แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 1171
เมื่อกิจจามองไปยังนภดล เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์?
แด๊ดดี้กับหม่ามี้ทำร้ายคุณอานภดล?
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
แม้จะรู้สึกไม่แน่ใจ แต่กิจจาก็ถอยหลังออกไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว และมองนภดลด้วยสายตาระแวดระวังเตรียมป้องกัน
นภดลรู้สึกเจ็บไปทั้งหัวใจ
“คุณน้า อย่าไร้เหตุผล ส่งโทรศัพท์มาให้ผม”
นภดลยื่นมือไปหาคุณนายตระกูลจันทรวงศ์
“ไม่ให้ ถึงแม้วันนี้จะทำโทรศัพท์ร่วงลงมาก็ไม่ให้แก แกจะให้เด็กคนนี้โทรหาบุริศร์ใช่ไหม? ฝันไปเถอะ”
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์พูดจบพลางจะถือโทรศัพท์ออกไป แต่กลับโดนนภดลขวางเอาไว้ก่อน
“โทรศัพท์!”
เสียงของเขาเย็นชามาก แม้กระทั่งใบหน้าก็ไม่น่าดู
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ตกใจกับท่าทีของเขา แต่ภายในไม่กี่เสี้ยววิ เธอก็โกรธขึ้นมาทันที
“ไอ้สัตว์ประหลาด นี่แกกล้าเสียงดังใส่ฉัน? เดี๋ยวนี้ใจกล้าแล้วนี่ใช่ไหม?”
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์พูดพลางจะเข้าไปตีนภดลด้วยความเคยชินของเธอ
ด้วยคิดว่าครั้งนี้เขาจะปล่อยให้เธอรังแกเหมือนที่ผ่านมา แต่ไม่คิดว่านภดลจะหลบ คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ไม่ได้ยืนให้มั่นคง ส่งผลทำให้สะโพกของเธอกระแทกเข้ากับกำแพงโดยตรง
“โอย เอวฉัน! ฐานทัต! ฐานทัต! ไอ้สัตว์ประหลาดนภดลตีฉัน สนใจเขาไหม?”
แม้ว่าคุณนายตระกูลจันทรวงศ์จะมีท่าทางเช่นนี้เธอก็ไม่ลืมที่จะใส่ร้ายนภดล
นภดลไม่แม้แต่จะมอง เขาหยิบโทรศัพท์คืนมาจากมือของเธอ ก่อนจะโทรออกหานรมน และส่งมันให้กิจจา
กิจจาชะงักไปครู่ ก่อนจะได้สติเมื่อได้ยินเสียงของนรมนจากปลายสาย
“นภดล มีเรื่องอะไรไหม?”
“หม่ามี้ ผมเอง ผมกิจจา”
กิจจาพูดอย่างรวดเร็ว
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ที่ถูกนภดลแย่งโทรศัพท์ไป เธอตกตะลึง จากนั้นจึงเริ่มร้องไห้และกรีดร้องขึ้นมา
นภดลขมวดคิ้วแน่น เขายกเธอขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะส่งไปให้ต่อหน้าดร.ฐานทัต
เมื่อดร.ฐานทัตเห็นคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ไม่ไว้หน้าอย่างนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะโกรธมาก
“โวยวายพอหรือยัง? ตระกูลจันทรวงศ์ถูกทำให้เสียหน้าเพราะคุณ”
“ตระกูลจันทรวงศ์? คุณยังพูดมาได้เกี่ยวกับตระกูลจันทรวงศ์ของคุณกับฉันเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะคุณบอกกับฉันว่าตระกูลจันทรวงศ์ของคุณยอดเยี่ยมแค่ไหน ฉันจะแต่งกับคุณไหม? มีคนมากมายเข้าแถวเพื่อที่จะแต่งงานกับฉัน ทำไมฉันถึงต้องแต่งงานกับคุณละ? สุดท้าย? คุณมันแค่ไอ้ขี้ขลาด ผู้หญิงของตัวเองยังปกป้องไม่ได้ แล้วตอนนี้ยังจะมาตะโกนใส่เมียคนนี้ คุณเป็นผู้ชายประสาอะไร?”
ความโกรธของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ลุกลามไปทางดร.ฐานทัตอีกครั้ง
ทั้งสองคนปะทะกันอีกครั้ง
นภดลรู้สึกว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด
เขาอุ้มกิจจาขึ้นมาก่อนจะออกไปจากบ้าน
แม้ว่านรมนจะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่กิจจาและนภดลอยู่ด้วยกัน แต่สถานการณ์ปัจจุบันของนภดลเธอก็ได้ยินมาบ้างแล้ว
เธอถอนหายใจและพูดว่า “กิจจา ขอบคุณคุณอานภดล หม่ามี้จะส่งคนไปรับ”
“ไม่ต้องครับ ผมจะไปส่งเอง”
นภดลพูด
ช่วงนี้ดร.ฐานทัตกับคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทะเลาะกันทุกวัน กระทั่งเลื่อนขั้นไปถึงลงไม้ลงมือกัน ในบ้านก็คงวุ่นวายไปสักพัก แทนที่จะปล่อยให้นรมนมาเห็นฉากที่สร้างความรำคาญใจ เขาส่งกิจจากลับไปยังดีกว่า
เมื่อนึกถึงฝีมือของนภดล นรมนก็รีบพยักหน้าและพูดว่า “อืม โอเค ขอบใจนายนะ”
“เกรงใจมากเลยครับ”
หลังจากที่นภดลวางสายไป เขาก็มองไปยังกิจจา ก่อนจะพูดเบาๆ “ให้ผมไปส่งเถอะ แต่ตอนนี้ผมไม่มีรถ พวกเราคงต้องเดินกลับกัน”
“บางทีเราน่าจะยืมรถคนอื่นได้”
กิจจากระพริบตาและพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ยืมใคร? ตอนนี้ผมยืมใครไม่ได้หรอกครับ”
นภดลยิ้ม
กิจจาหาเบอร์ของปาณีในโทรศัพท์ของนภดล ก่อนจะโทรออก
“พี่ปาณี ตอนนี้ยุ่งไหม? ผมกับอานภดลอยู่บนภูเขา พี่มารับพวกเราหน่อยได้หรือเปล่าครับ?”
เมื่อนภดลได้ยินว่ากิจจาโทรหาปาณี เขาก็คิดอยากเข้าไปห้ามโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่ต้องการให้ปาณีเห็นท่าทางตกอับของเขาเองในตอนนี้ แต่กิจจาฉลาดกว่าตัวเอง กิจจาหลบนภดล เมื่อเขาเข้าไปถึงโทรศัพท์ กิจจาก็คุยเสร็จไปแล้ว
“พี่ปาณีบอกว่าอีกสักพักก็มาแล้วครับ”
“ถ้าอย่างนั้นให้เธอไปส่งเถอะ”
นภดลต้องการซ่อนตัว แต่กลับถูกกิจจาดึงตัวออกมา
“อานภดล ผมตัวคนเดียวหากโดนลักพาตัวไปละ จะทำยังไง? แถมพี่ปาณียังไม่รู้ศิลปะการต่อสู้เสียด้วย”
คำพูดนี้ทำให้นภดลกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ไม่นานนักปาณีก็มา กระทั่งเสื้อคลุมตัวนอกเธอก็ไม่ได้สวม
เมื่อเธอเห็นนภดล ดวงตาของเธอก็อุ่นชื้นนิดหน่อย
“ทำไมถึงไม่สวมเสื้อคลุมมาในวันที่อากาศหนาวอย่างนี้?”
ปาณีระงับความตื่นเต้นของตัวเองไว้ให้มากที่สุด
นภดลกลับพูดเสียงแผ่วเบาว่า “คุณก็เหมือนกันนี่?”
“นี่ถือว่าเราใจตรงกันไหมคะ?”
ปาณีพูดหยอดมุก
นภดลนิ่งไปนิด ก่อนพูดว่า “ขึ้นรถเถอะ คุณนายไม่เจอกิจจา คงร้อนใจแย่แล้ว”
“โอเค คุณมาขับ”
ปาณียื่นกุญแจรถให้นภดลอัตโนมัติ
กิจจายิ้ม เปิดประตูหลังก่อนจะเข้าไปนั่ง ปาณีก็เข้าไปนั่งในที่นั่งผู้โดยสาร
เมื่อนภดลเดินไปที่ที่นั่งคนขับ คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็ออกมาจากข้างในพอดี เมื่อเธอเห็นฉากนี้ก็พลันร้องตะโกนออกมา
“นภดล ฉันรู้ว่าแกมันไม่มีมโนธรรม ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? นี่แกจะออกไปคบค้ากับใครอีก? อย่าลืมนะ แกเป็นผู้ชายของฉัตรยา แม้ฉัตรยาจะตายไปแล้ว แกก็ยังเป็นผู้ชายของเธอไปชั่วชีวิต แกได้ยินไหม?”
ปาณีขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองโดยไม่รู้ตัว
เพราะคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เพิ่งทะเลาะกับสามีของเธอมา ตอนนี้ผมเผ้าของเธอเลยรุงรัง ราวกับหญิงบ้า และเมื่อเธอเห็นนภดลอีกครั้ง สีหน้าของนภดลก็ดูไม่ดีนักแต่กลับไม่พูดอะไร
“คนคนนั้นคือแม่ของฉัตรยาเหรอ?”
