แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1418 ทำเองต้องรับผิดชอบเอง
คมทิพย์ออกจะรู้สึกว่าคราวนี้นรมนแปลกไป ตามที่เธอเข้าใจนรมน บุริศร์น่าจะทำเธอโกรธ และโกรธไม่เบาด้วย
“เฮ้ จะไม่ถามว่าสามีของเธอเป็นยังไงบ้างเหรอ?”
คมทิพย์พูดถึงสิ่งที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจบุริศร์โดยตรง
เขารีบเงี่ยหูตั้งใจฟัง ไม่อนุญาตให้มิลินส่งเสียงใดๆ เกรงว่าจะพลาดคำตอบของภรรยาไป
นรมนกลับตอบอย่างเรียบเฉย “มีผู้เชี่ยวชาญมาดูแลแล้วจะอะไรอีก? จริงด้วย เธอบอกว่าดาราที่มีข่าวเมาท์นั้นเล่นละครเรื่องไหนนะ? ช่วงนี้ฉันกำลังพักฟื้นพอดี ฉันจะได้หาละครดู”
“โห หายากนะเนี่ย ไม่คิดว่าเธอจะมีเวลาดูละคร”
คมทิพย์ได้ยินคำนี้ของนรมนก็รู้ว่าเธอไม่อยากพูด
ช่างเถอะ
เธอกับนรมนเป็นพี่น้องกัน ขอเพียงนรมนอารมณ์ดีก็พอแล้ว ส่วนบุริศร์ ในเมื่อกล้าทำให้นรมนโกรธ ก็ต้องกล้าหาญรองรับความโกรธของนรมนให้ได้
แต่พูดตามความจริง คมทิพย์ไม่เห็นนรมนโกรธมากแบบนี้มานานแล้ว
คนส่วนมากเวลาโมโหจะระบายออกมา แต่ไม่ใช่กับนรมน
เธอกำลังทำสงครามเย็น!
และเป็นสงครามเย็นที่ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรหรือทำอะไรก็สามารถปิดกั้นได้อย่างอัตโนมัติ ราวกับอีกฝ่ายตีปุยฝ้าย ไร้พลังมาก
นรมนจะสุภาพกับคุณ จนแม้แต่จัดการเรื่องทั้งหมดอย่างเหมาะสม แต่เธอจะไม่สนใจคุณ
อยู่ใต้ชายคาเดียวกัน คมทิพย์เห็นใจบุริศร์อยู่บ้าง
เกรงว่าครั้งนี้นรมนจะทำให้บุริศร์เป็นบ้า
คมทิพย์มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น มุมปากโค้งขึ้นเบาๆ
แน่นอนว่านรมนเห็นสีหน้าของคมทิพย์ แต่ก็ไม่สนใจ
เธอกับบุริศร์โกรธกัน แต่ไม่เอาความโกรธไปลงกับคนอื่น ดังนั้นคนอื่นจะทำอย่างไรก็ทำไปเถอะ
“ตกลงจะบอกไม่บอก?”
“โอเคๆ เธอนะเธอ ไปประเทศ F กลับมา ทำไมถึงได้ใจร้อนแบบนี้?”
คมทิพย์บ่น หยิบมือถือออกมาหาละครให้เธอทันที
บุริศร์ได้ยินภรรยาเปลี่ยนเรื่องโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องพูดเลยว่ากลุ้มใจแค่ไหน
จู่ๆ เขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ร้องโหยหวนทันที “มิลิน เธอเบาหน่อยสิ เจ็บนะ เธอไม่เห็นหรือไงว่าเลือดออก?”
