แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1557 นี่เธอเข้าใจผิดหรือเปล่า
บุริศร์สัมผัสได้ว่านรมนเอนตัวมาพิง จึงเข้าใจว่าเธอไม่สบาย เขารีบถามว่า “ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า กลับไปรอฟังข่าวก่อนดีไหม”
“ไม่ต้องหรอก”
นรมนรีบส่ายหน้า
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่า เบิร์ดยังเงียบ บุริศร์มองท้องฟ้าด้านนอก และพูดกับคนอื่นว่า “พาสองสามีภรรยาตระกูลธีรกุลภักดี ไปที่โรงแรม ให้คนอยู่รอเบิร์ด สองคน ถ้าเขากลับมา พาเขาไปหาพวกเราที่โรงแรม”
“ครับคุณชายบุริศร์”
บุริศร์พานรมนกลับมาที่โรงแรม
เขารู้สึกว่าเมื่อครู่ตัวเองโง่มาก ยืนรออยู่ตรงนั้น ไม่คิดว่าตอนนี้สุขภาพของนรมนเป็นอย่างไร
บุริศร์เทน้ำร้อนให้นรมน และถามเธอว่าหิวหรือเปล่า
นรมนเป็นห่วงเจตต์กับขวัญตา จึงไม่อยากอาหาร แต่เมื่อเห็นบุริศร์เป็นห่วง เธอจึงฝืนทานสักเล็กน้อย
ตอนแรกคิดว่าจัดการเรื่องแทนธเนศพลเท่านั้น ใครจะไปคิดว่า เรื่องจะพัวพันไปถึงเจตต์ พนออยู่ไหนกันแน่
บุริศร์รู้ว่านรมนกังวล ตอนนี้ไม่มีวิธีไหน ทำให้นรมนสบายใจ เขาทำได้เพียงปลอบใจเธอ และให้เธอพักผ่อน
บุริศร์ไปที่ระเบียง และโทรหาธเนศพล
“มีอะไร”
ธเนศพลก็อารมณ์ไม่ค่อยดี
สิ่งที่น้ำพบเจอใน 2-3 ปีนี้ ทำให้เขาไม่สามารถเข้าใกล้ได้ อีกทั้งตอนนี้น้ำ ไม่มีความสุขและความมั่นใจเหมือนแต่ก่อน ราวกับมีฝุ่นหนาปกคลุมเธออยู่ เอาแต่เก็บตัว ไม่ยอมออกมา นี่ทำให้ธเนศพลจนปัญญา
การที่ชมพูเข้ามา ไม่ถึงกับทำให้ทั้งสองรู้สึกกระอักกระอ่วน และไม่คุ้นเคย แต่ธเนศพลรู้ว่าเขา ไม่ได้อยู่ในอนาคตของน้ำ
นี่ทำให้ธเนศพลใจสลาย และยิ่งทุกข์ทรมาน
ตอนนี้เขาอัดอั้นใจ การที่บุริศร์โทรมา กลับทำให้เขารู้สึกอยากระบายออกมา เพื่อทำให้สบายใจขึ้น
บุริศร์ฟังออกว่าน้ำเสียงของธเนศพลไม่ค่อยดี แต่เขาไม่ได้ใส่ใจ เพราะฝั่งเขาก็ทุกข์ใจมากเหมือนกัน เขาจึงพูดว่า “ฉันจะไว้ชีวิตเบิร์ด”
“เพราะอะไร”
ธเนศพลขมวดคิ้ว
ด้วยสถานะของเขา ไม่ฆ่าเบิร์ดกับมือ นี่ถือว่าเมตตาแล้ว ตอนนี้บุริศร์ยังมาพูดขอชีวิตเขาด้วย
“บางทีเขาอาจช่วยฉันหาเจตต์กับขวัญตาได้ ถึงขั้นที่อาจจะขุดคุ้ยได้ว่า ในตอนนั้นขวัญชนกรู้จักกับนิวัฒน์หรือเปล่า”
บุริศร์เล่าเรื่องเบิร์ดที่รู้มา ให้ธเนศพลฟัง