“อืม”
นภดลพยักหน้า เขาครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนพูด “ที่เธอพูดมันก็ถูก ตลอดชีวิตนี้ของผมมีเพียงแค่ฉัตรยาคนเดียว ในเมื่อสามารถมีเธอได้คนเดียวแล้ว ผู้หญิงคนอื่นก็ไม่มีความหมายอะไร ดังนั้นคุณอย่ามาเสียเวลาอยู่ข้างกายผมเลย บนโลกนี้มีผู้ชายที่ดีกว่าผมอีกเยอะ ชีวิตของผมเองวุ่นวาย ยิ่งไปกว่านั้นผมยังต้องดูแลพ่อแม่ตระกูลจันทรวงศ์ แม้กระทั่งถูกประธานบุริศร์กีดกัน และการหางานก็เป็นปัญหา ผมที่เป็นอย่างนี้ไม่ควรค่าให้คุณมาทำดีด้วยเลย”
คำพูดเหล่านี้พูดอย่างตรงไปตรงมา
ปาณีเศร้าเล็กน้อย แต่เธอกลับยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่สน ฉันเลี้ยงคุณได้ ถ้าไม่ได้ฉันก็จะเลี้ยงดูพ่อแม่ตระกูลจันทรวงศ์ด้วย ฉันจะปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเป็นพ่อแม่ของตัวเอง”
ถ้าบอกว่าไม่ซาบซึ้งก็คงโกหก
นภดลไม่เคยต้องการกอดผู้หญิงตรงหน้ามาก่อนเท่าตอนนี้เลย แต่เขาก็ทำไม่ได้
เขาเข้าใจความผิดปกติของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ดีกว่าใครๆ ตั้งแต่ฉัตรยาเสียชีวิต ผู้หญิงคนนั้นก็บิดเบี้ยวอย่างสมบูรณ์ กระทั่งเรียกว่าคนบ้าก็ว่าได้
เขาไม่สามารถให้ปาณีเข้าไปพัวพันกับวังวนนี่
“ผมได้พูดไปหมดแล้ว ถ้าหากคุณยังดิ้นรนจะเข้ามาต่อ จะทำให้ตัวเองรับไม่ไหว”
น้ำเสียงของนภดลเย็นชามาก
ปาณีรู้สึกว่าเครื่องปรับอากาศในรถไม่เพียงพอที่จะให้ความอบอุ่นแก่เธอ
“แล้วถ้าฉันต้องการหาเหาใส่หัวละ?”
เธอก็ไม่รู้ว่าทำไม ได้เห็นนภดลครั้งแรกก็ตกหลุมรักแล้ว ตอนนี้มองคนอื่นก็ไม่รู้สึกอะไร
ตอนนี้นภดลบอกให้เธอยอมแพ้ เธอจะยอมแพ้ได้อย่างไร?
นภดลไม่คิดว่าเขาพูดไปเยอะขนาดนี้แล้วแต่ปาณีก็ยังคงไม่ลดละความพยายาม เขาราวกับเห็นเงาของฉัตรยาในตัวของปาณี
เขาเคยปฏิเสธฉัตรยาด้วยวิธีนี้ สุดท้ายเขาก็ถูกฉัตรยาชนะใจเข้าจนได้ไม่ใช่หรือ?
เมื่อคิดถึงฉัตรยา ใจของนภดลก็หนักอึ้ง
ไม่!
เขาไม่สามารถปล่อยให้ปาณีกลายเป็นฉัตรยาคนที่สอง
ไม่สิ ปาณีอาจจะน่าเวทนามากกว่าฉัตรยา อย่างน้อยฉัตรยาก็ยังมีพ่อแม่ที่รักเธอ แล้วปาณีมีอะไร?
เธอไม่มีอะไรเลย การอยู่คนเดียวมันไม่ง่ายเลย หากได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมเพียงเพราะว่ารักเขา เช่นนั้นเขาจะคู่ควรกับปาณีได้อย่างไร?
