แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 881
“หม่ามี้ รู้สึกไม่ดีมากๆเลยใช่ไหมครับ?”
กานต์เห็นท่าทางไม่สบายใจของนรมน กำลังมองนรมนด้วยท่าทางน่าเอ็นดูเป็นพิเศษ สายตาอย่างนั้นเหมือนจะทำให้หัวใจของนรมนละลายไปเลยจริงๆ
“ไม่หรอกจ๊ะ หม่ามี้ยังมีกานต์ ยังมีกิจจากับกมล แค่เห็นพวกเราความกลุ้มใจของหม่ามี้ก็หายไปหมดแล้ว” นรมนอุ้มกานต์ขึ้นมา
กานต์ดิ้นขลุกขลักเล็กน้อย
“หม่ามี้ ผมตัวหนักขึ้นเยอะแล้ว ตอนนี้สุขภาพของหม่ามี้ไม่ดี อย่าอุ้มผมเลยครับ”
“เด็กโง่ของหม่ามี้ ไม่ว่าตอนไหน สำหรับหม่ามี้แล้ว เราก็คือของล้ำค่าที่หม่ามี้รักที่สุดตลอดไป ไม่ต้องพูดแล้ว ให้หม่ามี้กอดเราหน่อย หม่ามี้จำไม่ได้แล้วว่านานขนาดไหนที่ไม่ได้กอดเราให้เต็มที่เลย”
นรมนอุ้มกานต์ขึ้นมาบนหน้าตักของตนเอง เพราะลูกชายทั้งร่างกายจึงอบอุ่นอ่อนโยนขึ้นมา
ใช่สิ เธอทนไม่ได้หรอกที่ลูกชายจะอยู่ห่างจากตนเองเป็นเวลานาน แล้วไหนจะตำหนิพ่อแม่ของตระกูลธนาศักดิ์ธนเรื่องตามหาลูกสาวแท้ๆอีกล่ะ? แม้วันนี้เนตราจะคุยด้วยยาก แต่เห็นแก่หน้าของพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธน บางทีเธออาจจะอดทนได้สินะ?
นรมนเอาแต่ปลอบใจตนเองไม่หยุด ถึงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ตอนที่ป้าหวานขึ้นมา นรมนยังกำลังคุยอะไรกับกานต์อยู่
“คุณนายคะ พ่อแม่ของตระกูลธนาศักดิ์ธนจะกลับแล้ว คุณจะลงไปส่งไหมคะ?”
นรมนชะงักเล็กน้อย
“อื้ม ฉันจะลงไป”
เธออุ้มกานต์ไปบนเตียง พูดเบาๆ: “เราเล่นไปก่อนนะ หม่ามี้จะไปส่งคุณตาคุณยาย”
“ผมไปกับหม่ามี้ด้วย”
กานต์พูดแล้วก็จะลุกขึ้น แต่กลับโดนนรมนห้ามเอาไว้
“ไม่ต้องๆ พวกเขาคือคุณตาคุณยายนะ ไม่ใช่สัตว์ร้ายที่ไหนซะหน่อย กินหม่ามี้ไม่ได้หรอก สบายใจได้จ๊ะ”
“ผมไม่วางใจเนตราคนนั้นต่างหาก”
กานต์ขมวดคิ้วแน่น
นรมนยื่นมือออกไปถูๆจมูกเขา ยิ้มแล้วพูดขึ้น: “อย่าทำตัวไม่รู้จักกาลเทศะ ลูกควรจะเรียกเธอว่าคุณน้านะ”
“เชอะ เธอไม่คู่ควร”
กานต์ดื้อรั้น แต่นรมนก็ไม่ฝืนใจเขา ลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าเล็กน้อย แล้วออกไปจากห้อง
เนตราเห็นนรมนออกมา ก็พูดจาเหยียดหยาม: “ลูกสาวคนรวยสินะ พ่อกับแม่จะกลับแล้วเธอถึงโผล่ออกมาได้ ก็ไม่เห็นจะนั่งคุยเป็นเพื่อนพ่อกับแม่หน่อยเลย เป็นอย่างนี้ พ่อกับแม่ยังทำเหมือนเธอเป็นของล้ำค่าอีก”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว”
แม่นรมนดึงเนตราเล็กน้อย แล้วมองไปที่นรมน ยิ้มพูดขึ้น: “นรมน พ่อกับแม่กลับก่อนนะ ของของเนตราพรุ่งนี้แม่จะส่งมาให้อีกที”
“แม่ จะส่งของอะไร เสื้อผ้าพวกนั้นเก่าหมดแล้ว ให้เธอซื้อชุดใหม่ให้หนูก็ได้”
เนตราพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ
นรมนหรี่ตาลง ไม่ได้พูดอะไร
แม่นรมนกับพ่อนรมนรู้จักนิสัยของนรมนดี จึงรีบพูดขึ้น: “งั้นก็ลำบากลูกหน่อยนะ นรมน ถ้าเงินไม่พอที่พ่อแม่มี”
