แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1398 นี่มันช่างน่าขำจริง ๆ
จณัตว์จ้องมองท่าทางที่ดีใจเป็นอย่างมากของเอกฉัท แล้วในใจก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาเล็กน้อย
“พ่อ หลายปีมานี้ผมยึดครองตำแหน่งของเนกษ์ไป ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
เธอโค้งคำนับให้เอกฉัททีหนึ่ง
หลายปีมานี้ เอกฉัทดีกับเขามากจริง ๆ และก็ปฏิบัติกับเขาอย่างกับเป็นลูกแท้ ๆ แต่ว่าเนกษ์ต่างหากที่เป็นลูกชายแท้ ๆ ของเขา แล้วอีกหน่อยตัวเองอาจจะกลับประเทศไป จะทิ้งเอกฉัทไว้คนเดียวเขาก็รู้สึกไม่ไว้วางใจ
“ไม่มีใครยึดครองตำแหน่งของใครหรอก ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าพระมเหสีเจ็ดช่วยเขาไว้ในตอนนั้น บางทีเขาอาจจะตายไปตั้งนานแล้ว และที่สำคัญหลายปีมานี้แกอยู่ในตระกูลแหลมวิไลต้องมีชีวิตอยู่ยังไง ในใจของฉันก็ชัดเจนดีที่สุด ภรรยาของฉันต่อต้านแกมาตลอด และแทบจะอยากให้แกตายไปด้วย ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้แกมีกำลังที่จะเอาตัวรอดมากพอแล้ว คิดว่าคงจะไม่เหลือแม้แต่ซากมานานแล้ว ฉันไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักแยกแยะชั่วดี ที่พระมเหสีเจ็ดทำแบบนี้ก็จะต้องมีเหตุผลที่ทำแบบนี้ หรือบางทีดูจากรูปการณ์แล้วก็เพื่อที่ปกป้องสายเลือดเสี้ยวสุดท้ายของตระกูลแหลมวิไลเราไว้ ใช่ไหม?”
เอกฉัทพูดไปใบหน้าเหี่ยวย่นก็น้ำตานองหน้าขึ้นมา
“ลูกเอ๋ย รีบลุกขึ้นมาเร็ว หลายปีมานี้ต้องลำบากแกแล้ว”
เขารีบไปประคองเนกษ์ลุกขึ้นมา
ดวงตาของเนกษ์มีสีแดงก่ำและเปียกชื้นเล็กน้อย แต่กลับส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “คุณชายดีกับผมมากครับ หลายปีมานี้งานใหญ่ต่าง ๆ ก็ให้ผมเป็นคนไปออก เพราะว่าใส่หน้ากากอยู่พวกเขาจึงดูไม่ออกว่าผมเป็นใคร แต่ว่ากิจการของตระกูลแหลมวิไลล้วนมีผมเป็นคนดูแลอยู่ครับ”
จณัตว์ไม่เคยคิดว่าเนกษ์เป็นคนรับใช้เลย แน่นอนว่าเขารู้สถานะของเขาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตั้งแต่หลายปีก่อนหน้านี้ก็ได้ให้เนกษ์จัดการเรื่องราวของตระกูลแหลมวิไลมาตลอด
เขาต่างหากที่เป็นนายน้อยที่แท้จริงของตระกูลแหลมวิไล ยังไงก็ต้องมารับช่วงสืบทอดตระกูลแหลมวิไลต่อ
หลายปีมานี้เนกษ์และจณัตว์เติบโตมาด้วยกัน ฝึกฝนมาด้วยกัน ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน แน่นอนว่าต้องดูความเกลียดชังที่คุณหญิงฑิตยามีต่อเขาและแม่ออก ถ้าใช่เพราะจณัตว์ คิดว่าเขาที่เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลแหลมวิไลนี้คงจะตายไปไม่รู้ตั้งกี่รอบแล้ว
