แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 822
เป็นกิมจิ!
อาจจะเป็นเพราะอิทธิพลของบุริศร์มีมากเกินไป หรืออาจจะเพราะพวกบอดี้การ์ดของเรณุกามองสถานการณ์ออก ในตอนที่เรณุกาและบุริศร์พูดคุยกัน พวกเขาปล่อยกิมจิ บางทีสำหรับพวกเขาแล้ว กิมจิในตอนนี้ไม่หลงเหลืออำนาจใดๆไว้เลย
เอาเป็นว่ากิมจิอาจจะมีอำนาจขึ้นมาตอนเป็นอิสระ พอเห็นเรณุกาหมุนตัวหนี ในหัวของเขามีความคิดเดียวคือปล่อยให้หนีไม่ได้ ไม่งั้นภายภาคหน้าตอนที่หล่อนกลับมา คนที่ซวยที่สุดก็คงไม่พ้นนรมน
เขาติดค้างนรมนไว้มากเกินไป
ในตอนที่บุริศร์เห็นกิมจิวิ่งตามเรณุกา จึงอดตะลึงไม่ได้ จากนั้นดูเหมือนรู้สึกถึงอะไรได้บางอย่าง จึง ไม่ได้หยุดยั้งไว้“คุมตัวพวกนี้ไว้ให้หมด ดูสิว่าในมือพวกเขายังมีอีกกี่ชีวิต แล้วค่อยส่งให้ตำรวจจัด การ”
บุริศร์พูดเสียงเย็น ไม่ได้ดูใจอ่อนลงแม้แต่น้อยกับการยอมจำนนของพวกเขา สำหรับเขาแล้ว คนพวกนี้คือบุคคลอันตราย เป็นการคุกคามนรมนกับลูก
คนตระกูลโตเล็กต้องควบคุมคนเหล่านั้นให้ทันการณ์
พอกิมจิวิ่งตามเรณุกาทัน จึงพุ่งกระโจนผลักหล่อนลงไปนอนบนพื้น
เรณุกาอายุมากขนาดนี้ พอกิมจิกระโจนใส่แบบนั้น ทั้งตัวก็แทบล้มทั้งยืน
พอหล่อนเห็นว่าคนที่กระโจนใส่หล่อนคือกิมจิ จึงอดด่าทอไม่ได้“ไอ้จิ้งจอกเนรคุณเลี้ยงเสียข้าวสุก ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน แกคงกลายเป็นเด็กกำพร้าหิวตายข้างถนนไปแล้ว จะมาลอยหน้าลอยตาแบบตอนนี้ได้ไง แกมันก็แค่หมาที่ฉันเลี้ยงไว้ตัวหนึ่ง ตอนนี้คิดลอบกัดเจ้าของเหรอ แกคิดว่าบุริศร์มันจะดีกับแกจริงๆหรือไง แกคิดถึงนรมน คนใจแคบอย่างบุริศร์ไม่ถือสาน่ะสิแปลก ไม่สู้แกปล่อยฉัน ฉันรับปาก ขอแค่แกปล่อยฉัน ฉันจะทำให้แกเป็นคนเหนือคน”
“คนเหนือคนน่ะช่างเถอะ แกเคยพูดแล้ว ฉันก็เป็นแค่หมาตัวหนึ่ง ในเมื่อเป็นหมา ก็สมควรที่จะทำเรื่องที่หมาตัวนึงควรจะทำ แต่ฉันไม่ใช่หมาของแก เป็นหมาของนรมน ตอนนี้นรมนต่างหากที่เป็นนายหญิงของฉัน”
กิมจิใช้พละกำลังทั้งหมดที่มี กระดูกของเขาหักแล้ว เมื่อกี้ก็ใช้ลมเฮือกสุดท้ายในการวิ่งไล่ ตอนนี้ขยับไม่ไหวอีกแล้ว
ความเจ็บปวดอันไร้พรมแดนราวกับระลอกคลื่นทะเล หากแต่กิมจิรู้สึกเพียงพอแล้ว เขารู้ ชีวิตในอนาคตของตนเองอาจจะต้องรันทด แต่แล้วอย่างไรเล่า
ขอแค่นรมนมีชีวิตที่ดี ขอแค่เขาได้ทำเพื่อนรมน ทุกอย่างก็คุ้มค่าแล้ว
เมื่อเห็นรอยยิ้มปลื้มใจของกิมจิ เรณุกาโกรธจนกัดฟันกรอด แต่ก็ยังหนีไม่พ้น กิมจิใช้ร่างตัวเองกดทับหล่อนไว้ ประวิงเวลาที่บุริศร์จะมา
