ใกล้แล้ว อีกหนึ่งชั่วโมงฉันก็จะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนคุณแล้ว ไข้ลดหรือยังหรือว่ากลับมาเป็นอีกแล้ว?”
ในตอนที่นรมนจ้องมองรูปโปรไฟล์WeChatของบุริศร์นั้น แววตาก็อ่อนโยนลงมาก แรงอาฆาตก็ลดลงเยอะ ทั้งตัวแผ่ซ่านกลิ่นหอมหวานอย่างหนึ่งออกมา ธิดาวีร์เห็นแล้วก็โกรธเกลียดจนเข้ากระดูก
ผู้หญิงคนนี้มีสิทธิ์อะไรได้มีชีวิตอยู่อย่างสดใสสวยงาม?
เธอมีสิทธิ์อะไร?
แต่ว่านรมนกลับไม่ได้สนใจสายตาของเธอเลยแม้แต่น้อย
พอบุริศร์เห็นว่านรมนเป็นห่วงตัวเอง ก็รีบพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นอะไรแล้ว กินข้าวต้มไปหน่อยหนึ่ง รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว”
“งั้นก็ดี สะสมเรี่ยวแรงไว้อีกหน่อย อีกเดี๋ยวฉันกลับไปแล้ว เรามาฉลองคริสต์มาสกัน”
“ได้”
บุริศร์จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์อยู่ มุมปากก็คลี่ขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ได้ยินเสียงพฤกษ์พูดขึ้นมาในโทรศัพท์ว่า “ประธานบุริศร์ครับ คุณนายจะให้ส่งธิดาไปเข้าคุกสากลครับ”
คุกสากลงั้นเหรอ?
ดวงตาของบุริศร์เคร่งขรึมลงหลายส่วน
“เอาตามนั้นแหละ ให้เงินไปเยอะหน่อย ให้พวกเขาดีกับด้านอาหารการกินของธิดาหน่อย ในเมื่อลูกที่อยู่ในท้องเธอนั้นเป็นลูกของนาวิน รอให้ลูกคลอดออกมาแล้ว ก็ปล่อยเธอไปตามยถากรรมไว้ในนั้นก็แล้วกัน”
น้ำเสียงของบุริศร์เย็นชามาก เหมือนกับว่าในกระดูกนั้นแฝงไว้ด้วยความเยือกเย็นเสี้ยวหนึ่ง
ญาติเหรอ?
เหอ เหอ!
ญาติแบบนี้ ไม่มียังจะดีซะกว่า
นัยน์ตาของบุริศร์มีความโหดเหี้ยมเสี้ยวหนึ่งพาดผ่าน
นรมนเก็บโทรศัพท์ให้เรียบร้อย แล้วเห็นธิดาอู้อี้เหมือนอยากจะพูดอะไร ในเมื่ออยู่เฉย ๆ ก็ว่างอยู่ แล้วนรมนก็เอาผ้าที่อุดปากเธอไว้ออก
“ลูกพี่ลูกน้องของฉันจะต้องไม่ปล่อยพวกแกไปแน่! แกกล้าส่งฉันไปเข้าคุกสากลเลยเหรอ? นรมน ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ ถ้าหากว่าแกกล้าส่งฉันไป ฉันก็จะฆ่าลูกที่อยู่ในท้องของฉันซะ! ทำให้ตระกูลนาคชำนานไม่มีคนสืบทอด! พอถึงตอนนั้นฉันก็จะดูว่าพวกแกจะตอบนาวินว่ายังไง!”
“จำเป็นจะต้องตอบด้วยเหรอ? เธอนี่ยังนึกว่าจะไม่มีใครมาแทนที่เธอได้จริง ๆ เหรอ? ธิดาวีร์ ใครให้ความคิดผิด ๆ แบบนี้กับเธอกัน? เธอไม่สนใจความเป็นความตายของนาวินแล้วด้วยซ้ำ เธอยังรู้สึกว่าเพื่อเธอแล้วเขาจะไม่ยอมแต่งงานตลอดชีวิตเลยเหรอ? ถ้าเธอจะฆ่าเด็กให้ตายไปนั้นก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลย ตอนแรกฉันยังเห็นแก่เด็กว่าจะให้เธอใช้ชีวิตอยู่สุขสบายสักหน่อย แต่ในเมื่อตัวเธอเองก็ไม่เอาเด็กแล้ว งั้นก็ดื้อดึงให้เต็มที่เลย รอให้ไม่มีเด็กแล้ว ชีวิตที่ลำบากเธอก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ส่วนนาวินนั้นอย่างมากสุดก็คงจะเศร้าใจสักสามปี พอสามปีให้หลังฉันกับบุริศร์ก็จะหาลูกผู้ดีมีสกุลสักคนให้เขา เขาก็ยังคงจะมีลูกได้อีก ส่วนเธอก็จะค่อย ๆ โดนแทนที่ไปในความทรงจำของเขา และโดนหลงลืมไปในที่สุด”
คำพูดของนรมนพูดได้ช้ามาก แต่กลับทำให้ธิดาวีร์ลืมตาโตขึ้นทันที
“ไม่! ไม่มีทาง! แกไม่มีทางทำแบบนี้ได้หรอก!”
“งั้นก็ปกป้องท้องของเธอไว้ให้ดี! ลูกของเธอยังอยู่ ตอนนี้เธอยังถือได้ว่าปลอดภัยอยู่ ยังสามารถมีชีวิตสุขสบายได้ และดื่มด่ำกับช่วงเวลาตั้งท้องไม่กี่เดือนที่เหลือให้ดี ๆ เถอะ เพราะว่าต่อไปเธอจะพบว่า พอไม่มีลูก ไม่มีตระกูลโตเล็ก ไม่มีความรักและห่วงใยที่บุริศร์มีต่อเธอแล้ว เธอธิดาวีร์ อะไรก็ไม่ใช่!”