แค้นรักสามีตัวร้าย - ตอนที่ 991
ราเชนรับสายจากบุริศร์ก็ค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อย อย่างไรแล้วเรื่องทางนั้นไม่ใช่ว่าใครก็สามารถสืบได้ และทางด้านเขานี้ก็เพิ่งประสบความสำเร็จ บุริศร์ก็โทรมา อดไม่ได้ที่จะทำให้ราเชนค่อนข้างประหลาดใจ ก้นบึ้งหัวใจหวาดกลัวบุริศร์เพิ่มขึ้น
“ฉันไม่เข้าใจว่านายกำลังพูดอะไร”
ราเชนไม่ใช่คนโง่ ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นมิตรกับบุริศร์ เผยตัวตนเร็วเกินไปก็ไม่มีประโยชน์
แน่นอนว่าบุริศร์เป็นคนรู้ทันคน เมื่อได้ยินราเชนพูดแบบนี้ เสียงก็หนักอึ้งขึ้น
“ราเชน ฉันไม่ใช่ศัตรูของนาย นายไม่ต้องระวังมากขนาดนี้หรอก เนตรามันเป็นคนไร้ชื่อเสียงเรียงนาม เพิ่งไปที่นั่นจู่ๆ ก็หายตัวไป คนที่สามารถทำเรื่องนี้ได้อย่างมิดชิด ไร้เสียงแบบนี้ นอกจากนาย ฉันก็นึกคนอื่นไม่ออก แต่นายทำแบบนี้ ไม่กลัวพวกพี่น้องนายสังเกตเหรอ? หลายปีที่ผ่านมานี้เพาะเลี้ยงกองกำลังของตัวเองมันไม่ง่ายเลยนะ? ไม่งั้นเรามาสร้างพันธมิตรกันเถอะ”
คำพูดของบุริศร์ทำให้ราเชนตกตะลึงเล็กน้อย
เขาตกใจมาก
ตั้งหลายปีแล้ว เขาตัวคนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว รักษาชีวิตคนเดียว วางแผนไตร่ตรองคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นคือเดินไปข้างหน้าคนเดียว
ตอนนี้จู่ๆ บุริศร์บอกว่าสร้างพันธมิตร มันทำให้เขาปรับตัวไม่ค่อยได้
“ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นานประธานบุริศร์บอกฉันว่า ให้อยู่ห่างนรมนหน่อย”
“ตอนนี้ฉันก็ยังมีทัศนคติแบบนี้อยู่ ให้นายอยู่ห่างนรมนหน่อย ฉันกับนายสร้างพันธมิตรกัน เห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดของนายกับนรมน ฉันก็รู้ว่านายอยู่ที่นั่นอย่างลำบาก ในฐานะนักธุรกิจ สามารถเป็นพันธมิตรกับนาย มันมีประโยชน์กับฉัน”
บุริศร์โยนนรมนออกไปอย่างสิ้นเชิง
ล้อเล่นหรือเปล่า เขาไม่อยากให้ภรรยาตัวเองมาพัวพันกับความวุ่นวายทางการเมืองยังไงล่ะ
คิ้วราเชนขมวดเข้าหากันแน่น
“ก่อนแม่ฉันจะตายคนที่วางใจไม่ลงมากที่สุดก็คือนรมน เธอสั่งฉันว่าไม่ว่ายังไงก็ตามต้องตามหานรมน ฉันก็เลย……”
“ตอนนี้นรมนสบายดีมาก ฉันคิดว่าแม่นายก็สบายใจ ยังไงแล้วไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกของตัวเองพัวพันกับความวุ่นวายทางการเมืองหรอก นายหลบซ่อนไม่ได้ ต้องดิ้นรน แต่นรมนสามารถใช้ชีวิตอื่นได้ เรื่องนี้ฉันคิดว่านายปฏิเสธไม่ได้ และการไม่มีชีวิตแบบพวกนายเธอถึงจะปลอดภัยมากที่สุด”
บุริศร์หยุดคำพูดของราเชน
ราเชนตกอยู่ในห่วงความคิดชั่วขณะหนึ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้มันดีกับนรมนมากที่สุด เขาคงรีบไปยอมรับในฐานะญาตินานแล้ว จะรอให้บุริศร์พูดแบบนี้กับตนที่ไหนล่ะ?