ตอนที่บุริศร์เห็นเรณุกาที่โดนกดลงกับพื้น จึงได้แต่ส่ายหน้า
“เรณุกา ยอมแพ้เถอะ”
“ฉันไม่มีวันยอมแพ้!บุริศร์ แกคิดว่าตัวเองชนะแล้วจริงๆเหรอ จะบอกแกให้ ขอแค่ตระกูลจันทรวงศ์ของเรายังมีผู้หญิงหลงเหลืออยู่แม้เพียงคนเดียว แกไม่ชนะหรอก ฉันจะต้องออกไปให้ได้!รอให้ฉันออกไปก่อน ฉันจะไปเล่นงานนรมน”
มาถึงป่านนี้แล้ว เรณุกายังคงไม่ลืมที่จะใช้นรมนมาขู่บุริศร์ บางทีสำหรับหล่อนแล้ว เคยชินกับชีวิตที่สุขสบายและสูงส่ง จึงไม่ยอมให้คนรุ่นลูกหลานมาแสดงอาการไม่เคารพ
บุริศร์มองเย็นชาแล้วพูด“ฉันจะไม่ให้โอกาสแกไปทำร้ายเมียฉันแม้แต่กระพี้เดียว”
ขณะพูด เขาให้คนกดเรณุกาไว้ แล้วส่งให้ตำรวจ
กิมจิเป็นลมหมดสติไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อเห็นกิมจิเป็นแบบนี้ แล้วย้อนนึกถึงความใจอ่อนของนรมน ในใจก็ไม่สบอารมณ์ แต่บุริศร์ก็ยังให้คนหามกิมจิไปส่งฉุกเฉินที่โรงพยาบาล ส่วนผลจะเป็นอย่างไร เขาไม่สนใจ
หลังจากที่นรมนกับกานต์จากไปกันอย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่นรมนทำคือหาคนมารักษาพฤกษ์ แล้วจัด แจงคนให้มาดูแล ตัวเองนั้นเป็นห่วงบุริศร์ คิดจะกลับไปดู แต่พอออกจากประตูห้อง ก็โดนคนข้างหลังโปะยาสลบ
ก่อนสลบ นรมนกร่นด่าในใจ แล้วรีบถอดสร้อยเขวี้ยงไปที่หน้าประตู
หลังจากที่บุริศร์จัดการเรื่องเรณุกาเสร็จ ก็รู้สึกหนักอึ้ง หลายปีมานี้ ในที่สุดคนที่คอยคุกคามตนเองกับนรมนก็ล้มลง
เป็นเพราะเรื่องธัญญายังไม่กลับกอง พฤกษ์จึงมีหลายเรื่องที่ต้องไปตรวจสอบด้วยตนเอง เป็นเพราะตรวจสอบด้วยตนเอง ถึงได้ประหลาดใจ และรู้สึกโกรธเคือง ที่แท้บิดาของตนถูกเรณุกาทำร้ายจนตาย
เมื่อจัดการกับเรณุกาเรียบร้อย บุริศร์จึงกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาอยากจะไปไหว้บิดากับนรมนสักครั้ง หลายปีมานี้ บิดาตายได้อย่างไม่ยุติธรรมเลย ลูกชายอย่างเขาอย่างไรก็ต้องไปจุดธูปไหว้สักดอก อีกอย่างร่างกายนรมนต้องการพักผ่อน หลังจากเรื่องนี้ เขาจะไม่ยอมให้เรื่องราวใดๆมารบกวนนรมนตอนกำลังบำรุงครรภ์อย่างสงบได้อีก
แค่หลังจากที่บุริศร์กลับมา หานรมนอย่างไรก็หาไม่พบ
“นภดล นรมนล่ะ”
บุริศร์หานภดลจนเจอ
บาดแผลของนภดลได้ระงับเลือดเรียบร้อยแล้ว และกำลังพักผ่อนเอาแรง พอได้ยินบุริศร์มาถามหานรมน จึงอดตะลึงไม่ได้
“เธอกลับห้องไปแล้วนี่”
“เธอไม่ได้อยู่ในห้อง”
