แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 750
บทที่ 750 คุณมันบ้า
บุริศร์รู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง แต่เขาก็รู้ว่าที่นรมนเป็นห่วงเจตต์เป็นสิ่งที่มีมาตั้งนานแล้วไม่ได้เกี่ยวกับความรัก
“เอาหน่า เก็บของเถอะ ผมจะไปจุดธูปให้ป้าโอนะ”
นรมนมองด้านหลังของบุริศร์ แม้จะมีความแค้นระหว่างป้าโอมากมาย แต่คนก็ตายไปแล้ว เธอก็ไม่อยากจะดึงดันต่อไป
เธอกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้อง แล้วมาที่หน้าหลุมศพของป้าโอ
บุริศร์คุกเข่าจุดธูปอยู่ที่นี่
นรมนไม่รู้ว่าเขาพูดคำคุ้นเคยอะไรกับป้าโอบ้าง ตอนนี้เธอเป็นแค่ลูกสะใภ้คนหนึ่ง
“ฉันก็จะจุดธูปให้เธอด้วย”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์งุนงงเล็กน้อย แล้วก็รู้สึกซาบซึ้งใจ
“ไม่ต้องฝืนตัวเองนะ ผมรู้ว่าเรื่องพวกนั้นที่เธอทำก่อนหน้านี้ ทำร้ายคุณกับเด็กๆมาก”
“คุณก็พูดอยู่ ว่าก่อนหน้านี้ นี่เธอไม่อยู่แล้ว อีกอย่างก่อนเธอจากไปก็รักษาคุณ รักษาฉันจนหายดี ถือว่าเป็นความดีความชอบที่หักล้างกันไปเถอะ”
นรมนเดินเข้าไปจุดธูปให้ป้าโอ
เธอมองรูปของป้าโอที่อยู่บนป้ายหน้าหลุมศพ นึกถึงชีวิตการแต่งงานแปดปีที่ผ่านมานี้ อดไม่ได้ที่อยากจะทะนุถนอมทุกสิ่งที่มีอยู่ในตอนนี้
“บุริศร์ เรากลับบ้านกันเถอะ ฉันคิดถึงเด็กๆแล้ว”
จู่ๆนรมนก็รู้สึก ไม่ว่าจะเป็นใคร เรื่องอะไร ก็ไม่มีความสุขเหมือนที่ครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน
“ได้ อีกเดี๋ยวเรากลับกันเลย”
บุริศร์กับนรมนสบตายิ้มให้กัน สิบนิ้วประสานกันเอาไว้
ตอนที่โสธรเห็นพวกเขา นรมนก็เก็บของเรียบร้อยแล้ว
“นี่พวกคุณ……”
“กลับเมืองชลธี ฉันยังยืนยันคำเดิม เรียนจบแล้ว มาหาฉันที่เมืองชลธี เห็นแก่ที่เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ฉันจะให้งานนาย แต่ทว่าตัวนายเองก็ต้องมีความสามารถเพียงพอนะ ไม่งั้นต่อให้ฉันอยากให้โอกาสนายมันก็คงเป็นไปไม่ได้”
คำพูดของบุริศร์ทำให้โสธรพยักหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ
“ผมจะพยายามครับ ประธานบุริศร์”
“ไว้เจอกันนะ!”
