แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 928
นรมนถูกคิมพาเดินไปยังตำหนักข้าง แต่กลับเห็นเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ในบริเวณใกล้เคียง
“มีคนมาแล้ว?”
“น่าจะเป็นหมอที่เชษฐ์หามาให้อชิระ”
คำพูดของคิมทำให้นรมนนิ่งไป
“บนเกาะไม่มีหมอเหรอคะ?”
“มีหมอ แต่ทำให้เชษฐ์ขุ่นเคือง คาดว่าคงทำให้ตายไปแล้ว ตอนนี้ยังว่างอยู่ เลยต้องหาหมอจากข้างนอกเท่านั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของคิม นรมนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“แม่รู้ว่าลูกกำลังคิดอะไร แต่มันเสี่ยงเกินไป อย่างแรกอย่าบอกว่าคนนี้เป็นคนที่เชษฐ์ไว้ใจหรือไม่ ถึงแม้ไม่ใช่ คนนี้จะสามารถส่งข่าวให้เราได้หรือไม่ อันนี้มันก็ไม่ชัดเจน ดังนั้นลูกห้ามไป”
คำพูดของคิมทำให้นรมนหดหู่เล็กน้อย
“แม่ อย่างไรก็ลองดูไหม นี่เป็นโอกาสเดียว หากเราไม่ลอง เราอาจจะหมดเวลาแล้วจริงๆ และหนูได้ยินแพรวาที่อยู่ห้องใต้ดินด้านล่างบอกว่า ศพพ่อไม่อยู่ที่นี่ แล้วเชษฐ์จะพาเรามาที่นี่ทำไมกันคะ? หนูไม่แน่ใจ”
คิมชะงักงัน
“ที่พูดนะจริงเหรอ?”
“แพรวาไม่จำเป็นต้องโกหกหรอกค่ะ เธอบอกว่านี่คือสวรรค์วิมานของ เชษฐ์และ อชิระ อย่างไรก็คงไม่มีศพที่นี่แน่ และยังบอกว่าอีกว่าไม่มีการเคลื่อนย้ายศพของพ่อ ก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงอยากให้เราอยู่ที่นี่? ที่บอกว่าจะให้เราเห็นศพของพ่อที่นี่ เป็นไปได้สูงว่าจะโกหก บางทีอาจเป็นการกักขังเราไว้เพื่อขู่ให้บุริศร์ส่งข้อมูลนั้นให้? อย่างไรข้อมูลของแม่ก็อยู่บนร่างแล้ว เขาต้องการข้อมูลจากบุริศร์เพื่อทำการเปรียบเทียบ พวกเราคือตัวประกัน”
คิมขมวดคิ้วแน่น
“ไม่ถูก ถ้าหากคำพูดของแพรวาเป็นเรื่องจริง แล้วทำไมเชษฐ์ถึงพาเรามาที่นี่? เขาอาจมีที่อื่นที่จะส่งพวกเราไป แต่ว่ำไมต้องมาที่นี่? และต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่นี่?”
“ไม่รู้ค่ะ”
นรมนยังมีข้อสงสัยบางอย่าง
“ไม่ว่าอย่างไร กลับไปก่อนค่อยคุยกัน”
อากาศข้างนอกเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ และคิมก็กลัวนรมนหนาวจนป่วย รีบพาเธอกลับไปทันที แต่สมองก็ยังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ
เชษฐ์ต้องการข้อมูลสองชิ้นนี้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เป็นแพรวาที่พูดโกหกหรือว่าเชษฐ์กันแน่ที่กำลังหลอกพวกเธอ
ถ้าร่างของชินทรไม่อยู่ที่นี่ เหตุใดเชษฐ์จึงพาตัวเองและนรมนเข้ามาในที่แห่งนี้?
