แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1255 ผมต้องการสงบสติอารมณ์สักหน่อย
“เรื่องต่ำช้าเหรอ?”
บุริศร์รู้เรื่องราวสกปรกมากมายในตระกูลใหญ่โต แต่ว่าก็ไม่กล้าพูดไปเรื่อยเปื่อย
ธเนศพลยิ้มเย็นและพูดขึ้นว่า “ใช่ เรื่องต่ำช้า พวกเขาวางยาอาหญิง แล้วเอาตัวเธอไปโยนลงบนเตียงของคุณชายใหญ่ตระกูลนาคชำนานที่ตอนนั้นสามารถเทียบกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้ ทำให้อาหญิงของผมโดนบีบให้เสียความบริสุทธิ์ไป หนำซ้ำคนของตระกูลธนเกียรติโกศลยังกลัวว่าตระกูลนาคชำนานจะไม่ยอมรับ หลังจากเสร็จเรื่องแล้วยังพาคนมาดักจับพวกเขาอยู่ที่หน้าประตูห้องด้วย จนทำให้อาหญิงของผมแทบอยากจะกัดลิ้นฆ่าตัวตายไปเลยในตอนนั้น”
ข่าวฉาวแบบนี้ทำให้บุริศร์ไม่ค่อยอยากจะฟังเลย
“คุณชายธเนศพล ผมไม่อยากรู้แล้วได้ไหม? คือว่าผม……”
“ฟังแค่เริ่มต้นก็อยากจะถอนตัวแล้วเหรอ? สายไปซะแล้ว บุริศร์ ในเมื่อคุณรู้ข่าวฉาวของตระกูลธนเกียรติโกศลแล้ว งั้นเรื่องนี้คุณก็จะต้องฟังต่อไป และที่สำคัญยังต้องช่วยผมจัดการให้เรียบร้อย ไม่งั้นละก็ผมฆ่าปิดปากได้นะ คุณก็รู้นี่ ว่าเลือดของคนตระกูลธนเกียรติโกศลนั้นมีอุณหภูมิเย็น”
น้ำเสียงของธเนศพลไม่มีความอบอุ่นใด ๆ
เขาเป็นองค์รัชทายาท อนาคตจะต้องมีสักวันที่จะได้ขึ้นครองราชย์ และตอนนี้ตระกูลธนเกียรติโกศลก็อยู่ในกำมือของธเนศพลแล้ว คำพูดที่เขาพูดมาก็ไม่ได้พูดเกินจริงแน่
บุริศร์รู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง ตัวเองไม่ควรสงสัยเลย แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่จำเป็นให้ผลักออกแล้ว
ตอนแรกธเนศพลก็หวังว่าจะเก็บเขามาให้อยู่ในกำมือไว้ อาจจะเพื่อเป็นการเตรียมตัวที่จะขึ้นครองราชย์
ตำแหน่งนั้นมีคนจดจ้องอยู่มากมาย ถ้าอยากจะขึ้นไปให้ได้สำเร็จแน่นอนว่าจะต้องใช้ฝีมือบางอย่าง พึ่งแต่ความสัมพันธ์พี่น้องของเมื่อก่อนอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะให้เขารักษาชีวิตไว้ได้ เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างของธเนศพลนั้น บุริศร์สามารถเข้าใจได้
“คุณพูดต่อไปซิ”
พอได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ ไม่รู้ทำไมใจของธเนศพลก็รู้สึกขมขื่นขึ้นเล็กน้อย
เขารู้ ยังไงตัวเองก็กลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว
ธเนศพลสูดหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คนของตระกูลธนเกียรติโกศลกลัวว่าอาหญิงจะฆ่าตัวตาย จึงส่งคนไปกักขังเธอไว้ และในเวลาเดียวกันก็ส่งคนไปเร่งรัดงานแต่งกับตระกูลนาคชำนาน หนำซ้ำยังพยายามหาผลประโยชน์และพึ่งพาตระกูลนาคชำนานเพื่อให้ตระกูลธนเกียรติโกศลได้ประโยชน์มาให้ได้มากที่สุดด้วย บางทีตั้งแต่แรกตระกูลนาคชำนานอาจจะอยากแต่งงานกับอาหญิงจริง ๆ ก็ได้ แต่ตอนนั้นตระกูลธนเกียรติโกศลลำบากมากจริง ๆ ข้อเสนอที่ยื่นออกไปจึงเกินไปหน่อย จึงทำให้คนของตระกูลนาคชำนานมีความไม่พอใจขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง จากนั้นการแต่งงานก็เลื่อนออกไป แล้วก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนสุดท้ายอาหญิงก็ตั้งท้องขึ้นมา”
“ผู้หญิงของตระกูลธนเกียรติโกศลท้องก่อนแต่ง นี่เป็นข่าวที่อยู่ในสังคมสมัยนั้นถือได้ว่าเป็นข่าวฉาวอย่างหาไม่ได้เลย แล้วเพื่อจะปกปิดข่าวฉาวนี้คนของตระกูลธนเกียรติโกศลก็ไม่ปรึกษาตระกูลนาคชำนาน แล้วก็ส่งคนไปบีบบังคับให้อาหญิงทำแท้งไป ตอนนั้นอาหญิงแทบจะเป็นบ้า ยังดีที่แม่ผมคลอดผมมา แต่แม่ก็เสียชีวิตไปเพราะว่าคลอดยากแล้วเสียเลือดมาก”
“อาหญิงเพิ่งจะสูญเสียลูกของตัวเองไป แล้วผมก็เสียแม่ไป เธอก็อุ้มผมไว้แล้วเอาไปเลี้ยงเป็นลูกของตัวเองเลย ต่อมาคนของตระกูลนาคชำนานช่วยตระกูลธนเกียรติโกศลผ่านความลำบากนี้ไปได้ แต่กลับไม่เอ่ยเรื่องแต่งงานกับอาหญิงอีกเลย และคนของตระกูลธนเกียรติโกศลก็ทำเป็นเหมือนกับว่าไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นมาก่อน แล้วก็ละเลยเรื่องงานแต่งของอาหญิงมาแบบนี้ตลอดเลย”
“ปีที่ผมอายุห้าขวบ ตระกูลนาคชำนานแต่งผู้หญิงอื่นเข้าบ้าน ซึ่งเท่ากับว่าได้ละทิ้งเรื่องงานแต่งกับอาหญิงไปเลย อาหญิงเป็นเหมือนกับคนที่ตระกูลตัวเองและตระกูลนาคชำนานทอดทิ้ง ไม่มีคนสนใจความเป็นความตายของเธอ แล้วก็ไม่มีคนไปยุ่งกับความรู้สึกของเธออีก หนำซ้ำพวกเขายังรู้สึกว่ามีอาหญิงเลี้ยงดูผมเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว ในเมื่ออาหญิงเป็นคนของตระกูลธนเกียรติโกศล และผมก็เป็นลูกชายคนโตของตระกูลธนเกียรติโกศล แต่แล้วก็ในปีนั้นเองที่อาหญิงได้รับข่าวของบุญทิวามา”
“ผมจดจำวันนั้นได้เสมอ วันนั้นอาหญิงแต่งตัวสวยมาก เธอลูบหัวผม และพูดกับผมอย่างทำใจไม่ได้ว่าเธอจะไปตามหาความสุขของตัวเองแล้ว จะไปหาผู้ชายคนนั้นที่เคยทำให้หัวใจเธอเต้นตุ๊บ ๆ เธอบอกกับผมว่ารอถ้าเธอแต่งงานแล้ว เธอก็จะพาผู้ชายที่ชื่อบุญทิวากลับมา แล้วจะเลี้ยงดูผมให้เติบใหญ่ไปพร้อมกับเขา แต่ว่าหลังจากที่อาหญิงจากไปครั้งนั้นแล้ว ก็ไม่มีข่าวคราวอะไรอีกเลย”
พอพูดมาถึงตรงนี้ ธเนศพลก็เหมือนกับว่าจะเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก
เขาพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผมนึกว่าอาหญิงตามหาความสุขของตัวเองได้แล้ว ผมนึกว่าคงจะเป็นเพราะไม่มีทางเลือกเธอถึงได้ไม่กลับมาดูผมเลย ต่อพอผมเติบโตขึ้นมาแล้ว ถึงได้รู้เรื่องราวบางอย่าง ถึงได้รู้ว่าตอนนั้นอาหญิงเกือบจะตายไป และคนที่ทำเรื่องพวกนี้ขึ้นมาก็คือคุณชายใหญ่ธนเดชแห่งตระกูลนาคชำนาน เขาแย่งความบริสุทธิ์ของอาหญิงไป แล้วก็ไม่ยอมแต่งงานกับเธอ แถมยังไม่ให้อาหญิงของผมไปตามหาความสุขของตัวเองอีก ในขณะที่รู้ข่าวว่าอาหญิงของผมตามหาอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาบุญทิวาเจอแล้วนั้น เขาก็ใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือออกคำสั่งขึ้นมา แล้วก็ทำการปฏิบัติการขึ้นมาครั้งหนึ่ง จนทำให้หมู่บ้านที่อาหญิงของผมและอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอยู่ไม่เหลือสิ่งมีชีวิตใด ๆ แม้แต่หมาหรือไก่ และข้ออ้างที่ใช้ในตอนนั้นก็คือหมู่บ้านนั้นเกิดโรคระบาดรุนแรงขึ้นมา จนควบคุมไม่อยู่แล้ว จึงจำเป็นจะต้องจัดการอย่างเร่งด่วน”
คำพูดพวกนี้ของธเนศพลทำให้บุริศร์รู้สึกโกรธขึ้นมาทั้งตัวทันที
“คุณว่าอะไรนะ?”
บุริศร์คิดหาเหตุผลที่หมู่บ้านดารายนโดนทำลายล้างมานับไม่ถ้วน แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเหตุผลจะเกิดขึ้นมาจากความรู้สึกโกรธแค้นส่วนตัว
เจ้าธนเดชคนนี้นี่มันสมควรตายจริง ๆ!
“คนคนนี้ตอนนี้อยู่ในตำแหน่งอะไร? อยู่ที่ไหน?”
กลลวงและแผนร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นรอบตัวบุริศร์เองและนรมน ต่างก็เริ่มมาจากหมู่บ้านดารายนโดนทำลายล้าง และคนที่ทำให้หมู่บ้านดารายนโดนทำลายล้างกลับเป็นเจ้าชั่วช้าธนเดช!
เพื่อความสุขส่วนตัวแล้วคนคนนี้ถึงกลับเคลื่อนไหวคนมากมายขนาดนี้ และทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมา หนำซ้ำยังทำให้คนตั้งสามรุ่นต้องมาติดร่างแหและเกี่ยวพันไปด้วย คนคนนี้ถ้าไม่เอามันมาสับให้เป็นหมื่น ๆ ชิ้น บุริศร์ก็จะรู้สึกผิดต่อตัวเองแน่
ธเนศพลกลับพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ธนเดชเจ้าเล่ห์มาก เขาทำการปฏิบัติการใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมา ก็รู้ว่าตัวเองปิดบังได้ชั่วคราว แต่ไม่สามารถปิดบังได้ตลอดชีวิตแน่ เพราะฉะนั้นหลังจากที่เขาทำเรื่องนี้เสร็จแล้วเขาก็ยื่นเรื่องลาออกไปเลย จากนั้นก็ย้ายทั้งครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศเลย”
“ชั่วช้า!”
