แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 951
เสียงเย็นเยือกดังสวนมา ทำให้บูรณ์หนาวสั่นโดยไม่รู้ตัว ในตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนตรงหน้าคือใคร ก็ยิ่งกลัวจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง
“คุณ..คุณชายอรรณพ ?”
“ทำไม? แกมีปัญหากับลูกสาวของฉัน?”
คนบนโลกต่างรู้ดีว่าสิ่งล้ำค่าที่สุดของอรรณพก็คือลูกสาวของเขา ตอนนี้บูรณ์จะตีลูกสาวของเขาในงานเลี้ยงฉลองของลูกสาวเขา นี่มันเหมือนตบหน้าอรรณพในที่สาธารณะ เป็นธรรมดาที่แววตานั้นจะเยือกเย็น
บูรณ์ในตอนนี้ถึงได้สติว่าเด็กผู้หญิงตรงหน้าคือใคร แต่มันก็สายไปแล้ว
“ขอโทษครับ คุณชายอรรณพ ผมไม่รู้ว่าเป็นคุณหนู ผม……”
“นี่มันคนของใคร? โยนมันออกไปซะ ชั่วชีวิตนี้อย่าให้ฉันเห็นมันอีก!”
อรรณพไม่ฟังคำอธิบายของบูรณ์ ออกคำสั่งไปทันที แล้วคุกเข่าลงอุ้มไอราขึ้นมา
“บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
“เจ็บหูมากเลย”
ไอรามุ่ยปาก ใบหน้าน้อยใจ
อรรณพโกรธขึ้นมาทันที
“ไอ้คนนี้มันทำอะไร? ฉันไม่อยากเห็นมันปรากฏตัวอยู่ในอาชีพนั้นอีก”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการออกคำสั่งแบนบูรณ์
บูรณ์เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป อยากจะขอความเมตตา แต่ก็ถูกคนปิดปากไว้แล้วลากไป
รมิดามองฉากละครอยู่ด้านข้าง ตอนนี้ถึงยิ้มพูดกับนรมน “แบบนี้ก็ไม่มีภัยคุกคามแล้ว”
นรมนมองไปที่รมิดาพูดด้วยความเหลือเชื่อ “นึกไม่ถึงว่าเธอจะเอาลูกสาวเธอมาเป็นเครื่องมือ?”
“แล้วยังไง? ไอราพละกำลังสูง ไม่มีปัญหาหรอก”
รมิดากลับไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
นรมนเอาแต่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็คิดไม่ออก
“แต่ว่าเธอไปคุยกับคุณชายอรรณพโดยตรงเลยไม่ดีกว่าหรอ?”
“ฉันกับเขาไม่มีอะไรต้องคุยกัน”
รมิดาพูดคำนี้ด้วยความเฉยชาเล็กน้อย แต่นรมนก็ยังฟังออกถึงเศษส่วนของความโมโหอยู่ในนั้น
นี่ทะเลาะกันหรอ?
นรมนไม่สะดวกที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่งปัญหาความรักของคนอื่น ได้เพียงยิ้มหึหึ จากนั้นก็พูดขึ้น “ขอบคุณนะ หลังจากนี้ถ้ามีเรื่องอะไร ถ้าฉันทำได้จะทำให้อย่างแน่นอน”
“เอ้อ ความหมายเธอคือจะเปิดบริษัทภาพยนตร์?”
“มีความคิดนี้อยู่”
นรมนไม่ได้ปิดบังรมิดา
“ฉันจะหุ้นด้วย”
รมิดาพูดพลางส่งบัตรธนาคารใบหนึ่งให้นรมน
“นี่……เธอไม่กลัวฉันเปิดไม่ไหวหรอ?”
“จะเป็นไปได้ยังไง? ประธานบุริศร์เป็นผู้ชายที่มีอำนาจที่สุดในเมืองชลธี มีเขาอยู่ เธอจะทำไม่ไหวได้ยังไง?”
รมิดาพูดจบก็ตบไหล่ของเธอ
“เธอมีธุระก็ไปก่อนเถอะ ฉันไม่ไปส่งแล้ว”
“โอเค พรุ่งนี้ฉันจะรอเธอ”
นรมนรู้สึกว่ารมิดาคนนี้นิสัยตามใจตนเกินไปแล้ว กระทั่งทำให้คนรู้สึกอิจฉา
เธอใช้ชีวิตอย่างอิสระ ใช้ชีวิตตามใจตัวเอง แต่หลักๆคือเธอมีทุนที่จะตามใจตัวเอง เพียงแค่ดาบสากลเล่มเดียวก็สามารถทำให้คนวิ่งตามเป็นฝูงเป็ดแล้ว
นรมนจู่ๆก็พบว่าตนก็ควรที่จะมีความสามารถในการปักหลักหน่อยถึงจะดี
รมิดาพูดถูก ตอนนี้ในเมืองชลธี ทุกคนต่างรู้ว่าเธอคือภรรยาของบุริศร์นอกจากนั้นแล้ว คนอื่นรู้ไหมว่าเธอนรมนเป็นคนยังไง?