พูดๆแล้ว แม่นรมนก็หยิบบัตร ATM ออกมา แต่กลับโดนเนตราแย่งไป
“ตอนนี้เธอเป็นถึงคุณนายบุริศร์แล้ว จะไม่มีเงินได้ยังไง? บัตรใบนี้หนูขอนะ พอดีช่วงนี้หนูก็อยากไปทำหน้าบ้าง”
“เนตรา”
แม่นรมนมองเธอด้วยความกลัดกลุ้ม แต่เนตราก็ไม่ใส่ใจอยู่แล้ว
นรมนกอดอก พูดขึ้นเบาๆ: “พ่อคะแม่คะ หนูว่าพ่อแม่พาเธอกลับไปเถอะค่ะ ที่นี่หนูไม่ต้องการญาติพี่น้องอยู่แล้ว ลูกชายของหนูเองยังไม่เป็นอย่างนี้เลย ไม่มีกฎระเบียบอะไรสักนิด รู้อยู่ว่า เป็นลูกของตระกูลธนาศักดิ์ธนของเรา แต่ไม่รู้ว่า อะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด”
“นรมน เธอหมายความว่าไง? เธอพูดให้รู้เรื่องนะ ตอนนี้นามสกุลกับชื่อของเธอพ่อแม่ฉันเป็นคนให้เธอ เป็นพ่อแม่ของฉัน! รู้ไหม? ให้เธอซื้อเสื้อผ้าไม่กี่ตัวมันจะเป็นอะไร? เธอยังจะบ่นไม่จบไม่สิ้นอีก? ฉันว่าพวกเธอคงขาดคนดูแล ฉันจะบอกเธอให้ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ฉันพูดอะไรเธอเชื่อฟังจะดีที่สุด ไม่งั้น……”
“แล้วไง?”
นรมนเห็นเนตราทำท่าทางดุดันอยู่ต่อหน้าตนเอง ก็รู้สึกเบื่อหน่ายจนถึงที่สุด ถ้าไม่ได้เป็นห่วงความรู้สึกของพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธน เธอก็ขี้เกียจจะพูดด้วยแม้แต่คำเดียว
แต่เนตรากลับไม่รู้จักชั่วดี พูดเอะอะตะโกนออกมา: “แล้วไง? อย่างนี้ไง?”
พูดๆแล้ว เธอก็สะบัดฝ่ามือมาทางใบหน้าของนรมน
“เนตรา!”
แม่นรมนตกใจจนหัวใจแทบจะหลุดออกมา คิดจะห้าม แต่น่าเสียดายที่ไม่ทันแล้ว
เห็นฝ่ามือของเนตราถึงด้านหน้าของตนเอง นรมนหรี่ตาลงเล็กน้อย ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว จับข้อมือของเธอเอาไว้ทันที แล้วออกแรงเล็กน้อย
“โอ๊ยๆ! มือฉัน มือ! แม่! แม่!”
เนตราร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
แม่นรมนก็สงสารขึ้นมาทันที
“นรมน เนตราอยู่ข้างนอกไม่มีคนอบรมสั่งสอนมานาน คำพูดคำจาทำเรื่องอะไรไม่มีขอบเขต ลูกอย่าคิดเล็กคิดน้อยเลยนะ”
“งั้นก็ดี ช่วงนี้อยู่เรียนกฎระเบียบกับฉันที่นี่แล้วกัน ในเมื่ออยากจะเป็นคุณหนูของตระกูลธนาศักดิ์ธน ก็ควรจะเข้าใจมารยาทของคุณหนูไว้หน่อยแล้วค่อยว่ากัน”
นรมนทิ้งเนตราลงไปบนโซฟาทันที สายตาเย็นชา
จู่ๆแม่นรมนก็รู้สึกเสียใจ
“งั้นแม่กับพ่อพาเนตรากลับไปดีกว่า”
“ไม่ใช่ว่าจะทำห้องให้เธอเหรอคะ? หรือแม่กลัวว่าหนูจะกินเธอเข้าไป? ให้เธอกลับไปที่ตระกูล ธนาศักดิ์ธนด้วยสภาพนี้ ถ้าก่อปัญหาให้พ่อแม่ที่อายุเยอะแล้ว พ่อกับแม่จะจัดการยังไงคะ? ถึงตอนนั้นก็ยังต้องให้หนูออกหน้าแก้ปัญหาไม่ใช่เหรอคะ? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ตั้งใจเรียนกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดดีกว่า แม่ยังจำได้ไหม? แม่เคยพูดกับหนูตอนยังเด็ก ตระกูลของเราสืบทอดความรู้และวัฒนธรรมอันดีงาม พิถีพิถันในเรื่องมารยาท ทำไมคะ? คำพูดพวกนี้พอเป็นเธอก็ไม่จำเป็นแล้วเหรอ?”
