แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 737
บทที่ 737 เป็นแฟนสาวดีที่สุดแล้ว
นิตาไม่เคยได้ยินเสียงนรมน เพราะตอนที่เธอเจอนรมนเสียงหล่อนก็หายไปแล้ว และเจตต์เองก็ไม่ได้บอกข่าวคราวเรื่องที่นรมนพูดได้แล้ว นิตาก็เลยรู้สึกประหลาดใจ
แต่พอได้ยินนรมนเรียกเจตต์แบบสนิทสนมขนาดนี้ นิตาก็รู้สึกไม่ชอบใจ
เธอเองก็รู้สึกว่าตัวเองช่างตลกนัก ไหนว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเจตต์ไง
สนใจทำไมว่าเขามีผู้หญิงกี่คน เกี่ยวอะไรกับเธอด้วยเล่า
แต่ว่าในใจก็หนักอึ้งอยู่ดี ทำยังไงก็ไม่รู้สึกปลอดโปร่ง
“เอ่อ งั้นเดี๋ยวฉันค่อยหาเขาใหม่แล้วกันค่ะ”
นรมนรีบตัดบทวางสาย
ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย แต่ทำไมต้องทำตัวเหมือนกับขโมยด้วยไม่รู้
นรมนอึดอัดเป็นพิเศษ
นิตามองดูโทรศัพท์ ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไร
ตอนที่เจตต์เดินออกมาเห็นนิตาถือโทรศัพท์ไว้ในมืออย่างเหม่อลอย
เขามุ่นคิ้ว
“เป็นอะไรไป”
เจตต์หยิบมือถือของตนเองกลับออกมาจากมือนิตา พอเปิดดูบันทึกการโทร เห็นว่าเป็นนรมน จึงรีบถาม“หล่อนว่าไงบ้าง”
นิตาเห็นเจตต์ดูทะนุถนอมหล่อนนัก อดไม่ได้ที่จะปวดใจ
“คุณแค่ชอบนรมนไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีผู้หญิงอื่นโผล่มาอีกล่ะ หรือคุณชอบเก็บหญ้าริมทาง”
พอได้ยินว่านิตาเข้าใจผิด เจตต์ยิ่งมุ่นคิ้ว
“คุณหมายความว่าไง”
“ไม่มีอะไร ก็แค่รู้สึกว่าคุณเป็นผู้ชายกะเลวกะลาด ชอบคุณนรมน ทั้งๆที่รู้ว่าหล่อนแต่งงานแล้ว ยังเต็มที่กับหล่อน ตอนแรกรู้สึกว่าผู้ชายแบบคุณหายาก ตอนนี้มารู้ว่า ฉันไร้เดียงสาเกินไป คุณนี่ช่างหว่านเมล็ดพันธุ์ไปทั่ว!”
พูดจบ นิตาจึงเดินจากไป
เจตต์รีบดึงแขนเธอไว้
“หมายความว่าไง พูดให้ชัด อะไรคือหว่านเมล็ดพันธุ์ไปทั่ว แล้วผมไปหว่านเมล็ดพันธุ์กับใคร”
“ปล่อยนะ!”