แต่การปล่อยนรมนไป สำหรับมุมมองในฐานะนักธุรกิจและนักการเมืองคนหนึ่ง ราเชนยอมรับว่าสิ่งที่บุริศร์นั้นถูกต้อง
“ฉันไม่ได้มีความทะเยอทะยานอะไรมาก ฉันแค่อยากมีชีวิตอยู่รอด ดังนั้นประธานบุริศร์ ฉันไม่อาจให้ความมั่งคั่งและเกียรติยศที่นายต้องการได้”
บุริศร์มองความเจริญพลุกพล่านวุ่นวายด้านนอก จู่ๆ ก็หัวเราะแล้วพูดขึ้น “ราเชน ถ้าไม่มีอิทธิพล จะไม่สามารถยืนบนจุดสูงสุดของอำนาจได้ นายคิดว่านายจะมีโอกาสมีชีวิตรอดไหม? ถ้านายใช้ชีวิตอ่อนน้อมถ่อมตนจริงๆ ก็ไม่เป็นไร แต่นายไม่ยอม นายบอกว่าเพื่อรักษาชีวิต แต่มันเกิดอะไรขึ้นกับหน่วยกล้าตายเหล่านั้นของนาย? นายอยู่สันโดษมาตั้งนาน ถ้าบอกว่าไม่คิดอะไรเลยสักนิดจริงๆ นายเชื่อไหม?”
ดวงตาราเชนหรี่เล็กน้อย ในใจยิ่งโหมกระหน่ำ
ความคิดในใจเขามีไม่กี่คนที่เดาออกอยู่เสมอ
พี่น้องไม่กี่คนเห็นเขาใช้ชีวิตในวงการบันเทิงได้เป็นอย่างดีในหลายปีที่ผ่านมา ไม่เข้าไปยุ่งเรื่องราวภายในประเทศเลย ถึงได้เพิ่งวางใจกับเขา
แต่บุริศร์พูดได้ไม่ผิด
เขาไม่ยินยอม!
การตายของแม่ไม่ใช่อุบัติเหตุ เขาต้องแก้แค้น!
แต่ตอนนี้ความสามารถเขาน้อยเกินไป ทำได้แค่ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเท่านั้น ถึงขนาดไม่ลังเลที่ยอมสละสถานะตัวเองมาเป็นนักแสดงในวงการบันเทิง
ครั้งนี้ถ้านรมนไม่ถูกเนตราทำร้ายบาดเจ็บ เขาจะไม่ให้ใครสังเกตว่าตนแอบเพาะเลี้ยงกองกำลังของตัวเองลับๆ เด็ดขาด
บุริศร์เห็นราเชนไม่พูด ก็พูดต่อ “เรื่องที่ฉันสืบได้ นายคิดว่าพวกพี่น้องที่มีความคิดซ่อนเร้นพวกนั้นของนายจะสืบไม่ได้เหรอ? อยากหลบซ่อนตัวเองไว้ให้ดี นายทำได้แค่ร่วมมือกับฉัน นายต้องเชื่อ มีความสัมพันธ์กับนรมนอยู่ ฉันจะไม่ทำร้ายนาย ฉันช่วยนายได้ด้วยซ้ำ กองกำลังและเงินของฉันช่วยนายทำได้หลายเรื่อง ช่วยนายขึ้นไปบนตำแหน่งที่ใครๆ ก็อิจฉาได้ด้วยซ้ำ สร้างพันธมิตรกับฉัน นายจะไม่เสียเปรียบ คุณพี่ใหญ่”
สามคำสุดท้ายทำให้มุมปากราเชนกระตุก
ก่อนหน้านี้ใครมันให้ตนออกไปให้ห่างหน่อย?
แถมใครมันไล่เขาออกไปเหมือนภัยพิบัติครั้งใหญ่?
ตอนนี้ไม่คิดว่าจะเรียกเขาว่าคุณพี่ใหญ่?
บอกว่าบุริศร์เย็นชาไม่เห็นใจคนอื่นไม่ใช่เหรอ?
คุณพี่ใหญ่นี่มันคือบ้าอะไร?
หัวสมองราเชนก็ใช้การไม่ได้แล้ว
แน่นอนว่าบุริศร์พูดได้อย่างถูกต้อง เขาต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก
ตอนแรกเขาอยากหาโอกาสติดต่อตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ไม่ว่าจะเป็นด้านกองทัพหรือด้านธุรกิจ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาคือตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้บุริศร์ออกตัวเข้ามาหาเอง เขาก็ลังเลนิดหน่อยอย่างอดไม่ได้
ราวกับบุริศร์รับรู้ก้นบึ้งหัวใจราเชน ก็พูดขึ้นเสียงทุ้ม “ไม่ต้องไปสนใจตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แม่นายกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดามีความสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนกัน ถ้านายไปหาตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ไม่ต้องทำอะไร พี่น้องเหล่านั้นของนายพอได้ยินข่าวก็ออกปฏิบัติการทันที นายคิดว่านายยังมีโอกาสชนะไหม? ส่วนฉันแตกต่าง สถานะของนรมนยังไม่มีคนรู้ตอนนี้ พี่น้องของนายจะไม่สืบนรมนโดยไม่มีสาเหตุ แค่นายอยู่ห่างๆ นรมน เธอก็ไม่เสี่ยงต่อการเปิดเผย และฉันเป็นนักธุรกิจ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนายเลย เราสร้างพันธมิตรกัน ทุกคนก็คงคาดไม่ถึงไม่ใช่เหรอ?”
