แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1361 ระวังเล่นกับไฟ ไฟจะไหม้ตนเองเอา
นรมนสัมผัสได้ถึงแววตาเชือดเฉือนของหงส์สาดส่องมายังร่างกายของตนเอง แต่เธอไม่แยแส ตั้งแต่เริ่มหงส์ก็ไม่คิดจะผูกมิตรกับเธออยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอปฏิบัติกับผู้ชายของตนเองอย่างสมเหตุสมผลและถูกต้องตามกฎหมายมิใช่หรือ? ทำไมต้องดูสีหน้าเขาด้วย?
คิดได้เช่นนี้ นรมนบิดขี้เกียจ ยิ้มหวานพูดกับบุริศร์ “ฉันหิว”
“หงส์ทำอาหารเสร็จแล้ว พอดีเลยไปล้างหน้าแล้วมากินข้าว”
บุริศร์ลูบศีรษะของนรมน เอาอกเอาใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“ค่ะ”
นรมนลุกขึ้นให้สาวใช้พยุงออกไป
หงส์กัดริมฝีปากจนแตก สองมือกำแน่น เธอมองบุริศร์ด้วยท่าทางเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแล้วก็หยุดไปทำให้เขาไม่สบายใจมาก
“มีอะไร พูดมา”
หงส์กัดริมฝีปากล่าง กล่าวเสียงเบา “เฮียบุริศร์ เฮียตามใจเธอมากเกินไปหรือเปล่า ผู้หญิงไม่ควรถูกตามใจ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่รู้ผิดชอบชั่วดี”
นัยน์ตาของบุริศร์เคร่งขรึมขึ้นหลายเท่าโดยพลัน
“ผู้หญิงของฉันก็ควรถูกตามใจ ต่อจากนี้เธออย่าได้พูดเรื่องนี้อีก”
การเข้าข้างของบุริศร์ทำให้หงส์อึดอัดมาก แต่มองใบหน้าเย็นชาของบุริศร์ หงส์จึงไม่พูดอะไรอย่างชาญฉลาด
เมื่อนรมนกลับมาก็สังเกตได้อย่างว่องไวว่าบรรยากาศระหว่างหงส์กับบุริศร์ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อกัน แต่กลับทำเป็นเอ่ยถามเหมือนไม่รู้อะไร “ที่นี่หนาวจังเลย กินข้าวได้หรือยัง?”
“เสิร์ฟอาหาร”
หงส์พยายามไม่สนใจเสียงของนรมนมากเท่าที่จะทำได้ มากเสียจนอยากจะเพิกเฉยต่อคนนี้ไปเสียเลย อย่างไรเสียความรู้สึกที่มีนรมนอยู่ด้วยรุนแรงเกินไป
“คุณสามี ฉันอยากกินกุ้ง”
นรมนยิ้มกริ่มพูด น้ำเสียงมีการออดอ้อนและจงใจเล็กน้อย
บุริศร์ยิ้มอย่างเอาอกเอาใจ ให้ความร่วมมือแต่โดยดี
หลังจากที่เขาแกะเปลือกกุ้งออก ก็นำเนื้อกุ้งวางลงในชามนรมน ตนเองกลับไม่กินสักชิ้น
หงส์มองอยู่ด้านข้าง คิดจะพูดอะไรหลายต่อหลายครั้ง แต่อดกลั้นไว้ เอาแต่จ้องมองนรมนด้วยสายตาประณามอย่างไม่เห็นด้วย หวังว่านรมนจะรู้สำนึก ไม่กดขี่บุริศร์เช่นนี้ น่าเสียดายที่นรมนเหมือนตาบอด ไม่เห็นสายตาเธอโดยสิ้นเชิง
“อือ คุณสามี ไม่คิดว่าจะมีปูด้วย ฉันก็อยากกิน”
“ได้”
บุริศร์แกะปูให้นรมนอีกครั้งและวางลงในชามของเธอ
นรมนกินอย่างเรียกได้ว่าสบายใจ
เห็นท่าทางหน้าชื่นอกตรมของหงส์ เธอรู้สึกว่าความโกรธที่อัดแน่นอยู่ในใจยังพอระบายออกมาบ้าง
ชัญญา นั่งกินเงียบๆ อยู่ด้านข้างตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงแค่ส่ายหน้า ไม่พูดอะไรออกมา
อาหารมื้อนี้มีเพียงนรมนที่กินอย่างเต็มที่ บุริศร์กินเล็กน้อย หงส์โกรธจนอิ่ม ส่วนชัญญาเพราะไม่ค่อยหิว อย่างไรเสียทั้งโต๊ะอาหารนรมนเหมาหมดคนเดียว
“อิ่มจังเลย”
นรมนเรอ ท่าทางไม่สนใจภาพลักษณ์ทำให้หงส์ทนไม่ไหว
ไม่ว่าจะพูดอย่างไรบุริศร์ก็คือหนึ่งในสี่คุณชายแห่งเมืองชลธี คาดไม่ถึงว่าในฐานะคุณนายบุริศร์นรมนจะไม่สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดเดียว ไม่ไว้หน้าบุริศร์เอาเสียเลย ผู้หญิงแบบนี้นอกจากปีนขึ้นเตียงแล้วยังทำอะไรได้อีก?
