แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 968
นรมนไม่ได้พยักหน้า แต่หยิบแก้วไวน์ไปที่ระเบียง
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอเริ่มชอบดื่มเหล้า ไม่ใช่ดื่มจนเมา แต่ทุกคืนก่อนนอนดื่มไวน์แก้วหนึ่ง พอให้เธอนอนหลับสนิท ไม่ถึงกับตื่นทุกชั่วโมง ตื่นมาแล้วพบว่าบนเตียงใหญ่มีแค่ตัวเองคนเดียว ทันใดนั้นรู้สึกหนาวเหน็บเหลือเกิน
พริมารู้สึกว่านรมนรู้เรื่องแล้ว ถ่ายรูปเบื้องหลังเหงาๆ ของนรมนส่งให้บุริศร์ และส่งข้อความไปด้วย
“คุณนายอารมณ์ไม่ค่อยดี เธอฝากให้ฉันขอบคุณที่คุณช่วย คิดว่าคงรู้นานแล้วค่ะ”
บุริศร์มองมือถืออยู่นาน จู่ๆ ก็พูดกับชัยยศ “เตรียมเฮลิคอปเตอร์ ผมจะไปเมืองBหน่อย”
เขารู้ว่าตัวเองไม่ควรไปที่นั่น และรู้ว่านรมนไม่อยากเจอตัวเอง แต่เขาก็ยังหักห้ามใจตัวเองไม่ได้
เบื้องหลังนรมนที่ดูเหงาหงอยเหมือนมีดคมเล่มหนึ่ง แล่เนื้อเถือหนังหัวใจของเขาทีละนิด
เธอผอมไป
ผอมไปมากทีเดียว
ได้ยิน พริมาบอกว่าช่วงนี้เธอออกงานเลี้ยงและยังดื่มเหล้า
ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้หรือไงใจคนเราร้ายแค่ไหน
แถมเธอยังเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้!
บุริศร์เดินทางไปเมืองBด้วยจิตใจที่เป็นห่วง
งานเลี้ยงฉลองของนรมนจัดที่รอยัล คอร์ท เลเชอร์ คลับ ไม่ได้เหมาห้องส่วนตัว แต่จัดที่ห้องโถง เพียงแต่เธอไม่คุ้นชินกับความครึกครื้น จึงหลบที่ระเบียงตากลมเย็นสบายคนเดียว
ค่ำคืนมืดมิด ดวงดาวส่องแสงสดใส แต่ข้างกายไม่มีคนดูดาวเป็นเพื่อน
ตอนที่บุริศร์มาถึง เห็นแต่ด้านหลังของนรมน
พริมากระวีกระวาดเข้าไปต้อนรับ
“ประธานบุริศร์ คุณนายเธอ…”
“ผมรู้แล้ว คุณไปต้อนรับคนอื่นเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงผม”
บุริศร์น้ำเสียงค่อนข้างแหบพร่า ดวงตามีเส้นเลือดฝอย ดูแล้วเป็นเพราะพักผ่อนน้อย
พริมาก็ไม่พูดอะไรมากอีก รีบถอยไปทางหนึ่งทำงานของตัวเอง
บุริศร์อยากจะเข้าไปเอาเสื้อของตัวเองคลุมบนไหล่ของนรมน เสื้อผ้าของเธอบางอย่างนั้น และยังยืนตากลมข้างนอกอีก ไม่กลัวเป็นหวัดหรือไง
แต่ในที่สุดเขาก็ไม่ได้เข้าไป แต่เลือกที่จะนั่งลงที่มุมหนึ่ง คอยสังเกตนรมนเงียบๆ
นรมนดื่มไวน์แดงหมดแล้ว รู้สึกค่อนข้างหนาว
เธอเดินออกมาจากระเบียง จะไปห้องน้ำ
แสงไฟในคลับมืดมาก ประกอบกับนรมนอารมณ์ไม่ดี จึงไม่ได้สังเกตเห็นคนที่เดินสวนมา เสียง “โอ๊ะ” ชนกับคนที่เดินสวนมา
“เฮ้ ตาบอดหรือไง”
ผู้ชายพูดจาหยาบคาย อารมณ์เสีย
“ขอโทษค่ะ”
นรมนรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด รีบขอโทษ
พอดีกับที่ตอนนี้มีแสงส่องมาพอดี สะท้อนใบหน้าของนรมน หน้าตาสวยงามที่เพียงมองแวบเดียวทำให้ผู้ชายคนนั้นอยากได้จนน้ำลายหก
“สาวน้อย ตั้งใจใช่มั้ยล่ะ อยากจะเล่นกับพี่ชายก็พูดมาตรงๆ สวยๆ ขนาดนี้ พี่ชายไม่ปฏิเสธหรอก”
พูดพลาง มือชายหนุ่มก็แตะเอวบางของนรมน
“จุ๊ๆ เอวนี่เซ็กซี่จัง”
ท่าทางหื่นของผู้ชายคนนั้นทำให้นรมนรู้สึกขยะแขยง
ช่วงนี้เธออารมณ์ไม่ดี เดิมทีคิดว่าเนตราถูกจับแล้ว กล้าณรงค์ จะคิดหาทางช่วยเธอออกมา ถึงตอนนั้นเธอจะได้สืบเรื่องอุบัติเหตุของพฤกษ์เป็นมายังไงกันแน่ แต่น่าเสียดาย กล้าณรงค์ทิ้งเนตราไม่ไยดี และข้อกล่าวหาบางอย่างที่สืบไม่ได้ก็มัดตัวเนตราจนเนตราถูกตัดสินจำคุกสามปี
พ่อนรมนกับแม่นรมนมาโหวกเหวกที่พักของเธอทุกวันเพราะเรื่องนี้ ทางที่ดีที่สุดคือแจ้งตำรวจจัดการปัญหา เรื่องนี้ทำให้นรมนกลุ้มใจอยู่นาน และตัวเองในที่สุดก็ยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือของบุริศร์ถึงจะเปิดบริษัทได้ก็ทำให้เธอยิ่งรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ
ตอนนี้อารมณ์สับสน ไม่มีที่ระบาย นึกไม่ถึงวันนี้จะเจอคนอยากตาย ดวงตาของนรมนขรึมลง
“ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
“โอ๊ะ เผ็ดร้อนซะด้วย อย่างนี้พี่ชายชอบ”
ผู้ชายคิดว่านรมนเล่นเกมแกล้งทำเป็นไม่สนใจ ยื่นหน้าเข้ามาโดยไม่ละอาย แต่ถูกนรมนตบฉาด แล้วจับไหล่ทุ่ม โยนผู้ชายคนนั้นกระเด็นไป
การเคลื่อนไหวของเธอคล่องแคล่วว่องไว มีแรงมากกว่าตอนอยู่กับบุริศร์มากทีเดียว
“แกกล้าดียังไงตบหน้าฉัน รู้มั้ยฉันคือใคร นังแพศยา เชื่อมั้ยล่ะ ฉันพูดแค่คำเดียวแกก็ไม่มีทางอยู่เมืองB ต่อได้แล้ว”
ผู้ชายเจ็บปวดจนหน้าตาบูดเบี้ยว แต่ยังไม่ลืมข่มขู่นรมน
นรมนยิ้มเย็น รองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตรเหยียบลงบนท้องของเขา
“โอ๊ย…”
เสียงผู้ชายกรีดร้องเหมือนหมูถูกเชือด
นรมนถอดถุงเท้าของเขายัดใส่ปาก พูดเย็นเยียบ “มีปัญญาก็ลองดูสิ”
ผู้ชายคนนั้นตกใจเมื่อเห็นความเย็นชาและรังสีอำมหิตในแววตาของเธอ อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ปากยังถูกถุงเท้ายัด ได้แต่ร้องอู้อี้ ไม่รู้ว่ากำลังข่มขู่หรือขอร้อง
นรมนที่เพิ่งอัดคนระบายอารมณ์ แต่ยิ่งระบายอารมณ์กลับยิ่งรู้สึกว่างเปล่า
เธอทิ้งผู้ชายคนนั้น แล้วเดินไปห้องน้ำ
บุริศร์เห็นเธอเดินไปแล้ว ก็ออกจากมุมมืดเดินเข้าไป
“เมื่อกี้มือนี้จับเธอใช่มั้ย”