คิมไม่เข้าใจว่าทำไม
นรมนเหนื่อยเล็กน้อยจากการทำความสะอาดในตอนบ่าย บวกกับได้รับลมหนาวในห้องใต้ดิน คิมจึงต้มซุปขิงให้เธอดื่ม ดื่มเสร็จจึงผล็อยหลับไป
คิมยิ่งคิดคนเดียวยิ่งรู้สึกว่ามันผิดปกติ เธอมองดูฝูงชนที่เดินผ่านไปมาด้านนอก ไม่รู้ว่าภายในหัวกำลังคิดอะไร
แพทย์ที่มาวินิจฉัยอชิระบอกว่า มันเกิดจากอาหารเป็นพิษจริงๆ สำหรับการวินิจฉัยนี้ เชษฐ์ก็ได้ตรวจสอบให้กับทุกคน
แพทย์จ่ายยาให้ อชิระแล้วจากไป
นรมนถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงดังของเฮลิคอปเตอร์
เธอรู้สึกรำคาญเล็กน้อยกับเสียงเฮลิคอปเตอร์ที่บินออกไป
“ทำไมถึงหลับไปละ? พลาดโอกาสที่จะได้ขอความช่วยเหลือจากโลกภายนอก”
“ไม่จำเป็น คนนั้นเป็นคนของเชษฐ์”
คิมนั่งลงข้างเธอ ก่อนจะส่งโจ๊กข้าวฟ่างให้เธอ
“ดื่มหน่อย”
“แม่ อย่าลำบากเลย หนูไม่หิวค่ะ”
นรมนเห็นว่าสีหน้าของคิมไม่ค่อยดี แม้ว่าช่วงนี้ร่างกายของเธอจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงพิเศษใดๆ แต่นรมนรู้ ว่าเธอปิดบังตัวเองเป็นแน่
คิมยิ้มและพูดว่า “แม่สบายดี หลังจากที่มาที่นี่ ความเจ็บปวดก็ลดลงด้วย โรคนี้ไม่มีทางรักษาได้ แม่ชินแล้วกับความเจ็บปวด”
“ชินได้ยังไงคะ? รีบนั่งเถอะ หนูทำเองได้น่า”
นรมนนำโจ๊กข้าวฟ่างวางไว้ข้างๆ แล้วถามว่า “แม่รู้ได้ยังไงว่าหมอคนนั้นเป็นคนของเชษฐ์?”
“แม่ได้ยินบทสนทนาของเขากับเชษฐ์”
สีหน้าของคิมค่อนข้างเคร่งขรึม
“บทสนทนา? แม่ แม่ไปตำหนักหลักเมื่อไหร่?”
นรมนแอบด่าตัวเองว่าหลับสบายเกินไปแล้ว
คิมยิ้มพลางลูบหัวเธอ แล้วพูดว่า “แม่ไม่ได้ไปที่ตำหนักหลัก พวกเขาพูดกันที่ตำหนักข้าง และแม่ก็บังเอิญผ่านมาได้ยิน”
“มีเรื่องบังเอิญมากมายที่ไหนกัน? แม่ นี่กำลังวางแผนอะไรอยู่หรือเปล่า?”
นรมนมองไปที่คิม เธอรู้สึกเสมอว่าตัวเองเดาใจของแม่ไม่ถูก
คิมไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ยอมรับ ก่อนกระซิบ “หมอบอกว่าสุขภาพของอชิระไม่ค่อยดีนัก หากไม่ได้รับการรักษาคาดว่าคงอยู่ไม่เกินปีแน่”
“อะไรนะ? แค่อาหารเป็นพิษไม่ใช่เหรอคะ?”
นรมนรู้สึกว่าหมอคนนั้นจะพูดให้คนตระหนกเกินไป
คิมส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ ร่างกายของเธอเหมือนขวด ตอนนี้น้ำข้างในกำลังจะล้น ถ้าไม่กำจัดออกไป คาดว่าคงอยู่ไม่ถึงปีจริงๆ ไม่ใช่ว่าลูกพูดเหรอว่าเธอได้รับพิษตั้งแต่อยู่ในครรภ์? แม่ได้ยินเชษฐ์ถามคำถามนี้กับหมอ แพทย์จะนำเลือดของอชิระกลับไปและทำการทดสอบ”
“เอากลับไปทดสอบ? ไม่ใช่ที่นี่เหรอ?”
นรมนจับประเด็นนี้ทันที
“แล้วก็ แม่ เรื่องที่หนูพูดกับแม่ เชษฐ์รู้ได้ไง? ถ้าเขาสงสัยว่า อชิระถูกวางยาพิษตั้งแต่เนิ่นๆ การวิจัยทางพันธุกรรมก็คงไม่ดำเนินต่อมาอีกหลายปี ที่นี่มีกล้องวงจรไหม?”
