แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 732
บทที่ 732การเปลี่ยนแปลงเยอะเกินไป
“ฉันถามแกอีกครั้ง พิรุณคือใคร”
บุริศร์กระชากคอเสื้ออุดม บีบคอเขาแทบตาย
อุดมขบริมฝีปากแน่น สองตาจ้องมองบุริศร์ ยิ้มอย่างสาแก่ใจ
นรมนเกรงว่าบุริศร์จะบีบคอเขาถึงตาย จึงรีบดึงออกมา
“บุริศร์คะ อย่าร้อนใจไป พวกเรากลับไปก่อนค่อยว่ากัน”
ภายใต้การโน้มน้าวใจของนรมน บุริศร์จึงคลายมือออกจากอุดม หากแต่มองด้วยสายตามาดร้าย
ป้องจ้องมองอุดมแล้วถาม“พวกเขาทำอย่างไรดี”
“อัดคำพูดเมื่อครู่ไว้หรือยัง”
บุริศร์มองดูโสธร โสธรรีบพยักหน้า
นรมนกับอุดมชะงักงัน
อุดมราวกับครุ่นคิดบางอย่างได้ รีบกระเสือกกระสนขึ้น
“พวกแกช่างสถุลกันเหลือเกิน ฉันกลับคำได้ ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น”
“สายไปแล้ว”
บุริศร์แค่นเสียงพูด“ส่งให้ตำรวจ ให้ตำรวจจัดการ ชีวิตของคนในค่าย ก็มากพอให้เขาติดคุกหัวโตแล้วล่ะ”
อุดมงัดไม้ตายสุดท้ายออกมาใช้
บุริศร์แค่นเสียงพูด“มีชื่อ มีทุกคำพูด แกคิดว่าจะสืบออกมาไม่ได้เหรอ ต่อให้แกไม่พูด ก็ไม่มีอะไรขาดหาย ฉันก็คือฉัน”
พูดจบจึงโบกปัดมือ
โสธรรีบทำตามคำสั่งบุริศร์
อุดมยังคงดีดดิ้น หากโดนบุริศร์ถีบลงหลุม เป็นนานยังปีนขึ้นมาไม่ได้
หลังจากที่ตำรวจมา จึงกุมตัวอุดมไป
พวกบุริศร์ก็มาถึงบ้านสวน
หลังจากกลับมาแล้วบุริศร์ดูคิดหนัก
นรมนรู้ดี ว่าเขาปวดใจ
เกือบสามสิบปีแล้ว เขาเข้าใจมาโดยตลอดว่าตัวเองเป็นลูกของตระกูลโตเล็ก วันนี้พอมีคนมาบอกว่าตัวเองเป็นมารหัวขน ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรเลยกับตระกูลโตเล็ก ทำให้เขาเกิดความรู้สึกกระวน กระวาย
นรมนนั่งลงข้างกายเขา
“ไม่สบายใจหรือคะ”
“คิดไม่ตกน่ะ ถ้าผมไม่ใช่ลูกของโอกับพิรุณ ดูจากระยะเวลาผมต้องโตกว่าคุณหนึ่งปีสิ แต่นี่ไม่ใช่ เดิมทีเรณุกาเป็นคุณนายของบ้านโตเล็ก แต่คงไม่ได้เลี้ยงลูกของตระกูลโตเล็ก ผมเลยคิดว่า เด็กที่อุดมพูดถึงคงไม่ใช่ผม”
บุริศร์พูดความสงสัยของตัวเองออกมา
นรมนพยักหน้ากล่าว“แล้วเด็กคนนั้นล่ะคะ”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ลูกของโอกับพิรุณ เด็กที่แม่เดียวกันแต่คนล่ะพ่อป่านนี้ไปอยู่ที่ไหน แล้วพิรุณนั้นเป็นใคร”
“เรื่องนี้ค่อยว่ากันแล้วกัน ตอนนี้เราหาหญ้าหญ้าดาวสีฟ้าเจอแล้ว คุณจะอยู่ที่นี่ต่ออีกหรือ”
