แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 887
ป้องเห็นนรมนตื่นตกใจ ก็ทนไม่ได้เล็กน้อย แต่ยังคงพูดอย่างจริงจัง: “ตอนนี้ที่คุณต้องทำคือรีบหาคนๆนั้นให้เจอ แล้วให้เขาพูดออกมาทั้งหมดว่าเขาเป็นคนทำ ถ้าเป็นอย่างนี้อาจจะทำให้ บุริศร์ได้รับการประกันตัวก็ได้ ไม่งั้น ไม่ว่าจะไปหาเรื่องใครเข้า ผมว่าก็ยากมากที่จะประกันตัวเขาออกมา”
ตอนนี้นรมนโมโหมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ศัตรูภายในของตระกูลโตเล็กตรวจสอบหลายต่อหลายครั้งแล้ว ยังคิดว่าครั้งนี้ก็คงไม่มีความผิดพลาด แต่ไม่คิดว่าจะเกิดช่องโหว่ขึ้นมาได้อีก ไม่เท่านั้น ยังทำให้บุริศร์ตกหลุมพรางไปด้วย
คนๆนี้เป็นใครกันแน่?
นรมนไม่อยากคิดสงสัยใครทั้งนั้น เพราะคนคุ้มกันในคุกใต้ดินล้วนแต่เป็นคนที่นรมนกับบุริศร์สนิทและเชื่อใจที่สุด เธอไม่อยากสงสัยคนสนิทพวกนี้ แต่ที่ป้องพูดก็ถูก ถ้าไม่รีบหาตัวคนๆนั้น ก็กลัวว่าบุริศร์จะเกิดเรื่องจริงๆ
ป้องเห็นนรมนเงียบขรึม จึงพูดขึ้นเบาๆ: “จริงๆยังมีอีกวิธีหนึ่ง”
“วิธีอะไร?”
“คุณกับเด็กๆออกไปจากที่นี่ ผมมีวิธีที่จะส่งคุณกับเด็กๆออกไปจากเมืองชลธีให้เร็วที่สุด เพียงแค่ออกไปจากเมืองชลธี จะมีคนจากด้านนอกคอยรับพวกคุณอยู่ ผมรับรองได้ว่าพวกคุณจะปลอดภัย จริงๆนี่ก็เป็นเรื่องที่บุริศร์ฝากฝังให้ผมทำ อันที่จริงตอนนี้ร่างกายของคุณก็พิเศษด้วย ง่ายที่จะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น”
ป้องมองนรมน พูดชัดถ้อยชัดคำ
นรมนไม่ได้มองเขา พูดขึ้นทันที: “ฉันไม่ไป คุณส่งเด็กๆออกไปได้ ถ้าฉันจะตายก็ขออยู่ที่นี่ตายไปกับเขา”
“คุณอยู่ที่นี่ไม่มีประโยชน์ อีกฝ่ายพุ่งเป้ามาที่คุณกับบุริศร์ วันนี้เขาเข้าไปแล้ว ถ้าคุณต้องเข้าไปอีกคนล่ะ ถึงตอนนั้นใครจะดูแลเด็กๆ? ทรัพย์สินมรดกของตระกูลโตเล็กพวกคุณก็จะรักษาเอาไว้ไม่ได้”
ป้องโมโห ถึงกับรู้สึกว่านรมนค่อนข้างเป็นภาระ
ถ้าภรรยาของบุริศร์ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงสักคนในเขตทหารเขาคงไม่กังวลหรอก แต่นรมนทำอะไรได้บ้างล่ะ?
แค่ดีไซน์เนอร์รถยนต์คนหนึ่งจะมีฝีมือขนาดไหนกันเชียว?
ตอนนี้ยังตั้งท้องอยู่อีก ต่อให้พอมีทักษะอยู่บ้าง แต่จะแหกคุกไปชิงตัวนักโทษมาได้งั้นเหรอ?
นรมนไม่ใช่ว่าไม่เห็นสายตาของป้อง เธอรู้ว่าป้องเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของบุริศร์ ก็รู้ว่าป้องกำลังร้อนรน ยิ่งรู้ว่าตอนนี้ป้องปฏิบัติต่อตนเองยังไง แต่เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงรอคอยอยู่เงียบๆ
“ที่ผมพูดน่ะนรมน ที่ผมพูดคุณได้ยินไหม? คุณรีบไปเก็บของ ผมจะให้คนพาเด็กๆออกมาจากโรงพยาบาลแล้วเดินทางทันที ส่วนบุริศร์คุณสบายใจได้ ผมจะหาทางช่วยเหลือเอง”
ป้องค่อนข้างร้อนรน
นรมนส่ายหัว พูดอย่างเด็ดเดี่ยว: “ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ไป เขาเป็นผู้ชายของฉัน ตอนนี้เขาโดนคนคิดบัญชีเข้าคุกไปแล้ว แต่ฉันกลับพาลูกๆหนีไปงั้นเหรอ? คุณคิดว่าฉันทำได้เพียงร่วมสุขกับเขาไม่สามารถร่วมทุกข์กับเขาได้จริงๆงั้นเหรอ?”