มิลินที่ยืนห่างบุริศร์ไปสิบก้าวมองเห็นบุริศร์เล่นละครอยู่คนเดียว งุนงงทันที พลันเข้าใจอะไรขึ้นมา รีบกล่าวว่า “ผู้ใหญ่บ้าน ร่างกายของคุณบาดเจ็บค่อนข้างหนัก อย่าขยับสิคะ”
“ภรรยาของฉันเองยังไงบ้าง? ไม่ได้บาดเจ็บด้วยหรือไง? ฉันจะไปหาเธอ พยุงฉันขึ้นมา”
เสียงของบุริศร์ดังมาก
คมทิพย์กลั้นขำทันที
นรมนกลับนิ่งไป จากนั้นกล่าวว่า “ละครนี้ยังอัปเดตอยู่”
“ใช่ ยังถ่ายไม่จบ”
คมทิพย์กลับจะชื่นชมนรมน แบบนี้ยังอดทนได้
บุริศร์เห็นภรรยาไม่สนใจตนเองอีก จึงรีบกล่าว “เร็วเข้า เข็นรถไป ฉันจะไปหาภรรยาของฉัน”
นรมนหาวทันที “ช่างเถอะ ยังอัปเดตไม่จบก็ไม่ดูแล้ว จู่ๆ ก็ง่วงขึ้นมา อยากนอนสักพัก คมทิพย์ตอนเธอออกไปช่วยฉันกดล็อกประตูจากด้านในด้วย ไม่รู้ว่าเสียเลือดไปเยอะหรือเปล่า รู้สึกเวียนหัว ได้ยินเสียงนิดหน่อยก็รู้สึกสะอิดสะเอียนไม่น่าฟัง”
มุมปากของบุริศร์กระตุกทันที
นี่รังเกียจที่เขาพูดรบกวนเธอ?
มิลินก็ฟังออก ตอนนี้ไม่รู้ว่าต้องเข็นรถไปหรือเปล่า
คมทิพย์กลั้นขำ จนแทบจะช้ำใน จากนั้นจึงไอออกมา “ได้ งั้นเธอรีบพักผ่อนเถอะ ฉันกลับก่อนนะ ช่วงนี้ฉันอยู่ที่นี่ เธอไม่มีอะไรทำก็โทรหาฉัน ฉันจะมาอยู่เป็นเพื่อน”
“อืม”
นรมนยิ้มบางๆ
คมทิพย์ลุกขึ้นออกไปจากห้อง
บุริศร์กลุ้มใจ ตนเองยังไม่ทันได้ออกไปก็ถูกปฏิเสธแล้ว?
มิลินก็ทำหน้าจนปัญญา จนแม้แต่สับสนด้วยซ้ำ
“ผู้ใหญ่บ้าน ยังจะให้เข็นไปไหมคะ?”
“เธอไม่ได้ยินภรรยาของฉันบอกว่าจะพักผ่อนหรือไง? จะเสียงดังทำไม?”
บุริศร์พูดใส่มิลินโดยตรง จากนั้นข่มตาหลับลง เหมือนกับนอนหลับ แท้จริงแล้วในใจทรมานอย่างยิ่ง
ทำอย่างไรดี?
ภรรยาจะไม่สนใจเขาแล้วจริงๆ เหรอ?
แต่ตอนนี้ร่างกายของเขายังขยับไม่ได้ ทำอย่างไรดี?
มิลินไม่ได้ไม่พอใจมากนักที่บุริศร์พาลใส่ แค่ดูแลบุริศร์ตามหน้าที่
นรมนได้ยินเสียงทางนั้นเงียบไป หยิบมือถือออกมาปัดดูโพสต์ของเพื่อนๆ ก็เห็นบุริศร์ที่ไม่ได้โพสต์อะไรมาเป็นชาติ จู่ๆ ก็โพสต์ขึ้นเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว
เป็นรูปภาพเซลฟี่ชีวิตสิ้นหวัง นอนอยู่บนเตียงอย่างน่าเวทนา เนื้อหาคือ ทำให้คุณภรรยาโกรธต้องทำยังไงดี? เข้ามาเม้นท์ด้วย
นรมนปัดผ่านทันที ไม่หยุดแม้แต่วินาทีเดียว
อรรณพกับป้องเห็นโพสต์ของบุริศร์ จึงตอบกลับด้านล่างด้วยความแปลกใจ
“พี่รอง พี่ถูกขโมยบัญชีหรือเปล่า? ความรักและความผูกพันของพวกพี่สองคนสามีภรรยา พี่ยังทำให้พี่สะใภ้รองโกรธอีกเหรอ? ลำบากเลย”
บุริศร์เห็นที่ป้องตอบกลับมา ยิ่งกลุ้มใจอย่างห้ามไม่ได้ ตอบกลับไปทัน
“ไปให้พ้น!”
อรรณพพอเข้าใจอยู่บ้างว่าระหว่างนรมนกับบุริศร์เกิดอะไรขึ้น เขายิ้มและพิมพ์ตอบด้านล่าง “พี่รอง ทำเองต้องรับผิดชอบเอง คนอื่นช่วยพี่ไม่ได้หรอก”
“เฮ้ นี่หมายความว่านายรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ป้องเห็นอรรณพพิมพ์แบบนี้ จึงรีบตอบกลับด้วย
บุริศร์ยิ่งรู้สึกหดหู่
ไอ้เพื่อนชั่วพวกนี้อย่าให้มันมากเกินไป!
