แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1563 ฉันว่านายอยากตายจริงๆ
“มิลิน!”
บุริศร์เห็นสถานการณ์ก็ขมวดคิ้วทันที
มิลินรอคำสั่งอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา ตอนนี้เธอเห็น พนอ เธอถึงกับหน้าซีดเผือด และรีบเข้าไปทันที
นรมนมองไม่ชัดว่ามิลินทำอะไร เพราะเร็วมาก เธอเห็นมิลินเปิดกล่อง ในนั้นมีหนอนสีขาว เธอรีบเอายัดเข้าไปในปากพนอ และบังคับให้เขากลืนลงไป
ไม่นานพนอหายชัก แต่ร่างกายของเขาอ่อนแอมาก เหงื่อไหลออกมาเต็มไปหมด เหมือนเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ
ถึงไม่มีใครพูดอะไร แต่พนอรู้ว่ามิลินช่วยชีวิตเขา และถ้าไม่ใช่เพราะบุริศร์สั่ง มิลินคงไม่สนใจความเป็นความตายของเขา ดังนั้นครั้งนี้พนอไม่รอให้บุริศร์ถาม เขาพูดว่า “ฉันกับอรอุรชาถูกคนชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก อันที่จริงเราไม่ใช่พี่น้องกัน แต่ถ้ามีความเกี่ยวข้องกัน จะทำอะไรได้สะดวก จึงเป็นพี่น้องกัน อันที่จริงเราสองคนเป็นเด็กกำพร้า ถูกรับไปเลี้ยงตั้งแต่เด็ก”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ พนอยิ้มอย่างทุกข์ระทม
“ตอนเพิ่งถูกรับไปเลี้ยง เรายังเป็นเด็ก เพราะอยู่อย่างอดยากในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จู่ๆ ได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ได้กินของดีๆ ทุกวัน แถมยังมีเสื้อผ้าใหม่ พวกเราดีใจมาก ในขณะเดียวกัน คนที่ถูกรับมาเลี้ยง ไม่ได้มีแค่เราสองคน ยังมีอีกหลายคน เรากินนอนอยู่ด้วยกันทุกวัน ถูกสอนเรื่องบางส่วน แต่สำหรับพวกเราเหมือนอยู่บนสวรรค์ เหมือนไม่ใช่ความจริง ตอนแรกพวกเราไม่กล้านอน เพราะกลัวลืมตาขึ้นมา จะเป็นเพียงความฝัน แต่เมื่อผ่านไปประมาณหนึ่งปี พวกเราเริ่มคุ้นชิน และปรับตัวได้ ฉันพบว่าคนรอบข้าง เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ”
พนอพยายามนึกย้อนไปตอนนั้น สีหน้าของเขาดูเพ้อฝัน
“เด็กที่อยู่กับฉันมีทั้งโตกว่าและเด็กกว่า อรอุรชาเด็กที่สุด แต่เธอก็ได้อยู่กับฉัน และถูกพามาที่เมืองชลธี ออกจากบ้านหลังใหญ่หลังนั้น ตอนแรกเราตื่นเต้นมาก เพราะข้างนอกช่างกว้างใหญ่ แต่พวกเราไม่รู้ว่าสิ่งที่รอพวกเราอยู่คืออะไร ก่อนออกมา เราเห็นคนที่รับเลี้ยงเรา”
“คนที่รับเลี้ยงพวกนาย หน้าตาเป็นยังไง”
บุริศร์รู้ว่านี่คือสิ่งสำคัญ
พนอส่ายหน้า แล้วพูดว่า “ไม่รู้ เขาใส่หน้ากาก เรามองไม่เห็น แต่เสียงเขาแหบมาก น่าจะไม่ใช่คนอายุน้อย เขาให้คนเอากล่องหนอนมา และบอกเราว่าเป็นอาหารเสริม ให้เราดื่มไป ตอนนั้นเราจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าสิ่งนี้จะทำให้ชีวิตเราทุกข์ทรมาน”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ พนออดหัวเราะอย่างทุกข์ทะรมไม่ได้
“ฉันยังจำได้ ตอนที่อรอุรชาเห็นหนอนหลายสี เธอตกใจจนร้องไห้โฮ แต่ก็โดนบังคับให้ดื่มไข่หนอนลงไป ถึงอยากอ้วก แต่ตอนนั้นเราไม่รู้สึกอะไร จนกระทั่งอรอุรชาเจอเจตต์ ตอนเธออยากอยู่กับเจตต์ เธอเริ่มแอบทำอะไรลับหลังเจ้านาย ถึงขนาดที่เหิมเกริม สุดท้าย……”
จู่ๆ พนอไม่สามารถพูดต่อได้ สีหน้าเขาซีดเผือดจนไร้เลือดฝาด แต่แววตาดูหวาดกลัว เหมือนเจอเรื่องน่ากลัวอะไรทำนองนั้น
นรมนรู้ว่าอรอุรชาตายแล้ว แต่ตายยังไง เธอแทบจะจำไม่ได้แล้ว และไม่ได้สนใจด้วย แต่เมื่อเห็นท่าทางของพนอ เธอเริ่มคาดเดาอะไรบางอย่าง
“การตายของอรอุรชา เป็นฝีมือของคนที่พวกนายเรียกว่าเจ้านายเหรอ”
