แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1310 คุณยังจะพูดแทนเธออีก
ใจของนรมนหล่นตุ๊บทีหนึ่ง
มิลินนี่ก็เร่งรีบเกินไปแล้วมั้ง?
นรมนยังไม่ได้เปิดปากพูดเลย เธอก็เข้ามาแบบนี้แล้วเหรอ?
ในนรมนในตอนนี้กลับยิ่งออกไปไม่ได้เด็ดขาด
บุณพจน์เองก็เหมือนกับว่าจะคิดไม่ถึงว่ามิลินจะเร่งรีบขนาดนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะมองนรมนทีหนึ่ง แต่ก็ไม่พูดอะไร
หลังจากที่เข้าห้องมาแล้วมิลินก็ไม่เห็นนรมนเลย จึงอดไม่ได้ที่จะแปลกใจไปครู่หนึ่ง
“คนล่ะ? ทั้ง ๆ ที่ไม่เห็นเธอออกมาเลยนี่”
มิลินพูดเองเออเองไป จากนั้นก็เหมือนกับว่าจะเริ่มต้นค้นหาของขึ้นมาแล้ว
นรมนสามารถได้ยินเสียง แต่กลับมองไม่เห็น จึงอดไม่ได้ที่จะร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย
บุณพจน์ส่งสัญญาณให้เธออย่างเคลื่อนไหวไปเรื่อย ทั้งสองคนกลั้นลมหายใจฟังเสียงความเคลื่อนไหวของข้างนอกไป
มิลินหาไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าหาอะไรเจอบ้าง จากนั้นก็ออกจากห้องไปอย่างรีบร้อนเลย
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด นรมนก็ไม่ได้ออกมาทันที แต่กลับรอไปครู่หนึ่งแล้วถึงเปิดประตูห้องลับแล้วเดินออกไป
การจัดวางในห้องไม่มีอะไรแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ แต่ว่านรมนรู้ว่า มิลินเคยมาขยับแล้ว
บนโต๊ะของเธอมีร่องรอยการโดนขยับแล้ว ถึงแม้ร่องรอยจะจืดจางมาก จนแทบมองไม่ออก แต่ว่านรมนก็ยังมองออกอยู่ดี
เธอเดินไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็เปิดลิ้นชักออกมาดูทีหนึ่ง
“ของอะไรหายไปบ้าง?”
บุณพจน์เองก็ตามออกมาด้วย
นรมนส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่มีค่ะ แต่ของเพิ่มขึ้นมาอย่างหนึ่ง”
“อะไร?”
“อันนี้ค่ะ”
นรมนเอาขวดเครื่องหอมขวดหนึ่งยื่นให้กับบุณพจน์
“ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าของอันนี้มีประโยชน์อะไร แต่ว่านี่ไม่ใช่ของฉันแน่”
ใบหน้าของนรมนเต็มได้ด้วยประโยคคำถาม
บุณพจน์รับมาแล้วดมดูครู่หนึ่ง จากนั้นหัวคิ้วก็คลายตัวออก
“นี่คือยาถอนพิษ เป็นยาถอนพิษที่รักษาหนอนพิษบนตัวบุริศร์ได้”
“หนอนเส้นด้ายทองอันนั้นเหรอ?”
นรมนรู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อย
บุณพจน์พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เอายาถอนพิษแล้วก็เดินเข้าห้องลับไป นรมนเองก็ไม่ได้หยุดนิ่งแล้วก็เดินตามเข้าไปด้วย
หลังจากที่บุริศร์โดนป้อนยาถอนพิษเข้าไปแล้ว สีหน้าก็ผ่อนคลายขึ้น ลมหายใจก็สงบนิ่งขึ้นเยอะ
บุณพจน์พูดขึ้นอย่างโล่งอกไปเปลาะหนึ่งว่า “หายแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“แล้วหนอนพิษทองคำที่อยู่ในตัวเขายังอยู่ไหมคะ?”
