แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 827
“ตะลึงอะไร ไม่รีบไปช่วยอีก!”
คุณหมอเห็นพยาบาลมัวแต่ตะลึง จึงตะคอก
พยาบาลจึงคืนสติ
หลังจากยื้อชีวิตไว้ ร่างกายนรมนกระเพื่อมขึ้นลงไม่มั่นคง ทำให้หมอเหงื่อตก
บุริศร์รออยู่ด้านนอก ร้อนใจเป็นที่สุด อยากจะไปเป็นหมอเสียเอง จะได้เข้าไปเฝ้านรมน
ในเวลานี้ ชัยยศวิ่งหายใจหอบมา
“ประธานบุริศร์ครับ คุณนภดลบอกให้ผมเอาอันนี้มาให้ บอกช่วยนายหญิงได้”
นภดลอึ้ง พอเห็นของในมือชัยยศ ก็อดดีใจไม่ได้
เลือดของนภดล!
ป้องเคยบอกว่า เลือดของนภดลมีค่ามาก และได้ผลมาก
บุริศร์รับขวดมา บุกเข้าไปในห้องฉุกเฉินโดยไม่พูดอะไร
“ให้เลือดนี่กับเธอเร็ว!”
คำพูดบุริศร์ทำให้หมอตกตะลึง
“นี่คืออะไร”
“บอกให้ทำก็เร็วสิ!”
บุริศร์มีเวลาอธิบายที่ไหน
“นี่มันเกี่ยวเนื้องกับชีวิตคน พวกเรารับผิดชอบไม่ไหว”
คุณหมอไม่กล้า
พยาบาลรีบรับไป พูดเสียงค่อย“ฉันรับผิดชอบเองค่ะ”
พูดพลาง คุณหมอยังไม่ทันได้ตั้งตัว เธอก็เสียบเข้าไปในร่างนรมน
คุณหมอตกใจจนหน้าซีดขาว
“ปาณี ทำอะไรของเธอ ยังอยากทำงานอยู่ไหม ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดถึงชีวิต เธอรับไหวไหม”
พยาบาล ที่ชื่อปาณีพูดเสียงค่อย“คุณบุริศร์รักภรรยาขนาดนี้ รับรองไม่ทำร้ายเธอแน่นอนค่ะ”
“เธอจะไปรู้อะไร”
คุณหมอยังพูดไม่ทันจบ บุริศร์มองไปที่ปาณี
เธอเป็นเด็กสาวธรรมดา แต่บุริศร์คิดไว้ในใจแล้ว
“เธอชื่อปาณี?”
“ค่ะ”
“เก็บของลาออกจากโรงพยาบาล นับแต่นี้ เธอเป็นพยาบาลประจำตัวภรรยาฉัน เงินเดือนฉันให้สูงกว่าที่นี่เท่านึง”
คำพูดของบุริศร์ทำให้ปาณีตะลึง แต่ก็พยักหน้าอย่างดีใจ
“ขอบคุณค่ะคุณบุริศร์”
“ไปเถอะ”
การกระทำของบุริศร์ทำให้หมอไปไม่เป็น
ตอนนี้เอง นรมนเริ่มขยับ
“ไปดูภรรยาผมเร็ว”
บุริศร์ไม่ยอมออกไปไหน
ตอนนี้ หมอเองก็ไม่มีวิธีที่ทำให้บุริศร์ออกไป ได้แต่รีบตรวจนรมน
สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึง ชีพจรนรมนดีขึ้นมาก ค่าตัวเลขด้านอื่นๆก็ดีขึ้น
“เป็นไงบ้าง”
บุริศร์รีบถาม
คุณหมอพูดอย่างงงงวย“ทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติ อุณหภูมิร่างกายคุณผู้หญิงก็เพิ่มขึ้นแล้ว เมื่อกี้ของเหลวที่คุณบุริศร์ให้ปาณีคืออะไรหรือครับ”
“ไม่เกี่ยวกับคุณ ไม่ต้องถามหรอก รีบตรวจให้เธอเร็ว ถ้าไม่มีอะไรจะได้รีบเข้าวอร์ดผู้ป่วย”