และที่สำคัญพระมเหสีเจ็ดยังเป็นผู้มีพระคุณของเขากับแม่ ถ้าดูจากรูปการณ์มาพูดแล้วตระกูลแหลมวิไลควรจะเป็นของพระมเหสีเจ็ดด้วยซ้ำ เรียกจณัตว์ว่าคุณชายสักคำก็สมควรแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหลายปีมานี้จณัตว์ช่วยเขาขยายกิจการของตระกูลแหลมวิไลให้ใหญ่ขึ้นมาตั้งหลายเท่า พวกเขาสองคนเป็นพี่น้องกัน เป็นพี่น้องแท้ ๆ เป็นพี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตาย เพราะฉะนั้นพ่อของเขาก็ต้องเป็นพ่อของจณัตว์ด้วยอยู่แล้ว
เอกฉัทฟังเนกษ์พูดแบบนี้จนจบ ก็อดไม่ได้ที่จะทุกข์ใจขึ้นมา
“ต้องลำบากแกแล้ว หลายปีมานี้พ่อเป็นคนไม่เอาไหนเอง”
“ไม่ใช่หรอกครับ พ่อ”
ดวงตาของเนกษ์เปียกชื้นขึ้น
จณัตว์ค่อย ๆ ถอยออกไปจากห้อง และเหลือช่องว่างไว้ให้พวกเขา
เขารู้มาตลอดว่าตัวเองไม่ได้เป็นลูกของตระกูลแหลมวิไล ตั้งแต่เด็ก ๆ แม่ก็มอบเพื่อนร่วมเรียนให้กับเขาคนหนึ่ง แล้วบอกเขาว่าจะต้องปกป้องเพื่อนร่วมเรียนคนนี้ให้ดี ๆ ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ต่อมาพอโตแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว แม่ก็บอกสถานะของเนกษ์ให้เขา
ตอนนั้นแม่เดาออกแล้วว่าคุณหญิงฑิตยาไม่มีทางที่จะรามือไปง่าย ๆ เพราะฉะนั้นถึงได้หาเด็กทารกตายคนหนึ่งมาแทนเนกษ์ แล้วก็ช่วยชีวิตเขาไว้ได้
เรื่องนี้นั้นเพ็ญนีติ์เองก็รู้ดี เธอรู้ว่าตัวเองทำลายครอบครัวของคุณหญิงฑิตยาไปมีโทษสมควรตาย แต่เพื่อที่จะปกป้องลูกชายแล้ว ในตอนนั้นเธอยินยอมที่จะตายอย่างอนาถแบบนั้น เพราะว่ามีแต่เธอต้องตายไปเท่านั้น มีแต่เธอต้องปกป้องเด็กทารกที่ตายนั่นไว้ ลูกชายของเธอถึงจะปลอดภัยได้
บนโลกใบนี้แม่เป็นของขวัญของเด็กทุกคน เป็นสิ่งที่แท้จริงที่สุด เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และสามารถที่จะเสียสละทุกอย่างเพื่อลูกของตัวเองได้
หลายปีมานี้ พวกเขาสองคนพี่น้องร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาตระกูลแหลมวิไล นี่คือคำมั่นสัญญาที่แม่มีต่อเอกฉัทในตอนนั้น และยิ่งเป็นสิ่งตอบแทนให้กับตระกูลแหลมวิไลด้วย
มาวันนี้พวกเขาสองคนพ่อลูกได้มาเจอกันแล้ว ในใจของจณัตว์ก็รู้สึกดีใจเหมือนกัน
ในตอนที่เขาออกมาจากห้องแล้วก็ให้คนไปปล่อยบุริศร์และนรมนออกมา และก็บอกข่าวคราวกับพวกเขาครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลับห้องไป
ในเวลาแบบนี้นั้นจณัตว์ก็รู้สึกเดียวดายอยู่
ตอนที่เขากลับมาถึงห้องนั้นหงส์ก็ถลึงตาอย่างแรงใส่เขาทีหนึ่ง แต่ว่าใจของจณัตว์กลับสงบนิ่งลงมาอย่างไม่รู้ว่าทำไม แถมยังรู้สึกสบายใจขึ้นมาเสี้ยวหนึ่งด้วย
“จ้องผมแบบนี้ทำไม? อยากจะกินผมเหรอ?”
จณัตว์ยิ้มอ่อน ๆ ขึ้นทีหนึ่ง แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เหล้าแล้วเอาไวน์ออกมาขวดหนึ่ง แล้วเทใส่ขวดดีแคนติ้งพักเอาไว้
กลิ่นของไวน์ฉุนเข้าจมูกหงส์ ถึงแม้ว่าตอนนี้จณัตว์จะค่อนข้างเป็นมิตร แต่ว่าเธอก็สัมผัสได้อย่างละเอียดอ่อนว่าอารมณ์ของจณัตว์ไม่ค่อยดีนัก
นี่มันเจอผีเข้าแล้ว
ผู้ชายคนนี้อารมณ์ไม่ดีแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?