“คุณอยู่ที่นี่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
“มีประโยชน์หรือไม่มีไม่ใช่คุณที่เป็นคนตัดสินใจ”
นรมนแข็งกร้าวขึ้นมาถึงกับทำให้เขาอยากจะเป็นบ้าจริงๆ
แล้วในตอนนี้ ด้านนอกก็มีเสียงเครื่องยนต์ของรถลอยเข้ามา
นรมนเป่าปากคลายกังวลลง คิดว่าธิดากลับมาแล้ว
เธอเพิ่งจะลุกขึ้น ก็เห็นกานต์สวมชุดลายพรางเดินเข้ามา
“กานต์? เรากลับมาได้ยังไง?”
“คุณบุริศร์เกิดเรื่องใช่ไหมครับ?”
สีหน้าของกานต์ไม่ค่อยดี
นรมนกำลังมองลูกชาย แล้วพยักหน้า
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับ?”
กานต์มองนรมนด้วยความกังวล
“กานต์ เราไปเล่นก่อนเถอะ เรื่องนี้อากับหม่ามี้ของเราแก้ไขกันเองก็พอ”
ป้องไม่อยากให้กานต์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อันที่จริงกานต์เป็นความหวังของตระกูลโตเล็ก
แต่กานต์กลับไม่ฟังป้องเลย มองไปที่นรมน
“เรากลับห้องไปก่อน ด้านนี้แม่กำลังรอข่าวจากคุณปู่สามกับคุณตาของเราอยู่ ถ้าไม่สำเร็จแม่จะไปหาลูกอีกที แม่เชื่อว่า ถ้าลูกอยากรู้เรื่องอะไร ลูกก็ต้องได้รู้”
นรมนพูดจบ กานต์จึงพยักหน้า
เธอไม่ได้ถามว่าทำไมกานต์ถึงกลับมา จริงๆหลังจากรู้ว่าบุริศร์เกิดเรื่อง นรมนก็รู้เลยว่ากานต์ใกล้กลับมาแล้ว
เขตทหารเป็นสถานที่แบบไหนกัน?
เพียงแค่มีคนในครอบครับทำผิดกฎหมาย กานต์ก็อยู่ที่เขตทหารไม่ได้อยู่แล้ว แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ขนาดไหนก็ไม่มีข้อยกเว้น
คุณอารองโหดเหี้ยมจริงๆ!
ไม่เพียงแต่ทำลายบุริศร์ แต่ยังทำลายกานต์อีก
ความเดือดดาลของนรมนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ตอนนี้กลับทำได้เพียงรอคอย
ป้องเห็นนรมนตัดสินใจที่จะรอคอยอย่างแน่วแน่แล้ว จึงทำได้แค่ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น: “คุณนี่มันหัวรั้นจริงๆ!”
“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ”
นรมนพูดจบก็นั่งรออยู่บนโซฟา
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ธิดากับชัยยศยังไม่กลับมาสักที ในหัวของนรมนจึงกำลังครุ่นคิด
จะเป็นใครได้ล่ะ?