“ไว้เจอกันครับ”
นรมนกับบุริศร์ออกจากหมู่บ้านดารายน
ก่อนขึ้นเครื่อง นรมนมอบอำนาจให้ทนายความจัดการยกบริษัทท่องเที่ยวให้กับเจตต์ ตัวเธอเองก็ตั้งปณิธานเอาไว้ ในวันนี้เจตต์อยากจะให้นิตาเข้าร่วมหุ้นด้วย จึงถือโอกาสยกให้เจตต์ไปเลยดีกว่า
นรมนไม่ใช่คนที่จะทำให้ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม
เธอกับนิตาไม่ใช่คนแบบเดียวกัน ต่อไปก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้แน่ๆ คนที่ความคิดเข้ากันไม่ได้อย่างนี้จะมาเป็นผู้บริหารในบริษัทเดียวกัน งั้นยกให้ไปเลยคงจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องพบเจอกันอีก
สำหรับการจัดการของนรมน บุริศร์ไม่ได้ห้ามอะไร
ตอนที่เจตต์ได้รับหนังสือมอบอำนาจก็ตะลึงงัน
เขาไม่เข้าใจ นรมนออกจะชื่นชมนิตา ทำไมตอนที่เขาเสนอให้นิตาเข้าร่วมหุ้นบริษัทถึงต้องยกบริษัทให้เขา
นิตาเห็นหนังสือมอบอำนาจที่เจตต์ถืออยู่ในมือ จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย: “เรื่องอะไรเหรอ?”
“คุณกับนรมนเกิดอะไรขึ้น?”
นิตาก็ตกใจขึ้นมาทันที แล้วยิ้มขึ้นอย่างรวดเร็ว: “ฉันกับประธานนรมนจะเกิดอะไรได้? เราก็ปกติดีนะ”
เจตต์กำลังมองนิตา ไม่ได้พูดอะไร เก็บหนังสือมอบอำนาจขึ้นมา
“บริษัทท่องเที่ยวของนรมนคุณไม่ต้องเข้าร่วมหุ้นดีกว่า ถ้าคุณชอบ ผมจะให้เงินคุณต่างหาก ให้คุณสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง อันที่จริงทำธุรกิจร่วมกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
คำพูดของเจตต์ทำให้นิตาชะงักเล็กน้อย พูดขึ้น: “ฉันไม่เอาอะไรหรอก ทำอะไรก็ได้ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องทำบริษัทท่องเที่ยวด้วย คุณไม่ต้องสนใจฉันหรอก ฉันสามารถยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ ฉันรู้ ว่าคนอย่างประธานนรมน คงไม่ชอบที่จะต้องร่วมงานกับตัวประกอบแบบฉัน”
“พูดเหลวไหลอะไร? นรมนไม่ใช่คนอย่างที่คุณพูดนะ”
จู่ๆเจตต์ก็โมโหเล็กน้อย
แม้เขาจะไม่รู้ว่าระหว่างนรมนกับนิตาเกิดอะไรขึ้น แต่ได้ฟังน้ำเสียงแปลกๆของนิตา เขาก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ความผิดของนรมน
นี่นิตาทำเรื่องอะไรที่เกินไปกับนรมนงั้นเหรอ?
เจตต์หลับตาลง ในหัวปรากฏภาพของนรมนกับนิตาที่อยู่ในห้องคนไข้ แต่กลับไม่คุยกันเลยออกมา
ต้องโทษเขาที่ตอนนั้นไม่สังเกตเห็น
นรมนคงจะผิดหวังในตัวเขามากๆเลยสินะ?
ที่ชอบผู้หญิงอย่างนี้ ล่วงเกินแม้กระทั่งเพื่อนที่ดีที่สุดของตนเอง
นิตาเห็นเจตต์หลับตาลงไม่สนใจตนเอง จึงรู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันที
“คุณจะปกป้องนรมนขนาดนี้เลยเหรอ?”
เจตต์ลืมตาขึ้นทันที
“นรมน? คุณไม่เรียกเธอว่าประธานนรมนแล้ว?”
“ประธานนรมน? ฉันลาออกแล้ว ทำไมฉันยังต้องเรียกเธอว่าประธานนรมนอีก? เจตต์ ตอนนี้คุณเป็นแฟนของฉัน แต่คุณกลับโมโหแทนนรมนอยู่ตลอด คุณอยากรู้ใช่ไหมว่าฉันกับเธอเกิดอะไรขึ้น? ก็ไม่มีอะไร ฉันแค่บอกเธอไปตรงๆ ว่าต่อไปให้เธอออกไปห่างๆจากแฟนของฉันหน่อย ฉันพูดอย่างนี้มันผิดเหรอ?”