หงส์เพียงส่งเสียงเย็นชา แต่นรมนกลับยังรู้สึกว่ายั่วโมโหไม่มากพอ เอ่ยถามหงส์ด้วยท่าทางไม่รู้เรื่องรู้ราว “เอ๋? น้องหงส์ ทำไมเธอไม่กินล่ะ? หรือคิดว่าอาหารที่ตัวเองทำไม่อร่อย? งั้นวันหลังฉันจะทำให้เธอกิน ให้เธอลองชิมฝีมือฉันดูบ้าง?
“ต่อให้คุณจะทำอาหารก็เถอะ อย่าทำครัวไหม้แล้วกัน วันหลังผมต้องเข้าครัวเป็นเพื่อน”
บุริศร์พูดต่อทันทีที่นรมนพูดจบลง ทำเอานรมนหดหู่ทันที
เธอทำอาหารได้แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
ปกติเห็นบุริศร์ก็กินอย่างเอร็ดอร่อย ตอนนี้บุริศร์พูดแบบนี้ ยิ่งจะไม่ทำให้หงส์รู้สึกว่าเธอไม่มีอะไรดีสักอย่างหรือไง?
เห็นไปตามคาด สายตาหงส์มีความเหยียดหยามขึ้นมาแวบหนึ่ง
“ผู้หญิงต้องทำอาหารเป็น โบราณกล่าวไว้ว่าวิธีจับผู้ชายที่ดีที่สุดคือจับกระเพาะของเขา คุณให้เฮียบุริศร์ทำให้ทุกอย่างแบบนี้ได้ที่ไหนกัน? อย่างไรเสียใบหน้าก็แก่ง่าย หลายปีต่อจากนี้ก็ไม่แน่ว่าจะสวยงามแบบนี้เสมอไป”
ในคำพูดของหงส์มีการดูถูก
ราวกับนรมนฟังคำพูดของเธอไม่ออก รีบมองไปทางบุริศร์ และเอ่ยถามอย่างกังวล “คุณสามี ฉันแก่แล้วเหรอ? คุณรังเกียจที่ฉันไม่สวยหรือเปล่า?”
“ไม่เลย ในสายตาผมคุณสวยที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นผมจับกระเพาะคุณได้ก็พอ คุณจะได้ไม่ต้องถูกคนอื่นแย่งไป”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกมั่นคงอย่างยิ่ง แต่สีหน้าของหงส์กลับดูไม่ได้
บุริศร์เคยพูดคำหวานแบบนี้เมื่อไหร่กัน? และความหมายในคำพูดของเขาคาดไม่ถึงว่าจะกลัวนรมนถูกชายอื่นแย่งไป?
ผู้หญิงที่ปีนขึ้นเตียง แท้จริงมีอะไรคู่ควรให้เฮียบุริศร์ปฏิบัติเช่นนี้?
หงส์กัดฟันจนแทบแหลกละเอียด
นรมนไม่สนใจเธอ โมโหตายไปเลยยิ่งดี จะได้ไม่ต้องโหยหาผู้ชายของเธอทุกวัน
บุริศร์ไม่เคยรู้มาก่อนว่าภรรยาตัวน้อยของตนเองจะมีด้านมืดแบบนี้ อดขำไม่ได้ เแต่รสชาติที่ถูกคนหวงแหนค่อนข้างใช้ได้
“คุณสามีฉันอิ่มแล้ว พวกเรากลับห้องไปออกกำลังกายกันดีกว่า”
นรมนพูดออกมาอย่างน่าตกใจ ชัญญาสำลักซุบทันที รีบไอออกมา ส่วนหงส์หน้าดำเหมือนก้นหม้อ
นังผู้หญิงหน้าไม่อาย!
ในที่สาธารณะเธอยังกล้าพูดเรื่องแบบนี้?
