แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 970
สีหน้าบุริศร์เคร่งเครียด
“นรมน หยุดโวยวายได้แล้ว! กลับบ้าน!”
เขาอยากจะอุ้มนรมน แต่นรมนหนีไปข้างๆ เบี่ยงตัวหลบเขาไม่ยอมให้แตะตัว
“คุณไปซะ! ใครอยากจะกลับกับคุณ ไม่กลับ! เราหย่ากันแล้ว กลับทำบ้าอะไร!”
นรมนเรอ สายตาพร่ามัว
รัศมีความโกรธแผ่ออกมาจากรอบตัวบุริศร์ ทำให้อากาศรอบตัวหนาวเหน็บ
พนักงานเห็นอย่างนี้ แต่ละคนไม่รู้ควรจะพูดอย่างไรดี มีคนโทรไปหาพริมาแล้ว
บุริศร์สูดลมหายใจลึก พยายามระงับอารมณ์โกรธของตัวเอง เดินเข้าไป พยายามบังคับอุ้มนรมนขึ้นมา
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! คนบ้า! เราหย่ากันแล้ว!”
“หุบปาก!”
อารมณ์โกรธพลุ่งพล่านในตัวบุริศร์
“ประธานนรมน…”
มีคนอยากจะเข้ามาห้าม แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นดวงตาบุริศร์ที่เย็นชาจนทำให้คนตัวแข็ง รีบถอยหลังไป
“ไม่เอาไหน!”
นรมนขมวดคิ้วแน่น พึมๆ พำๆ รู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วนทรมาน
เธอตบบุริศร์ กระซิบ “ฉันอยากอ้วก”
บุริศร์ยิ่งขมวดคิ้วแน่น
เขาเห็นนรมนท่าทางทรมาน ทนดูต่อไปไม่ไหว อุ้มนรมนไปห้องน้ำ
ห้องน้ำถูกบุริศร์กันให้คนอื่นออกไปให้หมด
เขาอุ้มนรมนเข้าไปข้างใน ก็วางเธอลงที่อ่างล้างหน้า
นรมนอ้วกอยู่นานแต่ก็ไม่มีอะไรออกมา
“ไม่ได้กินอะไรแล้วดื่มเหล้าหรือ”
เสียงของบุริศร์ฟังแล้วหนาวเย็นเหมือนหิมะโปรยปราย หนาวจนตัวสั่น
นรมนเรอออกมา ดวงตาพร่าเลือนมองเขา สบถออกมา “เกี่ยวอะไรด้วย”
“พูดให้ดีๆ หน่อย!”
บุริศร์รู้สึกว่านรมนตอนนี้อยากจะถูกตบเหลือเกิน โดยเฉพาะสายพร่ามัวเพราะเมา ยิ่งมีแรงดึงดูดมาก
เขายิ่งควบคุมความคิดของตัวเองไม่ได้
นรมนไม่รู้สึกตัว บุริศร์พูดดีกับเธอเท่าไหร่ เธอยิ่งต่อต้าน
“ไม่! ไม่! มันเรื่องอะไรของคุณ”
เธอพูดแล้วก็พะอืดพะอม
เมื่อเห็นเธอไม่มีอะไรจะอ้วกออกมาได้ บุริศร์ก็แบกเธอขึ้นบนไหล่พาออกมาข้างนอก
พนักงานรอกันอยู่ข้างนอก เห็นบุริศร์ออกมา ก็รีบเข้ามาใกล้
“ถอยไป!”