นี่คือปัญหาที่นรมนคำนึงถึง
บุณพจน์พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ หนอนพิษทองคำมีประโยชน์ต่อเขาไม่มีพิษ คุณไม่ต้องเป็นกังวลมากหรอก”
“แต่ว่ามีของสิ่งนี้อยู่ในร่างกายเขา ยังไงฉันก็ไม่สบายใจ โดยเฉพาะมิลินเป็นคนทิ้งไว้ให้ ฉันยิ่งมากล้าเชื่อ มิลินสามารถเข้ามาส่งยาถอนพิษได้ มันอธิบายได้เพียงอย่างเดียวคือ เธอรู้แล้วว่าบุริศร์กลับมาแล้ว และรู้ว่าหนอนพิษในตัวบุริศร์ออกฤทธิ์แล้ว เพราะฉะนั้นก็สะท้อนจากด้านข้างได้ว่า หนอนพิษของบุริศร์มิลินเป็นคนวางใส่ให้ ไม่งั้นคงจะไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอก”
หัวคิ้วของนรมนก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงก็ขรึมต่ำเล็กน้อย
“ยังมีอีกอย่าง มิลินบอกว่าปีวราเป็นคนทรยศ ใช้กมลเป็นเหตุผลพาเข้าไปในค่ายแล้วตามหาคริชณะเจอ จากนั้นพวกเขาก็ไม่มีข่าวคราวและการเคลื่อนไหวเลย แต่หนอนพิษส่งสารที่ปีวราส่งกลับมาก็มิลินเป็นคนพบเห็น พี่ใหญ่ คุณไม่รู้สึกว่าอันนี้มันบังเอิญเกินไปเหรอ?” นรมนไม่อยากจะสงสัยมิลิน เมื่อก่อนเธอก็เคยสงสัยมาก่อน แต่ต่อมาหลักฐานก็ไม่เพียงพอ หนำซ้ำมิลินยังช่วยบุริศร์ได้อีก พวกเขาถึงได้เลิกสงสัยมิลินไป แต่ตอนนี้นรมนรู้สึกว่ามิลินก็คือหนอนบ่อนไส้ที่ซ่อนอยู่ในระหว่างพวกเขา
ปีวราไม่มีเหตุผลที่จะทรยศ ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งก็คือโดนมิลินใส่ร้ายแล้ว ตอนนี้อาจจะโดนกักตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งพร้อมกับพวกคริชณะแล้วออกมาไม่ได้ หรือว่าเจอกับอุบัติเหตุอะไรเข้า
บุณพจน์ขมวดคิ้วไว้และไม่ได้พูดอะไร สำหรับการคาดเดาตามหลักการของนรมนนั้นเขาเองก็รู้สึกเห็นด้วย
“บางทีคุณอาจจะพูดถูก หนอนบ่อนไส้อาจจะคือมิลินจริง ๆ แต่ว่าแล้วการกระทำของมิลินในวันนี้มันคือเรื่องอะไรกันล่ะ? นี่เท่ากับว่าเธอเปิดโปงตัวเองเลยนะ เธอจะไม่กลัวคุณเอาเธอตายเหรอ? ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ทำ แต่ถ้าบุริศร์ตื่นมาแล้วก็เป็นผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันของหมู่บ้านดารายนในตอนนี้ ถ้าอยากจะให้มิลินตายนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก เพราะฉะนั้นในจุดนี้นั้นเข้าใจยากมากจริง ๆ”
แน่นอนว่าคำพูดของบุณพจน์นั้นนรมนเองก็เคยคิดมาก่อน แต่ว่ากลับคิดอะไรไม่ออกเลย
“ช่างเถอะ พวกเราอยู่ที่นี่กันก็ไม่มีประโยชน์อะไร หรือไม่จับมิลินมาถามให้รู้เรื่องเลยดีกว่า ถ้าหากว่าจิตใจของเธอไม่ซื่อสัตย์จริง ๆ คาดว่าตอนนี้ก็น่าจะไม่อยู่แล้ว มาส่งยาถอนพิษให้ เพราะรู้ว่าพวกเราต้องการ และถือโอกาสตอนเราถอนพิษหนีไป ไม่ทำร้ายใครและไม่ทำร้ายโดนตัวเอง นี่น่าจะเป็นความคิดของมิลินนะ”
นรมนพูดจบแล้วก็เดินออกไปเลย
เธอไปตามหามิลินเป็นอันดับแรกเลย หนำซ้ำยังพาคนไปด้วย และก็เป็นอย่างที่คิดไว้มิลินได้จากไปแล้ว
มองออกได้ว่าเธอเก็บข้าวของได้อย่างรีบร้อนมาก ของบางอย่างยังไม่ได้เอาไปด้วยซ้ำ
ใจของนรมนหนักหน่วงเป็นอย่างมาก
พอกิจจาได้ยินข่าวก็รีบตามมา ในตอนที่เขาเห็นห้องที่โดนตรวจค้นเป็นห้องของมิลินนั้น ในใจก็รู้สึกทุกข์ใจเล็กน้อย
“หม่ามี้ อาจารย์ของผมทำอะไรอีกแล้วครับ?”
