แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1333 อย่าแกล้งให้เขาลำบากมากนัก
หลายปีแล้วที่นงลักษณ์ไม่ได้เห็นแววตาอย่างนี้ของบุญทิวา ก็ยิ่งยิ้มสดใสขึ้น
“ฉันสวยมั้ยคะ”
คำถามของเธอราวกับสาวแรกแย้ม
บุญทิวาพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองทำตัวไม่ค่อยถูก ก็รีบก้มหน้า ไม่กล้ามองดวงตาของนงลักษณ์อีก แต่สำหรับนงลักษณ์ นี่ก็มากพอแล้ว
“คุณลุกมาอาบน้ำละกันค่ะ ฉันจะไปทำอะไรให้กิน จริงสิ เดี๋ยวถ้าพวกนรมนมา คุณช่วยฉันต้อนรับหน่อย คุณน่าจะรู้จักนรมนใช่มั้ยคะ เมื่อวานเธอพาคุณมา หลานสาวของคุณ ลูกสาวของชินทร”
นงลักษณ์รู้ว่าหลายปีนี้บุญทิวาไม่ได้ติดต่อกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เขาไม่รู้สถานะของนรมนแน่ชัดนัก แม้ว่าเมื่อวานเธอจะพาเขามา แต่รายละเอียดเป็นใคร คิดว่าในใจบุญทิวายังคาดเดาอยู่
นึกไม่ถึงครั้งนี้บุญทิวาจะตอบแล้ว
“ผมรู้เธอคือใคร ลูกของพี่ชายผมกับพี่สาวคุณ แต่หน้าตาไม่ยักเหมือนพวกเขาสองคน”
นงลักษณ์อึ้งนิดหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มอธิบาย “นรมนเคยเกิดอุบัติเหตุ ศัลยกรรมใบหน้าแล้ว เมื่อก่อนก็หน้าตาเหมือนพี่สาวฉันกับพี่ชายคุณนั่นแหละค่ะ เดี๋ยวฉันเอารูปเธอเมื่อก่อนให้ดูคุณก็จะเห็นเอง”
“ครับ”
บุญทิวาเมื่อได้ยินนงลักษณ์เล่านรมนเคยเกิดอุบัติเหตุ ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้ซักถามอะไร ในใจคงพอเดาอะไรได้
นงลักษณ์มองเขา ก็ออกจากห้องไป
บุญทิวามองนงลักษณ์ออกไปแล้วค่อยรู้สึกโล่งอก อยู่กับนงลักษณ์ไม่มีทางจะสงบจิตสงบใจได้
นงลักษณ์ออกไปแล้ว บุญทิวาก็รีบอาบน้ำ แม้ว่าจะยังเป็นเสื้อผ้าเมื่อคืน แต่เมื่อเทียบกับหลายปีมานี้ในคุกใต้ดิน เขาก็ยังพอใจกับเรื่องเล็กน้อยได้ง่ายๆ
ต้องกล่าวว่า เวลาและสภาพแวดล้อมลบเหลี่ยมคมของคนหนึ่งไปหมด บุญทิวาในตอนนี้ไม่เปิดเผยเหมือนครั้งยังหนุ่ม แต่กลับตกตะกอนมากขึ้น และเงียบขรึมขึ้นมาก
นรมนย่อมไม่อาจนอนได้สบายใจ ถ้าไม่เพราะบุริศร์ห้ามไว้ เธอคงลุกไปดูบุญทิวาตั้งแต่กลางดึกแล้ว
ตอนนี้เช้าแล้ว ได้ยินเสียงดังมาจากห้องของนงลักษณ์ นรมนรีบวิ่งไป
เธอค่อนข้างกังวล ถึงกับมือเปียกชื้น
บุริศร์เห็นภรรยาเป็นอย่างนี้ ก็อดยิ้มไม่ได้ จากนั้นก็เคาะประตูห้องของนงลักษณ์
บุญทิวาค่อนข้างกังวล แต่ก็บอกตัวเอง ตอนนี้เขาเป็นอิสระแล้ว เขาต้องปรับตัวกับสังคมตอนนี้และมนุษยสัมพันธ์
เมื่อนึกถึงตรงนี้ บุญทิวาเตรียมตัวพร้อมแล้ว จากนั้นก็เอ่ยขึ้น “เข้ามาได้”
