แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1395 ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไป
นรมนเองก็สังเกตได้เหมือนกัน จึงรีบจับมือของบุริศร์เอาไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันรู้สึกว่าบรรยากาศเคร่งเครียดแปลกๆ?”
“ดูไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
บุริศร์เก็บท่าทางสีหน้าได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเนกษ์เดินเข้ามาจากฝั่งตรงข้าม
ในตอนที่เห็นบุริศร์กับนรมน เนกษ์ก็หยุดนิ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “เกิดเรื่องแล้ว มีคนเจอศพของกล้าณรงค์ ตอนนี้สมชัยกำลังบุกค้นหาทีละบ้าน เมื่อสักครู่ เจ้าบ้านเพิ่งถูกเชิญเข้าไปในวัง อ้างว่าเพื่อคุยกันถึงเรื่องเก่าๆกับพระราชา แต่ว่าดูทรงแล้วกลัวว่าจะเป็นการกักขังบริเวณ ว่าแต่ตอนนี้คุณชายของเราอยู่ที่ไหน?”
เมื่อฟังจบใจของนรมนก็กระตุกวูบ ในที่สุดพวกเขาก็สร้างความเดือดร้อนให้ตระกูลแหลมวิไลแล้วใช่ไหม? หรือว่าสมชัยจะรู้แล้วว่าพวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ดังนั้นเลยใช้เจ้าบ้านเป็นเครื่องมือขู่จวัตณ์?
สีหน้าของบุริศร์เองก็ไม่ดีเท่าไหร่นัก
ที่ศพของกล้าณรงค์ถูกเจอเป็นแผนของพวกเขา ที่สมชัยออกตรวจค้นก็อยู่ในแผนด้วยเหมือนกัน
แต่การบุกค้นทีละบ้านเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายเล็กน้อย อีกอย่างยังพาตัวเจ้าบ้านไปด้วย เรื่องนี้ดูยังไงมันก็แปลกๆชอบกล
“พี่ชายของฉันกำลังพักผ่อนอยู่ เมื่อคืนเขาผ่าตัดทั้งคืนเลย”
นรมนสงสารจวัตณ์ ได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ตอนนี้กลับเกิดเรื่องขึ้นซะงั้น กลัวก็แต่ว่าจะเกี่ยวกับพวกเขาน่ะสิ
เนกษ์เองก็สงสาร แต่ว่าตอนนี้ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว
“ต้องบอกเรื่องนี้กับคุณชาย ไม่อย่างนั้นผมจะไม่สามารถวางแผนการเคลื่อนไหวในขั้นต่อไปได้”
“ฉันไปด้วย”
นรมนพูดจบก็เดินตามเนกษ์เพื่อไปหาจวัตณ์ แน่นอนว่าบุริศร์ก็ตามมาด้วย
ในตอนที่คนกลุ่มหนึ่งมาถึงหน้าประตูห้องของจวัตณ์ ก็เจอเข้ากับหงส์ที่กำลังนั่งจิบชาอยู่บนโต๊ะนอกห้อง เมื่อเธอเห็นพวกเขามาพร้อมกันก็นิ่งไป
“มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
หงส์ความรู้สึกไว ถ้ามีแค่เนกษ์มาคนเดียวก็คงจะไม่เป็นอะไรหรอก แต่นี่นรมนกับบุริศร์ก็มาด้วย แถมยังมีท่าทางจริงจังอีกด้วย เธอจึงอดขมวดคิ้วไม่ได้
“เกิดเรื่องแล้ว พี่ชายฉันยังพักอยู่ไหม? ปลุกเขาขึ้นมาได้หรือเปล่า?”
นรมนพูดกับหงส์
หงส์ฮึดฮัด
“ปลุกก็ปลุกสิ มาบอกฉันทำไมล่ะ?”
หงส์พูดจบก็หลีกทางให้
นรมนกับบุริศร์ไม่ได้พูดอะไร ไม่มีเวลามาพูดเรื่องอื่นในสถานการณ์อย่างนี้หรอก พวกเขาจึงเดินเข้าไปข้างใน
จวัตณ์เพิ่งนอนหลับได้ไม่นาน และในขณะนี้กำลังนอนหลับสนิท เมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยล้าของเขา นรมนก็ไม่สามารถใจแข็งปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาได้
เนกษ์ถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “หลายปีมานี้คุณชายไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มเลยสักครั้ง ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันครับ”
หงส์เองก็เดินตามเข้ามา และแน่นอนว่าได้ยินคำพูดนี้ จึงอดขมวดคิ้วมองไปทางจวัตณ์ไม่ได้ เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่กล้าและใจแข็งไม่พอที่จะปลุกอีกฝ่าย เธอจึงเดินเข้าไปหาจวัตณ์อย่างกะทันหัน
“นี่ ตื่นได้แล้ว”
เธอใช้เท้าเหยียบลงบนเตียงแล้วเขย่า
หัวคิ้วของจวัตณ์ขมวดมุ่น แต่กระนั้นก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา แต่ดูจากท่าทางแล้วน่าจะกำลังไม่พอใจ
ยิ่งเขาเป็นแบบนี้หงส์ก็ยิ่งได้ใจ
กล้ามาทำให้เธอรู้สึกไม่ดี เธอก็ต้องหาทางทำให้จวัตณ์รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน
คิดมาถึงตรงนี้ หงส์ก็ลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผ่านไปไม่นานก็ถือกะละมังใส่น้ำเย็นๆออกมาสาดใส่จวัตณ์
“นี่คุณ…..”