ตอนนี้ป้องก็ไม่กล้าออกไปไหน ก่อนบุริศร์จะโดนพาตัวไปก็มอบหมายให้ดูแลภรรยากับลูกของเขาให้ด้วย ถ้าเขาออกไป แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนรมน เขาคงหมดหนทางที่จะแก้ตัวกับบุริศร์
ป้องไม่คุยกับนรมนเลย บุริศร์โดนคนของกองกำลังตำรวจคดีอาญาพาตัวไปเป็นเรื่องจริง เพียงแต่คนที่พาตัวไปคือหัวหน้าตำรวจแฟรงค์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องความยุติธรรมมากของกองกำลังตำรวจคดีอาญา ไม่มีวิธีไหนที่จะผ่อนผันได้อยู่แล้ว
แต่นรมนกลับไม่สนใจว่าป้องกำลังคิดอะไรอยู่
ก็ตอนที่นรมนเกือบจะรอไม่ไหวแล้ว ธรณีก็โทรเข้ามา
“นรมน ขอโทษด้วยนะ ทางด้านนี้อาทำไม่สำเร็จ ตอนนี้เพื่อนสนิทของอาก็ไม่ยอมพบอาเลย เรื่องนี้กลัวว่าจะยุ่งยากแล้ว” ผลลัพธ์อย่างนี้ทำให้นรมนค่อนข้างผิดหวัง แต่ทว่าก็เข้าใจได้
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณอา พยายามเต็มที่ก็พอแล้วค่ะ”
เธอพูดเรียบๆ แต่กลับกำมือแน่น
กองกำลังตำรวจคดีอาญาด้านนั้นไม่ได้ผล ทำได้เพียงรอดูคุณท่านตนุวรแล้วว่าจะเป็นยังไง
หลังจากธรณีวางสายไปได้ไม่นาน คุณท่านตนุวรก็โทรเข้ามา
“คุณตาคะ”
“นรมนเอ้ย ทางฝั่งตาช่วยไม่ได้ เบื้องบนไม่ยอมให้ถามอะไรเลย เราลองดูว่าเอายังงี้ได้ไหม? ตาจะส่งพวกเราออกไปต่างประเทศก่อน ทางด้านนี้ตาจะคิดหาวิธีดูอีกที”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณตา ขอบคุณมากค่ะ”
นรมนพูดจบก็วางสายทันที
ป้องที่ฟังอยู่ตลอด ตอนนี้ได้ยินว่าทั้งตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและตระกูลพรโสภณต่างก็จนปัญญา จึงอดไม่ได้ที่จะกระสับกระส่าย
“ผมว่าแล้ว เรื่องนี้จะต้องโดนเปิดโปงขึ้นมา ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายคงวางแผนมาหลายปีแล้ว ตอนนี้ถ้าคุณยังไม่ยอมไปอีก คงจะ……”
ป้องยังพูดไม่ทันจบ นรมนก็ยืนขึ้นทันที ทำให้ป้องตกอกตกใจ
“นี่คุณจะทำอะไร?”
ป้องเห็นนรมนเดินไปทางห้องของกานต์
เธอเคาะประตูเบาๆ มีเสียงของกานต์ลอยออกมาจากด้านใน
“เข้ามาเลยครับ”
“กานต์ โทรหาลูกพี่แจ็กกี้”
“ครับ”
กานต์ไม่ได้ออกมา แค่ได้ยินเสียงกดแป้นพิมพ์ดังมาจากด้านใน
นรมนกลับมานั่งบนโซฟา หยิบมือถือของตนเองออกมา หยิบบัตรอีกใบหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วเสียบเข้าไป จากนั้นจึงเปิดเครื่อง
บนบัตรมีเพียงแค่เบอร์โทรศัพท์สี่ห้าเบอร์
นรมนกดหมายเลขหนึ่งแล้วโทรออกไปทันที
อย่างรวดเร็ว ภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่วของอีกฝ่ายก็ลอยออกมา
“Hello”
“ฉันเอง”
เสียงของนรมนไม่ดังมาก แต่เพียงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง
“มีเรื่อง?”
นรมนพูดอย่างนิ่งเฉย: “ขอยืมคนจากคุณหน่อย”
“กี่คน?”
“หนึ่งร้อย”
คำพูดของนรมนทำให้ป้องที่อยู่ข้างๆค่อนข้างหวาดหวั่น
“นรมน คุณรู้ไหมว่าการนำกำลังคนส่วนตัวร้อยคนไปก่อเรื่องเป็นการกระทำอะไร? ที่บุริศร์มีกำลังคนเพราะเบื้องบนอนุญาต ผมไม่สนใจว่าคุณจะยืมคนมาจากใคร วิธีการอย่างนี้ไม่ฉลาดเลยนะ คุณยังคิดจะ……”
“แหกคุก”
นรมนพูดด้วยน้ำเสียงก้องกังวานมีพลัง ทำให้ป้องตื่นตกใจ
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”
“น่าจะใช่ ไม่มีบุริศร์ ฉันจะเป็นบ้าแล้วจริงๆ”
หลังจากนรมนวางสาย ก็โทรไปหาอีกหมายเลขหนึ่ง
“ที่รัก ทำไมถึงโทรมาหาฉันได้?”
อีกฝ่ายเป็นเสียงผู้หญิงหวานๆ
“ช่วงนี้158ยังสบายดีไหม?”
นรมนถามเหมือนคุยเล่นกับคนที่บ้าน แต่ดวงตาของป้องกลับเบิกโพลงขึ้นมาทันที
158?
องค์กรนี้เป็นองค์กรโลกที่แสนจะลึกลับ ตามที่พูดกันมาว่ามีฝีมือขั้นสูงกว่าสมาพันธ์แฮกเกอร์
ด้านในไม่ว่าจะเป็นเคสอะไรก็รับหมด ต่อให้คนระดับสูงที่สุดของด้านนี้ก็ยังมีเรื่องต้องไหว้วานองค์กร158
แต่ก่อนเขากับบุริศร์พยายามคิดทุกวิถีทางก็ยังติดต่อองค์กร158ไม่ได้ ทำไมนรมนโทรแค่ครั้งเดียวก็มีข่าวคราวของด้านนั้นแล้ว?