บุริศร์ปรากฏตัวเงียบๆ ทำให้ผู้ชายคนนั้นตกใจสติกระเจิง ยังไม่ทันเห็นบุริศร์ชัดเจน ก็ได้ยินเสียงก็ได้ยินเสียงกร๊อก มือขวาของตัวเองถูกคนหักแล้ว
“โอ๊ย! แก…”
เขายังคิดจะพูดอะไรอีก ก็ได้ยินบุริศร์พูดเย็นชา “อย่าให้ผมเห็นหมอนี่ที่เมืองB อีก”
เมื่อสิ้นเสียงนั้น ชัยยศที่อยู่ข้างหลังก็อุดปากผู้ชายคนนั้นลากออกไป
นรมนไม่รู้เรื่องนี้เลย
เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ ใช้น้ำเย็นตบหน้าตัวเอง ลองทำให้ตัวเองมีสติ
สามเดือนมานี้แม้จะมีงานทำตลอด แต่เธอรู้ดีในใจลึกๆ ตัวเองยังลืมบุริศร์ไม่ได้
เรื่องความช่วยเหลือของบุริศร์ ในใจเธอสับสนมาก แต่แรกเธอปฏิเสธได้ ช่วงสามเดือนมานี้คมทิพย์ออกอัลบั้ม ผลตอบรับดีมาก แทบจะดังในชั่วข้ามคืน ตอนนี้มีบริษัทแย่งเซ็นสัญญากับเธอมากมาย แต่คมทิพย์ยืนยันจะเซ็นกับบริษัทของเธอ
ตอนนั้นเองนรมนก็รู้ว่า เธอรอให้ตัวเองทำบริษัทผลิตภาพยนตร์ ขึ้นมาให้ได้
เธอยังจำได้คมทิพย์ต้องแบกรับแรงกดดันมากแค่ไหน ดังนั้นเธอยอมรับความช่วยเหลือของบุริศร์
นรมนมองตัวเองในกระจก ทันใดนั้นรู้สึกว่าตัวเองน่าขัน
ทำไมเธอยังปล่อยวางไม่ได้
รักคนคนหนึ่ง ต้องครอบครองถูกมั้ย
นรมนยิ้มขมขื่น เปิดประตูห้องน้ำออกมา
ผู้ชายคนเมื่อครู่หายไปแล้ว
นรมนไม่ได้คิดมาก เข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นหาคนช่วยหรือกลัวจนหนีไปแล้วก็เป็นได้ทั้งนั้น เธอคร้านจะคาดเดากับคนแปลกหน้า
เธอเดินกลับไปที่ห้องโถง ดาราในสังกัดสองสามคนต่างมีแก้วในมือ เมื่อเห็นนรมนเดินมา ก็รีบวางมือ พูดกับ นรมน “ประธานนรมนดื่มหน่อยมั้ยครับ”
นรมนดื่มค่อนข้างมากแล้ว แต่เมื่อเห็นสายตาคาดหวังจากดาราแต่ละคน เมื่อนึกถึงตัวเองตั้งแต่มาถึงก็ยังไม่ได้พูดคุยกับพวกเขา เลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์
“ได้เลย วันนี้งานฉลอง ทุกคนไม่เมาไม่กลับ”
นรมนยกแก้วไวน์ขึ้น
เหมือนระบายอารมณ์ เธอดื่มไวน์แดงในแก้วรวดเดียวหมด จากนั้นก็รินไวน์อีก
“ตัวฉันเอง ไม่รู้เรื่องอะไร มีแค่ความกระตือรือร้นสร้างบริษัทผลิตภาพยนตร์ ขึ้นมา อนาคตของบริษัทต่อจากนี้จะเป็นยังไง ก็ต้องอาศัยความพยายามของทุกคนร่วมมือไปด้วยกันแล้ว ฉันขอดื่มอวยพรทุกคนก่อน ต่อไปรบกวนทุกคนด้วยค่ะ”
นรมนถ่อมตัวมีมารยาท จากนั้นก็ดื่มไวน์ในมือจนหมดเกลี้ยง
ทุกคนเห็นนรมนเป็นกันเองอย่างนี้ แต่ละคนก็รู้สึกผ่อนคลาย
บุริศร์มองนรมนเป็นอย่างนี้จากมุมมืด สีหน้าสงสารก็ปรากฏขึ้น
เขาอยากจะเข้าไปแย่งแก้วไวน์ในมือนรมน แต่ก็ยังคงลังเล
พริมาเข้าใจบุริศร์ เห็นนรมนเป็นอย่างนี้ ก็รีบห้ามเธอ