แต่ว่าไม่รู้ทำไมหงส์กลับรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เธอรู้ว่าจณัตว์เข้าไปในวังไปทำอะไรมา และยิ่งรู้จักนิสัยของสมชัย ถึงแม้ว่าตอนนี้จะต้องการใช้ตัวจณัตว์ แต่ว่าเขาจะจดจำทุกอย่างที่จณัตว์ทำในวันนี้ แล้วก็จะต้องหาโอกาสเอาคืนกลับมาแน่
“ทางที่ดีคุณเองก็ระวังตัวไว้หน่อยเถอะ สมชัยไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายขนาดนั้น”
การกระทำของจณัตว์อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หันหน้าไปมองหงส์
“คุณเป็นห่วงผมเหรอ?”
ดวงตานั้นแหลมคมจนหงส์รู้สึกเสียใจเล็กน้อย
“คุณคิดมากไปแล้ว คุณเป็นคนของเฮียบุริศร์ ปกติแล้วเฮียบุริศร์ให้ความสำคัญกับลูกน้องเสมอ ฉันกลัวว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณเขาจะเสียใจได้”
สีหน้าของจณัตว์เคร่งขรึมลงทันที
“บุริศร์ดีขนาดนั้นเลยเหรอ? ดีจนทำให้คุณคิดถึงเขาทุกวินาทีเลยเหรอ? ดีจนคุณสามารถเอาใครก็ได้มาเปรียบเทียบกับเขาได้เลยใช่ไหม?”
อารมณ์ที่ไม่ดีอยู่แล้วตั้งแต่แรกของจณัตว์ตอนนี้ก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เขาแทบอยากจะหาเทปใสมาปิดปากเล็ก ๆ ที่พูดไม่หยุดของหงส์นี่ซะ
หงส์อยากจะย้อนกลับไปทันที แต่พอเห็นความเคร่งขรึมในดวงตาของจณัตว์แล้ว อยู่ ๆ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว
เธอนึกถึงคำพูดก่อนที่จณัตว์จะไปขึ้นมา และนึกถึงนิสัยที่บุคลิกภาพที่โรคจิตมากขนาดนั้นของจณัตว์แล้ว เธอก็หุบปากลงทันที
“ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ?”
จณัตว์กลับเหมือนกับว่าตั้งใจจะไม่ปล่อยเธอไป และก็บีบบังคับทุกอย่าง
หัวคิ้วของหงส์ขมวดเข้าด้วยกันแน่น
“จณัตว์ เมื่อก่อนฉันเคยล่วงเกินคุณมาก่อนหรือเปล่า? หรือว่าเมื่อก่อนเราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?”
“เหอ เหอ คุณคิดว่าไงล่ะ?”
ดวงตาของจณัตว์แฝงไว้ด้วยความซับซ้อนเสี้ยวหนึ่ง!
นี่เธอจำไม่ได้แล้วเหรอ!
นี่เธอกล้าที่จะจำไม่ได้เลยเหรอ!
มือของจณัตว์กำเข้าหากันแน่น จนเส้นเอ็นบนหลังมือโผล่ขึ้นมาแล้ว
ท่าทีแบบนี้กับการกระทำแบบนี้ถ้าหงส์ยังดูไม่ออกอีกละก็ ตัวเองก็มีชีวิตอยู่มาเสียเปล่าแล้ว แต่ว่าในสมองของเธอไม่มีภาพและเรื่องราวอะไรที่เกี่ยวกับจณัตว์เลย
อยู่ ๆ เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองมีความทรงจำสองปีที่ว่างเปล่าไป นั่นคือตอนที่เธอกับบุริศร์ไปเข้าร่วมปฏิบัติการรักษาสันติภาพครั้งหนึ่ง แล้วโดนสะเก็ดปืนใหญ่ทำให้หัวสมองได้รับบาดเจ็บ จนทำให้เส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ ต้องรักษาอยู่เกือบครึ่งปีถึงได้หนีพ้นจากประตูผีกลับมาได้ แต่กลับสูญเสียความทรงจำไปสองปี
หมอบอกว่านี่ก็ถือได้ว่าโชคดีมากแล้ว
สำหรับเธอแล้วขอแค่จดจำบุริศร์ได้ก็ถือว่าดีแล้ว สำหรับความทรงจำของสองปีนั้นจะมีหรือไม่มี เธอก็ไม่ได้สนใจมากนัก แต่ว่าท่าทางของจณัตว์ในตอนนี้ หรือว่าความทรงจำในสองปีนั้นจะมีจณัตว์อยู่เหรอ?