แต่นรมนกลับไม่สนใจว่าป้องจะคิดยังไง แค่ฟังอีกฝ่ายพูด: “ก็ดีนะ กานต์ไม่อยู่ เรื่องเยอะแยะที่ด้านนี้น่าเบื่อมากเลย เกิดอะไรขึ้น? เธอโทรหาฉันมีอะไรเหรอ?”
“กานต์ส่งข่าวไปบอกลูกพี่แจ็กกี้แล้ว ว่าจะทำอะไร ลูกพี่แจ็กกี้จะบอกพวกเธอเอง เพียงแต่ฉันอยากให้เธอหยุดการร่วมงานทั้งหมดกับพวกฉันที่ด้านนี้”
แค่นรมนพูดออกไปอย่างนี้ ป้องก็ตะลึงงัน
“คุณบ้าไปแล้วจริงๆ? ไม่คิดว่าคุณจะต่อต้านเบื้องบนด้วยพละกำลังของตนเอง?”
แต่นรมนกลับไม่ตอบเขา
อีกฝ่ายได้ยินนรมนพูดอย่างนี้ จึงตอบกลับมาด้วยความเบิกบานใจ
ไม่นาน กานต์ก็ออกมาจากในห้อง
“หม่ามี้ ลูกพี่แจ็กกี้บอกว่าส่งข่าวให้พวกเขารู้แล้วครับ”
“จ๊ะ”
นรมนนั่งอยู่บนโซฟา ไม่ได้พูดอะไรอีก
ตอนที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น นรมนก็รับสายอย่างสงบนิ่ง เสียงผู้ชายที่ไม่คุ้นลอยออกมา
“นรมน ฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้จักฉัน ฉันคือคุณอารองของเธอ ไม่สิ พูดให้ถูกต้อง ฉันคือพ่อสามีของเธอ”
นรมนกลับยิ้มเยาะพูดขึ้น: “มีอะไรก็รีบๆพูด”
อย่างชัดเจน คุณอารองคิดไม่ถึงว่านรมนจะไร้มารยาทอย่างนี้ เขาคิดว่าบุริศร์ไม่อยู่ นรมนก็คงร้องห่มร้องไห้แน่ๆ ถึงขั้นต้องมาขอร้องตนเอง แต่ต้องไม่ใช่ท่าทางอย่างนี้อยู่แล้ว
“ทำไม? ไม่พูด? หรือจะรอให้ฉันพูด? ให้ฉันขอร้องคุณให้ปล่อยบุริศร์ใช่ไหม? ใช่สินะ คุณต้องการอะไร?” นรมนตอบกลับอย่างสบายใจจนทำให้คุณอารองตะลึงงันไปอีกครั้ง แต่ทว่าได้ยิน นรมนพูดถึงรายละเอียด ก็ยังคงพึงพอใจอยู่บ้าง
“ในเมื่อตอนนี้เธอรู้ถึงสถานการณ์เลวร้ายของตัวเองแล้ว ก็อย่าถือตัวสูงส่งนักเลย ฉันจะบอกเธอให้นะ ถ้าฉันยอมรับเธอ เธอถึงจะเป็นลูกสะใภ้ของพวกเราตระกูลโตเล็ก แต่ถ้าฉันไม่ยอมรับเธอ เธอก็ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น ไม่เพียงเท่านี้ ฉันจะทำให้ชื่อเสียงที่เมืองชลธีของเธอย่อยยับป่นปี้ ถ้าไม่เชื่อเธอก็ลองดู เพียงแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าบุริศร์ลูกชายฉันมันจะรอเธอไหวหรือเปล่า”
คุณอารองพูดอย่างกำเริบเสิบสาน
สีหน้าของนรมนอึมครึมขึ้นมาทันที เธอพูดอย่างเย็นชา: “คุณต้องการอะไรก็รีบๆพูดมา แต่ถ้าฉันรู้ว่าคุณทำร้ายบุริศร์ ฉันจะทำให้คุณรู้ว่าเสียใจคำนี้มันเขียนยังไง”
คุณอารองตะลึงงันอีกครั้ง
เดิมทีเขาคิดว่านรมนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนโยนบอบบาง ได้เจอกับเรื่องใหญ่ขนาดนี้ต่อให้ไม่ถึงกับร้องไห้ แต่ก็ไม่น่าจะมีท่าทีอย่างตอนนี้
นี่เกิดอะไรขึ้นกับเขา?
โดนนรมนข่มขู่งั้นเหรอ?