บุริศร์อารมณ์บูด โดยเฉพาะเมื่อนรมนมีสภาพเป็นอย่างนี้ ถ้าคนพวกนี้มีความสามารถบางทีเขาอาจจะไม่เอาเรื่องก็ได้
“คุณเป็นอะไรกับประธานนรมน ถ้าจะพา ประธานนรมนไปอย่างนี้ พวกเราจะแจ้งตำรวจ”
อีกฝ่ายหยิบมือถือออกมา ข่มขู่บุริศร์ทันที
บุริศร์ยิ้มเย็น โยนทะเบียนสมรสให้พวกเขาดู
“ตอนนี้ยังจะขวางมั้ย”
เมื่อเห็นว่าบุริศร์คือสามีของนรมน ก็หลีกทางให้ทันที
“คุณบุริศร์ ประธานนรมนไม่ค่อยได้กินอะไร ดื่มมากอาจจะไม่ค่อยสบาย คุณ…”
“รู้ว่าเธอไม่ได้กินอะไรยังปล่อยให้เธอดื่มอีกหรือ”
น้ำเสียงของบุริศร์ราวกับจะลงโทษประหารอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายตกใจจนเงียบกริบ
นรมนไม่ค่อยพอใจ
“ บุริศร์ ฉันจะบอกให้นะ ขู่พนักงานฉันให้น้อยๆ หน่อย ไม่งั้นฉันจะให้คุณนอนโซฟา!”
คำพูดนี้ฟังแล้วเผด็จการ
บุริศร์คลายโมโหไปหน่อยหนึ่ง
“ทำไมจะนอนโซฟาไม่ได้”
บุริศร์ไม่ได้สังเกตตัวเอง น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนลงมาก
นรมนรู้สึกไม่สบายดึงบุริศร์ พะอืดพะอม จากนั้นก็พูดอย่างหงุดหงิด “บุริศร์ ฉันไม่ไหว! ฉันไม่ไหว!”
“โอเค ผมจะพาคุณกลับ”
สายตาของบุริศร์อ่อนโยนเหมือนน้ำ อุ้มนรมนออกไป
คนที่อยู่รอบๆ ก็ไม่ขวางอีก
“สามีของประธานนรมน คนนี้ ทำไมดูแล้วคุ้นๆ หน้า! เหมือนเคยเห็นที่ไหน”
“พวกนายไม่เคยดูข่าวเศรษฐกิจหรือไง เขาน่าจะเป็นบุริศร์เจ้าพ่อเมืองชลธี”
“เมื่อกี้ ประธานนรมนเรียกชื่อนี้ใช่มั้ย”
“เหมือนจะใช่นะ”
สองสามคนซุบซิบกัน สุดท้ายก็เข้าใจแล้วทำไมนรมนตัวเล็กๆ ถึงตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ ได้สำเร็จ
นรมนไม่รู้เรื่องนี้สักนิด
หลังจากเธอถูกบุริศร์อุ้มขึ้นรถ รู้สึกว่าหัวมึนๆ หนักๆ
บุริศร์ให้เธอพิงไหล่ ชัยยศขับรถค่อนข้างนุ่มนวล
กลับมาถึงที่พักของนรมน บุริศร์อุ้มเธอลงจกรถ นรมนหลับไปแล้ว
หลายเดือนมานี้ บุริศร์กับนรมนไม่ได้ใกล้ชิดกันอย่างนี้มานาน เขาอาลัยช่วงเวลาที่ดีเช่นนี้ แต่ก็ไม่อยากเห็น นรมนเป็นทุกข์แบบนี้
บุริศร์อุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน ถอดรองเท้า แล้วห่มผ้าห่มให้เธอ ตอนที่จะเดินไปก็รู้สึกว่าชายเสื้อถูกนรมนดึงไว้
“อย่าไป!”