“ใช่ พูดให้ถูกก็คือ เขาจัดการด้วยหนอนกู่ในตัวเรา ฉันไม่รู้ว่าเจ้านาย ให้ใครวางหนอนกู่ใส่อรอุรชาตอนไหน แต่อรอุรชาตายอย่างน่าเวทนาจริงๆ ไม่ว่ายังไงเราก็เป็นลูกที่เขาเลี้ยงดูมานาน แต่ชีวิตของเราไม่มีค่า ออกมาจากบ้านหลังใหญ่หลายปี พวกเราต้องทำตามคำสั่งทุกครั้ง ถ้าไม่มีคำสั่ง พวกเราสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แต่ถ้ามีคำสั่ง ไม่ว่าพวกเราจะทำอะไรอยู่ ต้องรีบทำตามคำสั่งทันที คนรอบกายเราไม่เพียงแค่อรอุรชา ที่ตายหลังจากโดนทรยศ มีคนอีกมากมายต้องตาย ฉันจึงกลัวมาก”
พนอไม่รู้ว่าเพราะกลัวหรือหนาว เขาหดมือเข้าไปในแขนเสื้อ สีหน้าดูหวาดกลัว จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“อันที่จริง ใครไม่อยากมีชีวิตของตัวเองบ้างล่ะ เดิมทีฉันมีแฟนคนหนึ่ง เตรียมจะแต่งงานกัน แต่เพราะเธอรู้เรื่องของฉัน เลยโดนพวกเขาฆ่าปิดปาก ตอนนั้นแฟนฉันตั้งท้องลูกฉันด้วย ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันไม่สามารถเลือกอะไรได้ อีกทั้งยังต้องอะไรทำนองนั้นกับเพศเดียวกัน อันที่จริงฉันเป็นชายแท้! แต่เพราะต้องไปคลุกคลีกับคนพวกนั้น ฉันเลยต้องทำเหมือนพวกเขา ฉันไม่อยากทำสักนิด! แต่ไม่มีใครสนใจความเป็นความตาย และความเต็มใจของฉัน พวกเขาต้องการแค่ข้อมูล ผลสุดท้าย เมื่อเวลาผ่านไป ฉันก็ปล่อยวาง ผู้หญิงผู้ชายแล้วจะทำไม เพราะฉันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ว่าจะไม่สามารถแต่งงานมีลูกได้ทั้งชีวิต งั้นใช้ชีวิตแบบไม่ต้องสนใจ ก็ไม่เห็นว่าจะไม่ดี หลังจากอรอุรชาตาย ฉันรู้ว่าตัวเองอาจเป็นอรอุรชาคนต่อไป”
บุริศร์เห็นเขาสะเทือนใจ บุริศร์ไม่อยากขัดเขา แต่ถ้าให้เขาพูดยื้อแบบนี้ต่อไป พวกเขาไม่มีเวลาอยู่กับเขาที่นี่มากสักเท่าไร
“เรื่องตระกูลธีรกุลภักดีเมื่อแปดปีก่อน ทวีคือใคร อย่าบอกฉันว่านายไม่รู้”
เมื่อพนอได้ยินชื่อทวี เขาอึ้งเล็กน้อย และรีบก้มหน้าทันที
“ฉันไม่รู้จริงๆ”
“ฉันว่านายอยากตายจริงๆ”
บุริศร์ไม่ได้มีความอดทน เขามองไปยังมิลิน เธอเดินเข้าไปหาพนอ เขาตกใจจนกรีดร้องออกมา
“เธออย่าเข้ามานะ! ฉันไม่รู้จริงๆ!ทวีไม่เหมือนกับเรา เขาอยู่คนละระดับกับเรา จากฐานะของฉันไม่สามารถรู้ว่าเขาเป็นใคร เมื่อแปดปีก่อน เขามาเจอฉันอย่างกะทันหัน ให้ฉันหาโอกาสให้พ่อของเบิร์ดรู้เรื่องเส้นทางการเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์ หน้าที่ของฉันก็คือ ใช้มิตรภาพระหว่างฉันกับเบิร์ด บอกเรื่องนี้กับพวกเขาเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ฉันไม่รู้”
พนอตัวสั่นงันงก รู้ได้เลยว่าเขาพูดจริง ส่วนเพื่อนสนิทอย่าง เบิร์ดที่เขาพูดถึง คงเป็นเพลย์บอยที่เที่ยวเล่นกับเขา
“คนนั้นชื่ออะไร นายบอกเขาเรื่องเส้นทางการเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์ยังไง”
“ชื่ออะไรฉันจำไม่ได้แล้ว คนนั้นชอบผู้ชาย ฉันแค่มีความสัมพันธ์แบบนั้นกับเขา ก็สามารถรู้ได้ง่ายๆ ตอนนั้นเขาบอกว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งบริเวณทะเล มีโจรสลัด มักจะปล้นเรือ ทำให้ไม่สามารถเอาสินค้าของพวกเขากลับมาได้ ดังนั้นฉันเลยใช้โอกาสพูดว่า ตระกูลปวนะฤทธิ์เชี่ยวชาญด้านเส้นทางการเดินเรือไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ติดต่อตระกูลปวนะฤทธิ์ล่ะ เรื่องมันก็กลายเป็นแบบนี้”
เมื่อได้ยินที่ พนอพูด นรมนถึงกับสันสน
โจรสลัดงั้นเหรอ
นี่มันไม่มีเหตุผลเลยไม่ใช่หรือไง