“อ่อ ครับ”
เพราะบารมีของบุริศร์ หมอจึงไม่กล้าถามมากความ ถึงขนาดเสียดายนิดหน่อย ถ้าตอนนั้นตัวเองเหมือนปาณีไม่มีความสงสัยใดๆ ตอนนี้คงจะไม่เหมือนเดิมแล้วสินะ
แต่ทุกอย่างมันดูไม่เหมือนจริง อย่างไรเสียเขาก็เป็นหมอ
หลังจากที่ตรวจนรมนอยู่ยี่สิบกว่านาที ทุกอย่างคืนสู่ปกติ ถึงได้ส่งไปที่วอร์ดผู้ป่วย
บุริศร์เฝ้าอยู่ข้างกายเธอ มองดูสีหน้าที่มีเลือดฝาดของนรมน เขารู้สึกราวกับทุกอย่างไม่ใช่ความจริงถ้าไม่ใช่นภดล ตอนนี้นรมนกับลูกจะเป็นอย่างไร คิดว่าพอเดาออก
บุริศร์กำมือนรมนแน่น มืออุ่นๆนั้นทำให้หัวใจเต้นปกติ
เขาส่งข้อความให้นภดล
“ขอบใจนะ ฉันเป็นหนี้ชีวิตแกสองชีวิต”
“ผมควรทำครับ”
นภดลพูดจบก็ไปทำธุระตนเอง
ไม่นาน บุริศร์ได้ข่าว รเมศก็ตื่นแล้ว
นึกถึงรเมศ แววตาบุริศร์ก็เย็นเยียบ
ปาณียื่นลาออกเรียบร้อย รู้ว่านรมนไม่เป็นอะไร จึงรีบมาที่ห้องผู้ป่วย
“คุณบุริศร์คะ ฉันมาทำงาน”
“ดี ดูแลคุณผู้หญิงให้ดี ฉันจะออกไปข้างนอก”
บุริศร์จูบอย่างลึกซึ้งลงบนหน้าผากนรมน ถึงได้ยอมไป
ปาณีมองนรมน ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ
แต่ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะโชคดีหรือไม่ไม่ได้ดูที่หน้าตา ดูว่าสามีดีด้วยมากแค่ไหน ความรักที่บุริศร์มีให้นรมนทำให้ปาณีทั้งชื่นชมและอิจฉา ถึงขนาดมีความคิดที่ว่าอยากได้ผู้ชายแบบบุริศร์
ตอนแรกนรมนคิดว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางหิมะ หนาวเข้ากระดูกไปหมด เธอแทบขยับไม่ได้ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ไออุ่นได้แผ่เข้ามา ราวกับน้ำแข็งได้ละลายแล้ว ร่างกายค่อยๆอุ่นขึ้น
ค่อยๆ เธอรู้สึกนิ้วขยับได้ เธอรู้สึกโลหิตไหลเวียนไปทั่วร่าง เธอราวกับมีชีวิตอีกครั้ง
เธอไม่ต้องตายแล้วเหรอ
นรมนดีอกดีใจ อยากรีบตื่นเร็วๆ แต่รู้สึกอ่อนเพลียจนราวกับว่าโดนภูเขาทับ และกดแน่นบนหน้าอกเธอ ทำให้เธอรู้สึกอยากจะหลับลึกต่อไป
บุริศร์ออกจากห้องผู้ป่วยของนรมน แล้วตามนภดลมาที่ห้องรเมศ
รเมศรู้ว่าตัวเองโดนช่วยจนฟื้น จึงคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของ ถึงขนาดเริ่มจู่โจมคนรอบตัว ถ้าไม่ใช่นภดลเตรียมบอดี้การ์ดไว้ล่วงหน้า คาดว่าเขาคงฉีกนภดลเป็นชิ้นๆด้วย