บุริศร์โกรธจนกัดฟันกรอก ยังไงก็ไม่อยากจะเชื่อว่าหมู่บ้านดารายนทั้งหมู่บ้านต้องมาพังพินาศลงเพราะว่าความอิจฉาของผู้ชายเพียงคนเดียว
“ตอนนั้นที่อยู่ที่อาหญิงตระกูลธนเกียรติโกศลและอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอยู่คือหมู่บ้านดารายนใช่ไหม?”
ถึงแม้ว่าจะเดาออกแล้ว แต่บุริศร์ก็ยังอยากจะยืนยันอีกสักครั้ง
ธเนศพลพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ใช่ เพราะว่าหมู่บ้านดารายนเป็นหมู่บ้านที่เลี้ยงหนอนพิษมาหลายยุคหลายสมัย แล้วเขาก็เอาจุดนี้มาใช้พอดี หนอนพิษปรากฏออกมาต่อหน้าผู้คนมาน้อยมาก แล้วความหวาดกลัวกับความไม่รู้และการหลีกหนีของผู้คนก็ยิ่งทำให้หนอนพิษดูลึกลับมาก และอีกอย่างการเลี้ยงหนอนพิษก็เป็นการสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น บุคคลภายนอกไม่มีทางรู้วิธีได้ เพราะฉะนั้นถ้าหนอนพิษที่พวกเขาเลี้ยงออกมาแพร่เชื้อโรคระบาดอยู่ด้วย คนที่สัมผัสโดนจะกลายเป็นคนบ้า และยังควบคุมไม่อยู่ด้วย จะสามารถทำให้หมู่บ้านข้างเคียงได้รับอันตรายหรืออาจจะทั้งพื้นที่ไปเลย และไม่มีใครจะเชื่อว่าเป็นคำพูดเกินจริง เพราะฉะนั้นพอคำสั่งปลอมนั้นประกาศลงมา หมู่บ้านดารายนก็โดนทำลายไปภายในระยะเวลาอันสั้นเลย แต่ว่าสิ่งที่บังเอิญคือ ตอนที่พวกเขาเคลื่อนไหวนั้น อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและอาหญิงของผมออกไปจากหมู่บ้านพอดีเลย ตอนนั้นคนที่ร่วมมือกับการปฏิบัติการมีเหล่าทหารลูกหลานตระกูลใหญ่ทั้งนั้น ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ตระกูลพรโสภณ ตระกูลทวาทสิน และตระกูลนาคชำนาน แผนของธนเดชคิดไว้ได้ดีมาก เรื่องเกิดขึ้นมา ทั้งสี่ตระกูลใหญ่ต่างก็เข้าร่วม ถึงแม้ถ้าเบื้องบนจะถามไถ่ลงมา ก็คงจะไม่เห็นแก่หน้าของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นก็เลยทำให้การปฏิบัติการในครั้งนั้นสำเร็จไปได้”
“ไอ้ชั่วช้า!”
บุริศร์โกรธจนต่อยหมัดไปบนก้อนหินที่อยู่ข้าง ๆ บนหลังมือมีรอยเลือดขึ้นมาทันที แต่กลับเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดในใจเขาเลยสักนิด
คนของหมู่บ้านดารายนเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งนั้น!
แค่เพราะว่าอาหญิงตระกูลธนเกียรติโกศลและอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอยู่ที่นั่นพอดี คนทั้งหมู่บ้านของพวกเขาก็จะต้องมาโดนฝังเพื่อพวกเขาเหรอ?
แล้วอาหญิงตระกูลธนเกียรติโกศลและอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทำอะไรผิดกันล่ะ?
ในหัวสมองของบุริศร์เกิดภาพของหนอนแห่งความทรงจำขึ้นมาอีกครั้ง
พวกคนแก่เฒ่าผู้หญิงและเด็กร้องขออย่างสิ้นหวัง ร้องโอดครวญไป แต่ว่าแต่ละคนก็ตายไปภายใต้กระบอกปืน
ดวงวิญญาณที่ไม่ได้สู่สุคติเหล่านั้นกำลังร้องโหยหวนอยู่ โห่ร้องอยู่เต็มอกบุริศร์ไปหมด ทำให้ตัวเขาทั้งตัวอารมณ์แปรปรวนและโมโหขึ้นมา
เขารู้สึกอยากจะฆ่าคน!
อยากจะฆ่าธนเดชไอ้ชั่วช้านั่นซะ!
แต่ว่าเขาได้แต่พยายามควบคุมตัวเองเท่านั้น
ธเนศพลรู้ว่าถ้าบุริศร์รู้เรื่องนี้เข้าแล้วจะมีผลอะไรตามมา แต่ว่าเขาก็ยังอยากจะให้บุริศร์รู้อยู่ดี
เรื่องนี้มันผ่านมานานหลายปีขนาดนี้แล้ว ตอนนี้อาหญิงยังอยู่ข้างนอกไม่กลับมา และช่วงหลายปีมานี้ตระกูลธนเกียรติโกศลถึงมารู้สึกถึงเรื่องนี้เข้า แล้วก็เริ่มตรวจสอบอย่างลับ ๆ ขึ้นมา
ในตอนที่ป้าโอเกิดปัญหาขึ้นมา แล้วตระกูลโตเล็กได้มาขอร้องให้ธเนศพลช่วยเหลือนั้น ตระกูลธนเกียรติโกศลก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ปกปิดไม่อยู่แล้ว
แต่ว่าตอนนี้เบาะแสของธนเดชก็ยังไม่ชัดเจน แล้วก็ยังย้ายไปอยู่ต่างประเทศแล้วด้วย เรื่องราวมากมายจึงไม่มีทางหาหลักฐานมาได้ ซึ่งหาได้เพียงแค่หนังสือคำสั่งแผ่นเดียวในตอนนั้นเท่านั้น และเพราะว่าไม่ได้รับการบันทึกไว้จึงไม่มีน้ำหนักมากเท่าไหร่ แล้วตอนนี้สี่ตระกูลใหญ่ที่เคยเข้าร่วมปฏิบัติการด้วยก็ได้กลายเป็นเสาหลักใหญ่ไปหมดแล้ว แต่ว่าพวกเขากลับโดนปิดบังเอาไว้ และไม่รู้เลยว่าภารกิจในตอนนั้นของตัวเองเกิดขึ้นมาจากความแค้นส่วนตัวของธนเดชเท่านั้น แถมยังนึกว่าครั้งนั้นได้ลงมือปฏิบัติภารกิจจริง ๆ ซะอีก
เรื่องพวกนี้ ตระกูลธนเกียรติโกศลไม่มีวิธีที่จะอธิบายกับสี่ตระกูลใหญ่ หนำซ้ำยังอยากจะทำเป็นสงบสุขแล้วก็ปล่อยเลยตามเลยไปเลย ในเมื่อผ่านมาตั้งนานหลายปีขนาดนี้แล้ว แต่ว่าคนรุ่นหลังของหมู่บ้านดารายนเพื่อที่จะแก้แค้นแล้วกลับไม่กลัวตายด้วยซ้ำ แล้วก็คิดหาทุกวิถีทาง ซึ่งทำให้คนทั้งหมดไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไงดี
จุดยืนของธเนศพลนั้นชัดเจนมาก ตอนนั้นใครทำผิดเอาไว้ ก็จะต้องรับผิดตามความเหมาะสม
หมู่บ้านดารายนอยู่ ๆ ก็โดนทำลายล้างอย่างไม่มีเหตุผล เรื่องนี้พวกเขาติดค้างความยุติธรรมกับหมู่บ้านดารายนอยู่
บุริศร์เป็นคนรุ่นหลังของหมู่บ้านดารายน
ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่าป้าโอวางหลุมพรางเอาไว้หรือว่าอะไร ในจุดนี้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ และที่สำคัญหนอนพิษทองคำที่เป็นตัวแทนหัวหน้าหมู่บ้านดารายนก็ได้เข้าสู่ร่างกายบุริศร์แล้ว เรื่องนี้ยังไงช้าเร็วบุริศร์ก็ต้องรู้เรื่อง
รอถึงวันที่บุริศร์ไปสืบค้นเจอเอง ธเนศพลรู้สึกว่ายังสู้บอกบุริศร์ไปตั้งแต่แรกเลยดีกว่า แบบนั้นอย่างน้อยทั้งสองคนก็คงจะไม่ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน
“บุริศร์ ผมรู้ว่าเรื่องนี้สะเทือนใจคุณมากแค่ไหน และผมก็รู้ว่าเรื่องนี้แค่คำขอโทษคำเดียวคงจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ และไม่มีความหมายอะไร ตอนนี้ที่ผมบอกคุณทั้งหมดนี้ ก็แค่อยากจะบอกความจริงให้คุณรู้ ผมอยากจะตามหาอาหญิงของผมและอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดากลับมา ข่าวที่ผมได้รับรายงานมาตอนนี้คืออารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดายังมีชีวิตอยู่ แต่ว่าต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น สำหรับตำแหน่งที่แน่นอนนั้น ผมไม่แน่ใจ มีคนบอกว่าเขาอยู่ประเทศF และก็มีคนบอกว่าเขาอยู่ละแวกใกล้เคียงกับหมู่บ้านดารายน ขอแค่ให้หาอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเจอก็จะสามารถตามหาอาหญิงของผมเจอได้ และผมก็อยากจะให้อาหญิงของผมกลับมาบ้าน ในเมื่อสำหรับผมแล้ว เธอเปรียบเสมือนเป็นแม่ของผม”
คำพูดของธเนศพลทำให้บุริศร์รู้สึกจิตใจว้าวุ่น
“ตอนนั้นผมยังให้คำตอบกับคุณไม่ได้ ตอนนี้ผมต้องการสงบสติอารมณ์สักหน่อย”
“ผมเข้าใจ ผมจะให้เวลาคุณ ไว้คุณคิดได้ตอนไหน ก็โทรหาผมตอนนั้นก็พอแล้ว”
คำพูดของธเนศพลทำให้บุริศร์พยักหน้าเล็กน้อย
“อ๋อใช่แล้ว สำหรับหนอนพิษทองคำในตัวคุณ มันจะมีอันตรายอะไรต่อคุณ หลังจากที่รู้เรื่องของหมู่บ้านดารายนแล้ว ผมก็ได้ลองหาอ่านหนังสือโบราณมาอ่านไปบ้าง หนอนพิษทองคำคือหนอนพิษที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นของหัวหน้าหมู่บ้าน เป็นราชาแห่งหนอนพิษ สำหรับคนทั่วไปแล้วอาจจะเป็นอันตราย หนำซ้ำอาจจะตายไปทันทีได้เลย แต่ว่าสำหรับคนสืบทอดของผู้ใหญ่บ้านแล้ว เพราะว่าสายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย หนอนพิษทองคำไม่เพียงจะไม่มีพิษ ยังสามารถเป็นของบำรุงอย่างดีได้อีกด้วย จะสามารถปกป้องผู้ใหญ่บ้านที่ดำรงตำแหน่งอยู่ได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าคุณอาจจะเพิ่งสัมผัสกับมันมาไม่ไม่นาน ก็เลยยังไม่ได้หลอมรวมกับความรู้สึกของมัน เพราะฉะนั้นถึงได้เกิดอารมณ์แปรปรวนและโกรธง่ายขึ้นมาบ้าง รอให้ผ่านไปสักพักหนึ่งแล้วก็จะดีขึ้นเอง”
สุดท้ายแล้วธเนศพลก็พูดเรื่องหนอนพิษทองคำกับบุริศร์จนได้ แต่ว่าตอนนี้บุริศร์ฟังไม่เข้าไปสักอย่างแล้ว ในสมองของเขาเต็มไปด้วยภาพของผู้คนบริสุทธิ์ที่ต้องตายไป ฉายอยู่ในหัวสมองรอบแล้วรอบเล่า…