ใจของเขาสับสน และไม่สงบ วินาทีที่เห็นนรมนกับบุริศร์ ไม่รู้เพราะพวกเขาเป็นคนที่พาเขาออกมาหรือเปล่า ความรู้สึกสับสนและไม่สงบทั้งหมดของบุญทิวาก็พลันหายไป
“พวกเธอเองหรือ อรุณสวัสดิ์”
บุญทิวาทักทายก่อน
นรมนตกตะลึง
เมื่อคืนวานตอนที่เห็นบุญทิวา เขาดูอ่อนล้าและไม่กล้าสู้หน้า ถึงกับดูหน้าตาเขาไม่ออก แต่ตอนนี้บุญทิวาถูกนงลักษณ์ตัดผมเผ้าจนสะอาดสะอ้าน ถึงกับเหมือนกับพ่อของเธอในรูปถ่ายอย่างกับคนเดียวกัน
สีหน้าของเขาที่ไม่พบแสงตะวันมานานขาวซีด ถึงกับดูซูบผอม ผมก็ขาวโพลน รู้สึกสะดุดตา
นรมนพลันรู้สึกสะอึก
“คุณอาบุญทิวาผมของอา…”
แม้ว่านงลักษณ์ตัดผมของเขาสั้นแล้ว แต่สีผมก็ยังคงสะดุดตามาก
บุญทิวากลับพูดไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไร คนยังไม่ตาย เรื่องอื่นไม่ใช่ปัญหาหรอก”
เขาพูดอย่างเปิดใจ แต่กลับยิ่งรู้สึกเศร้าใจเหลือเกิน
นรมนวิ่งเข้าไป กอดบุญทิวาแน่ ร้องไห้เรียกเขา “คุณอาบุญทิวา คุณอาบุญทิวา!”
เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไร และพูดอะไรได้บ้าง
ยี่สิบกว่าปีก่อนเธอยังไม่เกิด ไม่รู้เรื่องที่บุญทิวาเผชิญชัดเจนนัก ถ้าจะแสดงความเห็นอกเห็นใจก็ดูเสแสร้งไปหน่อย ไม่ค่อยเหมาะนัก แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเธอคือคุณอาบุญทิวาของเธอนะ เป็นผู้ชายที่หน้าเหมือนพ่อของเธออย่างกับแกะ
นรมนไม่เคยเห็นพ่อของตัวเอง ตอนนี้เห็นบุญทิวารู้สึกผูกพันมาก
ที่จริงตระกูลทวีทรัพย์ธาดาพี่น้องสี่คนหน้าตาเหมือนกันมาก แต่ชินทรกับบุญทิวาหล่อกว่าหน่อย และพวกเขาก็สุขุมภูมิฐาน ไม่เหมือนธรรศกับธรณี พวกเขาค่อนข้างเป็นผู้ชายมากกว่า อาจเป็นเพราะพวกเขามีประสบการณ์ในกองทัพ
ความรู้สึกของนรมนกับบุญทิวาพิเศษมาก ด้วยความปรารถนาและรอคอยพ่อ ตอนนี้เธอจึงตื่นเต้นจนสุดจะพรรณนา
ในใจบุญทิวาก็ตื่นเต้น
ลูกสาวของพี่ชายโตขนาดนี้แล้ว แต่ชีวิตนี้เขาไม่มีความหวังอะไรแล้ว
บุญทิวาตบไหล่นรมน พูดเสียงเบา “เธอทำอย่างนี้พี่ชายของอาน้อยใจแย่”
นรมนชะงักนิดหนึ่ง พูดสะอื้น “หนูไม่เคยเจอหน้าพ่อค่ะ”
เธอเล่าเรื่องที่ตัวเองต้องเผชิญให้บุญทิวาฟังสั้นๆ
ฟังชีวิตระหกระเหินของนรมนแล้ว บุญทิวาก็รู้สึกสงสารเธอจับใจ
“หนูต้องลำบากแล้ว ชื่อนรมนใช่มั้ย ทำไมไม่ใช้นามสกุลทวีทรัพย์ธาดาล่ะ”
นรมนไม่รู้ควรจะอธิบายอย่างไรดี
บุริศร์พูดเสียงเบา “คุณอาบุญทิวา พวกเราเรียกชินแล้วครับ”
“ก็ดี พวกเธอชอบใจก็พอแล้ว”
อารมณ์ของบุญทิวาซับซ้อนมาก หลายปีมานี้ เขาคิดไม่ถึงพี่ชายกับแม่ของตัวเองจะตายไปแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