เสียงของเธอไม่ดังมาก ถึงกับสะอึกนิดหนึ่ง ขอบตามีน้ำตาซึมออกมา
ใจของบุริศร์รวดร้าว
เขานั่งตรงหน้านรมน กระซิบ “ผมไม่ไปไหน คุณนอนให้สบายเถอะ ผมจะไปต้มโจ๊กให้”
นรมนไม่รู้ว่าได้ยินหรือเปล่า แต่ก็หลับต่อไป
บุริศร์ดึงมือที่จับชายเสื้อตัวเองออก เขามองนรมนเป็นทุกข์อย่างนี้ อดไม่ได้ที่จะโทษตัวเอง แต่เขาก็มีความลำบากใจ เรื่องนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาจะให้นรมนรู้ไม่ได้เด็ดขาด
“ขอโทษครับ”
บุริศร์กระซิบ จูบที่หน้าผากของนรมน จากนั้นก็ดึงมือออก
นรมนไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ รู้สึกแต่ว่าในท้องร้อนแผดเผา
เธอนึกถึงความทุกข์หลายวันนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกน้อยใจเหลือเกิน น้อยใจจนนอนไม่หลับ
นรมนลุกขึ้น มือสัมผัสแก้วน้ำบนโต๊ะ เสียงดัง “เพล้ง” ทำให้นรมนตกใจ
บุริศร์รีบวิ่งเข้ามา เห็นนรมนก้มลงจะเก็บเศษแก้วก็รีบร้องห้าม “อย่าเพิ่งจับ!”
นรมนย่อตัวลง ถูกบุริศร์ร้องห้าม ก็หยุดชะงัก
บุริศร์รีบวิ่งเข้ามา คว้าไม้กวาดมากวาดลงในถังขยะใกล้ๆ
“คุณนอนบนเตียงเถอะ ผมเก็บเอง”
บุริศร์เห็นนรมนเงอะงะ ก็พูดเสียงเบาลง
นรมนกลับยืนขึ้น เดินมาหาบุริศร์ จับปกคอเสื้อเขา ดึงเข้ามาหาตัวเอง
“บุริศร์”
ลมหายใจของเธอรดใบหน้าของบุริศร์ รู้สึกอบอุ่น และทำให้ความทุกข์หลายวันมานี้ของบุริศร์คลายไปบ้าง
“อึม”
เขาพยักหน้า
“สารเลว!”
นรมนตบฉาดหนึ่ง
บุริศร์ทำหน้าไม่ถูก แก้มซ้ายบวมทันที
แต่เขาไม่หลบ และไม่พูดอะไร ดึงนรมนเข้ามากอด ประทับจูบดูดดื่มเร่าร้อน
นรมนไม่หลบ แต่กลับยื่นแขนไปโอบคอของบุริศร์ จูบกลับ
บุริศร์อึ้งทันที
แต่ก็แค่อึ้งเพียงแค่เสี้ยววินาที เขาใช้สิทธิ์ควบคุมโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามใจปรารถนา
บุริศร์มองดูนรมนที่หลับไปด้วยความอ่อนล้า ในใจรู้สึกสับสน
เขาอยากจะอยู่กับนรมนจริงๆ เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นวิธีนี้ อีกด้านหนึ่ง เขาก็รู้ ที่นรมนเป็นแบบนี้ คงเป็นเพราะดื่มมากไป
ไม่รู้ว่าเธอหายเมาแล้วจะยังคงทำแบบนี้กับตัวเองต่อไปหรือไม่
บุริศร์ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า มองรอยช้ำบนตัวนรมน แอบด่าตัวเองที่รุนแรงเกินไป แต่นานขนาดนี้แล้ว เขาควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ
เขาห่มผ้าห่มให้นรมนอีกครั้ง แล้วต้มโจ๊กให้เธอ
ตอนที่นรมนตื่นขึ้น บุริศร์ไม่อยู่แล้ว
เธอรู้สึกว่าเจ็บปวดไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงนั้นรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ
ภาพขาดวิ่นเป็นตอนๆ เข้ามาในสมองของนรมน
ทันใดนั้นเธอรู้สึกกลุ้มใจหงุดหงิด
เธอนอนกับบุริศร์ได้ยังไง
ปัญหาของบุริศร์ยังไม่ได้อธิบายให้รู้เรื่อง เธอเมาแล้วลืมตัวได้ยังไง
นรมนปวดหัวจี๊ด เห็นบนโต๊ะมียาแก้เมา ลายมือของบุริศร์ลอยตรงหน้าเธอ
“ตื่นแล้วกินยาแก้เมาด้วย ปวดหัวจะได้ดีขึ้น มีข้าวต้มในหม้อ กินเยอะๆ นะ ผมมีธุระไปก่อน”
นรมนในใจเจ็บปวด
นี่ควรจะเป็นสามีที่ดีที่สุดของเธอ ตอนนี้กลับรู้สึกเก้อเขิน
นรมนไม่รู้ว่าตัวเองกินยาแก้เมาด้วยอารมณ์ไหน
เธอส่ายหัว รู้สึกดีขึ้นหน่อย ก็กินยาแก้เมาที่เหลือจนหมด
ต้องยอมรับว่า บุริศร์เข้าใจเธอดีมาก
นรมนหิวมาก เดินไปที่ครัว บุริศร์ทำกับข้าวให้เธอสี่อย่างและซุปหนึ่งอย่าง และยังมีข้าวต้มด้วย
เธอกินข้าวต้มก่อน จากนั้นก็เก็บกับข้าวอื่นเข้าไปในตู้เย็น
นรมนเปิดมือถือ ดูโซเชียลมีเดีย เห็นคมทิพย์ตัดสินใจจะเข้าร่วมการแข่งขันว่า ฉันเป็นนักร้องดัง
เธอรู้ดี นี่คือก้าวแรกในวงการเพลงของคมทิพย์
ไม่ว่าเธอจะคว้าชัยหรือไม่ ขอแค่ได้เข้าร่วมรายการนี้ โอกาสดังก็เปิดกว้างแล้ว ประกอบกับน้ำเสียงของคมทิพย์ การเข้าวงการก็รออยู่ตรงหน้าแล้ว
นรมนรู้สึกสบายใจ
“คมทิพย์ ฉันดีใจด้วย สู้ๆ นะ ฉันจะไปให้กำลังใจเธอถึงที่เลย”
นรมนส่งข้อความให้คมทิพย์
ตอนนี้คมทิพย์ยุ่งกว่าเธอ มักจะโทรไปไม่ติด สถานการณ์อย่างนี้ เธอทำได้แค่ทิ้งข้อความไว้ รอคมทิพย์เห็นแล้วค่อยตอบกลับมา
หลังส่งข้อความแล้ว นรมนก็ไปล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าพริมาก็โทรมาหาเธอ
“ประธานนรมนมีดาราอยากจะเซ็นกับบริษัทเรา ฉันอยากหารือกับคุณหน่อยค่ะ”
“มีดารามาเซ็นกับบริษัทคุณก็ตัดสินใจไปเถอะ ใช้คนไม่สงสัย คนน่าสงสัยไม่ใช้ คุณดูว่าต้องทำยังไงก็พอ”
นรมนเชื่อใจพริมามาก แม้จะรู้ว่าเธอคือคนที่บุริศร์ส่งมาช่วยตัวเองก็ตาม
พริมาซาบซึ้งใจ แต่ยังคงกระซิบพูด “ประธานนรมนอย่างนี้ค่ะ อีกฝ่ายคือราเชน”
นรมนอึ้งไปนิดหนึ่ง
คือดาราหนังละครเกรดเอ เบื้องหลังเป็นปริศนา มีผู้จัดการของตัวเอง มีอีเวนท์ทั้งดีทั้งเยอะ ตั้งแต่เข้าวงการถึงตอนนี้ทำงานภายใต้บริษัทในเครือบริษัท splendor เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ไม่ต้องเซ็นกับบริษัทผลิตภาพยนตร์ ใดๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบริษัทเล็กๆ ของเธอ
ตอนนี้ จู่ๆ จะมาเซ็นกับบริษัทของเธอ พูดตามตรงเรื่องนี้ทำให้นรมนตกใจ
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่
หรือว่าบุริศร์ช่วยเธออยู่เบื้องหลังกันแน่