คำพูดของนิตาทำให้เจตต์ขมวดคิ้วขึ้นมา
“ผมชอบนรมนเป็นเรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับเธอสักนิด เธอไม่เคยมีความรู้สึกอย่างนั้นกับผมเลย”
“ใช่สิ เธอไม่ชอบคุณ เป็นคุณที่อยากจะเข้าไปใกล้ๆ แต่เธอก็ไม่มีความผิดงั้นเหรอ? เธอรู้ว่าคุณชอบเธอ รู้อยู่ชัดๆว่าไม่สามารถตอบสนองคุณได้ แต่ก็พัวพันอยู่กับคุณตลอดเพื่ออะไร? อยากเหยียบเรือสองแคมเหรอ? ฉันก็นับถือบุริศร์จริงๆนะ มีภรรยาที่จิตใจโลเล เป็นผู้หญิงใจง่ายอย่างนี้ แต่เขายังทำเหมือนเธอเป็นสมบัติล้ำค่าอีก ใครจะรู้ว่าตอนอยู่ข้างนอกเธอจะสวมเขาให้บุริศร์หรือเปล่า?”
นิตาเพิ่งพูดจบ เจตต์ก็สะบัดฝ่ามือลงไป
หลังจากโดนตบ นิตาก็ตกตะลึง เจตต์เองก็ตกตะลึง
“ผมไม่อนุญาตให้คุณสบประมาทนรมน!”
ฝ่ามือของเจตต์เจ็บจนร้อนผ่าว แต่ในใจของเขากลับเจ็บยิ่งกว่า
นิตาได้สติกลับมาจากที่โดนตบ กำลังมองเจตต์อย่างเย็นชา
จู่ๆก็เข้ามาตบเจตต์ราวกับคลุ้มคลั่งไปแล้ว
“คุณไม่อนุญาต? เจตต์ ฉันต่างหากที่เป็นแฟนของคุณ! ไม่นึกว่าคุณจะตบฉันเพราะผู้หญิงคนอื่น? คุณยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า?”
เจตต์ไม่ได้หลบ ยอมให้เล็บของนิตากรีดไปที่ใบหน้าของตนเอง
เขาก็ไม่คิดเหมือนกัน เมื่อครู่เขาวู่วามเกินไป หลังจากตบไปแล้วเขาก็เสียใจ แต่เขาก็ยอมไม่ได้ที่จะให้คนอื่นมาบอกว่านรมนใจง่าย
พระเจ้ารู้ว่านรมนไม่ได้ทำอะไรเลย ในใจของเธอมีแค่บุริศร์คนเดียว
แต่ทว่าถ้าอยู่ในตำแหน่งของนิตา เจตต์ก็รู้สึกว่าตนเองทำเกินไปจริงๆ
นิตาเห็นใบหน้าของเจตต์เลือดออกแล้ว จึงกระวนกระวายขึ้นมาทันที
“คุณโง่หรือเปล่า? ฉันตีคุณคุณหลบไม่ได้หรือไง? ตอนนี้เสียโฉมแล้วนะ ฉันจะดูสิว่านรมนจะยังชอบคุณอีกไหม?”
พูดๆอยู่ นิตาก็รีบไปหยิบแอลกอฮอล์กับก้านสำลีมา ใส่ยาให้เจตต์อย่างระมัดระวัง
เห็นท่าทางประหม่าของนิตา จู่ๆเจตต์ก็ยิ้มออกมา: “นรมนไม่เคยชอบผมอยู่แล้ว ผมเสียโฉมเธอก็ไม่ชอบผมหรอก กลับเป็นคุณนั่นแหละ ยังชอบผมอยู่ไหม?”