หงส์ไม่เคยเชื่อเลยว่าบนโลกใบนี้จะมีความรักหรือเกลียดที่ไม่มีเหตุผล ตั้งแต่ตอนที่จณัตว์เห็นตัวเองครั้งแรกก็เหมือนกับว่ารู้จักกับเธอแล้วยังไงอย่างงั้น และท่าทางในตอนนี้ก็ยิ่งบอกได้ชัดว่าระหว่างพวกเธอจะต้องรู้จักกันแน่ ๆ แถมความทรงจำอาจจะไม่ค่อยสวยงามมากนักด้วย
พอคิดมาถึงตรงนี้ หงส์ก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันมีความทรงจำสองปีเสื่อมไปแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเกิดลืมคุณไปจริง ๆ ก็ต้องขอโทษด้วย”
ร่างกายของจณัตว์นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
“ข้ออ้างแบบนี้ไม่รู้สึกว่ามันห่วยแตกไปหน่อยเหรอ?”
“จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่คุณ”
หงส์พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปข้างนอก
จณัตว์ไม่ได้ห้ามไม่ให้เธอออกจากห้อง ตอนนี้เธอรู้สึกว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันอย่างไม่ค่อยมีเหตุผลละก็อาจจะเกิดเรื่องขึ้นมาได้ง่าย ๆ ฉะนั้นสู้ต่างฝ่ายต่างสงบสติลงหน่อยน่าจะดีกว่า และที่สำคัญบนตัวจณัตว์ก็ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับเธอมากเช่นกัน
หรือเธอจะลืมเขาไปจริง ๆ เหรอ?
จณัตว์เห็นหงส์ออกไปก็ไม่ได้ขัดขวางเธอไว้ แต่กลับจ้องมองแผ่นหลังของเธอแล้วก็เหม่อลอยไป
ความทรงจำสองปีขาดหายไปงั้นเหรอ?
ถึงว่าล่ะเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลย
แต่ว่าทำไมเธอถึงได้ลืมแต่เพียงเขาล่ะ?
เมื่อก่อนเธอเคยมีความทรงจำที่ลึกซึ้งมากขนาดนั้นต่อเขา และไม่ลบเลือนไปถึงแม้เวลาจะผ่านไปแบบนั้น หนำซ้ำเพื่อความทรงจำช่วงนั้นแล้วเขาต้องฝึกฝนทุกวันทุกคืน เพียงแค่หวังว่าสักวันหนึ่งตอนที่ตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าเธอนั้นเธอจะสามารถจดจำเขาได้ และที่สำคัญพอเห็นความยิ่งใหญ่และการเปลี่ยนแปลงของเขาแล้วก็จะรู้สึกเสียใจอย่างลึกซึ้งต่อการกระทำในตอนนั้น
แต่ว่าตอนนี้เธอกลับมาบอกเขาว่า เธอลืมเขาไปแล้ว นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
หลายปีมานี้มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่อยู่กับความทรงจำของกันและกันเหรอ?
นี่มันช่างน่าขำจริง ๆ!
จณัตว์โมโหจนต่อยหมัดหนึ่งลงบนโต๊ะ แล้วก็โทรศัพท์หาลูกน้องของตัวเองสายหนึ่งอย่างรวดเร็ว
“ไปสืบค้นข้อมูลทั้งหมดของหงส์ให้ฉันหน่อย ฉันต้องการข้อมูลการรักษาของการบาดเจ็บทั้งหมดและประวัติการรักษาด้วย”
“ครับ นายน้อย”
หลังจากที่วางสายแล้ว จณัตว์ก็เหนื่อยแล้วจริง ๆ ตอนแรกต้องผ่าตัดทั้งคืนโดยไม่ได้พักก็ลำบากมากอยู่แล้ว พอได้นอนไปไม่ถึงสองชั่วโมงก็ต้องพาคนเข้าวังไป จนตอนนี้ก็เหนื่อยจนปวดหัวตุ๊บ ๆ แล้ว
และไม่สนใจไวน์ที่พักไว้แล้ว แล้วก็เทออกมาแก้วหนึ่งและยกซดจนหมดไปเลย จากนั้นก็ไปอาบน้ำรอบหนึ่งแล้วก็มาล้มหัวลงนอนหลับไปเลย
ตอนที่หงส์กลับมานั้นก็เห็นท่าทางที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ของจณัตว์
เขาไม่มีการหวาดระแวงอะไรต่อเธอเลยสักนิด แถมยังเปิดเผยทุกอย่างของตัวเองต่อหน้าเธออย่างเป็นธรรมชาติแบบนั้น
เชื่อมั่นถึงขนาดนั้นหรือเป็นเพราะว่าทั้งสองคนเคยสนิทกันมากมาก่อนเหรอ?