ธเนศพลขมวดคิ้ว
เขารู้ดีว่านิวัฒน์เป็นใคร เมื่อได้ยินว่าพัวพันกับคนนี้ เขาอดพูดอย่างโมโหไม่ได้ “หนีนิวัฒน์ไม่พ้นจริงๆ ไม่แน่เรื่องหมู่บ้านดารายน ในตอนนั้น เขาอาจพัวพันอยู่ด้วย ถึงไม่มีหลักฐาน แต่ฉันรู้สึกว่าเรื่องหมู่บ้านดารายน เรื่องสมชัย ฉัตรพล ต้องเกี่ยวข้องกับเขา ตอนนี้ไม่แน่ใจว่านภดลอยู่ไหน ไม่แน่เรื่องในห้องปฏิบัติการ อาจเป็นฝีมือเขาด้วย”
“เรื่องนี้เป็นการคาดเดาของนาย มีหลักฐานหรือเปล่า ถ้าไม่มีหลักฐาน ถึงหาเขาเจอ เราก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาซุ่มอยู่ที่ไหน ดังนั้นตอนนี้เบิร์ดคือคนที่เปิดเรื่องทั้งหมด ชีวิตเขาไม่มีค่า ถึง 2-3 ปีมานี้ทำไม่ดีต่อสองแม่ลูก แต่ยังไงเขาก็มีค่าอยู่ ไม่ใช่หรือไง”
คำพูดของบุริศร์ ทำให้ธเนศพลหดหู่ แต่ก็รู้ว่าเขาพูดจริง
“ไว้ชีวิตเขาได้ แต่อย่าให้ฉันเห็นหน้าเขา”
ธเนศพลอ่อนข้อให้มากแล้ว
“ได้”
ก่อนหน้านี้บุริศร์ไม่คาดหวังว่า ธเนศพลจะปล่อยเบิร์ด แต่คนอย่างบุริศร์ อยากปกป้องใครสักคน เขามีวิธีทำให้ธเนศพลไม่มีทางหาเจอได้
หลังคุยเสร็จ บุริศร์เดินกลับเข้ามาในห้อง เห็นนรมนนอนพิงเก้าอี้
ถึงได้รับการดูแลหลังคลอดลูก ร่างกายของนรมนดีขึ้น แต่การเดินทางก่อนหน้านี้ ทำให้ร่างกายเธออ่อนล้ามาก บวกกับเรื่องของขวัญตา พอเดาได้ว่าเธอสูญเสียพลังงานไปมาก
บุริศร์อุ้มเธอมาบนเตียง และห่มผ้าให้
ถึงนรมนหลับ แต่ก็ยังขมวดคิ้วอยู่
บุริศร์ถอนหายใจ และเอนตัวลงข้างเธอ ไม่ว่ายังไง เขาต้องรักษาพละกำลังของตัวเองเอาไว้ เคลื่อนไหวครั้งต่อไป จะได้ปกป้องนรมนได้
ทั้งสองหลับสนิท จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังจากข้างนอก บุริศร์ลืมตาขึ้นทันที ในห้องเต็มไปด้วยความมืด ตอนนี้ค่ำแล้ว
เขามองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้ตีสองแล้ว แต่นรมนที่นอนอยู่ข้างๆ ยังไม่ตื่น เธอคงจะเหนื่อยมาก
บุริศร์ย่องลงจากเตียง เขาเปิดประตูออกมาเห็นเบิร์ด
สีหน้าของเบิร์ดดูอ่อนเพลีย แต่ยังแอบมีความสุขเล็กน้อย ซึ่งเป็นความรู้สึกที่คาดเดาไม่ออก
เมื่อเห็นบุริศร์มองตัวเอง สีหน้า เบิร์ด แดงระเรื่อ เขาพูดเบาๆ ว่า “พนอกลับไปค่อนข้างดึก เพื่อไม่ให้เขาสงสัย ฉันก็เลยเฮฮาอยู่พักใหญ่ เลยทำให้เสียเวลา”