“ฉันสติไม่ดีเหรอ? ถึงจะมาชอบผู้ชายที่ลงไม้ลงมือกับฉัน?”
นิตาพูดอย่างอารมณ์เสีย
เจตต์เห็นรอยห้านิ้วบนใบหน้าของนิตา ก็อดไม่ได้ที่จะปวดใจ
“เจ็บไหม?”
“เพ้อเจ้อ”
นิตาหลบมือของเจตต์ ยังคงโมโหอยู่
เจตต์ถอนหายใจพูดขึ้น: “นิตา ผมรู้ว่าเพราะคุณหึง ผมก็รู้ ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมให้แฟนของตัวเองไปชอบผู้หญิงคนอื่นหรอก ผมพยายามลืมเธอแล้ว สำหรับผม นรมนเป็นความอบอุ่นในวัยเด็ก เป็นผู้ช่วยชีวิตหลังจากที่เติบโตมา ไม่มีเธอก็ไม่มีผมในตอนนี้ ความสำคัญของเธอไม่เพียงแต่เป็นรักครั้งแรกและรักข้างเดียวของผม คุณอาจจะไม่เข้าใจเด็กคนหนึ่งที่โดดเดี่ยว เด็กคนหนึ่งที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ความรู้สึกที่อยากจะพยายามคว้าทั้งหมดเอาไว้หลังจากได้เห็นแสงสว่างและความอบอุ่น นรมนสำหรับผม ก็เป็นอย่างนี้ เธอสะอาด บริสุทธิ์ รักเดียวใจเดียว แม้ว่า บุริศร์จะเคยใจบอดไม่เห็นความดีของเธอ แต่เธอก็ยังรออยู่ที่เดิมให้เขาหันกลับมา ในโลกของพวกเขาไม่ใช่ที่ที่เราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ ดังนั้น อย่าพูดถึงนรมนแย่ๆ อย่าทำให้เธอด่างพร้อย อย่าเหยียดหยามเธอ เพราะคุณกำลังเหยียดหยามความศรัทธาของผม เพราะเห็นความรักที่เธอมีต่อบุริศร์ ผมถึงเชื่อว่าโลกใบนี้ยังมีความรักของทั้งสองฝ่ายที่เป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ ผมถึงมีความกล้าที่จะพยายามหาหนึ่งเดียวของผม คุณเข้าใจไหม?”
นิตาไม่เคยได้ยินเจตต์พูดเรื่องพวกนี้มาก่อนเลย
จู่ๆเธอก็รู้สึกอิจฉานรมนขึ้นมา
“เธอพิเศษสำหรับคุณขนาดนั้น สำคัญขนาดนั้น คุณจะลืมเธอแล้วมาคบกับฉันได้จริงๆเหรอ?”
“ทำไมถึงต้องลืมด้วยล่ะ? สิ่งที่มีค่าในชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เธอเคยเป็นไฟนำทางของผม ผมเดินผ่านช่วงเวลาที่มืดมนนั้นมา เพื่อต้อนรับดวงอาทิตย์อย่างคุณ ผมจะจับคุณเอาไว้ให้แน่นๆ ไม่ให้คุณแอบหนีไปจากชีวิตของผม เช่นเดียวกับที่ผมก็หวังว่าผมจะเป็นดวงอาทิตย์ของคุณ มีเรื่องอะไรคุณพูดกับผมได้ทั้งนั้น เราจะช่วยกันแบ่งเบานะ”
แววตาของเจตต์อบอุ่นมาก
นิตามองเขา ในใจเจ็บปวดเหลือเกิน
“ฉันไปหาน้ำแข็งมาประคบหน้าก่อน ออกไปจะได้ไม่เป็นตัวตลกของคนอื่น”
นิตาอยากจะหลบหนีอีกครั้ง แต่กลับโดนเจตต์ขวางเอาไว้
“คุณนั่งพักเถอะ ผมจะไปเอามาให้ วันนี้ผมไม่ดีเอง ไม่ควรลงมือกับคุณ ต่อไปจะไม่มีอีกแล้ว แต่ผมก็หวังว่า จะไม่ได้ยินคำพูดใส่ร้ายนรมนออกมาจากปากของคุณอีก ได้ไหม?”
