แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 850
“เด็กคนนี้ รีบลุกขึ้นมา มีอะไรจะพูดให้ลูกลุกขึ้นก่อนค่อยว่ากัน”
คิมรีบประคองนรมน แต่นรมนพูดเสียงทุ้ม “แม่ ฉันพาคุณน้ามา”
“น้าอะไร? ลูกมีคุณน้าที่ไหน?”
คิมพูดจบทั้งร่างก็ตกตะลึง
เธอจ้องมองนรมน ไม่ค่อยเข้าใจว่าเธอพูดอะไร
“ลูกพาใครมา?”
“น้าฉัน เทย่า อยู่นอกประตู”
เพิ่งสิ้นคำพูดนรมน คิมก็ปล่อยมือเธอทันที พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ไปซะ!”
“แม่ แม่ฟังฉันพูดก่อน”
“ฉันสั่งให้เธอออกไป! พาหล่อนออกไปด้วย!”
การพลิกหน้ากลายเป็นโกรธของคิมกะทันหันทำให้นรมนไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ไม่ได้โกรธ
“แม่ ทำไมแม่ถึงขับไล่คุณน้าแบบนี้?”
“ฉันบอกแล้ว ให้เธอพาหล่อนออกไป ต้องให้ฉันพูดเป็นรอบที่สามเหรอ? ถ้าเธอกตัญญูกับฉันจริงๆ เห็นฉันเป็นแม่เธอจริงๆ ตอนนี้พาหล่อนออกไปซะ ชีวิตนี้อย่าปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก”
คิมพูดอย่างเด็ดขาด
นรมนมองเธอ พูดขึ้นเสียงทุ้ม “ฉันมัดเธอมา ด้านนอกอาจจะมีคนของเธอ ถ้าฉันพาเธอออกไปจากที่นี่ ฉันอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอแม่อีกแล้วก็ได้”
“หมายความว่าไง?”
คิ้วคิมขมวดเข้าหากันแน่น
นรมนพูดเสียงทุ้ม “ฉันรับเธอมาจากประตูทางเข้าบ้านคุณตา เธอบอกว่าเธอคิดถึงคุณ ตั้งหลายปีแล้ว อยากกลับมาพบกันแบบสองพี่น้อง”
“เหลวไหล!”
คิมเป็นคนที่มีหลักการและได้รับการศึกษา แต่ขณะที่นรมนพูดอยู่เธอก็พูดโพล่งคำหยาบออกมา มันทำให้นรมนตกตะลึง
“แม่ คุณ……”
“ฉันกับเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์พี่น้องกัน ถ้าเลือกได้ ฉันยินยอมไม่เกิดแม่เดียวกับเธอ”
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
นรมนค่อนข้างสงสัย
คิมมองเธอ ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “เรื่องมันยาว ลูกลุกขึ้นก่อนเถอะ ระวังร่างกายหน่อย สภาพแม่ในตอนนี้มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ถ้าให้ลูกแท้งเด็กที่กว่าจะท้องได้ แม่คงตายตาไม่หลับ”
“แม่ แม่อย่าพูดแบบนี้”
นรมนฟังแล้วในใจเจ็บปวด
หลังจากเธอลุกขึ้น ก็ได้ยินคิมถามขึ้น “ลูกบอกว่ารอบๆ นี้เป็นคนของเธอเหรอ?”
“อาจจะ เราเห็นคนของเธอที่สนามบินกับประตูทางเข้าสถานีตำรวจ ตอนนี้มาที่นี่ก็ไม่รู้ว่า……”
“พาเธอเข้ามาเถอะ”
จู่ๆ คิมก็พูดแบบนี้ กลับทำให้นรมนตกตะลึง
“ว่าไงนะคะ?”
“พาเธอเข้ามา”
คิมพูดอีกครั้ง นรมนถึงได้ตอบสนอง
เธอรีบออกไป ให้นภดลพาเทย่าเข้ามา ตัวเองประคองปาณีเข้ามาในบ้าน
มิลินเห็นท่าทางการเดินของปาณี ก็พูดเสียงทุ้ม “กระดูกก้นกบหัก ต้องพักผ่อนสองสามวันห้ามขยับ”
“ขอบคุณค่ะ”
นรมนส่งปาณีให้กับมิลินทันที
มิลินทำหน้ามืดมนพูดขึ้น “ฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะรักษาเธอ”
“ไม่งั้นให้ฉันเรียกกิจจามา?”