บุริศร์ใจหายว๊าบ รีบกลับเข้าไปในห้อง แต่เท้าก็สะดุดของชิ้นหนึ่ง
“ของอะไร”
บุริศร์คิดสงสัยในใจ แล้วค่อยๆเก็บขึ้นมา เห็นสร้อยที่ดูคุ้นตามากอยู่หน้าประตูห้อง ถ้าไม่ดูละเอียด ก็จะไม่เห็น
นภดลเองก็วิ่งตามมา
“เกิดอะไรขึ้น”
“นรมนอาจจะโดนลักพาตัวไป”
สีหน้าของบุริศร์ดูหวั่นเกรง
ในนี้มีแต่คนกันเอง แต่นรมนก็ยังโดนลักพาไป บุริศร์เริ่มข้องใจในความสามารถตัวเอง
“วันนี้ใครอยู่เฝ้าเวร”
น้ำเสียงของบุริศร์กดจนคนรอบตัวไม่กล้าพูด
“บอกมา ใครอยู่เวร”
จู่ๆบุริศร์คำรามแบบนี้ ทำให้คนอื่นๆต่างหดตัวไปกันหมด
“ผมครับ”
ชายร่างผอมบางคนหนึ่งลุกขึ้น
“ประธานบุริศร์ ขอโทษครับ วันนี้ผมท้องเดิน ลุกไปห้องน้ำ เลยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนเช้ายังดีๆอยู่เลย นี่เกิดอะไรขึ้นครับ จู่ๆ……”
“แกควรภาวนาว่าขอให้นรมนไม่เป็นอะไร ไม่งั้นฉันจะให้แกฝังไปพร้อมกัน”
บุริศร์พูดจบหมุนตัวจากไป
ชายผู้นั้นตกใจจนลงไปกองกับพื้น อยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา
ทำไมถึงได้ซวยแบบนี้นะ
ทำไมจู่ๆถึงท้องเดินได้
หากแต่บุริศร์ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เขาสนใจแค่ความปลอดภัยของนรมน
นภดลขมุ่นคิ้ว
เขากระจากชายผอมบางขึ้นมา พูดเสียงค่อย“อยู่อธิษฐานที่นี่ ไม่สู้ไปหาวิธีด้วยกัน แถวนี้มีกล้องวงจรปิดอะไรบ้างมั้ย แกไปหามาเร็ว”
“ไม่กลัวผมหนีไปหรือครับ”
ชายร่างบางมองนภดล
นภดลยิ้มเย็นพูด“แกคิดว่าตัวเองมีปัญญาแค่ไหนเชียว ที่จะหนีรอดเงื้อมมือบุริศร์ไป แกคิดว่าแกเป็นเรณุกาเหรอ”
ชายร่างผอมบางหน้าแดงก่ำ
“ครับ ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้”
เขาหมุนตัวจากไป
บุริศร์มองดูทุกอย่าง แต่ไม่ได้พูดอะไร รีบออกตามหานรมนปากร้องเรียกนายหญิง เขารู้ว่าใจนภดล อยู่ที่นรมน
หลังจากที่วิ่งออกนอกห้อง บุริศร์กลับมาที่บ้านจันทรวงศ์อีกครั้ง ตอนนี้ที่บ้านจันทรวงศ์เละเทะไปหมด มีตำรวจเข้ามา คนที่เกี่ยวข้องหลายคดีก็โดนจับตัวไป
ดร.ฐานทัตกำลังหาศพลูกสาวตัวเอง ส่วนคุณนายจันทรวงศ์กำลังร้องไห้ไล่หลังดร.ฐานทัต
“ถ้าหาฉัตรยาไม่เจอ ฉันก็ไม่ขอมีชีวิตอยู่ต่อไป ติดตามคุณในชาตินี้ ถือว่าตาบอดจริงๆ ตอนแรกใครๆก็บอกว่าคุณเป็นหนุ่มหล่อมีความสามารถ ต้องดีกับฉันแน่ แล้วเป็นไงล่ะ ลูกเมียคุณยังปกป้องไม่ได้เลย!คุณมันคนขี้ขลาด!มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร”
คุณนายจันทรวงศ์ด่าทอราวกับแม่ค้าปากตลาด