นิตาสะบัดมือเขา พูดเสียงเย็น“กับใครเหรอ ก็เลขาไพลินของคุณไงล่ะ แค่เลขายังเรียกชื่อคุณตรงๆได้ คุณจะบอกว่าพวกคุณไม่มีความสัมพันธ์กันงั้นเหรอ”
เจตต์ตกตะลึง แล้วหัวเราะ
“หล่อนแต่งงานแล้ว ลูกก็มีแล้ว ผมจะไปมีอะไรกับหล่อนได้ล่ะ”
นิตาชะงัก ดูเหนือความคาดหมาย
“นั่นสิ คุณนี่มันเดรัจฉานจริง คนเขามีลูกมีเต้าแล้ว คุณยังไม่ปล่อยอีก คุณนี่มันเดนจริงๆ”
“ขอร้องล่ะ คุณอย่าสาดน้ำโคลนใส่ผมได้มั้ย ผมกับสามีหล่อนเป็นเพื่อนร่วมสมรภูมิกัน เลยต่างคนต่างเรียกชื่อ แล้วมันทำไมเล่า”
คำพูดของเจตต์ทำให้นิตาชะงักอีก
“ผมว่านะนิตา คุณหึงเหรอ คุณคงไม่ได้ชอบผมเข้าแล้วใช่ไหม”
พอเจตต์พูด นิตาก็รีบเถียงกลับ
“พูดมั่ว ฉันจะไปมองคุณได้ไงล่ะ อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย”
พูดจบนิตาก็หมุนตัววิ่งหนีไป
ครั้งนี้ เจตต์ไม่ได้ตามล่า
เขาอมยิ้มให้กับเงาหลังของนิตาที่วิ่งไป จู่ๆกลับนึกอะไรออก รอยยิ้มจึงแข็งค้างบนใบหน้า
นี่คือการเสแสร้งหรือเปล่า
ถ้าใช่ นิตาไปรับรางวัลนักแสดงชั้นนำได้เลย
อารมณ์เจตต์หนักอึ้ง
เขาหยิบมือถือออกมาโทรหานรมน
“เมื่อกี้ตอนโทรมาคุยอะไรไปบ้าง”
“ยังไม่ทันพูดอะไรเลย ฉันกลายเป็นเลขาไพลินของคุณไปตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณกับนิตาทำบ้าอะไรกัน”
นรมนครุ่นคิด รู้สึกว่าเจตต์น่าจะมีอะไรปิดบังนิตา
เจตต์พูดอย่างเซ็ง“คุณไม่ต้องยุ่งอะไรทั้งนั้นล่ะ ไพลินก็คือไพลินสิ ว่าไง รับใช้ประธานบุริศร์เสร็จแล้วเหรอ”
“ฉันว่านะเจตต์ ไอ้แรงหึงหวงนี่เป็นมาไงกัน”
นรมนเองก็ค้นพบว่าเจตต์เองก็หึงหวงและไม่พอใจไม่น้อย
มิน่าล่ะบุริศร์ถึงไม่อาละวาด เจตต์ในลักษณะนี้ ทำให้คนอาละวาดด้วยไม่ลง
เจตต์พูดตรงไปตรงมา“ถุย พวกเธอสองคนน่ะ จมูกหักแล้วมั้ง อิจฉาอะไร ใคร ที่ไหน”
“เห็นๆกันอยู่ ฉันว่าคุณรำคาญใจเรื่องนิตาหรือเปล่า”
“ถ้าใช่แล้วทำไม จะให้เพื่อคุณงั้นเหรอ”
พอเจตต์พูดจบก็รู้สึกเหมือนฝืนใจ
นรมนก็ไม่ได้เปิดโปงเขา ยิ้มแล้วพูด“เจ้าพ่อมรกตนั่นชื่อชาญ เหมือนบุริศร์จะรู้จัก ฉันจะบอกแบ๊คกราวน์เขาให้แล้วกัน พรุ่งนี้พอฝังป้าโอแล้ว ฉันกับบุริศร์ว่าจะไปหาชาญสักหน่อย วางใจได้ ฉันกับบุริศร์จะสกรีนให้”
“ขอบใจพวกเธอสองคนนะ”
เจตต์พูดจบจึงวางสาย รู้สึกเซ็งในอารมณ์
นรมนกับบุริศร์บ้าไปแล้วหรือไง
เขาเนี่ยนะหึงหวง
เป็นไปได้ไง!
แม้ว่าเจตต์จะไม่ยอมรับ แต่แววตาก็มองไปทางห้องผู้ป่วยของนิตา
ต่อให้บุริศร์รู้จักชาญ นิตาเองก็รู้จัก สู้เขาไปเจอชาญกับนิตาดีกว่า
คิดมาถึงตรงนี้ เจตต์ก็หมุนตัวกลับเข้าห้องผู้ป่วย พิงประตู มองดูนิตาที่นอนอ่านหนังสือบนเตียง ยิ้มให้แล้วพูด“คุณแฟนครับ จะไปหาคุณอาชาญเมื่อไหร่กันดีครับ”
“ไม่ไปแล้ว”
เจตต์เรียกนิตาว่า“แฟน”ทำให้หล่อนกระดากอาย หน้าร้อนก่ำ
เจตต์ยังคงยิ้มพูด“ไม่เอาน่า โบราณว่าลูกสะใภ้ขี้เหร่แค่ไหนยังต้องเจอพ่อแม่สามี ผมไม่ขี้เหร่สักหน่อย อวดคนได้ คุณวางใจเถอะ ไม่ขายหน้าคุณหรอก”
“เจตต์ ออกไปเลยนะ!ใครว่าคุณเป็นแฟนฉันกัน ฉันไม่เอาแฟนแบบคุณหรอกนะ!”