นภดลเม้มปากไร้ซึ่งคำพูด แต่ท่าทางและกลิ่นอายแฝงระยะห่างของการปฏิเสธ
กิจจาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจขณะมองไปยังสองคนข้างหน้าเขา
ผู้ใหญ่หนอ ผู้ใหญ่ ไร้เหตุผลเหลือเกิน
กิจจาก้มหน้าลงเล่นกับส่วนบนของเสื้อคลุมตัวเอง
น่าเสียดาย ไม่นึกเลยว่า ขวดกลิ่นหอมดึงดูดที่เพิ่งจะพัฒนาเสร็จไปจะหมดแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ ผ่านไปไม่กี่วินาที โบนัสใช้งานได้เพียงหนึ่งนาที ดูเหมือนว่าจะต้องปรับปรุงเล็กน้อยเมื่อกลับไป
ทั้งสามคนไม่พูดอะไรกันอีก ไม่นานนภดลก็ขับรถมายังหน้าประตูหน้าบ้านของคุณท่านตนุวร
งานมงคลยังคงดำเนินงานอยู่
นภดลกลับไม่เข้าไป เขาพูดกับปาณีว่า “คุณพากิจจาเข้าไปเถอะ ผมกลับก่อน”
“คุณไม่เข้าไปเหรอคะ? บางทีประธานบุริศร์อาจจะเปลี่ยนใจเพราะคุณช่วยคุณชายกิจจาเอาไว้นะคะ”
ปาณีไม่คิดอยากจะให้เขากลับไปเร็วขนาดนี้
นภดลกลับยื่นกุญแจรถให้เธอก่อนพูดเสียงเบา “ประธานบุริศร์ไม่ใช่คนที่เปลี่ยนอะไรเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นจุดประสงค์ที่เขาทำขนาดนี้ยังไม่บรรลุ เขาจะไม่เปลี่ยนใจ”
“จุดประสงค์อะไรคะ? ประธานบุริศร์จะมีจุดประสงค์อะไรกับคุณ?”
ปาณีคว้าชายเสื้อของนภดลไว้
นภดลมองชายเสื้อของตัวเอง พลางยิ้มขมขื่น “ให้ผมทิ้งพ่อแม่ตระกูลจันทรวงศ์ และขอให้ต่อจากนี้ผมเป็นตัวของผมเอง”
“นั่นมันไม่ดีหรือคะ?”
ปาณีรู้สึกว่าคำพูดของบุริศร์ไม่เลวเลย
นภดลมองไปยังปาณี ก่อนพูดทีละคำว่า “มันดีมาก แต่ผมจะอธิบายให้ฉัตรยาที่ตายไปแล้วฟังได้อย่างไร? ผมสัญญาต่อเธอว่าจะกตัญญูและเลี้ยงดูพ่อแม่ของเธอแทนเธอไปจนแก่เฒ่า ถ้าผมละทิ้งคำสาบานต่อฉัตรยาแล้ว อีกร้อยปีต่อจากนี้ผมจะมีหน้าไปพบเธอได้อย่างไร?”
เมื่อเห็นนภดลยืนกรานเช่นนี้ ปาณีก็ไม่สบายใจมาก
“แต่คุณที่เป็นอย่างนี้จะถูกพวกเขาลากไปลงนรก”
“ถ้าอย่างนั้นก็ลงนรกเถอะ ถึงอย่างไรคนอย่างผมมีชีวิตต่อไปก็ไม่มีความหมายอะไร ปาณี ผมจะพูดอีกรอบ อย่าเสียเวลากับผม ตลอดชีวิตนี้ผมอยู่กับคุณไม่ได้ เพื่อคุณ แล้วก็เพื่อผม ได้โปรดยอมแพ้เถอะ”
นภดลไม่ค่อยพูดกับปาณีมากนัก แต่ผลของคำพูดมากมายทำให้ปาณีไม่สามารถรับได้
เมื่อกิจจามองพวกเขา จึงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว
ในตอนนี้เองที่บุริศร์และนรมนเดินออกมา
เมื่อพวกเขาเห็นว่ากิจจาไร้รอยขีดข่วน จึงอดไม่ได้ที่จะดีใจมาก
นรมนตรงเข้ามากอดเขา ก่อนพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เด็กคนนี้ เกือบทำให้หม่ามี้ตกใจตาย”
“หม่ามี้ ขอโทษครับ ต่อไปผมจะไม่ทำแล้ว”
กิจจากอดคอของนรมนแน่น
บุริศร์โล่งอก
ในตอนนี้เอง มีจุดสีแดงกะพริบบนร่างกายของกิจจา นภดลก้าวไปข้างหน้าก่อนจะผลักนรมนและกิจจาแยกออกจากกันโดยไม่รู้ตัว ทันใดกระสุนปืนก็ลอยเจาะอากาศพุ่งมายังร่างของนภดล
ปาณีตะโกนไม่ทัน เธอก้าวไปข้างหน้าเพื่อกอดนภดลเอาไว้
เสียง ‘ปัง’ของกระสุนที่เจาะผ่านร่างกายของเธอดังขึ้นในหูของนภดล
เขาเห็นปาณีค่อยๆ ล้มลงไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอต่อหน้าเขา