“บุริศร์จ่ายแกมากเท่าไหร่ ถึงได้รับใช้เขาเหมือนหมาแบบนี้ นภดล บ้านจันทรวงศ์ถูกนภดลทำลาย แกไม่คิดจะแก้แค้นให้บ้างหรือไง”
คำพูดของรเมศ สำหรับนภดลแล้วเป็นเพียงมลพิษทางเสียง
เขาลุกขึ้นเตรียมออกจากห้องผู้ป่วย เจอบุริศร์ที่ทางเดิน
“ประธานบุริศร์”
“ต่อไปเรียกชื่อก็พอ”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นภดลอึ้ง หมายความว่าไง เขาเข้าใจดี แต่นภดลยังพูดเสียงค่อย“ทำลายระเบียบไม่ได้”
“ไม่มีระเบียบอะไรนี่ อาณาจักรรัตติกาลเป็นของแก เดิมทีไม่ใช่สิ่งที่ฉันควรบริหาอยู่แล้ว แกกับฉันไม่ได้เป็นนายบ่าว ไม่ต้องเรียกแบบนั้น เราเป็นเพื่อนกัน”
บุริศร์หยิบบุหรี่ยื่นให้นภดล
นภดลก็ไม่ได้ปฏิเสธ หยิบมาจุด สูบสองคำ พูดเสียงค่อย“รเมศอาละวาดอยู่ข้างใน”
“ทำให้มันหุบปาก แค่หายใจก็พอ”
ตอนนี้แค่ได้ยินชื่อรเมศบุริศร์ก็อยากฆ่าละ แต่ทำไม่ได้ ต้องเก็บไว้
นภดลพยักหน้า หลังจากเข้าไปไม่นาน ก็มีเสียงรเมศร้องโหยหวนออกมา
พอเห็นนภดลออกมา รเมศจึงถามเสียงค่อย“ตายไหม”
“ยัง ยังหายใจได้ จะว่าไป ที่นี่โรงพยาบาล ขอแค่จ่ายเงิน เขาไม่ตายหรอก”
ได้ยินนภดลพูดแบบนี้ บุริศร์รู้ ไม่กี่ปีนี้ที่นภดลมีชีวิตรอดจากบ้านจันทรวงศ์ น่าจะเพราะยังมีบุญ
แต่แบบนี้นภดลชอบ
บุริศร์ตบบ่านภดล พูดเสียงค่อย“มีเวลาไปออกกำลังบ้าง แกอ่อนแอไปแล้ว”
“ตกลง งั้นช่วยแนะนำด้วยแล้วกัน”
“ตกลง”
บุริศร์พูดจบจึงเปิดประตูห้อง
แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้ว บุริศร์ก็ยังคงชะงัก
เขาคิดไม่ถึงว่านภดลจะโหดร้ายได้ขนาดนี้
ร่างกายของรเมศขดเข้าหากันอย่างผิดรูอยู่ตรงนั้น และหมอบคลานอยู่บนพื้นราวกับหมาตัวหนึ่ง ดูเหมือนคนที่เหลือแต่ลมหายใจจริงๆ
“ใครทำแบบนี้”
บุริศร์ถามเสียงเรียบ
ชัยยศรีบมองดูข้างนอก พูดเสียงเบา“คุณนภดลครับ”
“เขาคนเดียวเหรอ”
“ครับ”
ได้ยินคำตอบของชัยยศ บุริศร์ยิ้ม
มีคนแบบนี้อยูข้างตัวนรมน เขาวางใจขึ้นเยอะ
ตอนที่บุริศร์มาคุกเข่าลงข้างๆรเมศ ดวงตารเมศแดงก่ำ
“ฆ่าฉันซะเถอะ!บุริศร์ สร้างความอัปยศแบบนี้ให้ฉันไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ”