อยากที่จะใช้ชีวิตของตัวเอง เธอจำเป็นต้องใช้ความพยายามและกายใจมากขึ้นถึงจะได้
คิดได้อย่างนี้แล้ว นรมนก็รู้สึกว่าชีวิตคนกลายเป็นสวยงามขึ้นมาไม่น้อย
เธอยิ้ม โบกมือให้กับแผ่นหลังของรมิดาจากนั้นก็พูดกับชัยยศที่อยู่ด้านข้าง “ไปกันเถอะ ดูซิว่าบุริศร์จะถามอะไรไหม?”
“ครับ คุณนาย”
ชัยยศออกมาจากงานเลี้ยงวันเกิดพร้อมกับนรมน จากนั้นก็พานรมนมาที่โรงงานร้างห่างไกลแห่งหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าที่แห่งนี้ถูกบุริศร์เอาไปใช้งานแล้ว
ในตอนที่นรมนได้เจอชยนต์อีกครั้ง ชยนต์ก็บาดเจ็บไปทั้งตัวแล้ว
อยู่กับบุริศร์มานานขนาดนี้ เธอรู้มาโดยตลอดว่าบุริศร์ไม่ใช่พ่อพระ และรู้วิธีการของบุริศร์เห็นมาเยอะแล้ว เป็นธรรมดาที่จะชินชาแล้ว
ในตอนที่ชยนต์เห็นนรมนก็เข้าใจทุกอย่างอย่างชัดเจน
“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่? เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญมาจับฉันหรอ?”
นรมนพูดยิ้ม “นายอย่ามองตัวเองสูงเกินไป ฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะนาย เรื่องบังเอิญทั้งนั้น
ฉันมาที่นี่เพื่อร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของลูกสาวคุณชายอรรณพ ไปเข้าห้องน้ำตามสะดวก ถ้าไม่ใช่เพราะนายรีบร้อนอยากที่จะทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นจนทนไม่ไหว ฉันก็ยังไม่รู้จริงๆว่านายอยู่ที่นี่”
ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ชยนต์ก็ตัวแข็งทื่อไปทั้งร่าง
“เป็นไปได้ยังไง? ฉันตรวจสอบห้องน้ำไปแล้ว ไม่มีคนอยู่เลย”
“ผ่านช่องระบายอากาศ”
นรมนเพียงแค่พูดออกมาไม่กี่คำ ชยนต์ก็เข้าใจ
“ฉันพลาดเอง”
เขาไม่อาจไม่ยอมรับได้ว่าตนช่างโชคร้าย
“แล้วนายคิดจะพูดทุกอย่างออกมาหรือยัง?”
แววตาที่นรมนมองชยนต์เย็นชาเล็กน้อย
ชยนต์นิ่งเงียบ
บุริศร์คว้าไหล่ของนรมน พูดเสียงอ่อนโยน “กลับกันก่อนเถอะ ไม่เร็วก็ช้าเขาก็ต้องพูด ไม่พูดก็ไม่เป็นไร ถึงยังไงเราก็มีวิธีที่จะรู้ ตอนนี้ดึกแล้ว เดี๋ยวเป็นหวัด”
“โอเค”
นรมนพยักหน้า ทั้งสองเดินไปทางด้านนอก
ทันใดนั้นชยนต์ก็เปิดปาก
“ฉันพูดแล้ว พวกเธอจะไว้ชีวิตฉันได้ไหม?”
“ได้”
นรมนตอบอย่างเด็ดขาด มันทำให้บุริศร์รู้สึกแปลกใจ
“อย่าใจอ่อน”
นรมนส่ายหน้าพร้อมพูดยิ้ม “ฉันมีการพิจารณาของตัวเอง”
ได้รับการคำตอบจากนรมน ชยนต์ถึงพูดเสียงต่ำ “ขาของปัญญ์ฉันเป็นคนหักจริงๆ”
“เหตุผล หรือว่าเป็นเพราะฉันให้เขาไปตรวจสอบบัญชีของนายหน้าท่องเที่ยว นายก็เลยลงมืออย่างโหดร้าย?”