นรมนรีบถาม
ที่นี่มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไป เธอไม่อยากให้บุริศร์อยู่ที่นี่เลยจริงๆ เกิดมีใครจากในตอนนั้นโผล่มาจะทำไง
บุริศร์รู้ว่านรมนเป็นกังวล พูดตามตรง ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก แต่เมื่อเห็นท่าทีที่เป็นกังวลของนรมน เขาจึงพูดขึ้นเสียงค่อย“ผมขอเวลาอีกสองวัน จัดการเรื่องทั้งหมด หาที่ฝังโอ ไม่ว่ายังไง เธอก็เป็นแม่ของผม”
“ค่ะ”
นรมนไม่ได้ขัดขวางในเรื่องนี้
“ฟ้าใกล้สว่างแล้ว คุณไปนอนเถอะ”
“ฉันยังไม่ง่วง คุณไปนอนเถอะ”
บุริศร์ไม่กล้าเข้านอน นรมนต้องการอยู่เป็นเพื่อน บุริศร์จึงต้องจำยอมไปนอน
เมื่อตื่นขึ้นมาในวันที่สอง เป็นเพราะว่ากานต์เหนื่อยเกินไป จึงยังคงหลับต่อ ป้องตื่นขึ้นมาฝังเข็มให้บุริศร์
บุริศร์ชี้ไปที่หญ้าดาวสีฟ้าพูดขึ้น“คุณจะจัดการหญ้าดาวสีฟ้าอย่างไร ป้าโอเคยบอกอะไรไว้มั้ย”
“เปล่าเลย แต่ผมเคยหาข้อมูล ก็พอรู้ว่าต้องจัดการยังไง สบายใจเถอะ เรื่องนรมนผมจัดการเอง”
“งั้นฝากด้วยนะ เดี๋ยวผมจะออกไปทำธุระหน่อย”
สีหน้าของบุริศร์หนักอึ้ง
“คุณจะไปหาลูกของพิรุณกับโอใช่มั้ย”
“ใช่”
บุริศร์ไม่ปฏิเสธ
ป้องตบบ่าเขาพูดว่า“ระวังหน่อยนะ ถ้าผมช่วยอะไรได้ ก็ให้บอก”
“รับทราบ”
หลังจากที่ฝังเข็มเรียบร้อย บุริศร์จึงออกไป
ตอนที่นรมนมาถึง บุริศร์ก็ไม่อยู่แล้ว
“เขาไปแล้วเหรอ”
“รู้มั้ยว่าเขาไปไหน??”
“น่าจะไปหาลูกของพิรุณกับโอ”
พอได้ยินนรมนพูดดังนี้ ป้องจึงยิ้มขึ้นมา
“คนที่รู้ดี คงไม่มีใครเกินคุณแล้วสินะ”
“ถ้าอาการป่วยทางใจรักษาไม่หาย เขาคงไม่ยอมตามฉันกลับไป”
นรมนถอนหายใจ พูดกับป้อง“คำพูดของอุดมอาจจะไม่ใช่ทั้งหมด ยังต้องลองถามดูอีกนะ”
“สบายใจได้ เรื่องนี้บุริศร์คงจัดการเอง วันนี้คุณยังต้องฝังเข็มทั้งวัน ผมจะเอาหญ้าดาวสีฟ้าประคบให้ สองวันนี้ห้ามปากหน่อยนะ คิดว่าวันสองวันคงหายดี”
“ขอบใจนะ”
นรมนยังคงดีใจมาก อย่างไรเสียเธอก็ไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นใบ้
“ขอบคุณอะไรกันเล่า ถ้าจะขอบคุณกันจริงๆ ให้ของลูกชายผมมากหน่อยก็พอ”
“แหม รู้แต่ลูกชายคนเดียวหรือไง”
“สัมผัสทางใจน่ะรู้ไหม ฉันว่าท้องนี้เป็นลูกชาย”
ป้องมีความสุขมากเป็นพิเศษ
นรมนรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
