แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1300 ดูถูกกันเกินไปแล้ว
เมื่อได้ยินนรมนถาม ดวงตาของพรวลัยก็เคร่งขรึมขึ้นทีเดียว แล้วพูดขึ้น “ก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งค่ะ”
“ยังมีสาเหตุอื่นอีกหรือ”
“ตอนนี้ฉันไม่สะดวกพูด คุณอย่าบังคับฉันได้มั้ยคะ”
พรวลัยเย็นชา เย็นชาแบบห่างเหิน เหมือนไม่มีใครเดินเข้าไปในใจเธอได้
นรมนรู้สึกประหลาดใจ ถึงกับสงสัยความรู้สึกของเธอต่อบุณพจน์มั่นคงไม่มีทางสั่นคลอนจริงๆ หรือ หรือว่ามีแผนอะไรอย่างอื่น
แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างสามีภรรยาสองคน เธอไม่เหมาะจะแสดงความเห็น
นรมนคิดนิดหนึ่งก็พูดขึ้น “เธออยากทำอะไรฉันจะไม่ห้าม แต่หวังว่าเธอจะรอบุณพจน์ฟื้นขึ้นมาก่อนได้มั้ย ขอแค่เขาตื่นแล้ว เธอต้องการเด็กคนนี้หรือไม่ฉันไม่ยุ่ง แต่ตอนนี้ฉันจะปล่อยให้เธอเกิดเรื่องไม่ได้ เพราะบุริศร์รับปากบุณพจน์แล้วจะดูแลเธอกับเด็กในท้องอย่างดี ถ้าเธอทำร้ายเด็กคนนี้ ฉันไม่มีหน้าจะพูดกับบุณพจน์”
พรวลัยไม่รับปาก และก็ไม่ตกลง เพียงแต่มองนรมนอย่างมีความหมาย หลังจากนั้นก็เดินออกไป
นรมนเดิมทีคิดจะตามไปดู แต่ก็ได้ยินพรวลัยพูดเรียบๆ “อย่าตามฉันมาค่ะ ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ”
คำพูดนี้ทำให้นรมนชะงักฝีเท้า
เธอมองบุณพจน์ที่ยังนอนหลับสนิท ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะฟื้น และไม่รู้พรวลัยจะทำแท้งโดยพละการหรือไม่
นรมนรู้สึกว่าปวดหัวแทบระเบิดไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรดี
เรื่องพวกนี้ทำไมจะราบรื่นหน่อยไม่ได้
เธอรู้สึกว่าจะต้องไปเค้นสอบพิรุณสักหน่อย
เมื่อคิดอย่างนี้ นรมนก็ไปยังถ้ำที่ขังพิรุณอีกครั้ง
พิรุณเห็นนรมนกลับมาอีกครั้ง ก็อดตะลึงไม่ได้
“ว่าไง อยากจะได้อะไรจากปากฉันอีกหรือ นรมน ฉันไม่มีทางพูดอะไรทั้งนั้น อย่าพยายามเลยมันไม่ได้ผลหรอก”
นรมนมองเขา แต่พูดยิ้มๆ “ฉันไม่ถาม แล้วก็ไม่อยากรู้อะไร ฉันแค่จะมาเฝ้าแก”
“อะไรนะ”
พิรุณประหลาดใจ
นรมนไม่สนใจเขา หาเก้าอี้ตัวหนึ่งตรงข้ามพิรุณนั่งลง จากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกม
เธอไม่รีบร้อน ท่าทางนิ่งเฉยมองพิรุณเหมือนไม่มีตัวตน ไม่รู้ว่านรมนวางแผนอย่างไร แต่เขารู้ดี นรมนอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ ยิ่งไม่เป็นผลดีกับเขา