นรมนมีปฏิกิริยาโต้ตอบทันที
เธอลุกจากเตียงอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงค้นหา และในที่สุดเธอก็เจอกล้องวงจรอยู่ในซอกมุม
นรมนรู้สึกหดหู่และเสียใจภายหลังเล็กน้อย
เธอกับคิมพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่แพรวาพูดกับเธอ อย่างนี้เชษฐ์ต้องรู้แน่ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เชษฐ์จะปฏิบัติต่อ แพรวาอย่างไร?
นรมนร้อนใจขึ้นมาทันที
“แม่ แพรวาเธอ… … ”
“ตายแล้วละ”
คำพูดของคิม ทำให้นรมนตกตะลึง
“ได้ยังไงกัน? ตอนหนูเข้าไปก่อนหน้าเธอยัง… …”
“แม่รู้อยู่แล้วว่าตอนที่แพรวาตาย ที่นี่มีระบบแอบฟัง แต่แม่ไม่ได้มองหาเพราะมันไร้ประโยชน์ ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นอาณาบริเวณของเชษฐ์เขาต้องการติดตั้งสิ่งนี้ตอนไหน เราจะสามารถเอามันออกไปทุกวันได้ไหมละ? แพรวาพูดเยอะเกินไป บอกลูกในเรื่องที่ลูกไม่ควรจะรู้ เธอไม่มีความหมายให้มีชีวิตต่อไปแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งที่คิมพูด นรมนก็รู้สึกเสียใจเป็นพิเศษ
เธอฆ่าแพรวา!
“แม่ แม่ว่าพวกเราต้องอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหนคะ?”
“ไม่รู้สิ แต่แม่จะรีบแบไพ่ในมือให้กับเชษฐ์”
คิมลูบศีรษะของนรมน รู้ว่าในใจของเธอคิดอะไรอยู่ และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่ต้องเสียใจเกินไปหรอกนะลูก แพรวามีชีวิตต่อไปอย่างนี้ ให้เธอตายเสียดีกว่า มันอาจจะเป็นการหลุดพ้นของเธอ แม่ได้ยินมาว่าพวกเขาใช้ แพรวาเพื่อทดลองยาให้อชิระ ลำบากเธอมาหลายปีแล้ว”
“ไม่ถูก”
นรมนหรี่ตาลงทันที
“อะไรไม่ถูก?”
คิมตกใจเมื่อเห็นท่าทางของนรมน
นรมนมองไปที่เครื่องดักฟัง เธอแนบกระซิบไปที่ข้างหูของคิม ใช้เสียงที่พอให้ได้ยินกันแค่สองคนแล้วพูด “แพรวาจะตายไม่ได้ เธอเคยพูดกับหนู ว่าเธอเป็นคนทดลองยาให้และธนาคารเลือดเคลื่อนที่ให้อชิระ เพราะว่าพวกเธอมีกรุ๊ปเลือดเดียวกัน ในเมื่อตอนนี้หมอบอกว่าอชิระจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงปี ในช่วงเวลานี้บางทีอาจจะยังต้องการเลือดของแพรวา เชษฐ์จะยอมให้เธอตายได้ไงคะ? แม้ว่าตอนนี้เธอจะทำเรื่องอะไรที่เลวร้าย แต่เชษฐ์ไม่ให้เธอตายแน่ เว้นแต่เธอจะไม่ได้ถูกฆ่าโดย เชษฐ์แต่ฆ่าตัวตายเอง แต่ว่าทำไมเธอถึงต้องฆ่าตัวตาย?”
คิมผงะไปครู่หนึ่ง
“ทำไม?”
“ไม่รู้ค่ะ แต่เชษฐ์ไม่ใช่สาเหตุของการตายแน่ บางทีแพรวาอาจจะมีแผนการของเธอเอง บางทีการบรรลุเป้าหมายบางอย่างอาจเป็นแค่ความตาย แต่ทำไมต้องใส่ร้ายป้ายสีเชษฐ์อย่างนี้ด้วย”
นรมนไม่เข้าใจจุดนี้
คิมยิ่งไม่เข้าใจ
เชษฐ์โกรธมากเพราะการตายสายฟ้าแลบของ แพรวา
“ปล่อยให้เธอตายได้ไง? ฉันเคยพูดว่าอะไร? ไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาชีวิตของเธอ ใครทำ? นรมนเหรอ?”