พอนรมนนึกถึงเรื่องนี้ ในใจก็แทบทนไม่ไหวที่จะถลกหนังของชยนต์ออก
ชยนต์พูดพลางยิ้มอย่างขมขื่น “แน่นอนว่าไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกับนายหน้าท่องเที่ยว”
“แล้วมันเพราะอะไรกันแน่?”
ชยนต์นิ่งเงียบไปอีกครั้ง
ครั้งนี้ นรมนก็ไม่ได้เร่งเขา รอคอยอย่างเงียบๆ
ในที่สุดชยนต์ก็เอ่ยปาก
“มีคนให้ฉันทำแบบนี้”
“นายใหญ่ที่ชายแดนนั่น?”
“ใช่ และไม่ใช่”
คำพูดของชยนต์ทำให้นรมนกับบุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“หมายความว่ายังไง?”
“นายใหญ่นั่นเป็นแค่ฉากหน้า คนที่อยู่เบื้องหลังจริงๆเป็นอีกคน”
ชยนต์พูด “การมุ่งเป้าไปที่ปัญญ์กับคมทิพย์เป็นคำสั่งของคนเบื้องหลังคนนั้น เงื่อนไขก็คือจะให้เหมืองทองคำฉันหนึ่งแห่ง ต้องรู้ว่า เหมืองทองคำเทียบกับนายหน้าท่องเที่ยวที่ไม่คุ้มเงินนั่นแล้ว ได้กำไลกว่ามาก ดังนั้นฉันจึงไม่ลังเลแม้แต่น้อย อีกอย่างพวกเขาเป็นคนที่เธอส่งมาตรวจสอบฉัน เป็นธรรมดาที่ฉันจะลงมือได้”
ได้ฟังชยนต์พูดแบบนี้ สายตาของนรมนก็เย็นเยือกเล็กน้อย
“อีกฝ่ายเป็นใคร? พวกนายวางยาอะไรคมทิพย์?”
“อีกฝ่ายเป็นใครฉันเองก็ไม่รู้ แม้ว่าจะเคยร่วมมือกัน แล้วยังให้เหมืองทองฉันมาจริงๆ แต่ว่าคนที่ติดต่อกับฉันมาตลอดคือผู้หญิงคนนั้นที่พวกเธอเห็น แต่ฉันรู้ว่าหล่อนเองก็ทำเรื่องตามคำสั่ง ส่วนเรื่องวางยาคมทิพย์ เหมือนว่าจะไม่มีอะไร ก็แค่สามารถทำให้เธอเป็นหมันได้”
คำพูดของชยนต์ทำให้ระงับความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ ตบหน้าไปทีนึงทันที
“นี่ยังไม่ร้ายแรง? สำหรับผู้หญิงคนนึงแล้ว การเป็นแม่ไม่ได้มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายแค่ไหน พวกนายรู้ไหม?”
หน้าซีกนึงของชยนต์บวมขึ้นมาทันที
คิ้วของบุริศร์ขมวดเล็กน้อย พูดอย่างปวดใจ “จะตบคนเธอให้พวกเขาทำ ทำไมเธอลงมือเองล่ะ? มือนี้เจ็บไหม? ให้ฉันดูหน่อย”
ขณะที่พูดเขาก็ดึงมือของนรมนขึ้นมาตรวจดูจริงๆ
นรมนไร้คำพูดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้บุริศร์อ่อนโยนกับเธอจนถึงขีดสุด
สีหน้าของชยนต์มีความดูไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
นรมนสูดหายใจเข้าลึกแล้วพูด “ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร?”
“เมทนี ฉันรู้แค่ว่าหล่อนชื่อเมทนี คนที่อยู่เบื้องหลังคือใครฉันไม่รู้จริงๆ ได้ยินแค่เมทนีเรียกเขาว่าคุณชายเนวิล”
“เป็นผู้ชาย?”
“น่าจะใช่”
หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องเหล่านี้จากปากของชยนต์แล้ว นรมนกับบุริศร์ก็รู้สึกมีความน่าสงสัย
พวกเขาไม่รู้จักคุณชายเนวิลอะไรนี่ อีกฝ่ายทำไมต้องทำแบบนี้?
“ยาพิษในตัวของคมทิพย์ชะล้างได้ไหม?”
“ชะล้างไม่ได้แล้ว ตอนนั้นหล่อนถูกกดไว้ในน้ำเย็นนานกว่าสามชั่วโมง ตอนที่ดึงขึ้นมาก็เหลือแค่ลมหายใจเดียวแล้ว แล้วโดนฉีดยาอีก ชั่วชีวิตนี้อยากจะตั้งท้องคลอดลูกเกรงว่าจะไม่ได้แล้ว แล้วทุกครั้งที่เมนส์มาก็จะเจ็บปวดจนยากที่จะทน น่าอนาถ”
ได้ยินชยนต์พูดแบบนี้ นรมนก็ยิ่งรับไม่ได้
“อีกฝ่ายเป็นเพราะเกลียดฉันถึงทำแบบนี้ หรือเพราะมีความบาดหมางกับตระกูลเจริญไชย?”