“ตอนที่ฉันท้องกานต์กับกมล บุริศร์ยังไม่รู้ถึงความรู้สึกตัวเองเลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นตกใจมาก ไม่มีอารมณ์อื่นใดแล้ว จากนั้นพวกเราก็ประสบเหตุอัคคีภัย เกือบจะตายในกองไฟ มาจนตอนนี้ก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่ บางทีพอกานต์กับกมลถามฉัน ว่าถ้าพ่อของพวกเขารู้ว่ามีพวกเขาจะมีปฏิกิริยายังไง จนฉันเองก็ตอบไม่ถูก และตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสแล้ว”
ป้องชะงักเล็กน้อยตอบว่า“หญ้าดาวสีฟ้ามีฤทธิ์เย็นสูง เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัย แต่ตอนนี้เราจะเพิ่มยาจีนนิดหน่อย เพื่อขจัดฤทธิ์เย็นจากหญ้าดาวสีฟ้า อีกอย่างคือ ขอเจาะเลือดหยดหนึ่ง ร่างกายของเขาสามารถสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายของเธอ โดยเฉพาะมดลูก ดังนั้นวางใจได้ ถ้าพวกคุณอยากมีลูกอีก น่าจะมีได้”
“จริงเหรอ”
แววตานรมนเป็นประกาย
“แต่ป้าโอเคยวางยาฉัน จะต้องมีส่วนผสมของหญ้าดาวสีฟ้าแน่ๆ”
“ผมแค่บอกว่าน่าจะ ไม่ได้บอกว่าแน่นอน ไม่มีเรื่องไหนที่แน่นอนทั้งนั้น อย่าหมดกำลังใจไปเลย ตอนแรกหมอบอกว่าโพนี่ไม่น่าจะมีลูกได้อีก ดูตอนนี้สิ ก็ตั้งท้องอยู่ไม่ใช่เหรอ ดังนั้น บางทีคำพูดหมอก็ไม่ใช่อะไรทั้งหมดหรอกนะ จะต้องมีความมั่นใจ”
ป้องให้กำลังใจนรมน
นรมนพยักหน้า ในใจมีความคาดหวัง ถ้าบุริศร์มีลูกกับตนเองแล้วละก็ ก็จะชดเชยสิ่งที่ขาดหายได้
แต่ว่าเรื่องนี้ เธอลองคิดดู
พอป้องฝังเข็มให้เธอเรียบร้อย นรมนจึงกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
เธอราวกับเกิดใหม่
โสธรเองก็ลุกขึ้น พอเห็นนรมนก็ยิ้มทักทาย
“คุณนายบุริศร์ อรุณสวัสดิ์ครับ”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ!”
นรมนสดใสไม่เหมือนเก่า
โสธรเห็นเธอดีอกดีใจ ก็อดดีใจตามไม่ได้
“คุณนายบุริศร์ ผมอยากเจอประธานบุริศร์”
“เขาไม่อยู่ค่ะ มีธุระอะไรมั้ย”
“ไม่มีอะไรครับ ผมอาจจะกลับไป อาจารย์ของผมโทรมา ให้ผมกลับไปเตรียมวิทยานิพนธ์”
คำพูดของโสธรทำให้นรมนชะงัก จากนั้นก็เสียดาย
ที่นี่โชคดีที่มีโสธร และเขาก็เป็นน้องชายของนิตา
“เขาอาจจะกลับมาตอนเที่ยง ถ้าคุณไม่รีบ เรามากินข้าวเที่ยงด้วยกัน”
“ตกลง ฉันขอเก็บของก่อน”
โสธรพูดจบจึงกลับห้อง
