แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1538 วันนี้ใครก็อย่าคิดจะไป (2)
นรมนพาลโกรธเอาดื้อๆ แล้ว ตบหลังมือบุริศร์ทันที
บุริศร์เจ็บนิดหน่อย ยิ้มขณะพูดขึ้น “อีกอย่างภรรยาของเพื่อนต้องให้เกียรติ”
“หืม?”
นรมนพยายามคิดอยู่นานมากก็คิดไม่ถึงว่าเพื่อนคนไหนของบุริศร์เกี่ยวข้องกับน้ำ
บุริศร์แนบข้างหูนรมน พูดขึ้นเสียงทุ้ม “เธอคือผู้หญิงที่ธเนศพลชอบ”
“ฮะ?”
ตอนนี้นรมนตกใจจริงๆ สีหน้าตกใจนั้นทำให้บุริศร์ดึงเข้าอ้อมกอด จากนั้นก็จูบริมฝีปากเชอร์รี่ของเธอที่เผยอเล็กน้อยทันที
หลังจากจูบเอ้อระเหย นรมนก็ค่อนข้างเคลิบเคลิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของบุริศร์ถึงตอบสนอง ใช้มือชกเขาหนึ่งทีอย่างอดไม่ได้
“คุณหลอกฉันใช่ไหม?”
“เปล่า ก่อนน้ำแต่งงานเคยเดทกับธเนศพลจริงๆ”
บุริศร์ไม่ใช่คนขี้นินทา แต่ความขี้นินทาของนรมนเริ่มต้นขึ้นแล้ว รีบถามขึ้น “แล้วทำไมไม่ใช้ชีวิตด้วยกันล่ะ? ทำไมน้ำต้องแต่งงานกับเบิร์ดไอ้ชั่วนั่นด้วย?”
“นรมน บางครั้งอยากรู้อยากเห็นมากเกินไปมันก็ไม่ดี”
“แต่ฉันอยากฟังนี่หน่า”
เสียงนรมนเบาแฝงไปด้วยความอ้อน ทำให้บุริศร์รู้สึกครึ่งตัวชาไปหมดโดยทันที
ทำตัวดีๆ!
ใครจะทนสิ่งนี้ไหว?
เดิมทีแล้วเพราะเจ้าแสบสองคนครอบครองพลังงานและเวลาของนรมนไป เวลาที่เขากับภรรยาจะใกล้ชิดกันมันน้อยลงมาก ตอนนี้นรมนอ้อนมากแบบนี้ บุริศร์แค่รู้สึกว่าเลือดลมทั้งร่างมันปั่นป่วน
“อยากรู้จริงๆ เหรอ?”
“อืม”
นรมนรีบพยักหน้า
บุริศร์พูดอย่างชั่วร้ายมาก “อยากฟังเรื่องนินทาก็ต้องจ่ายเงินหน่อย เราไปออกกำลังกายกันไหม?”
หน้านรมนแดงทันที
“คุณทำตัวเหมาะสมหน่อยได้ไหม? เดี๋ยวน้ำสองแม่ลูกก็ออกมาแล้ว สมองคุณคิดอะไรน่ะ?”
เห็นแผนตัวเองไม่สำเร็จ บุริศร์ก็ค่อนข้างจิตตก
“คุณก็รู้ว่าพวกเขาใกล้ออกมาแล้ว คุณยังอยากฟังเรื่องนินทาอีกเหรอ?”
นรมนถูกบุริศร์ขัดจนกระวนกระวายนิดหน่อย
อิตาบ้าคนนี้ตอนนี้เก่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
“อิตาบ้า!”
นรมนด่าจบก็หันตัวเดินจากไป
บุริศร์ค่อนข้างหดหู่แล้ว
ทำไมเขากลายเป็นอิตาบ้า?
แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาไปถามนรมนแล้ว นึกถึงธเนศพล สุดท้ายบุริศร์ก็โทรหาวิสุทธิ์
“ว่าไง? ช่วงนี้ได้ยินว่านายพาภรรยาออกไปเที่ยว นี่โทรมาอวดเหรอ?”
เสียงชั่วร้ายของวิสุทธิ์ดังขึ้น
บุริศร์พูดเสียงทุ้ม “ธเนศพลอยู่ข้างๆ นายไหม?”