นรมนยิ้มเย้าแหย่ แต่ได้ยินมิลินพูดขึ้น “ได้ ให้เขามา ฉันคิดถึงเขา ทักษะการแพทย์ในชีวิตนี้ของฉันยังไม่ได้สอนเขาเลย”
คำพูดนี้ทำให้นรมนชะงัก จากนั้นก็พูดอย่างรู้สึกผิด “ตอนนี้ยังไม่ได้ อีกสองวันได้ไหม? รอบุริศร์จัดการเรื่องทางนี้เสร็จก่อน ฉันรับประกันว่าจะพาเขามาหาคุณ”
“เรื่องอะไร?”
“เรื่องน้าฉัน”
สิ่งที่นรมนสามารถพูดได้มีแค่นี้
มิลินเห็นว่าเธอยากที่จะพูด จึงพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เอาเถอะ รีบเข้าไป ทางนี้ฉันจัดการเอง”
“ขอบคุณ”
นรมนเพิ่งพูดจบ ปาณีก็ดิ้นแล้วพูดขึ้น “คุณนาย ฉันต้องดูแลคุณ”
“สภาพเธอในตอนนี้ เธอยังดูแลหล่อนได้เหรอ? ถ้าเธออยากนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ เธอก็ไปดูแลซะ”
น้ำเสียงมิลินแย่มาก แต่นรมนรู้ว่าจิตใจเธอไม่เลวร้าย
นรมนมองปาณี พูดเสียงทุ้ม “ให้ความร่วมมือในการรักษาดีๆ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ต้องการให้ใครมาดูแลรับใช้ รู้ไหม? แต่เธอต้องพักผ่อนให้เต็มที่ ฉันจะรอเธอคอยเลี้ยงเด็กน้อยกับฉันในอนาคตนะ”
เห็นนรมนพูดแบบนี้ ปาณีก็ทำได้แค่พยักหน้า
นรมนและนภดลพาเทย่าเข้าไปในบ้านคิม
คิมเห็นเทย่าถูกมัดและหมดสติ ดวงตาก็เกิดความซับซ้อนเล็กน้อย
ไม่เจอกันตั้งหลายปี เทย่าแก่แล้ว แต่ไม่ได้แก่จริงๆ อย่างน้อยผิวเธอก็ยังดีอยู่ ไม่เคยสัมผัสลมฝนใดๆ เลย
“พูดให้ฉันฟังหน่อย ในปีที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตเป็นยังไงบ้าง?”
คำถามของคิมทำให้นรมนตกตะลึงเล็กน้อย
เมื่อครู่นี้ยังไม่สนใจกันอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ถามเรื่องเทย่า?
นรมนรีบบอกคิมในสิ่งที่ตนรู้ รวมถึงพูดเรื่องเจตต์ด้วย
หลังจากคิมฟังจบแล้ว ก็ทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจแล้วพูดขึ้น “เธอยังฉลาดแกมโกงเหมือนตอนเด็กๆ หลายปีมานี้ คนข้างนอกเป็นโล่ให้เธอ เธอซ่อนตัวในสถานพักฟื้นควบคุมทุกอย่าง แต่ทำให้คนอื่นเห็นใจเธอเพราะความรู้สึกซึมเศร้า คนอย่างเธอน่ะ ไม่มีหัวใจเลย จะทำร้ายตัวเองจนกลายเป็นแบบนั้นเพราะผู้ชายคนเดียวได้ยังไง? ฉันเห็นเพลิงไหม้นั้นในตอนแรก ก็เดาว่าต้องเกี่ยวข้องกับเธอ”
นรมนทั้งร่างรู้สึกตะลึงงัน
“เพลิงไหม้? เพลิงไหม้อะไร? แม่ แม่จะบอกว่าเหตุเพลิงไหม้ที่เจตต์ประสบในปีนั้นเธอเป็นคนวางแผนเหรอ? เป็นไปได้ยังไง? นั่นลูกชายแท้ๆ ของเธอนะ!”