บุริศร์เม้มริมฝีปากยิ้ม อยากจะไปออกกำลังกายแบบนั้นในห้องตามที่นรมนร้องขอเสียจริง แต่นึกถึงโสธร เขากระแอมไอและกล่าวว่า “รอก่อน ในเมื่อผมมาที่นี่แล้ว ยังต้องไปดูว่าคนของผมพาโสธรไปไว้ที่ไหน หงส์ ฉันได้ยินว่าโสธรอยู่กับเธอที่นี่?”
“ใช่ค่ะ เฮียบุริศร์ ฉันจะพาเฮียไป”
หงส์ยังพอถอนหายใจโล่งอก
เฮียบุริศร์ยังคงเป็นเฮียบุริศร์ ไม่หลงนังจิ้งจอกนรมนนั้น
คิดแบบนี้ หงส์สบายใจขึ้นมามาก
เดิมทีนรมนยังคิดทำให้หงส์อึดอัดใจอีก แต่สัมผัสได้ว่าบุริศร์ใช้แรงบีบมือตนเอง จึงอดนึกถึงสถานการณ์ของโสธรไม่ได้ ในที่สุดเธอจึงปล่อยไป
“ถ้าพี่สะใภ้ง่วงก็กลับไปนอนได้เลย ฉันจะไปเป็นเพื่อนเฮียบุริศร์เอง”
หงส์เห็นนรมนรกหูรกตามานานแล้ว ในที่สุดตอนนี้ก็มีข้ออ้างและเหตุผลที่สามารถไล่นรมนออกไป แน่นอนหงส์จึงเอ่ยขึ้นมา แม้จะให้เธอต้องเรียกนรมนว่าพี่สะใภ้ก็ไม่มีปัญหา
นรมนกลับกอดแขนบุริศร์เอาไว้ พูดจาอ่อนหวาน “ไม่เอา ฉันจะไปด้วย คุณสามี ฉันอยู่ที่นี่ไม่รู้จักใคร ชอบตื่นตระหนก คุณพาฉันไปด้วยนะ”
เธอแสดงบทบาทของคนที่นำหายนะมาสู่ผู้คนได้อย่างครบถ้วน
บุริศร์กลัวว่าตนเองจะยืนหยัดต่อการโจมตีของนรมนไม่ไหวจริงๆ แต่ก่อนไม่เคยรู้ว่าภรรยาตัวน้อยของตนเองจะโหดเหี้ยมเช่นนี้ จำได้ว่าเธอเขินอาย แต่วันนี้เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูหัวใจคาดไม่ถึงว่าจะใจนักเลงเช่นนี้ บุริศร์พบว่าตนเองค่อนข้างชอบ
“แค่กๆ ไปสิ ผมก็ไม่ได้พูดว่าจะไม่พาคุณไป”
แขนของบุริศร์ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่า ถูโดนเนินอกของนรมน
นรมนรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าไหลผ่านทันที ชะงักงัน ใบหน้าแดงขึ้นเฉียบพลัน
ไอ้ลามก!
เธอก่นด่าในใจ ใบหน้ากลับแสดงรอยยิ้มรุ่มร่าม เอ่ยออกมาอย่างเคลิบเคลิ้ม
“คนบ้า”
น้ำเสียงแผ่วเบาทำเอาบุริศร์ยืนแทบไม่ไหว ส่วนหงส์เส้นเลือดดำบูดออกมา
เธอสาบาน ถ้านรมนยังไม่รู้จักยางอายแบบนี้ คืนนี้เธอจะไม่สนใจส่งคนมาทำร้ายหล่อนสักรอบ ทางที่ดีจะตีให้ขาพิการ ดูว่าหล่อนยังจะพูด ยังจะเป็นคนแบบนี้อยู่ไหม
สัมผัสได้ถึงขอบเขตที่ยังเหลืออยู่ของหงส์ใกล้จะเสียการควบคุม นรมนยังคงปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดรีบเบรกทันที
บุริศร์จิตใจเตลิดเปิดเปิง แววตาแฝงไว้ด้วยพายุโหมกระหน่ำ แต่ตอนนี้ทำได้เพียงควบคุมไว้
ยัยปีศาจตัวน้อยน่าระอา
“งั้นไปเถอะ”
หงส์ไม่สนใจนรมน เดินผ่านด้านข้างพวกเขาไป นำหน้าไปก่อน
นรมนเห็นเธอเดินไป กำลังจะปล่อยมือ กลับถูกบุริศร์จับมือเอาไว้แน่น
“มายั่วแล้วก็หนีไป ตอนนี้คุณนายบุริศร์อยู่ในระดับสูงแล้วเหรอ?”