“เปล่า เขากลับตระกูลธนเกียรติโกศลจะมีเวลาที่ไหนมาอยู่ข้างฉัน? นายคิดว่าอยู่บ้านนายเหรอ อีกอย่างลูกชายนายก็มาด้วย ช่วงนี้เขาดูแลฝึกอบรมกานต์ด้วยตัวเอง ฉันว่าเขาชอบกานต์นะ ถ้าตัวเองมีลูกสาว ไม่แน่อาจจะให้ลูกนายกับลูกเขาแต่งงานกัน”
จู่ๆ บุริศร์ก็นึกถึงชมพู
เด็กคนนั้นกับกานต์อายุเท่ากัน มีความสนใจเหมือนกัน ไม่แน่อาจจะเป็นลูกสาวธเนศพล นี่ถ้าได้เป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ ก็ไม่เลว
“อืม”
บุริศร์ตอบไปมั่วๆ แต่ทำให้วิสุทธิ์ตกใจสะดุ้ง
“นายอืมอะไรอ่ะ ธเนศพลไม่มีลูกสาว คำตกลงจริงจังของนายมันหมายความว่ายังไง? ถึงตอนนี้เขาจะแต่งงาน ก็ต้องรอหนึ่งปีถึงจะมีลูก และไม่แน่ว่าจะเป็นลูกสาวด้วย ถ้าเป็นลูกสาว ลูกชายนายก็ได้เปรียบเกินไป ได้ภรรยาอายุน้อยกว่าตัวเองแปดปี นายอิจฉาตายแน่”
วิสุทธิ์พูดยืดยาว จู่ๆ บุริศร์ก็พูดขึ้น “ถ้าเขามีลูกสาวที่อายุเท่าลูกชายฉันล่ะ?”
“นายว่าไงนะ?”
วิสุทธิ์ตกตะลึงทันที
“บุริศร์ นายสมองมีปัญหาเหรอ? นายระวังธเนศพลต่อยนายเอานะ อย่าคิดว่าเขาจะต่อยนายไม่ได้จริงๆ เขาขี้เกียจลงมือต่างหาก”
คำพูดนี้บุริศร์เชื่อ พลังต่อสู้ของธเนศพลนั้นทรงพลังที่สุดมาโดยตลอด แต่วันนี้ที่เขาโทรหาวิสุทธิ์ไม่ใช่เพื่อมาทะเลาะ นึกถึงเรื่องที่ตัวเองอยากให้วิสุทธิ์ทำ ทันใดนั้นบุริศร์ก็คิดมากสับสนว่าควรเอ่ยปากอย่างไร
วิสุทธิ์ก็ไม่รอคำพูดบุริศร์ นึกว่าโทรศัพท์วางไปแล้ว เงยหน้าขึ้นมาดู สายยังเชื่อมต่ออยู่ จึงถามขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “สัญญาณนายหายเหรอ?”
“เปล่า”
บุริศร์ตอบอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้วิสุทธิ์ก็รู้สึกถึงความลังเลของบุริศร์แล้วในที่สุด
“นายมีอะไรอยากพูดกับฉันใช่ไหม?”
“อืม”
การถามคำตอบคำของบุริศร์ทำให้วิสุทธิ์รู้สึกเบื่อจริงๆ
“ฉันคิดว่าภรรยานายทนนายได้ยังไง? คนนิสัยลังเลอย่างนายทำไมแต่งเมียได้นะ?”
“ไม่ใช่แค่แต่งได้นะ ฉันมีลูกสี่ห้าคนด้วยล่ะ อิจฉาไหม? มีปัญญานายก็ไปแต่งเมียให้ฉันดูหน่อย”
ความโกรธเกรี้ยวกะทันหันของบุริศร์ ทำให้วิสุทธิ์ชะงักและสำลักทันที
“บุริศร์ นายจงใจใช่ไหม? ฉันจะบอกนายให้นะ ถ้านายเป็นแบบนี้อีก เราคุยกันไม่ได้แล้ว”
โดนวิสุทธิ์ขัดจังหวะแบบนี้ อารมณ์ประหม่าของบุริศร์ก็คลายลงไม่น้อย
จู่ๆ เขาก็หัวเราะ แล้วพูดขึ้น “หาวิธีเจาะเลือดธเนศพลมาหนึ่งหยดแล้วนำมา ตอนนี้ฉันอยู่ที่ประเทศY”
“นายต้องการเลือดเขาไปทำไม? และธเนศพลมีสถานะอะไร? นายคิดว่าฉันเอาเลือดเขามาได้ตามใจชอบเหรอ?”