เนกษ์กำลังจะเข้าไปห้ามแต่ไม่ทัน ส่วนนรมนก็ยืนอึ้งไปแล้ว ด้านบุริศร์กลับเม้มปากกลั้นขำ
ทุกคนต่างก็คิดว่าหงส์เป็นคนเฉยชาและถือตน พวกเขาเคยเห็นหงส์มีท่าทางแบบนี้ซะที่ไหน
ตอนที่เป็นวัยรุ่น หงส์เปรียบเสมือนปีศาจน้อยดีๆนี่เอง ปัจจุบันด้วยอายุและฐานะที่เพิ่มขึ้นทำให้เธอต้องเก็บความซนที่เคยมีในอดีตเอาไว้ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าตัวเธอไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อย
จวัตณ์สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะน้ำเย็นๆ
“ใคร?”
เขาลูบหน้า เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นดวงตาสามคู่มองมาที่เขาอย่างเป็นห่วง และดวงตาอีกคู่ที่มองมาด้วยความสะใจ
เขาหันไปมองกะละมังในมือของหงส์ จึงรู้ในทันทีว่าผู้ก่อเหตุคือใคร หลังจากที่เห็นแววทะเล้นของหงส์สายตาที่เต็มไปด้วยไฟโกรธของเขาก็พลันหายไปทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”
เขาเอ่ยถามราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้นรมนอดรู้สึกทึ่งไม่ได้
เอาใจเกินไปหรือเปล่า?
รู้ทั้งรู้ว่าหงส์เป็นคนสาดน้ำใส่แต่กลับข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ได้ นี่ถ้าบอกว่าจวัตณ์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับหงส์ ให้ตายยังไงนรมนก็ไม่เชื่อ
แต่หงส์กลับรู้สึกขัดใจ
เธออุตส่าห์รอให้จวัตณ์ระเบิดใส่ตัวเอง เพื่อให้บุริศร์ได้เห็นความตอแหลของหมอนี้ เขาจะได้ช่วยเธอออกไป แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจวัตณ์จะไม่โกรธเลยสักนิด
ให้ตาย!
ทำไมเขาไม่โกรธ?
ทั้งๆที่เธอเห็นความอาฆาตในแววตาของเขาเมื่อกี้แล้วแท้ๆ
เป็นพวกร้ายเงียบอย่างที่คิดไว้จริงๆสินะ!
การกระทำของหงส์เหมือนชกหมัดลงปุยนุ่น อีกฝ่ายไม่รู้สึกสะเทือนเลยสักนิด ซ้ำยังทำให้ตัวเองอึดอัดแทบตายอีก
เมื่อเนกษ์เห็นว่าจวัตณ์ไม่ระเบิดอารมณ์ก็ค่อนข้างประหลาดใจ ทันใดนั้นก็รับรู้ได้ถึงความสำคัญของหงส์ในใจของจวัตณ์ แต่เมื่อสบตากับนัยน์ตาคมปลาบของจวัตณ์ เขาก็ต้องรีบพูดออกมาว่า “เจ้าบ้านถูกพระราชาเชิญตัวไปที่วัง แจ้งว่าวันนี้อาจจะไม่กลับมา แล้วก็ พระราชาได้ส่งคนตามบุกค้นทีละบ้านเพื่อตามหาพวกคุณชายบุริศร์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านผู้ดีหรือยาจกก็ไม่ได้รับการยกเว้น”
สีหน้าของจวัตณ์อึมครึมในทันที
แม้ว่าเจ้าบ้านจะไม่ใช่พ่อแท้ๆของเขา แต่หลายปีที่ผ่านมาก็ได้เลี้ยงดูและสั่งสอนเขามาตลอด อีกฝ่ายคือพ่อเลี้ยงของเขา แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกฝ่ายง่ายๆ สมชัยคิดจะจับตัวพ่อเขาไปขังงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!