ในตอนที่กานต์ออกมา เห็นนรมนกำลังอาบแดดอยู่ในสวน จึงอดที่จะเดินไปหาไม่ได้ แล้วนั่งตักนรมน
“หม่ามี๊ คุณบุริศร์ล่ะคะ”
“ไม่รู้จักเด็กจักผู้ใหญ่อีกแล้ว บอกให้เรียกแดดดี๊ไง”
นรมนพูดจนกานต์ปวดหัว ขบฟันกรอด
“ค่อยเรียกแล้วกัน ไปไหนล่ะ”
“ออกไปทำธุระแล้ว หาพ่อแกทำไม”
“ไม่มีอะไร แค่ถาม”
กานต์เข้าไปซุกในอ้อมกอดของนรมนอย่างสบาย มองดูเมฆขาวบนท้องฟ้า“อากาศที่นี่ดีมาก อากาศดีจริงๆ”
“อยากอยู่ต่อเหรอ”
“ได้ไหมครับ”
กานต์ดีใจลิงโลด
นรมนยิ้มพลางพูด“ไม่ได้จ๊ะ”
“หม่ามี๊ ทำไมแบบนี้ล่ะครับ แย่ที่สุด!เมื่อก่อนหม่ามี๊ไม่เคยแกล้งลูกชายเลย”
“งั้นหรือจ๊ะ เมื่อก่อนลูกก็เชื่อฟังมาก”
“ตอนนี้ก็เชื่อฟังดีนี่ครับ”
ตอนนี้กานต์สดใสกว่าแต่ก่อนมาก อาจจะเป็นเพราะครอบครัวอบอุ่น
นรมนลูบหัวกานต์พลางพูด“พ่อของลูกซื้อที่นี่ไว้แล้ว ถ้าลูกชอบ ให้พ่อพามาตากอากาศทุกปีก็ได้ แต่ลูกจะอยู่ไม่ได้ ต้องไปโรงเรียน”
“งั้น หม่ามี๊บอกเองนะครับว่ามาได้ทุกปี!”
กานต์รีบยื่นนิ้วน้อยๆออกมา
นรมนเห็นเขาเหมือนเด็กๆ ก็ไม่อยากขัดใจ ยิ้มแล้วพูด“ตกลง แม่พูดเอง”
เธอเองก็ยื่นนิ้วมือให้ แล้วเกี่ยวก้อยกับกานต์ แถมยังประทับนิ้วมือกันด้วย
ทั้งคู่นั่งอาบแดดกันอย่างมีความสุข
นรมนรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีช่วงเวลาอบอุ่นแบบนี้มานานมากแล้ว
ส่วนบุริศร์พอใช้เส้นจากแผนกบุคคล มาสอบถามเรื่องของพิรุณ ปรากฎว่ามีคนชื่อพิรุณสี่ร้อยกว่าคน ตัดคนที่อายุไม่เข้าเกณฑ์ออก เหลือสองร้อยกว่า และก็ห่างจากค่ายไม่ไกลนัก
บุริศร์มองดูคนที่ชื่อเสียงเรียงนามคล้ายกัน เวียนหัวไปหมด
เมื่อฝ่ายบุคคลเห็นบุริศร์ดูงุนงง จึงถาม:“มีลักษณะพิเศษมั้ยคะ แค่ชื่อคงหายาก”
บุริศร์คิดแล้วพูด“ผมไม่รู้ แต่มีคนรู้ ขอไปถามก่อน”
“ได้ค่ะ”
บุริศร์รีบวิ่งไปที่ป้อมยาม
ป้องใช้คอนเนคชั่นตัวเองหาผู้อำนวยการจนเจอ แล้วบอกวัตถุประสงค์การมา
ดีที่ผู้อำนวยการรู้ทันและให้ความร่วมมือ จึงให้เขาไปหาอุดม。
ระหว่างที่รอ บุริศร์ค่อนข้างร้อนใจ หากอุดมไม่ยอมพูดล่ะ ทำไงดี
แต่ว่าตอนนี้นอกจากอุดม เขาจะไปถามใครได้เล่า
บุริศร์สูบบุหรี่อย่างกระวนกระวายใจ
ประตูห้องโถงเปิดออก บุริศร์รีบลุกขึ้นยืน แต่กลับไม่เห็นอุดม จึงอดถามไม่ได้
“อุดมล่ะ”
“เขาฆ่าตัวตายแล้ว!”
บุริศร์ตกตะลึงนิ่งอึ้งไป