คำถามของนรมนทำให้แม่นรมนตอบโต้ไม่ได้ แต่ทว่ายังคิดจะพูดอะไร กลับโดนพ่อนรมนดึงเอาไว้
“นรมนพูดถูก พวกเราให้ท้ายเนตราเกินไป ให้เธออยู่ที่นี่เรียนรู้กฎระเบียบกับนรมนก็ดี”
พ่อนรมนพูดจบก็ดึงแม่นรมนออกไป
เนตราที่อยู่ด้านหลังตะโกนออกมาด้วยความโมโห “พ่อแม่ก็จะทิ้งหนูไว้อย่างนี้ใช่ไหม? พ่อแม่ทิ้งหนูไปครั้งหนึ่งแล้วยังไม่พอ ยังจะทิ้งหนูเป็นครั้งที่สองใช่ไหม? พ่อกับแม่ไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อแม่ของหนูด้วยซ้ำ พ่อกับแม่แย่ยิ่งกว่าสัตว์ซะอีก พ่อกับแม่……”
ฝ่ามือของนรมนสะบัดมาทันที เสียง “เพี๊ยะ” ดังขึ้น ทำให้เนตรากับพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนงุนงงไปตามๆกัน
“เธอกล้าตบฉัน?”
เนตราวิ่งถลามาทางนรมนราวกับเสียสติไปแล้ว
นรมนมีทักษะอยู่พอตัว ตอนที่เนตราพุ่งเข้ามา ก็ใช้มือข้างหนึ่งจับเอาไว้ โยนเธอไปบนโซฟาทันที แม้จะออกแรง แต่ไม่ถึงกับทำให้เธอบาดเจ็บ
“ก็อาศัยท่าทางที่หยาบคายอย่างนี้ของเธอไง ไม่คู่ควรที่ฉันจะพูดด้วยเลยจริงๆ ถ้าพ่อกับแม่แย่ยิ่งกว่าสัตว์ งั้นเธอเป็นตัวอะไรล่ะ?”
คำพูดของนรมนหยุดฝีเท้าของแม่นรมนเอาไว้ แต่ในแววตาตำหนิออกมาเล็กน้อย
แม่นรมนให้ท้ายเนตราเกินกว่าที่นรมนจินตนาการ เธอค่อนข้างไม่สบายใจ แต่กลับพูดขึ้นนิ่งๆ: “พ่อคะแม่คะ เดี๋ยวหนูให้ชัยยศไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอก พ่อกับแม่กลับเองได้”
แม่นรมนเดินออกไปด้วยความโมโห
นรมนปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง
“เฮ้อ”
พ่อนรมนก็ถอนหายใจเดินตามออกไป
นรมนรู้ว่า พวกเขาคงผิดหวังในตัวเธออยู่บ้างแน่ๆ แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิด นี่เป็นบ้านของเธอ ไม่ง่ายที่จะให้เนตรามาทำตัวกำเริบเสิบสานที่นี่
พ่อแม่อาศัยบุญคุณที่เลี้ยงดูเธอมา พาเนตรามาที่นี่โดยไม่ขออนุญาตเธอก่อน บอกว่ากำลังทำห้องให้เนตรา แต่นรมนรู้ดี ความหมายของพ่อแม่คือต้องการให้เธอพาเนตราเข้าสังคมชั้นสูง คิดว่าในเมื่อพวกเขาเลี้ยงดูสั่งสอนตนเองแล้ว ตนเองก็ควรจะตอบแทนพวกเขาเช่นนี้
พูดตามจริง นรมนไม่สบายใจมากๆ
โดนคนเอาเปรียบอย่างนี้ โดยเฉพาะความรู้สึกแย่ๆที่โดนพ่อแม่บุญธรรมที่ตนเองรักที่สุดวางแผนหลอกใช้
เนตราเห็นพ่อแม่ไปแล้ว จึงรีบดีดตัวลุกขึ้น ชี้หน้าของนรมน: “ฉันบอกเธอไว้เลยนะ เธอติดค้างฉัน ติดค้างพวกเราตระกูลธนาศักดิ์ธน ตอนนี้ที่ฉันมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อไว้หน้าเธอ ให้โอกาสเธอได้ทดแทนบุญคุณ เธออย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ไม่งั้น ฉันจะแฉเธอลงอินเตอร์เน็ต”
“ยังไม่เข็ดสินะ? หรือจะบอกว่าเธอชอบให้ลงไม้ลงมือ?”