ในตอนที่กิจจาพูดคำพูดพวกนี้ออกมาเองนั้น บนใบหน้าก็ร้อนผ่าวแล้ว
เขารู้ หม่ามี้กับแด๊ดดี้เคยให้โอกาสกับอาจารย์มาหลายครั้งมากแล้ว
นรมนจ้องมองกิจจา แล้วลูบหัวของเขาแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ว่าเธอจะทำอะไรไป ก็ไม่เกี่ยวกับหนูนะ กลับไปพักผ่อนดี ๆ เถอะ”
ดวงตาของกิจจาเปียกชื้นขึ้นมาเล็กน้อย แต่กลับสะกดกลั้นไว้ และนรมนในตอนนี้ก็ไม่มีเวลาไปปลอบใจกิจจาด้วยซ้ำ
“รีบค้นหาให้ฉัน ถึงจะต้องค้นทุกซอกทุกมุม ก็จะต้องหาตัวมิลินออกมาให้ฉันให้ได้”
นรมนแผ่แรงสังหารออกมาทั้งตัว
เธอสามารถอดทนได้ถ้ามิลินจะออกไปตามหาชีวิตใหม่ แต่ว่าจะไม่มีทางอนุญาตให้มิลินมาทำร้ายบุริศร์แน่
ในตอนที่คนทั้งหมดคิดกับเธอเป็นคนกันเองแล้ว แต่เธอกลับวางยาพิษให้บุริศร์?
ถึงแม้ว่าตอนนี้ส่งยาถอนพิษมาแล้วจะยังไง?
ยังไงทรยศแล้วก็คือทรยศแล้ว
ในตอนที่นรมนกลับมาถึงห้องนอนนั้น บุริศร์ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว และกำลังพูดคุยกับบุณพจน์อยู่ พอเห็นนรมนเดินเข้ามา บุริศร์ก็ยิ้มอ่อน ๆ ขึ้นมา
“ที่รัก คุณกลับมาแล้วเหรอ?”
แค่คำพูดง่าย ๆ ประโยคเดียวก็ทำให้นรมนน้ำตาอุ่นร้อนระรื่นขึ้นมาแล้ว
“คุณทำให้ฉันตกใจแทบตายเลยรู้ไหมคะ?”
นรมนพุ่งเข้าไปในอ้อมอกของบุริศร์เลย แล้วก็ตรวจสอบร่างกายของเขาอย่างร้อนใจขึ้นมา
“รู้สึกว่าไม่สบายตรงไหนบ้างหรือเปล่าคะ? ยังอยากจะนอนอีกไหมคะ?”
แววห่วงใยในดวงตาเธอทำให้ในของบุริศร์เจ็บจี๊ด ๆ
“ไม่เป็นอะไรแล้ว พี่ใหญ่บอกว่าผมไม่เป็นอะไรแล้ว”
คำว่าพี่ใหญ่ของบุริศร์ทำให้บุณพจน์อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดขึ้นว่า “ช่างยากจริง ๆ ที่นายเรียกฉันว่าพี่ใหญ่คำหนึ่ง”
“คุณไสหัวไปได้แล้ว”
บุริศร์รู้สึกว่าบุณพจน์อยู่ที่นี่มันขัดหูขัดตาเล็กน้อย
บุณพจน์เองก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีก จึงมองดูเวลาเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นว่า “พวกกำลังของพิรุณพอถึงช่วงกลางคืนฉันก็น่าจะรวบรวมเกือบได้หมดแล้ว ส่วนเรื่องที่นายพูดมาฉันก็ต้องคิดวิเคราะห์ดูก่อน ในเมื่อร่างกายของพรวลัยยังไม่เหมาะที่จะไปเหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่ เธอยังต้องการพักผ่อน”
สำหรับจุดนี้ บุริศร์รู้ว่าตัวเองร้องขอมากไปแล้ว
“ได้”
บุณพจน์พูดจบก็จากไปเลย
ในตอนที่ห้องลับเหลือแค่นรมนและบุริศร์นั้น นรมนก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย
“เมื่อกี้พวกคุณสองคนพี่น้องพูดอะไรกันคะ?”