“งั้นเหรอ เมื่อกี้บอกเลขาไพลินนี่นาว่าเป็นแฟนผม”
พอเจตต์พูดออกไป นิตาก็ทั้งอายทั้งโกรธ หยิบหมอนมาเขวี้ยงไปทางเจตต์
“ออกไปเลยนะ!”
เจตต์รีบหลบ ยิ้มแล้วพูด“ได้จ้า ผมออกไป ออกไปซื้ออะไรให้คุณกินนะ ตอนเย็นไปหาคุณอาชาญกัน”
“ฉันไม่ไป!”
นิตาร้องอย่างเขินอาย
เจตต์หมุนตัวเดินหนี แต่ว่าช่วงที่หมุนตัว รอยยิ้มยังคงแข็งค้าง
ถ้านิตาแสดงละครตบตา เขาก็จะแสดงละครเป็นเพื่อน เขาก็อยากรู้ว่านิตาจะแสดงไปถึงเมื่อไหร่
จู่ๆเจตต์ก็สับสนหนัก
ก่อนหน้าคบผู้หญิงทีเดียวหลายๆคน ก็ไม่เหนื่อยขนาดนี้
ตกลงยังไงกันแน่
หรือว่าเขาแก่แล้วจริงๆ
นิตาย่อมไม่รู้ว่าเจตต์กำลังคิดอะไร จู่ๆเธอก็รู้สึกกระดากอาย เป็นความอายชนิดที่ร้อยปีจะเจอที แปลกจริง
หลังจากที่เจตต์ออกมา ซื้อผลไม้นิดหน่อย ล้วนเป็นผลไม้ที่นิตาชอบ จู่ๆเขาก็ค้นพบว่าไม่กี่วันมานี้ เขาจดจำรสชาติที่นิตาชอบได้
จังหวะที่ตัดสินใจจะลืมความรักจากนรมน และหันมาดูแลนิตาเต็มตัว เจตต์ก็ตั้งใจเอาใจใส่เต็มที่ เขาคิดเสมอว่านิตาเป็นผู้หญิงที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น และก็ตรงไปตรงมา แต่ตอนนี้กลับรู้สึกสงสัยเคลือบแคลงในตัวเธออึดอัดนัก
นิตาเป็นหญิงที่เขาคิดจะใช้ชีวิตร่วม เป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน เขาแค่รับไม่ได้ที่นิตาเข้าหาเขาอย่างมีจุดประสงค์
เขาเจตต์เมื่อไหร่ถึงจะหาภรรยาเป็นตัวเป็นตนได้สักที
มองดูผลไม้ในมือ เจตต์เดินกลับมายังห้องผู้ป่วย นิตาหายไปแล้ว
ถ้าเป็นก่อนหน้า เขาคงห่วงใย แล้วออกวิ่งตามหา แต่ตอนนี้เขาอยากมีช่องว่างให้ตัวเองบ้าง ถึงขนาดคิดแบบซื่อๆ นิตาจะเป็นฝ่ายสารภาพกับเขาหรือไม่
ขอแค่เธอยอมพูด เรื่องใหญ่แค่ไหน จุดประสงค์ใหญ่แค่ไหนเขาก็ไม่ใส่ใจ
รออยู่ในห้องนานนับชั่วโมง นิตาก็กลับมา พอเห็นเจตต์ยังอยู่ในห้องก็ตกใจ
“คุณกลับมาตอนไหน ฉันวนหาคุณอยู่รอบนึง”
เจตต์เห็นนิตาเหงื่อโซมหน้า หายใจหอบ เหมือนกับว่าไปวิ่งมาหลายเมตรจริงๆ แต่ในใจเขาคิดจริงๆว่านิตาออกไปหาเขา
เธออาจจะใช้จังหวะนี้ออกไปหาใครก็ได้ หรือไปทำธุระอะไร