“ประธานนรมนร่างกายคุณไม่ค่อยแข็งแรง อย่าดื่มเยอะเลยค่ะ ทุกคนทราบน้ำใจของคุณแล้ว อย่าดื่มอีกเลย”
ทุกคนเมื่อได้ยินพริมาพูดว่านรมนร่างกายไม่แข็งแรง แต่ละคนก็เกรงใจ
“ประธานนรมนไม่เป็นไรนะครับ พวกเราไม่รู้จริงๆ ว่าคุณสุขภาพไม่ค่อยดี พวกเรา…”
“ไม่เป็นไร ฉันดีขึ้นมากแล้ว ประธานแค่ห่วงฉันมากไป พวกเธอไม่ต้องเกรงใจ ฉันอายุมากกว่าพวกเธอไม่เท่าไหร่”
นรมนยิ้มบางๆ
เธอผลัก พริมาเบาๆ แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่แววตาไม่พอใจ
พริมาสังเกตสีหน้าคนเก่ง ย่อมรู้ว่านรมนไม่พอใจตนเอง
เธอก็ลำบากใจ ขณะที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จู่ๆ ก็ได้ยินนรมนพูดขึ้น “เธอออกไปซื้อยาแก้เมาที่ร้านขายยาข้างนอกให้ฉันหน่อย ฉันกลัวเดี๋ยวจะเดินไม่ไหว”
พริมารู้ว่านรมนอยากจะไล่เธอไป แต่เธอก็หาเหตุผลอยู่ต่อไม่ได้
เธอมองไปทางบุริศร์แวบหนึ่ง
นรมนรับรู้ได้
“เป็นอะไรไป เธอเป็นซีอีโอของฉัน ฉันสั่งเธอไม่ได้แล้วหรือไง เธอคิดจะฟังใครหรือ”
คำพูดนี้ทำให้พริมาไม่สบายใจ
“ประธานนรมนไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่เป็นห่วง…”
“ที่นี่มีแต่คนของบริษัทเรา เธอกลัวว่าพวกเขาจะคิดไม่ดีกับฉันหรือ หรือว่าเธออยากจะให้ฉันเมา”
“ฉันไปเดี๋ยวนี้ค่ะ
พริมาทันใดนั้นรู้สึกว่านรมนมีแรงกดดันมาก
ปกติเธอไม่เรื่องมาก และสุภาพ ถึงกับดูเศร้าสร้อยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้แผ่อำนาจออกมากลับทำให้ พริมารู้สึกว่าเหมือนเห็นบุริศร์อย่างไรอย่างนั้น
เหลือเชื่อสองสามีภรรยา แม้แต่อารมณ์ยังคล้ายกันขนาดนี้
พริมารีบออกไปซื้อยาแก้เมา
บุริศร์ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง
หลังจากนรมนรู้ว่าบุริศร์อยู่ที่นี่ ก็ยิ่งทำตามอำเภอใจ
ไม่รู้ว่าจิตใจเป็นยังไง เธอเปิดเบียร์โหลหนึ่ง พูดกับพนักงาน “ดื่มกัน วันนี้ไม่เมาไม่กลับ!”
พนักงานในบริษัทเห็นนรมนสนุกสนานครึกครื้น ก็ไม่คิดจะหักหน้าเธอ จึงดื่มเป็นเพื่อนเธอ
รู้สึกตัวอีกที เบียร์หนึ่งโหลก็เกลี้ยงแล้ว
นรมนตาพร่าเลือนแล้ว
แต่ พริมายังไม่กลับมา
บุริศร์โกรธจัด เห็นนรมนไม่กลัวตายเปิดขวดใหม่อีก เขาทนไม่ไหวแล้ว ลุกขึ้นจากมุมมืดเดินออกไป ก้าวพรวดไปยืนข้างนรมน คว้าขวดเหล้าในมือเธอ สีหน้าบอกบุญไม่รับ
“อย่าดื่มอีก คุณเมาแล้ว”
ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นบุริศร์จู่ๆ ปรากฏตัว ยังไม่ทันถามเขาคืนใคร ก็เห็นนรมนพลิกฝ่ามือ ฟาดเข้าที่หน้าบุริศร์
“คุณมายุ่งอะไรด้วย คุณเป็นอะไรกับฉัน