เขาถอนหายใจ ก็ได้ยินนรมนถามขึ้น “คุณอาบุญทิวา คนที่ขังอาในคุกใต้ดินคือพระราชาของประเทศFใช่มั้ยคะ”
“เรื่องนี้หนูไม่ต้องเข้ามายุ่ง เดี๋ยวอาจะบอกคุณอาธรรศกับคุณอาธรณีของหนุเอง”
บุญทิวาอยากจะปกป้องนรมน แต่นรมนกลับไม่เห็นด้วย
“คุณอาบุญทิวา บางเรื่องไม่ใช่ว่าหนูอยากจะยุ่ง แต่คนอื่นไม่อยากให้หนูมีชีวิตค่ะ”
นรมนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัวเธอให้เขาฟังอีกรอบ
บุญทิวาได้รู้ว่าพระราชาเล่นงานและบีบบังคับคนในครอบครัวของเขาอย่างไร ก็รู้สึกโกรธแค้นเดือดดาล
“คนคนนั้นอาจะต้องฆ่ามันไม่เร็วก็ช้า”
นี่คือประโยคที่โหดเหี้ยมที่สุดนับแต่บุญทิวาออกมา ถึงกับกลิ่นอายเย็นเยือกออกมาทั่วตัว ราวกับผีร้ายที่ออกมาจากนรก
นรมนไม่รู้บุญทิวาต้องทนอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้เธอมีความคิดเหมือนกับบุญทิวา
บุริศร์เห็นสองอาหลานมีเรื่องที่จะคุยกันมากมาย ก็ถอยออกไป ปล่อยให้ทั้งสองคนได้คุยกัน
บุญทิวาไม่ใช่เด็กๆ ย่อมเห็นความรักทะนุถนอมนรมนในแววตาของบุริศร์ พวกเขาตระกูลทวีทรัพย์ธาดาใส่ใจความรู้สึกคนอื่น ดูแล้วนรมนน่าจะผูกพันกับบุริศร์ลึกซึ้ง
“นรมน เด็กนั่นเป็นยังไงบ้าง หน้าของหนูเสียหายอย่างนี้แล้วไม่เคยโกรธเขาบ้างหรือ”
คำถามของบุญทิวาทำให้นรมนชะงักนิดหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้า “คุณอาบุญทิวา บุริศร์ดีกับหนูมาก เมื่อก่อนเขาไม่รู้วิธีสื่อสารกับหนู ตัวเองคิดว่าทำเพื่อหนูแต่หนูไม่เข้าใจ เรื่องเสียโฉมจะตำหนิเขาก็ไม่ได้ค่ะ”
ได้ยินนรมนแก้ตัวให้บุริศร์ บุญทิวาก็รู้ว่าหลานสาวคนนี้ยอมรับบุริศร์แล้ว
“พี่ชายกับพี่สะใภ้ของอาตอนหลังตายได้ยังไง”
บุญทิวาถูกขังนานขนาดนี้ ไม่รู้ข่าวคราวโลกภายนอกเลย ตอนนี้รอไม่ไหวที่จะอยากรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา
นรมนเล่าให้บุญทิวาฟังชัดเจนไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่
สายตาของบุญทิวาเคร่งขรึม
“เชษฐ์ตายแล้วหรือ”
“ค่ะ”
“เชษฐ์คือพ่อแท้ๆ ของเด็กนั่นหรือ”
สายตาของบุญทิวาคมกริบขึ้นมาทันที
นรมนใจเต้นตึกตัก พยักหน้ารับ “ค่ะ”
“หลานแต่งงานกับลูกของศัตรูที่ฆ่าพ่อตัวเองงั้นหรือ”
ตอนที่นรมนได้ยินบุญทิวาถามอย่างนี้ ความไม่สบายใจลึกๆ ยิ่งมากขึ้น แต่ยังคงพูดหนักแน่น “ คุณอาบุญทิวา เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบุริศร์ ที่จริงเขาก็เป็นผู้เสียหายค่ะ”