“พูดเรื่องของพิรุณ รวมทั้งหนอนพิษทองคำที่อยู่ในตัวผม”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกไม่สบายใจนัก
“บุริศร์คะ ไม่มีทางที่จะเอาหนอนพิษทองคำนี่ออกมาได้เลยเหรอคะ? พวกเราไม่เอาแล้วไม่ได้เหรอคะ? ของอย่างพวกหนอนพิษนี่ฉันรู้สึกกลัวมากจริง ๆ แล้วนะคะ”
สำหรับสิ่งนี้นั้นนรมนมีภาพฝังใจมากแล้วจริง ๆ เริ่มตั้งแต่ตอนที่นึกว่าตัวเองตั้งท้องเป็นต้นมา เธอก็รู้สึกไม่ชอบของสิ่งนี้เลย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมบนโลกใบนี้ถึงได้มีคนทดลองของแบบนี้ขึ้นมา นี่มันช่างน่ารังเกียจมากจริง ๆ
บุริศร์รู้เรื่องปมในใจนี้ของเธอ จึงรวบตัวเธอมากอดไว้ในอกเบา ๆ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบ แต่ว่าพี่ใหญ่บอกกับผมว่า ถ้านับตามเวลาแล้ว หนอนพิษทองคำได้ละลายไปในตัวของผม และได้หลอมรวมเข้าไปในกระดูกของผมแล้ว เพราะฉะนั้นคิดว่าอันนี้คงจะไม่มีวิธีที่จะเอาออกมาได้แล้ว”
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?”
นรมนรู้สึกทุกข์ใจเล็กน้อย
บุริศร์พูดปลอบใจเสียงต่ำไปว่า “วางใจเถอะ ต่อไปผมก็ถือได้ว่าโชคดีในความโชคร้าย ไม่เกรงกลัวต่อพิษอะไรอีกแล้ว”
“ฉันไม่เชื่อหรอกค่ะ ถ้าคุณไม่กลัวพิษอะไรเลยละก็ ทำไมครั้งนี้ถึงได้เกือบตายได้ละค่ะ?”
นรมนไม่ใช่คนที่จะมาหลอกกันง่าย ๆ แบบนั้นได้
บุริศร์อดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่นและพูดขึ้นว่า “แต่งงานกับภรรยาที่ฉลาดมากคนหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะ”
“บุริศร์ คุณมาพูดกับฉันให้ชัดเจนดี ๆ เลยนะ ตกลงของสิ่งนี้อยู่ในร่างกายคุณมันมีอันตรายไหมคะ?”
นี่ถึงจะเป็นเรื่องที่นรมนเป็นกังวลมาตลอด
เจตต์ก็เพราะว่าร่างกายโดนคนวางตะกั่วใส่ จนทำให้ขวัญตาแม้แต่จะมีลูกก็ยังมีไม่ได้ แต่ในตัวบุริศร์กลับมีหนอนพิษตัวเป็น ๆ ตัวหนึ่งอยู่ตลอดเลยนะ นรมนคิดยังไงก็ยังกลัวอย่างนั้น
เธอแบกรับความเป็นห่วงที่จะมาแบบนั้นอีกครั้งแน่
บุริศร์อุ้มนรมนไว้อย่างปวดใจ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “สำหรับหนอนพิษทองคำนั้น บุณพจน์เองก็ไม่ค่อยรู้จักดีมากนัก รู้แต่เพียงว่ามันคือราชาแห่งหนอนพิษ สามารถยับยั้งหนอนพิษทั้งปวงได้ สำหรับอย่างอื่นนั้น เขาเองก็ยังศึกษาได้ไม่หมด”
“ฉันไม่เชื่อหรอก ถ้าสามารถยับยั้งหนอนพิษทั้งปวงได้ละก็ งั้นหนอนเส้นด้ายทองที่อยู่ในตัวคุณมันเรื่องอะไรกัน?”