“หัวหน้า ไม่น่าใช่นรมนครับ เราดักฟังสิ่งที่นรมน และแพรวาพูดกันด้านล่าง ในตอนแรกนรมนไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ดังนั้นจึงเป็นไปได้มากที่ร่างกายของแพรวาจะทนไม่ไหวและถึงขีดจำกัด ดังนั้น… …”
ก่อนที่โดมจะพูดจบ เชษฐ์ก็ขัดจังหวะ
“เป็นไปไม่ได้ แม้ร่างกายของแพรวาจะมีบาดแผล แต่หลายปีมานี้ฉันใช้ยาเพื่อรักษาเธอ ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไรนะ”
ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ถูกฆ่าโดยนรมน เธอน่าจะฆ่าตัวตาย แต่ทำไมเธอถึงฆ่าตัวตาย?
หรือเพราะรู้ว่าตอนนี้ธิดาถูกบุริศร์คุ้มครองอยู่?
ไม่! ไม่ใช่! เธอยังไม่ตายแน่! ร่างละ? พวกแกเอาแพรวาไปโยนไว้ที่ไหนแล้ว?
ดวงตาของ เชษฐ์หรี่ลงทันที
โดมตัวสั่นไปทั้งตัว ก่อนตอบคำถามอย่างรวดเร็ว “โยนลงไปในทะเลเพื่อเป็นอาหารปลาครับ”
“ไปหาให้ฉัน ไม่ว่าจะต้องพยายามแค่ไหนก็ต้องนำผู้หญิงคนนั้นมาให้ฉันให้ได้! เธอคงพยายามหนีจากที่นี่ด้วยการแสร้งว่าตาย และไปหาธิดา”
คำพูดของ เชษฐ์ทำให้โดมรีบวิ่งออกไปทันที
ผู้คนทั่วทั้งเกาะจึงลงมือขวักไขว่ด้วยเหตุนี้
นรมนกับคิมเฝ้ามองผู้คนเริ่มตามหาแพรวาใต้ทะเลว่าตอนนี้เธออยู่ไหน ก่อนจะพูดเสียงต่ำ “ดูท่าพวกเราคงเดาถูก ไม่ใช่ว่า เชษฐ์ฆ่า แพรวา แต่เธออาจจะแกล้งตายเพื่อหนีไปจากที่นี่”
“แต่ที่นี่นอกจากทะเลที่กว้างใหญ่ ก็ไม่มีทางหนีอื่นแล้วนะ ถึงแม้แพรวาจะออกไปจากเกาะนี่ ก็คงยากที่จะอยู่รอดในทะเลที่กว้างมากนี่ต่อไป แทนที่จะตายในทะเล จะดีกว่าไหมถ้ามาอยู่ที่นี่คิดหนทางหนีกับพวกเรา ทำไมเธอต้องทำอย่างนี้ด้วย? ”
คำพูดของคิม ทำให้นรมนชะงักไปเล็กน้อย
“แม่ แม่คิดว่ามีบางอย่างที่นี่ที่เราไม่รู้ แต่แพรวารู้ไหม? แม่พูดถูก นี่คือทะเลที่กว้างใหญ่ แม้ว่าแพรวาจะถูกฆ่าและโยนลงไปในทะเล ก็คงไม่สามารถมีชีวิตท่ามกลางทะเลได้ ยิ่งไปกว่านั้นทะเลตอนกลางคืนก็หนาวมาก เธออาจจะถูกแช่แข็งได้ เว้นแต่เธอจะมีจุดหมายเฉพาะเจาะจงที่จะไป และไม่ไกลจนเกินไป เท่านั้นเธอถึงจะมีโอกาส”
สมองของนรมนกำลังแล่นคิดอย่างรวดเร็ว
คิมนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแผนที่ แต่แผนที่แสดงให้เห็นว่า นอกจากเกาะเล็กๆ แห่งนี้ บริเวณโดยรอบเต็มก็ไปด้วยทะเล
“พวกเราหาไม่ได้ และไม่มีที่ให้ไปนอกเสียจากที่นี่ บางทีเราอาจจะเดาผิด”
“ไม่ บางทีเราอาจจะทายไม่ผิด แต่ถูกทำให้เข้าใจผิด”
คำพูดของนรมน ทำให้คิมไม่รู้จะพูดอะไรอีกครั้ง