“มีเรื่อง เรื่องใหญ่ด้วย”
บุริศร์พูดจบก็วางสายไป กลับทำให้วิสุทธิ์สงสัยอย่างทรมานด้วยซ้ำ
บุริศร์นี่เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เป็นอะไรของมัน?
กระตุ้นความอยากรู้เขาทุกวันมีความสุขมากเหรอ?
แต่แขวะก็แขวะไปเถอะ วิสุทธิ์ไปตามหาธเนศพลดีกว่า
“คือว่า เอาเลือดให้ฉันหนึ่งหยด”
“ทำไม?”
ตอนนี้ที่ธเนศพลอยู่คฤหาสน์หลังเก่าตระกูลโตเล็กมีออร่าที่แตกต่างอย่างสิ้นชิง ความกดขี่ที่เหนือชั้นกว่าผู้อื่นนั้นถูกเขาสวมบทบาทอย่างสมบูรณ์ อีกอย่างกล่าวได้ว่า ใบหน้าหล่อไม่มีรอยยิ้มตลอดทั้งวัน
ที่จริงแล้ววิสุทธิ์ไม่ชอบธเนศพลที่เป็นแบบนี้ แต่เขาก็รู้ ธเนศพลไม่เป็นตัวของตัวเอง
“บุริศร์ต้องการ และให้ฉันไปที่ประเทศYทันที ก็ไม่รู้กำลังทำอะไร”
วิสุทธิ์ไม่ได้ปิดบังธเนศพล
เมื่อธเนศพลได้ยินว่าบุริศร์ต้องการเลือดเขา ก็ไม่ได้ถามอีก
“เจาะไปเยอะหน่อยนะ ช่วงนี้ฉันต้องฝึกอบรมแบบปิดกับกานต์ ไม่มีอะไรก็ไม่ออกไปข้างนอก”
เมื่อวิสุทธิ์ได้ยิน ก็ชะงักไปก่อนพูดขึ้น “นายคงไม่เลี้ยงกานต์ในฐานะทายาทหรอกใช่ไหม?”
“ก็ได้ทั้งนั้น ดูเขาสิสามารถเรียนรู้ได้มากเท่าไร เจ้าเด็กนี่มีศักยภาพสูงมาก”
ธเนศพลพูดถึงกานต์ก็หน้าบานเป็นกระด้ง คนที่ไม่รู้ก็นึกว่ากานต์เป็นลูกชายเขาล่ะ
เมื่อนึกถึงการปกป้องลูกของบุริศร์ ก็พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “นายก็ผ่อนคลายสบายๆ หน่อยนะ ระวังบุริศร์สู้สุดชีวิตกับนาย”
“รู้แล้ว รีบเจาะเลือดแล้วไปเถอะ”
วิสุทธิ์โดนรังเกียจอีกแล้ว
เขาค่อนข้างหดหู่ ทำไมไปที่ไหนก็โดนรังเกียจล่ะ?
แต่วิสุทธิ์ก็ยังเจาะเลือดธเนศพลไป 400CC บินข้ามคืนไปประเทศYตามพิกัดของบุริศร์
บุริศร์ก็ไม่ได้บังคับให้น้ำพูดอะไร หลังจากน้ำและชมพูอาบน้ำออกมาแล้ว บุริศร์ก็ตามแพทย์คนหนึ่งมา ตรวจร่างกายให้ทั้งสองคน จากนั้นก็ให้ยาบางส่วนกับน้ำ
ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มามากมาย น้ำกับชมพูดก็เหนื่อยมากแล้ว บุริศร์ให้คนเตรียมอาหาร
ชมพูไม่ได้ทานอาหารดีๆ มาตั้งแต่เล็ก เห็นอาหารบนโต๊ะนี้ก็ค่อนข้างยับยั้งชั่งใจ มองน้ำ เห็นน้ำพยักหน้าจึงหยิบตะเกียบขึ้นมาทาน
ถึงเธอจะรูปร่างเตี้ยและเล็ก สภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตไม่ดีตั้งแต่เด็ก แต่การศึกษาและมารยาทบนโต๊ะอาหารของเธอมีมาตรฐานมาก มองออกว่าปกติน้ำก็ให้การศึกษาเธอ
ถึงแม้จะอยู่ในความทุกข์ยาก น้ำก็ยังเอามาตรฐานของหญิงชั้นสูงในครอบครัวร่ำรวยมาสอนชมพู
นี่มันคือสิ่งที่อยู่ติดตัวน้ำ ถึงเธอจะอยากลืมก็ลืมไม่ลง
นรมนสงสารชมพูมาก ใจอ่อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้