พอคิดมาถึงความเป็นไปได้ ในใจเจตต์ก็เซ็งและอึดอัดไม่น้อย
“เป็นอะไรคะเจตต์ เกิดอะไรขึ้น”
นิตาเห็นเจตต์มองตัวเองแปลกๆ จึงอดถามขึ้นไม่ได้
“เปล่า แค่ออกไปซื้อผลไม้ เห็นว่าคุณชอบกิน เดิมทีคิดจะกลับมาถามคุณ ว่าคุณอาชาญชอบกินอะไร แต่คุณไม่อยู่ ผมเลยรอ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารอไปนานเท่าไหร่ ไม่ได้ดูเวลา คุณไปหาผมที่ไหน”
เจตต์พูดเสียงเรียบ รีบหลุบสายตา
นิตาถอนหายใจพูด “เราคงเดินหลงกันค่ะ ฉันไปเดินแผงผลไม้แถวนี้มารอบหนึ่ง ไม่เห็นคุณ โทรไปปิดเครื่อง เลยคิดว่าเกิดเรื่อง เกือบจะแจ้งความ ใครไปคิดว่าคุณกลับมาแล้ว”
เจตต์หยิบโทรศัพท์มาดู ไม่รู้ว่าแบตหมดไปตอนไหน
เขาชาร์จแบต แต่ไม่เชื่อเรื่องที่นิตาจะแจ้งความ
ถ้าตัวเขาสำคัญในใจหล่อนขนาดนั้น หล่อนคงไม่เข้าหาเขาเพราะจุดประสงค์บางอย่าง
จะว่าไป นี่แหละเป็นหนามยอกใจของเจตต์
เจตต์พูดเสียงเรียบ“ผมไม่เป็นไร ลูกผู้ชายอกสามศอก ใครจะมาลักตัวไป ไม่ใช่หญิงสาวสักหน่อย”
พูดพลาง จึงโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ
นิตาสัมผัสได้ว่าเจตต์แปลกไป
“เป็นอะไรไปคะ เพราะฉันบอกว่าเป็นแฟนคุณหรือเปล่าถึงไม่สบอารมณ์ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวฉันอธิบายกับคุณอาชาญเอง”
“ไม่เป็นไร เดิมทีก็ตามจีบคุณอยู่ เป็นแฟนสาวที่ดีที่สุดแล้ว”
“แต่ท่าทางแบบนี้ของคุณ……”
“ผมแค่เหนื่อยไปหน่อย หมู่นี้ดูแลคุณไม่ค่อยได้นอนเลย วันนี้รู้สึกเพลีย อยากพักผ่อน มีอะไรก็เรียกผมแล้วกัน”
เจตต์แสดงต่อไปไม่ไหวแล้ว
เขาหยิบมือถือเดินจากไป ลืมแม้เสื้อโค้ท
“รอเดี๋ยวค่ะ”
นิตาเรียกเขาไว้ ยื่นเสื้อคลุมให้
“ลมด้านนอกแรง อย่าตากลมนะคะ”
“อืม”
เจตต์รับเสื้อโค้ทไป จู่ๆเหมือนคิดอะไรออก
“อ๋อ จริงสิ ฉันฝากเพื่อนถามเรื่องพ่อแม่ พวกเขาบอกเรื่องนี้ซับซ้อนมาก หาหลักฐานเรื่องพ่อแม่โกงเงินก้อนนั้นไม่เจอ ตอนนี้เลยกำลังหาพยาน ยืนยันว่าพ่อแม่ไม่ได้ยุ่งกับเงินก้อนนั้น คุณพอทราบมั้ยว่าตอนนั้นมีใครอยู่กับพ่อแม่บ้าง”
แม้ว่าเจตต์จะสงสัยนิตา แต่ก็ยังคงรับปากว่าจะช่วย
นิตาฟังเจตต์ แววตาเป็นประกายขึ้น