นรมนไม่กล้าจะเชื่อเลย
คิมยิ้มเยาะพูดขึ้น “ลูกชายแท้ๆ เหรอ? อย่าว่าแต่ลูกชายแท้ๆ พ่อแท้ๆ หล่อนก็หลอกใช้เหมือนกัน เธอว่าไหม? น้องสาวที่รักของฉัน! หลายปีที่ผ่านมาเธอตามหาฉันมาตลอด อยากจะควบคุมฉันไว้ในมือเธอมาตลอด ตอนนี้ฉันอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ทำไมเธอยังแกล้งตายอยู่อีกล่ะ?”
นรมนตกตะลึงไปทั้งร่าง
“แม่ แม่พูดอะไรน่ะ? เธอ……”
“ไม่เจอกันตั้งหลายปี พี่สาวก็ยังฉลาดมากเหมือนเดิม”
ทันใดนั้นเทย่าก็นั่งตัวตรง ไม่มีสภาพสลบเลยสักนิด?
นรมนอึ้งไปทั้งร่าง
“คุณ ทำไมคุณ……”
คิมหัวเราะเยาะพูดขึ้น “ยัยทึ่ม ลูกคิดจริงๆ เหรอว่าน้าคนนี้ของลูกเป็นผู้หญิงอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง?”
“หรือว่าไม่ใช่?”
เทย่ามองนรมน ยิ้มขณะพูดขึ้น “ถ้าฉันไม่แกล้งสลบ จะรู้ได้ยังไงว่าพี่สาวฉันอยู่ที่ไหน? ใช่ไหมพี่สาว”
“เธอไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่สาว ฉันขยะแขยง”
คิมไม่ไว้หน้าเทย่าเลยสักนิด
นรมนรู้สึกหดหู่ไปทั้งร่างกาย
เธอคิดว่าตัวเองฉลาด ไม่คิดว่าสุดท้ายก็ยังโดนเทย่าหลอกใช้
ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวเกินไปจริงๆ !
“เหตุเพลิงไหม้ของเจตต์ในปีนั้นคุณเป็นคนทำจริงๆ เหรอ?”
นรมนไม่เชื่อ มองเทย่าที่ดูแปลกตาตรงหน้าอีกครั้ง ต้องเอ่ยปากถาม
ดวงตาเทย่าหรี่ลง พูดขึ้นเสียงทุ้ม “ฉันก็ไม่มีทางเลือก ถ้าไม่ทำแบบนั้น ฉันไม่มีเหตุผลในการหนีจากโลก”
“คุณมันไม่ใช่คน! คุณมันปีศาจ! ไม่! คุณน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจอีก! มีคนบอกว่าเสือมันร้ายแค่ไหนก็ไม่กินลูกตัวเอง คุณยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานอีก คุณเคยคิดไหม ถ้าเหตุเพลิงไหม้ในตอนนั้นฉันไปไม่ทัน เจตต์อาจจะตายจริงๆ! เขาดีกับคุณมาก กตัญญูกับคุณมาก คุณทำแบบนี้ได้ยังไง?”
นรมนอยากจะตบเธอสักสองที แต่ขยับมือไม่ได้
เพราะไม่ว่าอย่างไร เทย่าก็เป็นผู้ใหญ่ของเธอ และคิมก็อยู่ที่นี่ ยังไม่ถึงเวลาที่เธอลงมือ
คิมได้ยินคำพูดนรมน ก็ยิ้มเยาะพูดขึ้น “เธอไม่มีหัวใจเลย จะสนใจชีวิตลูกชายตัวเองได้ยังไง? สำหรับเธอ ไม่มีใครสำคัญไปกว่าพ่อของเธอแล้ว เพื่อพ่อคนนั้นที่เธอไม่ได้เจอสองสามครั้ง เธอสามารถฆ่าแม่ตัวเองด้วยน้ำมือตัวเองได้ ยังมีอะไรที่เธอทำไม่ได้อีกล่ะ?”
“ว่าไงนะ?”
นรมนอึ้งอีกครั้ง
เทย่าเหมือนถูกกระตุ้น ทันใดนั้นเสียงก็พูดเสียงดังขึ้น
“เธอหุบปากนะ! เธอมีสิทธิอะไรมาว่าฉัน? ตอนที่ฉันกับแม่ถูกไอ้แก่ตายยากของพ่อเธอไล่ออกจากบ้าน เธอเคยรั้งเราไว้ไหม? ตอนที่เราลำบากมากที่สุด เธอไม่แม้แต่จะแบ่งเงินช่วยเหลือมาให้เราเลยด้วยซ้ำ ฉันเคยไปตามหาเธอที่โรงเรียน ฉันบอกว่าฉันจะลาออกจากโรงเรียนแล้ว ให้เธอช่วยฉันหน่อย เธอมาเจอฉันไหม? เธอยอมเห็นฉันถูกแช่แข็งนอกโรงเรียนเธอ ถูกคนเอาตัวไป เธอไม่มาเจอฉันเลยสักครั้ง เธอมีสิทธิอะไรมาว่าฉันว่าจิตใจโหดเหี้ยม?”