“นี่ นรมน ฉันหิวแล้ว หาอะไรให้กินหน่อยสิ”
“ไม่มีอะไรให้กินทั้งนั้น แกทนหิวไปเถอะ อย่าลืมสิ ตอนนี้แกเป็นนักโทษ”
นรมนพูดไม่เงยหน้า แม้แต่สายตาก็ไม่อยากมองพิรุณ
พิรุณเคยเจอแบบนี้ที่ไหนกัน รู้สึกโมโหขึ้นมา
“ฉันจะกิน จะดื่มน้ำ เธอต้องดูแลฉันให้ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะได้ข้อมูลอะไรจากฉัน”
“ถึงจะให้อาหารแก ก็ไม่แน่ว่าแกจะพูดอะไร ในเมื่ออย่างนี้ ทำไมฉันต้องเปลืองอาหารด้วย”
นรมนยังคงไม่เงยหน้า คำพูดของเธอทำให้รู้สึกเดือดดาล
ตอนแรกพิรุณยังรู้สึกว่านรมนเป็นผู้หญิง อาจจะหลอกง่าย แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่านรมนกับบุริศร์ร้ายไม่ต่างกัน โมโหจนอยากจะฆ่าให้ตาย
“นรมน แก…”
“หุบปาก! พูดมากอีก ฉันจะให้พวกเขาเอาถุงเท้าเหม็นๆ อุดปากซะ ไม่เชื่อก็ลองดูสิ”
นรมนเงยหน้าขึ้นในที่สุด แต่สายตาเย็นชา และคำพูดของเธอยิ่งทำให้พิรุณโกรธจนแทบเป็นบ้า
“ฉันสาบาน ขอแค่ฉันยังไม่ตาย ขอแค่ฉันออกไปได้ ฉันจะหั่นศพแกเป็นชิ้นๆ! โดยเฉพาะปากของแก ฉันจะฉีกเป็นชิ้นๆ”
พิรุณสบถด่า
นรมนชะงักนิดหนึ่ง
ฟังน้ำเสียงของพิรุณ มั่นใจมากตัวเองจะออกไปจากที่นี่ได้
เป็นนักโทษแท้ๆ ยังเหิมเกริมขนาดนี้ มั่นใจขนาดนี้ นอกจากไม่กลัวตายแล้ว บางทีที่นี่อาจมีสายลับอยู่ก็ไม่แน่
นรมนคิดถึงตรงนี้ แววตาก็ครุ่นคิด
มิน่าพิรุณไม่พอใจที่เธออยู่ที่นี่ บางทีเธออาจขัดขวางคนอื่นมาช่วยเหลือเขา
เมื่อคิดได้อย่างนี้ มุมปากนรมนมีรอยยิ้มที่ดูไม่ออก ถ้าหากดูดีๆ ละก็ จะเห็นว่ารอยยิ้มของเธอเหมือนกับตอนที่บุริศร์เล่นงานคนอื่นสุดๆ
“เฮ้อ ที่นี่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท ทนไม่ไหวแล้ว ช่างเถอะ ฉันจะกลับห้องละ พวกนายเฝ้าเขาให้ดีๆ ล่ะ อย่าให้ดื่มน้ำหรืออาหารอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้หิวอยู่ตรงนี้แหละ ดูสิจะยังโอหังอีกมั้ย”
นรมนบิดขี้เกียจ จากนั้นก็ใส่มือถือลงในกระเป๋ากางเกง แล้วลุกขึ้นมองพิรุณแวบหนึ่งยิ้มเย็นก่อนเดินออกไป
สายตาของพิรุณเย็นเยียบ แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนรมนเดินออกมาก็ไม่รีบร้อนกลับ แต่ไปสั่งสั้นๆ กับบอดี้การ์ดคนหนึ่ง ถึงค่อยเดินออกจากถ้ำ
ตอนที่เธอกลับมาถึงหมู่บ้านดารายน มิลินกับกิจจาและนงลักษณ์อยู่กันพร้อมหน้า แต่พรวลัยหายไป
นรมนคิดว่าเธอออกไปสูดอากาศ ก็อดกังวลไม่ได้