นรมนเอ่ยปากนิ่งๆ แต่กลับทำให้เนตราถอยหลังด้วยความตกใจในทันที
“ลูกสาวตระกูลร่ำรวยเค้าไม่ลงไม้ลงมือกันหรอก เธอมันก็แค่ผู้ดีจอมปลอม”
“ฉันก็ไม่ใช่ผู้ดีแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว อีกอย่างฉันเป็นแค่คนทั่วไป ดังนั้นทางที่ดีที่สุดเธออย่ายั่วโมโหฉัน เธอเลือกห้องของที่นี่ไปหนึ่งห้องแล้วกัน จะอยู่ยังไงก็อยู่ไป แต่จำเอาไว้ บ้านฉันมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ทางเข้า ถ้าเกินสามทุ่มแล้วยังไม่กลับมา เธอก็ไปหาที่อยู่เอาเอง”
นรมนพูดจบก็หมุนตัวกลับห้องนอนของตนเองไป
พ่อแม่บุญธรรมทำอย่างนี้ก็ทำให้เธอกลุ้มใจ ทำอะไรไม่นึกถึงความรู้สึกกันเลย
กานต์ชงชากุหลาบมาให้เธอ จึงทำให้เธอสบายใจขึ้นได้บ้าง
“หม่ามี้ พักผ่อนหน่อยเถอะครับ”
กานต์สงสารนรมน แต่ก็ไม่รู้อีกว่าจะปลอบใจยังไง
นรมนยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ไม่เป็นไรจ๊ะ อีกเดี๋ยวหม่ามี้จะไปทำของอร่อยให้เรานะ พรุ่งนี้เราก็เอาไปที่เขตทหารด้วย”
“ไม่ต้องหรอกครับ พวกบ้าพวกนั้น เอาของกินไปเยอะแค่ไหนก็กินกันหมดเลย หม่ามี้อย่าลำบากดีกว่า ผมกลับห้องก่อนนะครับ รอคุณบุริศร์กลับมาแล้วผมจะมาคุยกับเขาหน่อย หม่ามี้รีบพักผ่อนนะครับ”
“จ๊ะ”
เห็นกานต์รู้เรื่องเช่นนี้ นรมนก็ไม่ดึงดันแล้ว
กานต์กลับมาที่ห้องของตนเอง ส่วนนรมนเพราะเรื่องของพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนก็เลยนอนไม่หลับ จึงถือโอกาสหาสมุดคิดจะวาดรูปออกแบบ แต่กลับหาไม่เจอ นี่ถึงนึกขึ้นได้ว่าเอาสมุดไปไว้ในบ้านของคุณท่านตนุวร
แต่ทำไงได้ จู่ๆในหัวก็ปรากฏโครงร่างออกมา นรมนจึงทำได้เพียงหยิบกระดาษเอสี่ ใช้ดินสอวาดรูปออกแบบ
แต่วาดหลายต่อหลายแผ่นแล้ว ก็เอาแต่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นรมนจึงขยำโยนทิ้งไปบนพื้น แล้ววาดต่อ
แต่แล้ว เพลงร็อคที่ดังลั่นขึ้นมาจากชั้นล่างอย่างกะทันหัน อึกทึกกึกก้อง ทำให้นรมนตกอกตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น?”
เธอลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องนอน ก็เห็นเนตราถือลำโพงกำลังฟังเพลง เสียงดังจนหลังคาบ้านแทบจะกระเด็นออกไปอยู่แล้ว
สีหน้าของนรมนแย่ขึ้นมาเล็กน้อย
“เนตรา!”
เธอตะโกนออกมา แต่เนตราไม่ได้ยิน หรือบางทีอาจจะได้ยินแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ทั้งร้องทั้งกระโดดโลดเต้นอยู่ในห้องรับแขก
เค้าโครงความคิดที่อยู่ในหัวของนรมนที่โดนโจมตีเข้ามาอย่างฉับพลันจึงหายไปหมดแล้ว
แต่ท่าทางของเนตราในตอนนี้ทำให้ความเดือดดาลของเธอปะทุออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
เธอลงไปข้างล่างทันที ปิดลำโพง แล้วดึงหูฟังในหูของเนตราโยนทิ้งไป
“เธอทำอะไรเนี่ย?”
เนตราโมโหมาก
นรมนพูดอย่างเย็นชา: “ถ้าให้ฉันได้ยินเสียงรบกวนที่ดังขนาดนี้อีก ฉันจะขังเธอไว้ในห้องใต้ดิน”
“เธอกล้า!”
“เธอลองสิ”
สายตาที่เย็นยะเยือกในตอนนี้ของนรมนทำให้เนตราตกใจ
จู่ๆเธอก็รู้สึกว่านรมนไม่เหมือนคนอ่อนแอที่รังแกได้ง่ายๆอย่างที่แม่นรมนบอกเอาไว้