เขามองมือถือ แทบจะมองทุกสองวินาที พบว่านรมนก็ไม่กดไลค์ให้ตนเอง และไม่ตอบอะไร ในใจอดตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่ได้
จริงด้วย นรมนไม่ได้บอกว่าจะพักผ่อนหรือไง? จะต้องไม่เห็นแน่นอน รอเธอตื่นมาคงจะตอบตนเอง
บุริศร์ปลอบใจตนเองเช่นนี้ แต่จู่ๆ เขาก็ปัดโมเมนต์วีแชทของเขาใหม่ พบว่านรมนก็โพสต์ด้วย เป็นรูปภาพของวริศดาราดัง เนื้อหาคือ เด็กหนุ่มคนนี้หล่อสุดๆ หัวใจของเจ๊จะระเบิดแล้ว พระเจ้า ฉันว่าฉันตกหลุมรักวริศเข้าแล้ว
สีหน้าของบุริศร์มืดมนทันที
“วริศนั่นเป็นใครกัน? บอกบริษัทผลิตภาพยนตร์ ช่วงนี้ห้ามฉายละครทุกเรื่องของผู้ชายคนนี้”
บุริศร์ยอมรับว่าตนเองหึง
นรมนไม่เคยพูดว่ารักตนเองอย่างน้ำเน่าเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าจะให้ความสนใจดาราแบบนี้
ไม่สิ!
เธอไม่ได้นอน!
กว่าบุริศร์จะค้นพบเรื่องนี้ หัวใจที่เป็นทุกข์ก็ปวดร้าวทันที ตอนนี้เขาตระหนักได้อย่างแท้จริงแล้วว่าระดับความโกรธของคุณภรรยาไม่น้อยเลย
มิลินมองโมเมนต์วีแชทของบุริศร์ กล่าวเสียงเบา “ผู้ใหญ่บ้านคะ วริศคนนี้เป็นเด็กหนุ่มบริษัทผลิตภาพยนตร์ของคุณนาย ถ้าจะไม่อนุญาตเผยแพร่ เกรงว่าคุณคมทิพย์กับคุณนายจะไม่เห็นด้วย”
บุริศร์บาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง
เขาไม่สามารถแบนเด็กหนุ่มบริษัทผลิตภาพยนตร์ของคุณภรรยาได้แน่นอน โดยเฉพาะตอนนี้คุณภรรยายังโกรธอยู่ แต่โพสต์นี้เห็นแล้วบาดตาจริงๆ
ในตอนนี้เองป้องที่กลัวว่าเรื่องราวจะไม่วุ่นวายก็ส่งข้อความมา
“พี่รอง พี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่า? ดูแลพี่สะใภ้รองไม่ไหวเหรอ? ไม่อย่างนั้นทำไมพี่สะใภ้รองถึงได้อยากมีกิ๊กแบบนี้? แต่จะว่าไปแล้ว วริศอะไรนั้นก็หน้าตาไม่เลวเลยนะ”
“ไปให้พ้น!”
บุริศร์รู้สึกว่าป้องตั้งใจมาซ้ำเติมเขา
ตอนนี้เขาขยับไม่ได้ คุณภรรยาก็ไม่สนใจเขาอีก ต้องทำอย่างไรดี?
บุริศร์มองมิลิน กล่าวเสียงเบา “เธอมียาอะไรที่สามารถทำให้ฉันออกจากเตียงได้ไหม? สักครึ่งชั่วโมง ไม่สิ สิบห้านาทีก็ยังดี?”