บุริศร์เริ่มไม่เข้าใจ เพราะเขาคือชายแท้ แต่ดูจากสีหน้าของเบิร์ด เขาจึงพอเดาอะไรได้
“แล้วตอนนี้พนออยู่ไหน”
“ฉันวางยาเขา เขาอยู่ในห้องพักที่บ่อนการพนัน ฉันมาที่นี่ เพื่อที่จะบอกนาย เพิ่มคนให้ฉันสองคน ฉันคนเดียว พาเขาออกมาไม่ได้”
คำพูดของเบิร์ดทำให้บุริศร์พยักหน้าเบาๆ
เขาให้บอดี้การ์ดสองคน ตามเบิร์ดไป
บุริศร์ก็นอนไม่หลับแล้ว
อันที่จริง เขาอยากตามไปด้วย แต่พอคิดว่าถ้าตัวเองตามไป หากเกิดอะไรกับนรมนขึ้นมา จะทำยังไง
หลังผ่านไปชั่วโมงกว่า เบิร์ดพาผู้ชายที่กำลังสลบกลับมา
บุริศร์มองแวบหนึ่ง จากนั้นจึงโทรหาอรรณพ เพื่อยืมสถานที่ เอาไว้ขังตัวพนอ
นรมนสะลึมสะลือ เธอโดนบุริศร์พาไปที่คฤหาสน์ส่วนตัวของอรรณพ
เบิร์ดรู้มาตลอดว่าบุริศร์เป็นคนเย็นชา แต่ไม่รู้ว่าบุริศร์เป็นคนเลือดเย็น
หลังจากเห็นบุริศร์พาพนอมาที่ห้องใต้ดิน ตอนที่เขาสั่งให้คนเอาแส้ตีพนอ เบิร์ดถึงกับสั่นไปทั้งตัว
เมื่อแส้ฟาดลงไป พนอร้องโอดครวญออกมาทันที และผิวหนังบนตัวเขาก็หลุดออกมาด้วย มันดูเจ็บปวดมาก
ถึงเบิร์ดไม่ได้เป็นคนโดน แต่เขาก็รู้สึกเสียววาบเข้าไปกระดูก
ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่า บุริศร์ไว้ชีวิตเขา ไม่แน่อาจพูดกันได้ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว บุริศร์ไม่ได้พูดกันได้ แต่เพราะบุริศร์ไม่ต้องการลงมือกับเขา ไม่งั้นตอนนี้เขาจะอยู่ในสภาพไหนก็ไม่รู้
เมื่อพนอตื่นเพราะความเจ็บ เขาถึงรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และก่นด่าออกมา
“ไอ้เลวนั่นกล้าทำร้ายฉันเหรอ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”
“ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าแกเป็นคนของใคร”
ก่อนหน้านี้บุริศร์หลบอยู่ตรงมุมมืด พนอจึงมองไม่เห็น เมื่อได้ยินเสียงโอ้อวดของพนอ เขาจึงก้าวขึ้นมาข้างหน้า แววตาอันเย็นยะเยือกกับสีหน้าอันเย่อหยิ่ง ทำให้พนออึ้งไป
ถึงเป็นเพียงวินาทีเดียว บุริศร์สามารถเห็นความปกติในแววตาของพนอ
พนอรู้จักเขา
เป็นไปตามคาด!
บุริศร์ถามอย่างเยือกเย็น “แกเป็นคนของใคร”
เห็นแววตาของพนอหมุนไปมา ดูก็รู้ว่าเขาเป็นคนเจนโลก
บุริศร์ไม่อยากเสียเวลาพูดกับเขา จึงใช้สายตา บอกให้ลูกน้องฟาดแส้ใส่พนออีก
“อ๊าก!”