บุริศร์เห็นแล้วไม่รู้สึกอะไร ได้แต่กระตุกแขนเธอ ถามว่า“นรมนล่ะ พวกคุณเอาเธอไปไว้ที่ไหน”
“จะบ้าเหรอ นรมนไปไหนฉันจะไปรู้ได้ไง”
คุณนายจันทรวงศ์รู้สึกว่าบุริศร์ท่าจะเพี้ยน
แต่สำหรับบุริศร์แล้ว คนที่จะพานรมนไปได้ก็น่าจะมีแค่บิดามารดาตระกูลจันทรวงศ์เท่านั้นแหละ เพราะว่าศพของฉัตรยาหายไป ส่วนนรมนก็หน้าตาคล้ายฉัตรยาเหลือเกิน สำหรับความโรคจิตของดร.ฐานทัตแล้ว บางทีเขาอาจจะซ่อนนรมนไว้ แล้วเอามาแทนที่ลูกสาวตัวเองก็ไม่แน่
คำพูดของคุณนายจันทรวงศ์ทำให้สีหน้าของบุริศร์ยิ่งไม่น่าดู
“ถ้าไม่บอก เชื่อมั้ยว่าตอนนี้จะเอาถึงตาย”
ระหว่างพูดเขาก็เริ่มลงมือ
คุณนายจันทรวงศ์รู้สึกลำคอถูกบีบเกร็ง เหมือนมีคีบหนีบก็ไม่ปาน แน่นขนัดไปหมด
เธอแทบจะหายใจไม่ออก
พอบุริศร์คิดว่านรมนกำลังถูกขังอยู่ในห้องขังที่ไร้เดือนไร้ตะวัน หรือว่าอาจจะอยู่ห้องใต้ดิน ในเขาก็รู้สึกเจ็บปวดยิ่ง
แม้ว่านรมนจะมีฝีมือดี แต่เขาลืมไปได้อย่างไร บางคนที่ดูแคลนจนจะไม่ลงมือกับเธอได้อย่างไร
บุริศร์เศร้าใจมาก กำลังฝ่ามือหนักขึ้นเรื่อยๆ คุณนายจันทรวงศ์ตาเหลือก จนแทบจะเหมือนปลาตัวหนึ่ง ที่ดิ้นกระเสือกกระสน
เธอรู้สึกว่าออกซิเจนในตัวกำลังค่อยๆขาดหายไป ราวกับกำลังจะตาย
ในช่วงที่คุณนายจันทรวงศ์กำลังจะโดนบีบคอตาย มือยาวคู่หนึ่งก็เข้ามาขวางมือบุริศร์
“ปล่อยมือ!”
ดวงตาบุริศร์แดงก่ำ
นรมนเป็นจุดอ่อนของเขา เป็นขีดจำกัดของเขา แต่กลับมาเกิดเรื่องต่อหน้าต่อตาเขา จะให้เขาทนไหวได้อย่างไรกัน วันนี้กลับมีคนมาสอดแทรก แน่นอนว่าบุริศร์ต้องไม่ยอมอยู่แล้ว
ตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมอง แววตาเต็มไปด้วยรอยสังหาร
“นภดล แกกล้าขวางฉันเหรอ”
“เธอเป็นแม่ของฉัตรยา ต่อให้พวกเขาทำอะไรที่ร้ายแรงกับฉัตรยา แต่ฉันตรวจสอบแล้ว พวกเขาไม่ได้ลงมือกับฉัตรยา และพวกเขาเองก็เกือบตายด้วยน้ำมือของเรณุกาเพราะฉัตรยา ตอนฉัตรยามีชีวิตอยู่หล่อนหวังว่าพ่อแม่จะรอดจากเงื้อมมือของเรณุกา และมีชีวิตที่ดี ความหวังนี้ฉันต้องทำให้เธอ!”
นภดลพูดจบ
คุณนายจันทรวงศ์จึงตกตะลึง พอเธอเงยหน้าเห็นเป็นนภดล ถึงได้รู้ว่าชายคนนี้มีแววตาลึกซึ้ง
บุริศร์ไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ เขาพูดเสียงเย็น“ฉันไม่สนว่าจะเพราะอะไร แค่เธอแตะต้องนรมน ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้ลงมาเอง ฉันก็ไม่ปล่อยไว้“
“มีข่าวนายหญิงแล้วครับ ไม่เกี่ยวกับหล่อน!”
นภดลพูดเสียงเรียบ บุริศร์จึงคลายมือลง