ราเชนยอมรับ สิ่งที่บุริศร์พูดนั้นถูกต้อง
“นายอยากให้ฉันทำอะไร?”
“ใช้ความสัมพันธ์ของนายส่งลูกน้องไม่กี่คนของฉันเข้าไปภายในประเทศนาย จากนั้นก็ให้ฉันจัดการเนตราเอง ถึงมีคนสืบได้ว่าเนตราถูกกองกำลังบางที่เอาตัวไป ก็สืบมาถึงนายไม่ได้แน่นอน นายสามารถแสร้งทำต่อไปได้อย่างเต็มที่ ฉันจะเบี่ยงเบนความสนใจของพวกมัน”
คำพูดบุริศร์ทำให้ราเชนขมวดคิ้วแน่นขึ้น
“นายคิดดีแล้วเหรอ? ลักพาตัวภายในประเทศฉัน นายอาจจะถูกจัดเป็นครอบครัวที่ไม่มีสำมะโนครัวไปตลอดชีวิต ชาตินี้ก็ไม่สามารถเข้าประเทศฉันได้”
“ฉันเลยอยากผลักนายให้ขึ้นตำแหน่งผู้นำไง ถึงฉันจะกลายเป็นครอบครัวที่ไม่มีสำมะโนครัวในประเทศนาย ตราบใดที่นายครองตำแหน่งผู้นำ แค่ประโยคเดียว ฉันก็กำจัดมันได้ไม่ใช่เหรอ? และถ้านายอยากให้นรมนกลับไปไหว้แม่นายสักวันจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเบื้องหลังเรื่องนี้นายก็ต้องเป็นผู้สนับสนุนอันแข็งแกร่งให้เธอได้ ให้เธอสบายใจไม่ต้องกังวลใช่ไหม? ราเชน นายอยากครองตำแหน่งผู้นำ อยากแก้แค้น ฉันช่วยนายได้ สิ่งที่ฉันต้องการก็แค่ให้ภรรยาฉันปลอดภัยเท่านั้น”
ราเชนเงียบแล้ว
เขาเสแสร้งเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
เกือบตายตั้งแต่เด็กๆ สุดท้ายคิดวิธีจักจั่นลอกคราบหนีออกประเทศ มาก้าวหน้าด้านวงการบันเทิงที่นี่ ทุกย่างก้าวของเขาผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี แต่ตอนนี้ไม่คิดว่าบุริศร์จะมองเป้าหมายสูงสุดของตนออก
พูดตามตรง ราเชนรู้สึกค่อนข้างหวาดกลัว
เป็นศัตรูกับคนแบบนี้ มันน่ากลัวอย่างไม่ต้องสงสัย
บุริศร์พูดไม่ผิด มีความสัมพันธ์กับนรมนอยู่ บุริศร์จะช่วยตน แค่เขาอยากยอมรับนรมนในฐานะญาติมากจริงๆ
เธอคือเพียงคนเดียวที่ตนใส่ใจมากที่สุดบนโลกใบนี้
“บุริศร์ ฉันช่วยนายได้ ในขณะเดียวกันฉันช่วยนายและนรมนทำใบรับรองผ่านด่านได้ แต่ฉันมีความต้องการเดียว”
“ว่ามา”
“อยากให้นายพาเธอมาที่นี่เพื่อถวายเครื่องสัตวบูชาแม่ฉันสักหน่อย ได้ไหม?”