นอนไม่พอแถมยังโดนสาดน้ำใส่ แค่นี้ไฟโกรธของจวัตณ์ก็แทบจะล้นอกอยู่แล้ว ตอนนี้เขาก็ยิ่งเดือดพล่านเป็นไฟ
เขาเอ่ยพูดด้วยใบหน้าถมึงทึงว่า “พาคุณชายบุริศร์กับน้องสาวของฉันไปที่ห้องใต้ดิน ป้องกันความปลอดภัยให้ทุกคนในตระกูลแหลมวิไลสุดชีวิต คนที่เหลือตามฉันไปที่วัง ฉันอยากเห็นว่าสมชัยจะมีความสามารถขังพ่อฉันไว้ที่นั่นตามที่พูดหรือเปล่า”
พูดจบจวัตณ์ก็เปิดผ้าห่มออก ด้านหงส์ก็เดินเข้ามาหาเขา
“ฉันไปด้วย!”
“คุณจะไปทำไม? อยากช่วยพ่อผมหรืออยากช่วยผม? ไม่สำเหนียกหน่อยเหรอว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะอะไร? อยู่ที่นี่ ดูเผินๆแล้วคุณเป็นจุดอ่อนที่ผมสามารถเอาไว้ใช้ขู่สมชัยได้ แม้ว่าเขาจะตัดหางปล่อยวัดคุณแล้วก็เถอะ ถ้าคุณไปที่วังกับผมตอนนี้ แล้วทำให้ผมไม่มีโอกาสชนะล่ะก็ เฮียบุริศร์ของคุณอาจจะไม่ปลอดภัยก็ได้นะ!”
จวัตณ์พูดอย่างไม่ไว้หน้า จนทำให้นรมนกับบุริศร์รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที ส่วนหงส์เองก็รู้สึกอัดอั้น
“จวัตณ์ คุณกินรังแตนมาหรือไง?”
“ผมกินน้ำลายคุณต่างหาก ควรเป็นคุณไม่ใช่เหรอที่ต้องเดือด?”
จวัตณ์พูดประโยคนี้ออกมาอย่างไม่หลีกเลี่ยง ทำให้หงส์หน้าแดงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพียงแต่ไม่รู้ว่าแดงเพราะโกรธหรือแดงเพราะเขิน
นรมนไม่คาดคิด
นี่ใช่พี่ชายที่เปรียบเสมือนคุณชายของเธอแน่เหรอ?
ทำไมรู้สึกเหมือนเขาถูกผีเข้าสิงเลยล่ะ
ผู้ชายอบอุ่นคนนั้นไปไหนแล้ว?
ปากร้ายขนาดนี้ อย่าว่าแต่หงส์เลย ถ้าเธอไม่ใช่ญาติของจวัตณ์ เธอก็คงไม่ชอบผู้ชายปากแบบนี้เหมือนกัน
นรมนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่บุริศร์กลับจับแขนของเธอเอาไว้แล้วส่ายหัวให้
จวัตณ์ไม่สนว่าหงส์จะคิดยังไง เสื้อผ้าเปียกโชกบนตัวมันทำให้เขารังเกียจราวกับว่าฉี่รดที่นอน
เนกษ์เตรียมเสื้อผ้าไว้ให้เขาอย่างรู้งาน
จวัตณ์อาบน้ำเพียงแป๊บเดียวก็ออกมา นรมนกับบุริศร์รู้สึกอยู่ผิดที่ผิดทาง จึงออกไปรอข้างนอกให้มันจบๆ
หงส์เองก็กำลังจะเดินออกไป แต่กลับถูกจวัตณ์จับฉุดรั้งเอาไว้
“ช่วยผมใส่เสื้อผ้า”
นัยน์ตาของหงส์พลันเบิกโพลง
“คุณบ้าหรือเปล่า? ใส่เสื้อผ้าให้คุณงั้นเหรอ? จวัตณ์ คุณไปเอาความหน้าด้านนี่มาแต่ไหน?”
“แล้วยังไง? คุณคิดว่าคุณยังเป็นองค์หญิงห้าผู้สูงส่งอยู่อีกเหรอ?”
นิ้วมือเรียวยาวของจวัตณ์บีบคางของหงส์เอาไว้ แรงบีบไม่ได้มากพอทำให้เธอเจ็บ แต่ก็ทำให้เธอดิ้นหนีไม่ได้
การกระทำกักขฬะทำให้หงส์รู้สึกถูกหยามเกียรติ
“สารเลว! ไม่ว่าตอนไหนฉันก็คือองค์หญิงห้า!”
“งั้นเหรอ? แล้วตั้งแต่ที่คุณเกิดมาจนถึงตอนนี้ สมชัยได้มอบตำแหน่งองค์หญิงให้คุณหรือยัง? ถ้าเป็นองค์หญิงห้าผู้สูงส่งจริง แล้วทำไมถึงถูกสมชัยยกให้ผู้ช่วยตัวเล็กๆอย่างไม่ไยดีล่ะ? คุณรู้ดีอยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอ?”
“จวัตณ์!”
เมื่อถูกจี้จุด หงส์ก็เดือดดาลขึ้นมาในทันที กำลังจะพุ่งเข้าจู่โจมจวัตณ์ แต่กลับถูกเขาโยนลงบนเตียง จากนั้นก็ตามมาคร่อมทับ
จวัตณ์ในตอนนี้กำลังอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน ความรู้สึกร้อนผ่าวถ่ายทอดไปยังหงส์ผ่านเสื้อผ้าตัวบาง เขาในตอนนี้ดูค่อนข้างอันตราย
จวัตณ์แสยะยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “คิดจะทำอะไรผมงั้นเหรอ ตอนนี้คุณไม่มีสิทธิ์นั้นหรอก อย่าคิดว่าผมจะลืมเรื่องที่คุณสาดน้ำใส่ผมเมื่อกี้นะ รอผมกลับมาผมจะคิดบัญชีกับคุณ แล้วก็ ผมไม่กลัวว่าคุณจะหนีหรอกนะ เพราะถ้าคุณหนี ผมก็จะตัดนิ้วบุริศร์ทิ้ง เพราะถึงยังไงคนที่คุณแคร์ที่สุดก็คือบุริศร์อยู่แล้วนี่ใช่ไหม?”
“คุณมันประสาท!เฮียบุริศร์ไม่ใช่คนที่คุณคิดจะทำอะไรกับเขาก็ได้ คิดจะตัดนิ้วเฮียบุริศร์งั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!”
หงส์ปกป้องบุริศร์โดยอัตโนมัติ ทว่ากลับทำให้นัยน์ตาของจวัตณ์อึมครึมเป็นอย่างมาก
“งั้นเหรอ? คุณคงไม่รู้สินะ ว่าจริงๆแล้วผมคือลูกชายของบุญทิวากับนงลักษณ์ เป็นลูกพี่ลูกน้องของนรมน ถึงผมจะทำอะไรเขาไม่ได้ แล้วคุณคิดว่าถ้าเป็นนรมนลงมือโอกาสที่จะสำเร็จมีเท่าไหร่?”
จวัตณ์ไม่กลัวว่าหงส์จะรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงเป็นใครเลยสักนิด และคำพูดของเขาก็ทำให้หงส์ตาเบิกโพลงขึ้นมาทันที
“เป็นไปได้ยังไง?”
“บนโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ อีกอย่าง ผมรู้อยู่แล้วว่านรมนรู้สึกกับบุริศร์ยังไง เพราะฉะนั้นผมไม่มีทางบอกเธอตรงๆหรอกว่าจะทำอะไรเขา แต่ผมจะให้คนใส่ยาชาลงไปในอาหาร แล้วให้นรมนเอาไปให้เขากิน จากนั้นค่อยลงมือทำ พอถึงตอนนั้นผมก็จะบอกว่าสมชัยส่งคนมาตัดนิ้วบุริศร์ คุณคิดว่านรมนจะเชื่อคุณหรือเชื่อผม?”
จวัตณ์ในเวลานี้เหมือนปีศาจร้าย ทุกๆคำพูดของเขาต่างทำให้หงส์สั่นกลัว
“คุณมันไม่ใช่คน!ทั้งๆที่เฮียบุริศร์เชื่อใจคุณ ทำไมคุณถึงได้…..”
“ผมทำได้อยู่แล้ว หลายปีที่ผ่านมาผมใช้ชีวิตไม่เหมือนคนไม่เหมือนผี เพราะผมมันปีศาจยังไงล่ะ คุณยังจะมองว่าผมเป็นสุภาพบุรุษอยู่ไหม? ถ้าเป็นสุภาพบุรุษป่านนี้ผมคงตายไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว เพราะฉะนั้นญาณิน หรือจะเรียกว่าหงส์ดี เอาเป็นว่าฟังที่ผมพูดดีๆ ทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่อย่างนั้นผมจะลงดาบกับบุริศร์จริงๆด้วย ถึงยังไงผมก็รู้สึกว่าเขารกหูรกตาอยู่แล้ว”
จวัตณ์พูดจบก็ลุกขึ้น ใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปจากห้อง เพียงแต่อุณหภูมิอุ่นๆภายในห้องเหมือนถูกเขาพรากจากไปด้วย หงส์รู้สึกหนาวจนต้องกอดตัวเองเอาไว้
ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!