“พวกเธอเห็นพรวลัยมั้ย เธอสุขภาพไม่ค่อยดี ข้างนอกลมแรง ไปเรียกเธอกลับมาเถอะ”
มิลินกับนงลักษณ์ส่ายหน้า “พวกเราไม่ได้สังเกตเลย”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปตามเอง”
พรวลัยเป็นคนที่บุณพจน์ขอให้บุริศร์ดูแล ไม่ว่าอย่างไรนรมนก็ไม่อยากให้เธอเกิดเรื่อง
หลังออกจากบ้าน นรมนก็เดินรอบหมู่บ้านดารายนหาจนทั่วก็ไม่เห็นพรวลัย จึงรู้สึกเป็นห่วง
“มิลิน พาคนไปถ้ำด้านหลังค้นหาดู อย่าให้เธอเกิดเรื่องล่ะ”
“ค่ะ”
เพราะพรวลัยหายตัวไป หลายคนจึงเริ่มออกตามหา เดิมทีหมู่บ้านดารายนที่กังวลอยู่แล้ว ตอนนี้บรรยากาศยิ่งตึงเครียด
ขณะที่นรมนกับมิลินออกตามหา คนที่เฝ้าถ้ำก็ส่งข่าวมา มีคนช่วยพิรุณหนีออกไปแล้ว
ข่าวนี้ทำให้แววตาของนรมนเคร่งขรึม
“ใครมาช่วยออกไป”
ลูกน้องพูดอ้ำๆ อึ้งๆ
“ไม่รู้ครับ ผมไปเปลี่ยนกะ ตอนที่ไม่อยู่ทุกคนก็สลบไป พิรุณก็ไม่รู้หายไปไหนแล้วครับ”
นรมนรีบรุดไปที่ถ้ำ
เธอไปถึงหน้าถ้ำ ก็เห็นลูกน้องที่ตัวเองแอบวางไว้ในที่ลับถูกคนทำให้สลบแล้ว ด้านในมีคนเฝ้ายามนอนระเกะระกะ เชือกของพิรุณก็ถูกแก้แล้ว
มิลินเดินตามเข้ามา ขมวดคิ้วพลางพูด “โรสแมรี่ มีคนใช้โรสแมรี่”
“ช่วยคนออกไปใต้จมูกเรา ดูถูกกันเกินไปแล้ว”
นงลักษณ์ก็ตามเข้ามา คำพูดนั้นยิ่งทำให้สีหน้านรมนแย่ลง
เธอหยิกคนเฝ้ายาม ปลุกให้เขาตื่น
“ใครพาพิรุณไป หรือว่าเมื่อกี้มีใครเข้ามาในถ้ำนี้”
“พรวลัยครับ”
ลูกน้องพูดเซ็งๆ มือลูบคอโดยอัตโนมัติ
สันมือของพรวลัยทุบแรงมาก
นรมนตะลึงงัน ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ใครนะ”
“พรวลัย ผู้หญิงที่อยู่กับบุณพจน์ครับ คุณนาย ผมคิดว่า พวกเขาวางแผนไว้แล้ว บุณพจน์นั่นถึงยังไงก็เป็นลูกชายของพิรุณ เขาคงแกล้งสลบ ที่จริงให้ผู้หญิงของตัวเองช่วยพิรุณไป พวกเราลำบากแทบแย่กว่าจะจับพิรุณได้ ตอนนี้เขาหนีไปแล้ว เดี๋ยวคุณชายบุริศร์กลับมา พวกเราจะทำยังไงดีครับ”
ลูกน้องโมโหมาก โดยเฉพาะตอนที่นึกถึงพรวลัยยิ่งกัดฟันกรอด
นรมนกลับไม่รู้สึกว่าบุณพจน์เสแสร้งแกล้งทำ
เขาไม่น่าใช้ชีวิตของตัวเองมาสร้างสถานการณ์ ถ้าจะพูดว่าบุณพจน์สงสัย เธอสงสัยพรวลัยมากกว่า
บุริศร์เคยเล่าว่า พรวลัยคือของขวัญที่พิรุณให้บุณพจน์ ถ้าจะพูดไม่ค่อยน่าฟัง ไม่แน่พรวลัยเป็นคนของพิรุณ
มิน่าพิรุณถึงได้มั่นใจตัวเองจะหนีไปได้ ที่แท้เขามีแผนอยู่แล้ว แต่พวกเธอไม่ได้ระวังพรวลัยเพราะบุณพจน์
ซวยแล้ว!
นอกจากพรวลัยรู้ว่าคริชณะอยู่ที่ไหน และยังรู้จักค่ายกลแปดทิศหยินหยางเป็นอย่างดี ถ้าหากเธอเป็นคนของ พิรุณจริงๆ ละก็ อย่างนั้นพิรุณก็จะรู้ที่ตั้งสายแร่ในไม่ช้า
ก่อนหน้านี้เพราะค่ายกล พิรุณเข้าใจว่าทางเข้าสายแร่อยู่ที่หมู่บ้านดารายนมาตลอด สถานที่อื่นสำรวจไม่เจอถึงได้ล้อมหมู่บ้านดารายนไว้ ตอนนี้พรวลัยได้เข้าไปในค่ายกลแปดทิศหยินหยาง รู้แล้วว่าสายแร่อยู่ที่นั่น ไม่แน่จะพาพิรุณไปที่นั่นเพื่อเข้าไปในภูเขา ถึงตอนนั้นก็จะปกป้องสายแร่ไม่ได้
นรมนรู้สึกลนลานขึ้นมา
เธอรีบโทรไปหาบุริศร์ แต่ที่บุริศร์อยู่นั้นไม่อยู่ในเขตบริการ นรมนรู้ว่านี่เป็นเพราะผลของการป้องกันสัญญาณ
หรือพูดได้ว่าพวกบุริศร์ยังอยู่ที่แคมป์ในหมู่บ้านน้ำใส
นรมนขมวดคิ้ว
ทำไงดี
มิลินกับนงลักษณ์มีประสบการณ์มามาก นิ่งเฉยกับเรื่องที่พรวลัยทรยศ แต่ในท่าทางนิ่งเฉยนั้นก็แฝงด้วยความกังวล
“นรมน ตอนนี้เราไม่รู้ว่าในบรรดาคนของเรายังมีใครเป็นคนของพิรุณอีกเท่าไหร่ ตอนนี้ที่นี่ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย ตอนนี้เป็นเวลาดีที่สุดที่จะกำจัดสปาย”
นงลักษณ์เสนออย่างระมัดระวัง
นรมนกลับส่ายหน้า “คนพวกนี้เป็นคนที่ติดตามบุริศร์ หนูเชื่อว่าเขาซื่อสัตย์ค่ะ อีกอย่างในช่วงที่อ่อนไหวอย่างนี้ ถ้าหากเราค้นหาหนอนบ่อนไส้จะทำให้เกิดความหวาดกลัวและไม่พอใจ ถึงตอนนั้นไม่แน่ผลอาจจะออกมาตรงข้ามก็ได้ ตอนนี้เราต้องรีบหาตัวพรวลัย และจับพิรุณกลับมาก่อนค่ะ”
“เธออยู่ทางนี้เถอะ ป้าจะออกไปค้นหาเอง”
ตอนนี้นงลักษณ์คิดรอบด้านเพื่อนรมน
ในหมู่บ้านดารายนยังมีบอดี้การ์ดคุ้มครอง ถ้าหากนรมนออกไป ถูกคนของพิรุณจับตา อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีได้
นรมนกลับส่ายหน้า “ไม่ค่ะ หนูจะไปแกะรอยพิรุณเอง ป้าให้คนของป้าคอยเฝ้าอย่าให้บุณพจน์คลาดสายตา ได้มั้ยคะ”
นงลักษณ์เห็นความแน่วแน่ในสายตาของนรมน ก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ก็ได้ ป้ารู้แล้ว วางใจเถอะ ป้ารับรองจะดูแลบุณพจน์ ไม่ให้ใครมาทำอะไร”
มิลินไม่รอให้นรมนพูดอะไร ก็ชิงพูดขึ้นก่อน “ฉันจะให้คนอื่นๆ เฝ้าหมู่บ้านดารายนไว้ รับประกันแมลงวันสักตัวก็เข้ามาไม่ได้ค่ะ”
“ฝากทุกคนด้วยนะคะ”
นรมนพยักหน้า แล้วรีบพาคนติดตามออกจากหมู่บ้านดารายนทันที
เดิมคิดว่าพวกเธอคงจะต้องแกะรอยของพรวลัยและพิรุณอย่างยากลำบาก แต่นึกไม่ถึงเพิ่งออกจากหมู่บ้านดารายนไม่ไกลนัก นรมนก็เจอพรวลัยที่ข้างทาง
พรวลัยยืนสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น เหมือนจะรู้ว่านรมนจะมาที่นี่ สีหน้าเรียบเฉยนั้นทำให้นรมนโมโหขึ้นมาทันที