คิมมองเธอพูดเรื่องในอดีตออกมา ก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “เธอรู้ไหมว่าทำไมฉันไม่ช่วยเหลือพวกเธอ? เธอรู้ไหมว่าทำไมฉันไม่ห้ามตอนพ่อไล่พวกเธอออกไป? เพราะแม่ไงล่ะ เพราะแม่บอกฉันว่าพ่อแท้ๆ ของเธอคือใคร หล่อนบอกฉันว่าชีวิตนี้ของหล่อนรู้สึกผิดกับพ่อฉันมากพอแล้ว ทำให้ตระกูลพรโสภณอับอาย หล่อนไม่อนุญาตให้ฉันติดต่อกับพวกเธอ หล่อนเอาชีวิตของหล่อนมาขู่ฉัน ถ้าฉันห้ามไม่ให้พวกเธอออกไป ถ้าฉันไปตามหาพวกเธอ หล่อนจะตายต่อหน้าฉัน!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดวงตาคิมก็เปียกชื้น
นรมนอึ้งไปเช่นกัน
ทำไมคุณยายขอร้องแบบนี้ล่ะ?
เทย่ากลับส่ายหน้าซ้ำๆ “ฉันไม่เชื่อ! เธอพูดไร้สาระ! นี่มันเป็นข้ออ้างของเธอทั้งนั้น! เธอพูดขึ้นเพื่อหลอกฉัน! หล่อนจะทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง? ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง? ฉันก็เป็นลูกสาวหล่อนนะ! เป็นลูกสาวที่หล่อนท้องมาสิบเดือน! เธอมีสิทธิอะไรมาทำกับฉันแบบนี้?”
เห็นท่าทางสะเทือนใจของเทย่า คิมก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “เธอไม่รู้หรอกว่าอะไรคือความรัก แม่เลี้ยงดูเธอมา ถึงหล่อนจะรู้ประวัติชีวิตของเธอ แต่หล่อนก็ไม่ทอดทิ้งเธอด้วยเหตุผลนี้ แต่พาเธอออกไปจากตระกูลพรโสภณ หล่อนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเลี้ยงดูเธอ แต่เธอทำอะไรลงไป? ก่อนที่ออกไปจากตระกูลพรโสภณเธอรู้สถานะของตัวเองแล้วใช่ไหม? เธอรู้แล้วว่าเธอไม่ใช่ลูกของตระกูลพรโสภณใช่ไหม? เธอทำอะไรลงไป? คิดจริงๆ เหรอว่าไม่มีใครรู้? เธอขโมยกระสุนจากปืนพ่อฉันไป เธอไม่รู้เหรอว่าการกระทำนี้ของเธอสามารถทำให้พ่อฉันตายได้เลย? ไม่! เธอรู้ เธอจงใจทำแบบนี้ วันต่อมาเธอเห็นพ่อไม่เป็นอะไร เธอก็ผิดหวังและสงสัย ตอนนี้ฉันจะบอกเธอให้ เรื่องที่เธอทำในคืนนั้นฉันอยู่ข้างหลังเธอ ฉันไม่คิดเลย น้องสาวของฉัน เธอที่เติบโตที่ตระกูลพรโสภณมาหลายปี ถึงจะอายุแค่สิบสองสิบสาม แต่เธอจิตใจโหดเหี้ยมอยากจะยืมมือใครสักคนเพื่อฆ่าคนอื่น! ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันก็บอกตัวเองว่าฉันไม่มีน้องสาวอย่างเธอ เธอไม่ใช่น้องสาวฉัน!”
เมื่อเรื่องราวในอดีตถูกคิมเล่าออกมา ดวงตาสองข้างของเทย่าก็เบิกกว้าง เธอไม่คิดเลยว่าตอนแรกที่คุณท่านพรโสภณไม่เป็นอะไรเพราะคิมแอบช่วยชีวิตเขาไว้เบื้องหลัง