“ได้ คุณจะพูดอะไรก็ตามนั้น รีบไปเอาน้ำแข็งเถอะ”
นิตารีบเบือนหน้าหนี
เจตต์รู้ว่าเธอยังโมโหอยู่ แต่ทว่าไม่ได้พูดอะไรก็เดินออกไปแล้ว
นิตานั่งอยู่บนเตียงตามลำพัง นึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของเจตต์ ในใจก็ยิ่งเสียใจ
ทำไมเธอถึงไม่ได้เจอเจตต์ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดบ้างล่ะ?
ทำไมเธอถึงต้องหลงรักผู้ชาย ที่เก็บนรมนไว้ในตำแหน่งหนึ่งของใจด้วยล่ะ?
ทำไมแฟนของเธอถึงลงมือตบเธอเพราะผู้หญิงอย่างนรมนล่ะ?
นิตาถามตัวเองไม่หยุดว่าเพราะอะไร แล้วจับใบหน้าของตนเองเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณ
ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยโดนรังแก แล้วก็ไม่ใช่ไม่เคยโดนตบตี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่โดนแฟนของตัวเองตบ
นิตาอดไม่ได้ที่จะโกรธแค้น
เป็นเพราะนรมน!
ถ้าไม่มีเธอ เธอกับเจตต์ก็จะไม่ทะเลาะกัน
ก็แค่บริษัทท่องเที่ยวที่ขาดทุน เธอคิดว่าตัวเองน่าชื่นชมจริงๆงั้นเหรอ?
ในเมื่อเธอไม่ได้ ใครก็ไม่ต้องคิดจะได้
สายตาของนิตาส่งความโหดร้ายและอยากจะคิดบัญชีออกมาเล็กน้อย แต่ทว่าก่อนที่เจตต์จะกลับมาก็จางหายไปหมดแล้ว
เธอให้เจตต์เห็นด้านที่เลวร้ายของเธอไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด
“น้ำแข็งมาแล้ว”
เจตต์ถือน้ำแข็งเข้ามา
วินาทีที่นิตารับไปนั้น เจตต์ก็จับมือของนิตาเอาไว้ ตบไปที่ใบหน้าของตัวเอง
“โอ๊ย! เจตต์ คุณบ้าหรือไง? คุณจะทำอะไร?”
นิตาแค่รู้สึกว่าฝ่ามือร้อนผ่าว ส่วนใบหน้าด้านซ้ายของเจตต์ก็บวมขึ้นมา
“ให้คุณตบผมคืน!”
เจตต์กำลังยิ้มกริ่มมองนิตา น้ำตาของนิตาก็ทะลักออกมาทันที
“คุณมันบ้า!”
เธอผลักเจตต์อย่างแรงแล้ววิ่งออกไปทันที
เจตต์เห็นน้ำตาของเธอ ก็ยิ้ม ในใจคิดว่านิตาคงให้อภัยเขาแล้ว ไม่ว่าจะพูดยังไง เขาทำผิดที่ตบเธอ เขาจึงต้องชดเชยด้วยการลงมือทำจริงๆเพื่อชดใช้คืนให้แก่นิตา
คิดๆแล้ว เจตต์ก็เปิดมือถือขึ้นมาค้นหาอะไรบางอย่าง
ส่วนนิตาที่วิ่งออกมาจากห้องคนไข้ด้วยความเสียใจ
ในตอนนี้ มือถือของเธอก็ดังขึ้น
มองสายที่โทรเข้ามา สีหน้าของนิตาก็ซีดเผือดไปทันที