พอนรมนคิดถึงหนอนเส้นด้ายทองที่ยั้วเยี้ย ร่างกายก็อดไม่ได้ที่จะสั่นขึ้นมาทีหนึ่ง
บุริศร์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “นั่นมันคือสิ่งที่มิลินเพิ่มเข้าไปในตอนที่หนอนพิษทองคำยังไม่เติบโต จึงเติบโตขึ้นมาพร้อมกับหนอนพิษทองคำ เพราะฉะนั้นถึงได้เข้าสู่ร่างกายผมตามเส้นเลือดของผม ทำให้ผมไม่รู้สึกตัวเลย แต่ว่าบุณพจน์ก็บอกแล้วว่า ตอนนั้นร่างกายของผมโดนหนอนพิษทำร้าย แรงแบกรับไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่ ถ้าหากหนอนพิษทองคำบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกายของผมเลย บางทีผมอาจจะช็อกตายไปเลย เพราะฉะนั้นถ้าพูดอีกด้านหนึ่งก็คือ การกระทำแบบนี้ของมิลินก็ถือได้ว่าเป็นการช่วยชีวิตผมด้วย”
“คุณยังจะพูดแทนเธออีก? คุณรู้หรือเปล่าว่าเธอเกือบจะทำให้คุณตายไปแล้วนะ?”
อารมณ์ของนรมนร้อนรนเป็นอย่างมาก
พอคิดถึงว่ามิลินเกือบจะทำให้บุริศร์ตายไปแล้วภายใต้สายตาของเธอ นรมนก็โกรธเคืองขึ้นไม่หยุด
“ไม่ได้ ต่อไปฉันจะศึกษาหนังสือโบราณของหมู่บ้านดารายนของพวกคุณดูสักหน่อย มีเพียงแต่เข้าใจหนอนพิษแล้ว ฉันถึงจะไม่โดนคนอื่นมาหลอกใช้ได้ง่าย ๆ ยิ่งจะต้องไม่ให้คนอื่นมาทำร้ายคุณต่อหน้าฉันได้”
พอคิดถึงสิ่งนี้ นรมนก็รู้สึกอัดอั้นเป็นอย่างมาก
บุริศร์รู้ความในใจเธอ จากนั้นก็พูดเสียงเบาขึ้นว่า “เอาล่ะ อย่าโกรธเลยนะ และก็ไม่ต้องไปดูของอันนั้นด้วย คุณไม่มีความสนใจหนอนพิษ อย่าบังคับตัวเองไปเรียนเลยนะ นรมน ผมไม่ได้กำลังหาข้ออ้างให้มิลิน แต่ว่าผมมักจะรู้สึกว่าเธอไม่น่าจะเป็นคนชั่ว ที่เธอทำแบบนี้บางทีอาจจะมีความลำบากของตัวเอง แต่ยังไงแล้วเธอก็ไม่ได้ทำร้ายผม อย่างมากที่สุดก็แค่ฉุดรั้งผมไว้ครู่เดียว และขัดขวางฝีเท้าของพวกเราทีเดียวเท่านั้น”
พอนรมนได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ ก็ถอนหายใจทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ว่าเธอจะทำเพื่ออะไร ยังไงพวกเราก็จะต้องตามหาเธอให้เจอถึงจะรู้ว่าตกลงทุกอย่างนี้มันเพื่ออะไร”
ตอนแรกนึกว่าเรื่องราวมีความคืบหน้าก้าวหนึ่งแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะยิ่งสับสนวุ่นวายเข้าไปอีก
นรมนอดไม่ได้ที่จะกระสับกระส่ายขึ้นมาเล็กน้อย
“ใช่แล้ว เมื่อกี้คุณยังพูดอะไรกับพี่ใหญ่บ้างคะ? ทำไมถึงพูดไปถึงพรวลัยด้วยละคะ?”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผมอยากจะเชิญพรวลัยไปทลายกลยุทธ์”
คำพูดนี้ทำให้นรมนอึ้งไปทีหนึ่ง
พรวลัยเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลแสงนาค แน่นอนว่าค่ายกลแปดทิศจะต้องมีแต่เธอเท่านั้นที่ทลายได้ แต่ว่าร่างกายของพรวลัยในตอนนี้ทนความทรหดไม่ไหวหรอก