มิลินส่ายหน้าด้วยความลำบากใจ
“ผู้ใหญ่บ้านคะ ฉันเป็นหมอ ไม่ใช่เทวดา ยาที่คุณพูดถึงไม่มีอยู่หรอกค่ะ”
“งั้นเธอคิดหาวิธีให้ฉันออกจากเตียง หรือไม่ก็หาวิธีให้ภรรยาของฉันมาที่ห้องของฉัน”
“ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ”
มิลินปฏิเสธทันที
ตอนนี้เธอเห็นได้ชัดเจน นรมนกำลังโกรธอยู่ ถ้าตนเองไม่กลัวตายบุ่มบ่ามเข้าไป อาจกลายเป็นผู้โชคร้ายคนนั้น
“ผู้ใหญ่บ้านคะ จู่ๆ ฉันก็ปวดท้อง ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ มีอะไรเรียกหาฉันได้”
มิลินพูดจบก็ก้าวเท้าวิ่งไปทันที
เธอรู้แล้วว่าทำไมพฤกษ์ถึงวิ่งออกไปเร็วแบบนั้น
บุริศร์แทบจะกลุ้มใจตายแล้ว
นึกถึงตอนที่เขามีอำนาจมากมีใครไม่ไว้หน้าเขาบ้าง? ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าแต่ละคนจะไม่ยืนมือเข้ามาช่วยตอนที่ลำบากเลย ได้ทีขี่แพะไล่กันหมด
แต่คิดถึงใบหน้าเย็นชาของนรมน หัวใจของบุริศร์เต้นรัว
ครั้งนี้ทำมากเกินไป เกือบจะจบชีวิตลง นรมนจะโกรธก็ไม่แปลก ตอนนี้เธอกำลังโกรธอยู่ ตนเองก็อย่าพยายามแล้วพยายามเล่าเลย รอเธอใจเย็นลงแล้วค่อยคุยกัน
แต่พอคิดดูอีกที นี่ไม่ถูกต้อง ถ้าเขาไม่ง้อไม่อธิบายไม่ยอมรับผิด คุณภรรยาจะไม่ยิ่งโกรธหรือไง?
บุริศร์หยิบมือถือออกมา กดสั่งช่อดอกไม้บนมือถือ ให้คนนำมาส่งนรมน และเขียนคำขอโทษ
นรมนไม่รู้ความเคลื่อนไหวของบุริศร์ หลังจากโพสต์ลงไป เพื่อนจำนวนหนึ่งก็มาพูดคุยกับเธอด้านล่าง ถามว่าเธอดูละครเรื่องอะไร ดูดีไม่เบา
หัวข้อทั่วไประหว่างผู้หญิงไม่มีอะไรมากไปกว่าผู้ชายคนนั้นดูเท่ นรมนได้ฟัง เกิดความสนใจละครเรื่องนี้ขึ้นมาทันที หลังจากเปิดAPPค้นหาก็รับชม โยนบุริศร์ทิ้งไปจากสมอง
เมื่อคนนำดอกไม้มาส่ง นรมนก็แปลกใจเล็กน้อย
“ใครส่งมาให้คะ?”
“มีเขียนไว้บนการ์ดแล้วค่ะ คุณนายบุริศร์”
คนส่งดอกไม้คิดไม่ถึงว่าตนเองจะได้เข้ามาในบ้านตระกูลโตเล็ก จึงอดปลื้มปริ่มไม่ได้ ตอนนี้ยิ่งไปเจอกับนรมนคุณนายของบุริศร์ สีหน้ายิ่งตื่นเต้น
นรมนขมวดคิ้ว รับมาดู พอเห็นว่าบุริศร์เป็นคนส่งมาให้ จึงพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “คุณเอาไปส่งข้างห้อง นี่เป็นดอกไม้ของข้างห้อง”
“หา?”
คนส่งดอกไม้งงงวย
“ไปสิ”
รอยยิ้มของนรมนเตะตา เห็นแล้วดูเป็นกันเองมาก คนส่งดอกไม้รีบพยักหน้า จากนั้นไปห้องของบุริศร์
ความจริงบุริศร์ได้ยินอยู่นานแล้ว เมื่อเห็นคนนำดอกไม้มาส่ง สีหน้าบึ้งตึงทันที
“เธอไม่เห็นหรือไงว่าบนการ์ดเขียนว่าส่งให้ใคร? ตาบอดเหรอ?”
คำพูดและสีหน้าที่เดือดดาลทำเอาคนส่งดอกไม้ตกใจทันที พูดตัวสั่น “คุณนายบุริศร์ให้ฉันเอามาส่งค่ะ”
“ออกไปซะ!”
บุริศร์ก็รู้ว่าไม่เกี่ยวกับคนส่งดอกไม้ แต่ก็ไม่มีที่ระบายความโกรธ เขาอึดอัดจนแทบจะช้ำในอยู่แล้ว และยังไม่สามารถทำให้นรมนไม่พอใจได้ เขารู้สึกว่าตนเองกดดันเหลือเกิน