“มีหมดแหละ ฉันเพียงแค่ได้ยินเป็นบางครั้งว่าอีกฝ่ายพูดว่าตระกูลเจริญไชยเหลือไว้ไม่ได้ ดังนั้นที่พวกเขาทำแบบนี้ก็ไม่เห็นว่าเป็นเพราะเธอทั้งหมด”
นี่นับว่าชยนต์ปลอบโยนนรมนอยู่นะ
นรมนกลับรู้สึกดูถูก
ตอนนี้เธอไม่รู้อะไรแล้ว ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้งมากขึ้น
ต่อให้ไม่ใช่เพราะเธอ แต่ก็เพราะเธอให้ไปหาชยนต์ที่ชายแดน ดังนั้นก็ยังเป็นนรมนที่ติดค้างพวกเขาสองพี่น้อง
บุริศร์เห็นนรมนเหนื่อยเล็กน้อย ก็พูดอย่างอ่อนโยน “พวกเรากลับไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ เรื่องบางอย่างก็ไม่อาจรู้ความจริงได้ในชั่วข้ามคืน อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยล้า”
“โอเค”
ร่างกายของนรมนเริ่มทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
พอกำลังจะยืดตัวขึ้น ก็ได้ยินชยนต์ร้องเรียก “เธอพูดแล้วนะว่าจะไว้ชีวิตฉัน”
ร่างของนรมนชะงักเล็กน้อย
เธอไม่ได้หันหน้ากลับไป พูดอย่างเยือกเย็น “ใช่ ฉันรับปากว่าจะไว้ชีวิตนาย แต่ความขมขื่นที่ปัญญ์ได้รับ นายก็ลิ่มลองดูหน่อยเถอะ แล้วความขมขื่นที่คมทิพย์ได้รับก็รับไปซะ ที่นี่ไม่มีสระน้ำเย็น แต่ว่ามีทะเล โยนเขาลงไปในทะเล ดึงขึ้นมาในตอนที่เหลือลมหายใจสุดท้าย จากนั้นก็ตัดขาทั้งสองข้างของเขาเอาไปทิ้งไว้บนถนน”
พูดจบ นรมนก็ออกไปพร้อมกับบุริศร์ไม่มีการหยุดอยู่ต่อ
“ไม่ นรมน เธอทำแบบนี้กับฉันไม่ได้! ที่เธออยากรู้ ฉันก็บอกเธอหมดแล้ว เธอทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!”
เดิมทีชยนต์นึกว่านรมนจะพูดง่ายกว่าบุริศร์ดังนั้นจึงรั้งไว้ รั้งให้นรมนเข้ามา คิดมาตลอดว่าผู้หญิงจะใจอ่อนหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่านรมนจะทำกับตนแบบนี้
บุริศร์รู้สึกว่าเขาหนวกหูนิดหน่อย พูดขึ้นเย็นชา “ยังยิ่งนิ่งทำไมอยู่? คิดจะให้มันเรียกทุกคนมาให้หมดเลย?”
พูดคำนี้ไป ก็มีคนมาปิดปากของชยนต์ไว้ทันที ลากเขาลงไปโดยตรง
หลังจากนรมนกับบุริศร์ขึ้นรถแล้ว ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างเหนื่อยล้า “นายก็รู้สึกว่าฉันโหดร้ายเกินไปใช่ไหม?”
“ไม่เลย ตรงกันข้าม เธอที่เป็นแบบนี้ถึงทำให้ฉันวางใจปล่อยให้เธอเข้าวงการบันเทิงตัวคนเดียว”
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนก็ชะงักไปสามวินาที จากนั้นก็มองไปที่บุริศร์อย่างประหลาดใจแล้วพูดขึ้น “เรื่องบริษัทภาพยนตร์ สำเร็จแล้ว?”
“ไม่ได้เร็วขนาดนั้น แต่ก็ใกล้แล้ว”
ขณะที่บุริศร์พูด ก็ขับรถด้วยตัวเองพานรมนไปทางโรงแรม แต่พึ่งขับออกไปได้ไม่นาน ถนนด้านข้างก็มีรถรถสีดำขับเข้ามาสามคัน ปิดกั้นพวกเขาไว้อยู่ในวงล้อม