พอนึกถึงว่าในความทรงจำที่ตัวเองได้สูญเสียไปอาจจะมีข้อมูลเกี่ยวกับจณัตว์อยู่ ท่าทีของหงส์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้ว
ตกลงเธอกับจณัตว์มีความเกี่ยวข้องยังไงกันแน่?
คนที่เธอชอบคือบุริศร์มาตลอดไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้มีจณัตว์โผล่ออกมาคนหนึ่งได้ล่ะ? และที่สำคัญเหมือนกับว่าตัวเองได้ติดหนี้เขาไว้แปดล้านยังไงอย่างงั้น ตกลงในความทรงจำที่สูญเสียไปนั้น ตัวเองได้ทำอะไรกับเขาไว้กันแน่?
หงส์ครุ่นคิดอย่างหนักแต่ไม่ได้รับคำตอบ แถมยังรู้สึกว่าหัวเริ่มปวดตุ๊บ ๆ ขึ้นมาแล้ว
เธอไม่ได้อยากจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับจณัตว์เลย ผู้ชายคนนี้อันตรายเกินไปแล้ว ถึงแม้ว่าภายนอกดูไปแล้วจะดูมีบุคลิกสบายๆแต่ว่าเธอกลับสามารถรู้สึกได้ถึงความชั่วร้ายและความโหดเหี้ยมที่อยู่ในใจลึก ๆ ของจณัตว์
ความรู้สึกแบบนี้นั้นเธอหาไม่ได้จากตัวบุริศร์เลย
ตกลงจณัตว์เคยผ่านอะไรมาบ้างนะ?
ความพ่ายแพ้ของตระกูลแหลมวิไลทำให้พวกเขาถอนตัวออกไปจากลำดับของตระกูลใหญ่ แล้วหลายปีมานี้แทบจะโดนคนหลงลืมไป ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่ามีจณัตว์คนหนึ่งออกมานำพาตระกูลแหลมวิไลผงาดขึ้นอีกครั้ง บางทีตอนนี้คนในประเทศFอาจจะลืมว่าตระกูลแหลมวิไลมีสถานะอะไรไปนานแล้ว
ผู้ชายที่อายุไม่ถึงสามสิบคนหนึ่ง แต่กลับสามารถเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือได้ ถ้าหากจะบอกว่าเขาเป็นคนใสซื่อคนหนึ่งหงส์ไม่มีทางเชื่อแน่
ความสามารถของเขาจะต้องไม่ได้มีเพียงแค่ที่เห็นอยู่ภายนอกนี้เท่านั้น แถมเขายังเป็นคนตระกูลทวีทรัพย์ธาดาด้วย เลือดที่อุ่นร้อนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไหลเวียนอยู่ในตัวจณัตว์เธอสามารถมองออกได้ และยังรู้สึกได้ถึงความสะกดกลั้นที่อยู่ในใจเขาด้วย
คนแบบนี้ไม่สามารถเป็นศัตรูด้วยได้ ไม่งั้นละก็ตัวเองจะตายยังไงยังมีรู้เลย
นี่คือบทสรุปของหงส์
แต่ว่าถ้าจะเป็นเพื่อนกับเขาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สิ่งที่จณัตว์ต้องการ สิ่งที่เขาต้องการคือให้ตัวเองกลายเป็นผู้หญิงของเขาเหรอ?
พอนึกถึงความเป็นไปได้ของสิ่งนี้ หัวคิ้วของหงส์ก็ขมวดเข้าหากันแน่น
ระหว่างเธอกับจณัตว์นั้นตกลงเคยเป็นยังไงมาก่อนแน่?
หงส์ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกปวดหัว จากนั้นก็ปวดจนรู้สึกว่าหัวใกล้จะระเบิดออกแล้ว แถมยังมีของเหลวอุ่น ๆ สายหนึ่งไหลลงมาจากจมูกด้วย ส่วนตัวเธอทั้งตัวก็ขดตัวอยู่บนพื้นแล้วร้องครางอย่างเจ็บปวดออกมาคำหนึ่ง แล้วในตาก็มืดไปหมดแล้วก็หมดสติไป