ความต้องการราเชนไม่ได้เกินไป แต่สำหรับบุริศร์และนรมน มันมีความเสี่ยงสูงมาก
“ฉันต้องคิดพิจารณา และตอนนี้นรมนยังไปไม่ได้ นายก็รู้”
“ฉันเข้าใจ ฉันรอได้”
“วางก่อนนะ”
บุริศร์วางสาย ดวงตาค่อนข้างลุ่มลึก
จริงๆ แล้วการสร้างพันธมิตรกับราเชนไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ตอนแรกบุริศร์ไม่อยากเข้าร่วมการต่อสู้ทางการเมืองของประเทศอื่น แต่คนคนนั้นคือพี่ชายนรมน ถ้าสักวันหนึ่งนรมนรู้ความจริงทั้งหมดจริงๆ เกรงว่าคนที่เป็นห่วงมากที่สุดจะเป็นราเชน
บุริศร์ถอนหายใจ
มองบุหรี่ที่อยู่ในมือแต่สูบไม่ได้ ก็ยิ่งหดหู่อย่างมาก
เขาโยนบุหรี่ลงถังขยะ จากนั้นก็กลับไปที่ห้องผู้ป่วย
นรมนหลับไปแล้ว เพราะได้รับบาดเจ็บ คิ้วเธอขมวดแน่นตลอดเวลา
บุริศร์สงสารอย่างยิ่ง รู้ว่านรมนชอบทานอาหารที่ตัวเองทำ เขาจึงออกไปขอห้องหนึ่งจากโรงพยาบาล เปลี่ยนเป็นห้องครัวชั่วคราว ให้คนนำส่วนผสมบางอย่างมา ตัวเองทำโจ๊กหมูเนื้อแดงไข่เยี่ยวม้าให้นรมนในห้องครัว
นรมนถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์
เธอเห็นเบอร์แปลกบนหน้าจอ ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ยังกดเลื่อนรับสาย
“ใครคะ?”
“ฉันเอง ฉันอันนา”
เมื่อเสียงอันนาดังผ่านเข้ามา นรมนก็ตกตะลึงเล็กน้อย
“อันนา?”
“ใช่ ฉันเห็นข่าวเธอในเน็ต ตอนนี้เธอสบายดีไหม?”
ที่อันนาโทรมา มันทำให้นรมนประหลาดใจมาก
“ไม่เป็นไร ยังตายไม่ได้”
“ฉันเห็นเธอบาดเจ็บสาหัสมาก ทางฉันไปเยี่ยมเธอไม่ได้ ทำได้แค่โทรมาถามว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”
ตอนนี้อันนากำลังอยู่ไฟ แน่นอนว่าไม่มีทางมาได้ แต่เธอมีน้ำใจ นรมนก็ชื่นชม
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น ที่อันนาทำแบบนี้ แน่นอนก็เพื่อสร้างความประทับใจดีๆ ให้นรมน ถึงแม้เป็นไปได้อย่างมากว่าโทรมาเพราะเรื่องงานหลังคลอด แต่สำหรับนรมน แล้วมันอย่างไรล่ะ?
“ไม่เป็นไร ฉันยังประคับประคองไปได้ แต่เธอสิ ดูแลสุขภาพให้ดี ดูแลสุขภาพแล้วก็ไปรายงานที่กองถ่าย คนของฉันจะถอนตัวได้ทุกเมื่อ”
นรมนพูดได้อย่างสดใสชัดเจน แน่นอนว่าอันนาก็ปล่อยวางหัวใจที่ห้อยอยู่
เดิมทีตนได้รู้จักนรมนก็เป็นองค์ประกอบโชคของสวรรค์แล้ว ในขณะนี้นรมนได้รับบาดเจ็บ ทางด้านกองถ่ายมีสถานการณ์อย่างไรบ้างเธอก็ยังไม่แน่ใจ กลัวว่าเรื่องที่นรมนเคยสัญญากับตนจะไม่รักษาสัญญา ในขณะนี้ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ อันนาก็สบายใจมากในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพชไปหน่อย
“ขอโทษนะ คุณนายบุริศร์ ฉัน……”
“ไม่เป็นไร ฉันชอบคบค้าสมาคมกับคนอย่างเธอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไร อย่างตรงไปตรงมาฉันก็ชอบหมด”
นรมนไม่ได้รู้สึกเกลียดชังเท่าไร วงการบันเทิงมันก็ซับซ้อนในตัวมันเองมากอยู่แล้ว จิตใจมนุษย์ก็ยิ่งแปลกและเปลี่ยนแปลงได้ เจอคนที่ซื่อสัตย์จริงใจอย่างอันนา ก็ไม่มีอะไรไม่ดี
ทั้งคู่คุยกันอีกสองสามประโยค อันนาก็วางสาย อย่างไรแล้วก็ไม่ค่อยสนิทนัก
นรมนก็นอนไม่หลับ
ท้องเธอค่อนข้างหิว เมื่อกำลังอยากโทรหาบุริศร์ พยาบาลคนหนึ่งก็ผลักประตูเดินเข้ามา
“ฉีดยาค่ะ”
อีกฝ่ายใส่ผ้าปิดปาก นรมนมองหน้าเธอไม่ชัด แต่เสียงนั้นรู้สึกค่อนข้างคุ้นเคยอยู่รางๆ