เสียงของบุริศร์มีความแหบพร่า ลมพายุในแววตายิ่งทำให้นรมนอยากร้องไห้
“คือว่าคุณสามี พวกเราต้องรีบไปดูโสธร”
ชัญญาเห็นใบหน้าทั้งสองของนรมนทั้งตอนอยู่ต่อหน้าหงส์กับตอนอยู่ต่อหน้าบุริศร์ จึงอดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้
“แม่สาวคนนี้ ระวังเล่นกับไฟ ไฟจะไหม้ตนเองเอานะ”
พูดจบชัญญาก็กลับเข้าห้องทันที
โสธรเป็นใครเธอกลับไม่ใส่ใจ ตอนนี้ที่ผ่านมาก็แค่มองนรมนกับบุริศร์โปรยอาหารสุนัข เธออิ่มแล้ว ไม่อยากกินอาหารสุนัขแล้ว
นรมนถึงจะมีปฏิกิริยาตอบกลับ ในขณะที่เอือมระอาความน่ารังเกียจของหงส์ คิดไม่ถึงว่าเธอจะลืมไปว่าชัญญาก็อยู่ด้วย
เสียแผนหมดเลย
“ทั้งหมดเป็นความผิดของคุณ!”
นรมนหยิกบุริศร์
บุริศร์ยังคงเพ้อฝันว่าเมื่อกลับมาจะได้สวัสดิการอะไรหรือเปล่า ก็ถูกหยิกเข้าอย่างจัง อยากร้องไห้อย่างอดไม่ได้
“ผมทำอะไรอีก?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเป็นหนี้เสน่หา ฉันจะถูกคุณน้าชัญญาหัวเราะเยาะไหม?”
ตอนนี้นรมนเป็นบุคคลที่มีความขัดแย้ง รู้ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวข้องกับบุริศร์ แต่ก็โกรธอย่างไม่มีสาเหตุ
นี่คือนกยูงที่ดึงดูดความสนใจของผู้อื่น
บุริศร์รู้สึกว่าตนเองลำบากเหลือเกิน
“ใช่ ผมผิดเอง คุณภรรยาอย่าโกรธเลย เอาตามที่คุณพูดแหละตกลงไหม?”
“เชอะ!”
นรมนแกล้งทำเป็นส่งเสียงเย็นชา รีบตรงไปทางที่หงส์เดินไป
แม้หงส์จะเดินเร็ว แต่ก็สังเกตสถานการณ์ด้านหลัง เห็นบุริศร์กับนรมนชักช้าไม่ตามมา ก็นึกถึงท่าทางหยาดเยิ้มของนรมนเมื่อสักครู่นี้ อดคิดอย่างไม่ชอบทำไม่ได้
“สารเลว! ผู้หญิงแบบนี้คู่ควรกับเฮียบุริศร์ได้ยังไง? ฉันจะไม่ยอมให้เธอทำลายชื่อเสียงของเฮียบุริศร์ ไม่มีทาง!”
หงส์พึมพำกับตนเอง ในแววตามีความโกรธแค้น
ธีรตาเห็นหงส์เป็นเช่นนี้ จึงก้าวขึ้นไปอย่างห้ามไม่ได้ กระซิบว่า “องค์หญิง ท่านอย่าโมโหไปเลย อันที่จริงเรื่องนี้มีทางออก หม่อมชั้นเห็นแววตาของคุณนายบุริศร์นั้นมีแต่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ หน้าตาสวยยั่วยวน แค่มองก็รู้ว่าเป็นคนจิตใจไม่มั่นคง พรุ่งนี้ในพระราชวังจะจัดงานเลี้ยง ว่ากันว่าพระราชาจัดงานเพื่อ นายน้อยจณัตว์ของตระกูลแหลมวิไลโดยเฉพาะ ครั้งนี้พระราชาเป็นคนสั่งการด้วยตนเอง สั่งให้จณัตว์ต้องมาที่งาน โลกภายนอกร่ำลือกันว่าจณัตว์ หน้าตาอัปลักษณ์ยิ่ง ถึงตอนนั้นพวกเราออกอุบายเสียหน่อยให้คุณนายบุริศร์กับจณัตว์อยู่ด้วยกัน รุกรานจณัตว์เศรษฐีใหม่ เกรงว่านรมนคนนี้จะไม่อาจรักษาความซื่อสัตย์ของตนเองได้ เฮียบุริศร์ไม่สะดวกออกมา ถึงตอนนั้นพวกเราพูดยังไงก็เป็นไปตามนั้นไม่ใช่หรือ?”
ได้ยินธีรตาพูดเช่นนี้ นัยน์ตาของหงส์ชะงักไปทันที เวลาผ่านไปไม่กี่วินาทีแต่ในใจเกิดความคิดนับร้อยพันหมุนวน จากนั้นแววตาของหงส์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย