แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1305 เรื่องที่อยากทำจะต้องไม่ใช่ง่าย ๆ แน่
บุณพจน์จ้องมองพรวลัยที่หมดสติอยู่ ในดวงตาแฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดเสี้ยวหนึ่ง แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมขึ้นมาว่า “ไม่รู้ซิ หรือบางทีระหว่างนี้อาจจะมีเรื่องอะไรอยู่ ความแค้นฆ่าล้างตระกูลระหว่างพรวลัยและพิรุณ ถึงแม้ว่าเธอจะปล่อยตัวเขาไป แต่ก็ไม่ใช่เพื่อช่วยเขาแน่ หรือบางทีอาจจะมีการวางแผนอย่างอื่นไว้ก็ไม่แน่”
สำหรับพิรุณแล้ว ตอนนี้บุณพจน์ไม่มีความรู้สึกอะไรต่อเขาเลยสักนิด ถึงแม้เขาจะกลืนหนอนพิษทองคำเข้าไป แต่ว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกภายนอกนั้นเขาก็สามารถเข้าใจและรู้เรื่องดี พิรุณปฏิบัติต่อเขายังไง จัดการกับศพของเขายังไงนั้นเขาล้วนได้ยินชัดเจนดี บางทีอาจจะเริ่มตั้งแต่วินาทีนั้น หัวใจของเขาก็ได้ตายไปแล้วจริง ๆ
พิรุณให้ชีวิตกับเขา แต่ว่าสามสิบกว่าปีมานี้เขาก็น่าจะทดแทนให้หมดแล้ว ต่อไปเขากับพิรุณจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่เศษเสี้ยวเดียวแล้ว
จ้องมองใบหน้าที่เยือกเย็นของบุณพจน์ นรมนก็เหมือนกับว่าได้เห็นตัวบุริศร์เมื่อหลายปีก่อน
ที่จริงมีบางครั้งพวกเขาพี่น้องก็เหมือนกันมากจริง ๆ ตัวอย่างเช่นท่าทางเรียบเฉยหลังจากที่โดนญาติสนิทหักหลังนั่น ที่จริงแล้วในใจน่าจะเจ็บปวดมากกว่าใครเลยละมั้ง
นรมนรู้สึกว่ามีอยู่เรื่องหนึ่งจำเป็นจะต้องบอกกับบุณพจน์
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “พี่ใหญ่ มีอยู่เรื่องหนึ่งฉันอยากจะบอกกับคุณ”
“เรื่องอะไร?”
“เรื่องที่เกี่ยวกับพิรุณ”
นรมนรู้ว่าตอนนี้พูดถึงพิรุณก็คือข้อห้ามอย่างหนึ่ง แต่ว่าเธอรู้ว่ายังไงบุณพจน์ก็ต้องเผชิญหน้า ถึงแม้ว่าตอนนี้จะสามารถหลบหนีไปได้ชั่วคราว แต่ก็หลบหนีไม่ได้ตลอดชีวิต
บุณพจน์อึ้งไปเล็กน้อย ดวงตามีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นเสียงเรียบว่า “เรื่องอะไรของเขา? ไหนว่าหลบหนีไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ตัวตนที่แท้จริงของเขาคุณรู้หรือเปล่า?”
คำพูดประโยคนี้ถามจนบุณพจน์ไปไม่ถูกเล็กน้อยเลย
“หมายความว่าไง?”
“ฉันส่งคนไปตรวจสอบตัวตนของพิรุณมา เมื่อสามสิบกว่าปีก่อนพิรุณก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว ญาติพี่น้องที่มีความเกี่ยวข้องกับเขาได้หายไปหมดเลยภายในคืนเดียว แต่ว่าตอนนี้พิรุณคนนี้กลับใช้สถานะนี้แทนมาสามสิบกว่าปี ตอนนั้นอินเทอร์เน็ตของเราที่นี่ยังไม่พัฒนาเท่าไหร่ ไฟล์ข้อมูลของพื้นที่ห่างไกลมากมายก็ตรวจสอบไม่เจอ เพราะฉะนั้นถึงได้มีจุดหละหลวมตรงนี้ แล้วตอนนี้พิรุณก็โดนพรวลัยปล่อยตัวไปแล้ว พวกเราก็ไม่รู้สถานะที่แท้จริงของเขาว่าคือใคร แล้วไม่มีเบาะแสเลยสักนิด”
คำพูดของนรมนทำให้ดวงตาของบุณพจน์หรี่ขึ้นมาทันที
“คุณว่าอะไรนะ? พิรุณตายแล้วเหรอ?”
“น่าจะพูดว่าพิรุณตัวจริงตายไปแล้วต่างหาก ส่วนสถานะที่แท้จริงของพิรุณในตอนนี้นั้นพวกเราก็ไม่แน่ชัด”
อยู่ ๆ บุณพจน์ก็นิ่งอึ้งไปเลย
เมื่อสามสิบกว่าปีก่อนพิรุณก็ตายไปแล้ว งั้นพ่อของเขาคือใครล่ะ?
ผู้ชายคนนั้นที่ให้ชีวิตเขา ตกลงเป็นใครกัน?
อยู่ ๆ บุณพจน์ก็รู้สึกตลกมาก
มีชีวิตอยู่มาสามสิบปี แต่เขากลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นลูกชายของใคร ตัวตนของพ่อเขาคือใคร
ถึงว่าพิรุณถึงได้ปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่เอาใจใส่ หนำซ้ำยังไม่สนใจด้วย คนคนหนึ่งที่สามารถทิ้งสถานะของตัวเองไปสามสิบกว่าปีได้ จะมาสนใจเขาที่เป็นลูกนอกคอกคนหนึ่งได้ยังไง?
บางทีตอนนั้นที่พิรุณมาอยู่กับโอนั้น ก็เพื่อต้องการรู้เส้นทางแร่ของหมู่บ้านดารายน เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดพลาดมีตัวเองขึ้นมาเท่านั้น
แต่น่าเสียดายที่หมู่บ้านดารายนจนถึงตายก็ยังไม่ได้บอกความลับนี้กับพิรุณ เพราะฉะนั้นเขาถึงได้มีชีวิตอยู่ต่อได้
เป้าหมายที่เขาบุณพจน์มีชีวิตอยู่ต่อได้บางทีอาจจะมีแค่อย่างเดียว นั่นก็คือเพื่อคอยขัดขวางบุริศร์ไว้ ก็คือคอยให้พิรุณเอาไปหลอกใช้เพื่อเปิดเผยความลับของหมู่บ้านดารายนมั้ง?
พอคิดถึงจุดนี้ได้แล้ว อยู่ ๆ บุณพจน์ก็รู้สึกว่าช่างน่าเยาะเย้ยมากจริง ๆ ทุกข์ใจมากจริง ๆ
ตอนแรกนึกว่าตัวเองคงจะไม่เกิดการอ่อนไหวทางอารมณ์อะไรต่อผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว แต่ว่าวินาทีนี้ก็ยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากกระดูกราวกับโดนถลกหนังลอกเส้นเอ็นออกยังไงอย่างงั้นอยู่
ที่แท้นี่ถึงจะเป็นความหมายที่แท้จริงที่เขาได้เกิดมาเหรอ?
ผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าแม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองก็ยังสามารถทอดทิ้งได้แล้วละก็ ถ้าอย่างงั้นเรื่องที่เขาจะทำจะต้องไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แน่ จะต้องไม่ใช่แค่เรื่องเงินของเส้นทางแร่ทองคำง่าย ๆ เท่านั้นแน่!
เขาจะเอาเงินพวกนั้นไปทำอะไรกัน?
หรือว่าเงินจะสามารถซื้อความรู้สึกมาได้ด้วยเหรอ?
จะสามารถซื้อความรักจากญาติมิตรมาได้เหรอ?
เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของพิรุณ แต่ว่าพิรุณก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด นอกซะจากว่าเขาจะเป็นลูกที่พิรุณมีกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก หรือบางทีก่อนที่พิรุณจะเจอกับโอนั้นอาจจะเคยมีทายาทอยู่ก่อนแล้ว
ความคิดนี้พุ่งเข้ามาในหัวสมองของบุณพจน์อย่างแปลกประหลาด จนทำให้ร่างกายของเขาสั่นเทาไปทีหนึ่ง
ในอกกำลังคลื่นลมแรงกระหน่ำอยู่ ความคาวอย่างหนึ่งพุ่งขึ้นมา แต่กลับโดนบุณพจน์สะกดกลั้นลงไปอย่างสุดความสามารถ
“พี่ใหญ่ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”
พอนรมนเห็นสีหน้าของบุณพจน์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็รีบเข้าไปประคองทีหนึ่ง
มุมปากของบุณพจน์เกิดความเยาะเย้ยขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นอย่างประชดประชันตัวเองว่า “บางทีพวกเราทั้งหมดอาจจะโดนพิรุณหลอกแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมากว่าผมอาจจะไม่ใช่ลูกเพียงคนเดียวของเขา ไม่งั้นละก็เขาคงจะไม่ปฏิบัติต่อผมอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนแบบนี้หรอก ถึงแม้ว่าผมจะไม่ใช่ลูกที่เกิดกับคนที่ใจเขารัก แต่เลือดก็ยังข้นกว่าน้ำ แต่เขาปฏิบัติต่อผมแบบไร้ความรู้สึกมากไปหน่อยแล้วมั้ง”
“คุณสงสัยว่าเขาจะไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของคุณเหรอคะ?”
“ผมหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ผมได้แอบไปทำการตรวจดีเอ็นเอลับหลังเขาแล้ว และพวกเราก็มีความเกี่ยวข้องกันเป็นพ่อลูกจริง ๆ ผมแค่รู้สึกว่า บางทีนอกจากผมแล้ว พิรุณอาจจะมีลูกชายคนอื่นอีก และที่สำคัญที่เขาอยากจะได้เหมือนทองนั้นคิดว่าคงจะไม่ใช่แค่เพื่อเงินง่าย ๆ แบบนั้นแน่”
บุณพจน์จ้องมองท้องฟ้าข้างนอก ที่อึมครึมอยู่ อย่างกับว่าฝนจะตกลงมาแล้ว ก็เหมือนอย่างกันจิตใจของเขาตอนนี้ยังไงอย่างงั้น
“หลายปีมานี้คุณอาจจะไม่รู้ แต่ผมรู้ว่า พิรุณเอาแต่หาเงินอย่างบ้าคลั่งมาตลอด เขาทำงานทุกอย่าง ยิ่งงานฆ่าคนนั้นจิตใจอยากทำยังไงมือก็ทำอย่างนั้น ขอแค่มีคนยอมจ่ายเงิน เขาก็พร้อมที่จะถวายชีวิต และเขาก็เคยใช้ธรณีวิทยามาพัฒนาเส้นทางเหมืองหลายแห่ง และเพื่อให้ได้กรรมสิทธิ์ของเส้นทางแร่เหล่านั้นมา เขาก็ได้ทำทุกวิถีทาง บีบบังคับคนอื่น และยังยอมเซ็นสัญญาซื้อขายที่ขาดทุนอีก เขาหาเงินมาตลอด ถึงแม้ว่าเขาจะชีวิตได้อย่างฟุ่มเฟือยจริง ๆ แต่ว่าความเร็วของการมาของเงินเหล่านั้นก็เร็วกว่าความเร็วที่เขาใช้ไปเยอะมาก แต่ว่าผมกลับไม่รู้ว่าเงินพวกนี้ไปไหนหมด”
ในตอนที่บุณพจน์พูดมาถึงตอนนี้นั้น ก็จดจ้องนรมนไว้เขม็ง
“คุณเข้าใจความหมายของผมไหม”
“ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ บางทีพิรุณอาจจะมีบัญชีลับ”
คำพูดของนรมนทำให้บุณพจน์ส่ายหัวเล็กน้อย
“บัญชีทั้งหมดของเขา ผมเคยตรวจสอบแล้ว ทรัพย์สินของเขามีแค่ไม่กี่สิบล้าน นี่มันเชื่อมต่อกับความเร็วในการหาเงินของเขาไม่ได้เลย เมื่อก่อนผมแค่รู้สึกสงสัย สงสัยว่าเขาอาจจะโอนเงินออกไปผ่านบัญชีอื่นไปแล้ว แต่ว่าผมเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขา แต่เขาไม่เอาเงินเก็บไว้ให้ผม แล้วยังจะสามารถโอนออกไปให้ใครได้ล่ะ? และอีกอย่างคนแบบไหนกันที่ต้องการเงินเยอะขนาดนั้น?”
เมื่อก่อนบุณพจน์มองข้ามอะไรบางอย่างไป แต่ตอนนี้กลับนึกขึ้นมาได้หมดแล้ว
เขาไม่ได้ไม่รู้สึกสงสัยในตัวพิรุณ เพียงแต่ไม่ว่าจะสงสัยมากแค่ไหนก็ไม่มีหลักฐาน และพิรุณก็จุดที่น่าแปลกมากมายที่ทำให้คนมองไม่ออก เดาไม่ถูกจริง ๆ ด้วย
หัวคิ้วของนรมนขมวดขึ้นเล็กน้อย
“คุณว่าพิรุณจะเอาเงินโอนไปให้ธนเดชแล้วหรือเปล่าคะ?”
“ไม่หรอก ธนเดชตายไปแล้ว”
ข่าวของบุณพจน์อันนี้กลับทำให้นรมนอึ้งไปอย่างมากจริง ๆ
ทางด้านเธอกับบุริศร์เพิ่งจะได้รับข่าวของธนเดชมานิดหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่าบุณพจน์จะปล่อยข่าวที่แรงช็อกระเบิดแบบนี้ออกมา
“ตายแล้วเหรอ? มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
ถ้าหากว่าธนเดชตายไปแล้วละก็ ถ้าอย่างงั้นใครเป็นคนสั่งการคนพวกนั้นที่เกียวโตกันแน่? หรือว่าจะไม่ใช่ตระกูลนาคชำนานเหรอ?
ถ้าหากเป็นตระกูลนาคชำนานละก็ งั้นธนเดชก็ตายไปแล้ว พวกเขาจะถวายชีวิตเพื่อใครล่ะ?
อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกว่าเรื่องที่ตอนแรกใกล้จะชัดเจนแล้วแต่ก็เหมือนกับตกลงสู่หมอกควันอีกแล้ว ทำให้คนมองไม่ออก มองไม่ชัดเจน
เหมือนกับว่าบุณพจน์จะมองความแปลกใจของนรมนออก จึงพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ธนเดชได้ตายไปตั้งแต่ที่ทำลายล้างหมู่บ้านดารายนไปแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งผมแอบได้ยินพิรุณพูดขึ้นมาว่า เพราะว่าการปฏิบัติการทำลายล้างหมู่บ้านดารายนล้มเหลว ธนเดชจึงชักจูงเรื่องวุ่นวายบางอย่างมา และโดนคนเฝ้าจับตามองอยู่ เพราะฉะนั้นพิรุณจึงช่วยเขาหลบภัยอันตรายหนีออกนอกประเทศ แต่หลังจากที่ธนเดชออกนอกประเทศแล้วก็แตกคอกับพิรุณเลย เพราะฉะนั้นพิรุณก็เลยฆ่าธนเดชอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร และพวกคนที่ตามออกมากับธนเดช ก็ไม่เหลือไว้สักคน”
นรมนรู้สึกว่าพิรุณนั้นช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว ช่างเลือดเย็นเกินไปแล้ว
ตอนนั้นธนเดชได้พาครอบครัวทั้งหมดหนีออกนอกประเทศ ได้ยินมาว่าตอนนั้นภรรยาคุณธนเดชเพิ่งคลอดลูกออกมาได้ไม่นาน ถ้าอย่างงั้นแม้แต่เด็กก็……
“ไม่เหลือสักคนจริง ๆ เหรอ? ตอนนั้นภรรยาคุณธนเดชเพิ่งจะคลอดลูกออกมาไม่นานเองนะ”
“เด็กทารกที่คุณว่าคนนั้นน่าจะโดนฆ่าตายไปเป็นคนแรกเลย และที่สำคัญยังโดนฆ่าต่อหน้าต่อตาธนเดชอีกด้วย และภรรยาคุณธนเดชก็เป็นบ้าไปเลย แล้วภายใต้ความโกรธจัดนั้นธนเดชก็สู้สุดชีวิตกับพิรุณ แต่สุดท้ายยังไงก็ต่อสู้ไม่ได้ จนตายไปทั้งหมด เรื่องนี้โดนพิรุณแอบซ่อนไว้ เพราะฉะนั้นหลายปีมานี้ก็เลยไม่มีใครรู้เบาะแสของธนเดช ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาไม่มีความสามารถ แต่เป็นเพราะว่าธนเดชไม่ได้อยู่บนโลกนี้มานานแล้ว” ในตอนนั้นบุณพจน์ยังเป็นเด็กมาก แต่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พิรุณพูดออกมากับผู้หญิงที่อยู่ข้างกายในตอนที่ดื่มเยอะแล้วเมา
เขาจำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นน่าจะโดนส่งตัวมาจากทางเมืองหลวง เพื่อมาหาเบาะแสของธนเดชจากปากพิรุณให้ได้ แต่น่าเสียดายกลับโดนพิรุณพบเห็นเข้าก่อน ก็เลยให้ผู้หญิงคนนั้นได้เป็นผีเข้าใจเรื่องราวสักครั้ง ก็เลยเอาเรื่องที่เธออยากจะรู้บอกกับเธอไป แล้วก็ฆ่าผู้หญิงคนนั้นไปบนเตียง เพียงแต่ว่าที่คิดไม่ถึงคือบุณพจน์ได้ไปที่ห้องของพิรุณเพื่อหนอนพิษแค่ตัวเดียว แล้วในตอนที่อยากจะออกไปนั้นก็ไม่ทันการซะแล้ว เขาจึงได้แต่หลบอยู่ใต้เตียงเท่านั้น แล้วก็บังเอิญได้ยินเรื่องพวกนี้เข้าพอดี
ตอนนั้นบุณพจน์เพิ่งจะมีอายุแค่แปดเก้าขวบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าธนเดชเป็นใคร ก็เลยไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด เพียงแต่ว่าไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับความโหดร้ายของพิรุณเท่านั้น เพราะฉะนั้นก็เลยหลบซ่อนไว้จนคนพวกนั้นเอาศพของสายลับหญิงออกไปแล้ว และพิรุณออกจากบ้านไป เขาถึงได้คลานออกมาแล้วก็วิ่งหนีไป
เพียงแต่ว่าหลายปีต่อจากนั้น ก็มักจะมีผู้หญิงหลายคนมาอยู่ข้างกายพิรุณแล้วสืบเสาะเบาะแสของธนเดช แต่น่าเสียดายกลับไม่เคยมีใครมีจุดจบที่ดีเลยสักคน แล้วก็ไม่มีใครมีชีวิตอยู่ต่อด้วย
พอตอนนี้มาคิดดูแล้ว บางทีผู้หญิงพวกนั้นอาจจะถูกส่งมาจากเมืองหลวงหมดเลย เพียงแต่ว่าพิรุณค่อนข้างเจ้าเล่ห์ ก็เลยไม่เชื่อผู้หญิงคนไหนสักคน
เขานึกมาตลอดว่าในใจของพิรุณมีแต่โอเท่านั้น ถึงแม้จะตกสู่ห้วงสวาทของผู้หญิงมากมายหลายรูปแบบ แต่ก็เป็นเพียงแค่การเสแสร้งแกล้งทำ เพื่อคลายความทุกข์ที่อยู่เท่านั้น แต่ว่าตอนนี้บุณพจน์ถึงมาพบว่า พิรุณไม่ได้สนใจว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายจะเป็นใคร เขาไม่เคยอนุญาตให้ใครคลอดลูกของเขาออกมา นอกจากเขาบุณพจน์แล้ว พิรุณไม่ได้มีลูกคนไหนตกอับอยู่ข้างนอกจริง ๆ
บุณพจน์จำได้ว่าเคยมีผู้หญิงคนหนึ่งตั้งท้องลูกของพิรุณ แล้วก็นึกว่าตัวเองจะได้ขึ้นไปนั่งตำแหน่งนายหญิงแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะโดนพิรุณตีตายไปทั้งอย่างนั้น
ที่ช่วงล่างของผู้หญิงคนนั้นมีไหลออกมาเยอะมาก แต่ว่าพิรุณกลับดูก็ยังไม่ดูเธอสักครั้งแล้วก็เอาตัวเธอโยนออกไปเลย
ผู้ชายคนหนึ่งทำไมถึงจะไม่อยากจะได้ลูกของตัวเองล่ะ?
บุณพจน์เคยคิดว่าถึงแม้พิรุณจะเคร่งงวดกับตัวเองไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่ทิ้งเชื้อไว้ข้างนอก นั่นก็คือความรักที่มีต่อเขาแล้ว แต่ตอนนี้มาดูไปแล้วน่าจะคือตัวเองคิดมากไปเอง คิดเพ้อฝันไปเองทั้งนั้น ไม่แน่พิรุณอาจจะไม่อยากจะให้ผู้หญิงคนไหนคลอดลูกของเขาออกมาทั้งนั้น
อยู่ ๆ บุณพจน์ก็รู้สึกสนใจสถานะที่แท้จริงของพิรุณขึ้นมา
ถ้าหากเขาไม่ใช่พิรุณ ถ้าหากเขาไม่อนุญาตให้ใครคลอดลูกของเขาออกมา ถ้างั้นตกลงเขาเป็นใครกันล่ะ? แล้วเขายังมีลูกคนอื่นอยู่บนโลกใบนี้อีกไหม?