“ไม่ต้องรู้สึกอะไรนี่ และใช้ไม่ได้ต้องการสร้างความอัปยศให้แก แต่จะทรมานแก แกกล้าที่จะให้นรมนไปตายกับแกในห้องเย็น รเมศ แกกล้ามากแค่ไหนเชียว ถ้าไม่ได้เห็นแก่ห้าปีก่อนแกเคยช่วยเธอไว้ แกคิดว่าคราวที่แล้วฉันจะปล่อยแก ปล่อยบ้านวัชโรทัยอย่างนั้นหริอ แกไม่รู้จักเจียมหัวไสหัวกลับไปอยู่ดีๆของแกเอง ยังคิดจะมาก่อเรื่องกับนรมนอีก แกคิดว่าคนอย่างบุริศร์รังควาญกันได้ง่ายๆเหรอ”
น้ำเสียงบุริศร์ไม่ดัง ถึงขนาดไม่มีแม้โทนเสียง แต่กลับทำให้คนสามารถหวาดผวาถึงความตาย
รเมศพูดอย่างโกรธเคือง“เดิมทีเธอก็ไม่ใช่ของแกอยู่แล้ว แกก็ได้แต่ทำร้ายเธอเท่านั้นแหละ ในเมื่อคุ้มครองเธอไม่ได้ ทำไมไม่ปล่อยมือ ”
“เป็นเรื่องของฉันกับเธอ แกไม่ต้องเสือก แกถึงขนาดไม่สนใจบ้านวัชโรทัยและให้นรมนมาตายพร้อมแก ได้สิ ฉันจะทำให้แกสมปรารถนา ตั้งแต่แกพานรมนไป บนโลกนี้ก็จะไม่มีบ้านวัชโรทัยอีกต่อไป ตอนนี้แกรู้แล้วหรือยังล่ะ ย่าของแก อายุปูนนี้แล้ว แกว่าฉันจะขายไปที่ไหนดี”
“อย่าแตะต้องคุณย่า!”
รเมศแทบจะกระโดดโผลงขึ้น แต่ร่างกายถูกทุบจนกระดูหักทุกท่อน เจ็บปวดรวดร้าว
บุริศร์ยกเท้าขึ้น กระทืบลงไปบนแขนเขาอย่างแรง พูดเสียงเย็น“แกมีคนที่ห่วงด้วยเหรอ ฉันคิดว่าแกไม่กลัวตาย แล้วจะไม่กลัวฉันทรมานคนในบ้านเสียอีก จริงสิ ฉันลืมบอกแก ฉันเจอแม่แกด้วย หรือจะให้หล่อนมาดูสารรูปแกในตอนนี้ดี”
“ไม่!อย่า!อย่าให้แม่มาเห็น!”
รเมศแทบจะล่มสลาย
เขาจะละทิ้งบ้านวัชโรทัยทั้งบ้านก็ได้ สามารถทิ้งทุกอย่างได้ แต่โลกใบนี้คนที่เขาทิ้งไม่ได้ก็คือแม่
บุริศร์จับจุดอ่อนตรงนี้ได้
เขาพูดเสียงเย็น“ในตอนที่แกแตะต้องนรมน แกควรรู้ว่า เธอเป็นของฉันบุริศร์ แกแตะต้องไม่ได้ แต่ในเมื่อแกแตะต้องแล้ว ฉันก็ให้อภัยแกไม่ได้ ฉันให้โอกาสแกกับบ้านวัชโรทัยแล้ว แต่แกไม่รักษาเอง ก็อย่าโทษฉันเลย แกคงจะเคยได้ยิน ต้องเตรียมตัวทุกวันคืน สู้ให้จบภายในวันเดียวไม่ได้ ฉันกลัวแกกับพวกวัชโรทัยจะล้างแค้น แกว่าฉันจะทำลายล้างบ้านวัชโรทัยกับแม่แกมั้ยล่ะ”
รเมศได้ยินบุริศร์พูดดังนั้น จึงล้มทั้งยืน
เขาร้องไห้ราวกับเด็กที่หมดหนทาง
“บุริศร์ ฉันผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ!ฉันไม่กล้าอีกต่อไปแล้ว ขอร้องล่ะ ปล่อยบ้านฉันไปเถอะ แกจะทำไงกับฉันก็ได้ หรือจะยืดเวลาให้ฉันทรมานฉันจะไม่ร้องสักคำ ขอแค่ปล่อยบ้านฉันไปได้ไหม”
รเมศผู้เคยงามสง่า รเมศคนที่เคยโดดเด่นที่อเมริกา ตอนนี้เหมือนหมาหางขาดที่ร้องขอชีวิตบุริศร์ แต่บุริศร์จะปล่อยเขาไปจริงๆหรือ