พนอเจ็บจนร้องออกมาอีกครั้ง เสียงของเขาดังสนั่น
เบิร์ดรีบหดตัวให้เล็กที่สุด ทำเหมือนตัวเองไร้ตัวตน เขาแทบอยากจะหนี แต่เขารู้ว่า ถ้าบุริศร์ไม่อนุญาต เขาก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น
เดิมทีพนอคิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง แต่เมื่อโดนฟาด 5-6 ครั้ง เขารู้สึกเหมือนวิญญาณถูกกระชากออกจากร่าง เขาเจ็บจนตัวสั่น และร้องขอชีวิต
“อย่าตี! ฉันบอกแล้ว ยังไม่พอใจหรือไง”
ขณะที่พูด จู่ๆ บุริศร์ก้าวขึ้นมา และตบจนพนอสลบ
เบิร์ดกับคนอื่นถึงกับอึ้ง
บุริศร์อยากรู้คนที่อยู่เบื้องหลังพนอไม่ใช่เหรอ ทำไมพอพนอจะพูด เขาถึงตบพนอจนสลบล่ะ
แววตาของบุริศร์เย็นยะเยือก
“เฝ้าเขาให้ดี ต้องมีคนเฝ้า 24 ชั่วโมง ไม่งั้นพวกแกก็ผลัดเวรกันสามเวลา ถ้าเขาตาย ฉันจะถามพวกแก”
น้ำเสียงของบุริศร์เย็นชามาก คนพวกนั้นรีบเอาจริงเอาจังขึ้นมาทันที
เบิร์ดไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นบุริศร์กำลังจะเดินออกไป เขารีบถามว่า “ประธานบุริศร์ แล้วฉันล่ะ”
“รอที่นี่ ถ้าพนอตาย ฉันจะให้นายตายตามไปด้วย”
น้ำเสียงของบุริศร์เย็นชามาก จนทำให้เบิร์ดตกใจจนหน้าซีด เขาไม่สงสัยเลยว่าบุริศร์พูดจริงหรือไม่
หลังออกมาจากห้องใต้ดิน นรมนเห็นสีหน้าเขาไม่สู้ดี จึงเดินเข้ามาถามว่า “มีอะไรเหรอ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า พนอไม่ยอมพูดเหรอ”
“เปล่า ไว้กลับไปคุยกันที่ห้อง”
บุริศร์จูงมือนรมนเข้ามาในห้องนอน จากนั้นจึงโทรหามิลินเป็นอันดับแรก
“รีบให้ชัยยศจัดเฮลิคอปเตอร์ พาเธอมาส่งที่นี่ ฝั่งนี้มีปัญหา”
มิลินก็ไม่กล้าซักถามอะไร และรีบไปจัดการทันที
หลังบุริศร์วางสาย สีหน้าของเขายังคงกังวล
น้อยมากที่นรมนจะเห็นเขาเป็นแบบนี้ เธอจึงรินน้ำอุ่นใส่แก้ว แล้วยื่นให้เขา
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ สีหน้าของนายดูเป็นกังวล”
บุริศร์ดื่มน้ำในแก้ว จากนั้นจึงมองนรมน แล้วพูดว่า “พนอโดนหนอนกู่ ตอนที่เขาบอกว่าจะพูด ผมเห็นส่วนใต้ผิวหนังของเขา มีเส้นสีแดงกำลังขยับ ดังนั้นผมจึงไม่กล้าให้เขาพูด รอให้มิลินมาดูอาการก่อน ถ้าเป็นไปได้ เอาหนอนกู่ออกจากร่างกายเขาก่อน แล้วค่อยถามเขา ไม่งั้นก็เหมือนคนตาย ทำอะไรไม่ได้”
ตอนนี้นรมนอึ้งไป
ถึงพวกยาพิษ หนอนกู่จะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเธอ แต่ของแบบนี้ เป็นของหมู่บ้านดารายนไม่ใช่เหรอ คนที่มีความสามารถในเรื่องพวกนี้ มีน้อยมากไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงรู้สึกว่ามีคนรู้จักเรื่องพวกนี้เต็มไปหมดเลยล่ะ
หรือเธอเข้าใจผิดไปเอง
บุริศร์เห็นท่าทีของนรมนในตอนนี้ เขารู้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาอดไม่ได้ จึงยื่นนิ้วไปสัมผัสตรงจมูกเธอ จากนั้นจึงยิ้มอย่างเอ็นดู แล้วพูดว่า “ไม่ว่าตอนไหน คนที่ใช้พวกยาพิษ หนอนกู่ มีน้อยมาก คุณไม่ต้องกังวลขนาดนั้น เรื่องพวกนี้ต้องเรียนรู้ทั้งชีวิต บางคนทั้งชีวิตก็ทำไม่ได้ เพราะในร่างกายผมมีพิษกู่ทองคำ จึงสามารถเห็นของพวกนั้นได้”
นรมนไม่ได้รู้สึกดีขึ้น เพราะคำพูดของบุริศร์ เธอขมวดคิ้วแน่น
“เป็นไปได้ไหมว่าพนออาจเกี่ยวข้องกับพวกยาพิษ หนอนกู่ของตระกูลปวนะฤทธิ์”