บุญทิวาไม่ได้พูดอะไร และไม่โต้แย้ง แต่ยิ่งเขาเงียบไป นรมนก็ยิ่งไม่สบายใจ
“คุณอาบุญทิวา เชื่อหนูนะคะ บุริศร์ไม่เหมือนกับเชษฐ์ อีกอย่างเขาก็ดีกับหนูมาก”
“คุณอาธรรศกับคุณอาธรณีของหนูก็ตรวจสอบเขาแล้วหรือ”
บุญทิวาขมวดคิ้ว
นรมนรีบพยักหน้า
“ตรวจสอบแล้วค่ะ คุณตาก็ยอมรับเขา อีกอย่างบุริศร์ก็เป็นทหารด้วยค่ะ”
นรมนเดิมทีไม่คิดจะเล่าเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เห็นท่าทางของบุญทิวา เธอไม่รู้จริงๆ บุญทิวาคิดอะไร จึงรู้สึกร้อนใจ
บุญทิวาเหมือนกับพ่อของเธอ เธอไม่อยากให้การแต่งงานของตัวเองกับบุริศร์ไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อและคุณอาบุญทิวา
บุญทิวาได้ยินว่าน้องชายสองคนยอมรับนิสัยของบุริศร์ก็ค่อยพยักหน้า “ต่อไปอาจะค่อยๆ ทดสอบเขาให้หนักหน่อย”
นรมนทำหน้าไม่ถูก ถ้าหากบุริศร์รู้ว่าการที่เขาออกไปทำให้บุญทิวาคาดเดาตัวเองอย่างนี้ ไม่รู้ว่าในใจบุริศร์จะรู้สึกอย่างไร
“คุณอาบุญทิวาอย่าทดสอบเขาหนักมากนะคะ”
นรมนอดไม่ได้ที่จะเขย่าแขนบุญทิวา ท่าทางอ้อนทำให้บุญทิวาอึ้งไป
ความรู้สึกนี้แปลกประหลาดมาก เขารู้ว่าตัวเองชาตินี้ไม่มีทางมีลูกหลาน ตอนนี้มีคนที่อ้อนตัวเองเหมือนเด็กๆ ความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อนับจากอายุเขาตอนนี้ ถ้าหากแต่งงานกับนงลักษณ์แต่แรก ลูกก็คงอายุเท่าๆ นี้ใช่มั้ย
บุญทิวาความคิดฟุ้งซ่าน รู้สึกสงสารนรมนมากขึ้น
พี่ชายกับพี่สะใภ้ไม่อยู่แล้ว นรมนเป็นลูกหลานรุ่นต่อไปเพียงคนเดียว เขาตัดสินใจจะรักนรมนเหมือนลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง
“ก็ได้ ไม่ทำให้เขาลำบากมากหรอก”
บุญทิวาพูดออกมาในที่สุด มุมปากขยับนิดหนึ่ง
นรมนยิ้มดีใจสดใสมาก
“คุณอาบุญทิวาใจดีที่สุด ต่อไปหนูมีคุณอาบุญทิวารักหนูแล้ว มีความสุขจัง”
“เด็กโง่”
บุญทิวาเริ่มปรับตัวกับบทบาทของตัวเองในตอนนี้ ถึงกับรู้สึกมีความสุข
นรมนไม่รู้ในใจบุญทิวาคิดอย่างไร เธอมองบุญทิวาทั้งสงสัยและอยากรู้ กระซิบถาม “คุณอาบุญทิวา อากับป้าของหนูเรื่องเป็นยังไงกันแน่คะ เมื่อคืนนี้พวกอาสองคน…”
“เปล่า อากับนงลักษณ์ชาตินี้เป็นไปไม่ได้แล้ว”
บุญทิวาเพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงเพล้งข้างนอก เหมือนเสียงชามกระเบื้องตกแตก
นรมนใจเต้นโครมคราม ก็เห็นนงลักษณ์ผลักประตูเข้ามา ใบหน้าซีดเผือดสายตาปิดบัง แต่ก็แฝงด้วยความเจ็บปวดมองบุญทิวา
ทันใดนั้น นรมนก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนผิด ทำร้ายนงลักษณ์ทางอ้อม