แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1566 คุณนายบุริศร์มาแล้ว
กานต์ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ตอนเขากำลังจะเอ่ยปากพูด แต่โดนสายตาของนรมนห้ามไว้ก่อน
บอดี้การ์ดข้างนอกไม่ทำอะไรเลย แค่เห็นว่าคนใช้คนนี้เข้ามาแบบเงียบๆ ก็รู้ว่าพวกเขาคงชนะยากแล้ว ถึงกานต์กับเธอ พอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่นรมนไม่กล้าผลีผลาม ยิ่งไปกว่านั้น นรมนไม่รู้ว่าบุริศร์ออกไป จะเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้จึงทำได้เพียงนิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว
คนใช้โดนนรมนถาม เธอชะงักไป และก้มหน้าต่ำลงอีก
“ฉันเพิ่งมาค่ะ”
เสียงของอีกฝ่ายแหบพร่า ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเสียงเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
นรมนใช้มือข้างหนึ่งจับมือกานต์ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “พูดมาตรงๆ เถอะ คนของฉันที่อยู่ข้างนอก เป็นอะไร”
คนใช้ถึงกับอึ้ง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองนรมน แววตาของเธอแฝงไปด้วยความชื่นชม
ตอนนี้นรมนเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดเจน หน้าตาธรรมดา หาได้ทั่วไปตามท้องถนน เป็นคนที่ไม่ได้โดดเด่น แต่แววตาของเธอดูเหม่อลอย
“ทำไม คำถามนี้ตอบยากเหรอ”
เสียงของนรมนเบาลง
“เปล่าค่ะ พวกเขาสลบหมดแล้ว”
คนใช้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รีบตอบทันที และไม่ได้ทำอะไร บางทีในสายตาของเธอ นรมนกับกานต์เป็นแค่ผู้หญิงและเด็กคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ถ้าพวกเขาสืบเรื่องนรมน น่าจะรู้ถึงฝีมือของนรมน เพราะฉะนั้นการที่คนใช้นิ่งขนาดนี้ แสดงว่าที่นี่โดนล้อมเอาไว้หมดแล้ว
นรมนรีบครุ่นคิดในใจ จากนั้นจึงพูดว่า “พวกเธอมาหาฉันทำไม อย่าทำร้ายลูกชายฉัน ฉันจะให้ความร่วมมือกับพวกเธอ”
คำพูดนี้ทำให้อีกฝ่ายชะงักไป
เพื่อแสดงความซื่อสัตย์ นรมนปิดเครื่องมือถือต่อหน้าคนใช้ ส่วนกานต์ก็ทำเช่นกัน แต่นิ้วของเขาขยับเบาๆ
คนใช้เห็นพวกเขาให้ความร่วมมือ จึงมีสีหน้าผ่อนคลาย
“เชิญไปกับเรา เจ้านายเราต้องการพบพวกคุณ”
ถึงไม่รู้ว่าเจ้านายพวกเขาคือใคร แต่นรมนมีลางสังหรณ์บางอย่าง พวกเขาน่าจะใกล้ความจริงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
กานต์ก็เชื่อฟังมาก เขาลุกขึ้นและเดินตามนรมนออกไป
ระหว่างทางที่เดินออกมา นรมนรู้สึกโชคดีที่ตัวเองไม่ลงมือทำอะไร บอดี้การ์ดในนี้สลบอยู่บนพื้น รวมถึงคนใช้ในครัวและในสวนด้วย
นรมนขมวดคิ้ว แล้วถามว่า “พวกเขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“ไม่ เจ้านายแค่อยากพบคุณนายบุริศร์ เขาไม่ทำเรื่องที่ทำให้คุณนายบุริศร์ไม่พอใจ แต่คุณนายบุริศร์ต้องให้ความร่วมมือด้วย”
นรมนไม่พูดอะไรอีก และอุ้มกานต์ขึ้นมา
กานต์ดิ้นเพื่อจะลง แต่โดนนรมนห้ามไว้
เมื่อออกจากคฤกหาสน์ รถผิดกฎหมายคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตู ตัวรถดูเป็นที่นิยม และยังผิดกฎหมายด้วย ถึงมีกล้องวิดีโอบันทึก แต่ก็ไม่สามารถหาเจ้าของรถได้ เห็นได้เลยว่าอีกฝ่ายเตรียมตัวมาดีมาก
นรมนอดเป็นห่วงบุริศร์ไม่ได้ ไม่รู้ว่าการไปช่วยเจตต์ จะเป็นกับดักหรือเปล่า อีกทั้งตอนนี้ยังไม่มีเวลาบอกพวกเขาด้วย
ขณะนั้น มีคนส่งพัสดุขับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาจอดหน้าพวกเขา
“ขอโทษครับ ที่นี่มีคนชื่อคุณนรมนหรือเปล่า”
นรมนชะงักไป คนใช้ตื่นตระหนักทันที
เพื่อเป็นการไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ นรมนพูดว่า “ฉันเอง มีอะไรเหรอ”
“ลังนี้เป็นผลไม้ของคุณ รบกวนเซ็นชื่อด้วย”
ชายคนส่งพัสดุไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แค่รู้สึกว่าคนใช้ข้างหลังนรมน แววตาน่ากลัว แต่ที่นี่คือคฤหาสน์ คนรวยมีบอดี้การ์ด ไม่ใช่เรื่องแปลก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
นรมนหยิบปากกา และเซ็นชื่อต่อหน้าคนใช้ จากนั้นจึงพูดว่า “วางไว้หน้าประตู ฉันมีเรื่องด่วน ต้องออกไปข้างนอก เดี๋ยวกลับมาก็มีคนเอาเข้าไป”
“โอเคครับ”
ชายคนส่งพัสดุไม่ได้พูดอะไรอีก เซ็นเสร็จก็หมดหน้าที่ของเขา
เขาเอาผลไม้วางไว้หน้าประตู และออกไป
นรมนกับกานต์รู้ว่า นี่น่าจะเป็นผลไม้ที่กานต์ซื้อให้นรมน คิดไม่ถึงว่าจะเอามาส่งเวลานี้
คนใช้ขมวดคิ้ว กำลังจะเอาผลไม้ไป ได้ยินเสียงนรมนพูดว่า “ฉันแค่ซื้อผลไม้ คงไม่คิดว่าผลไม้แค่ลังเดียวจะขวางเธอได้หรอกนะ”
คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของคนใช้ไม่สู้ดี แต่เธอไม่ได้พูดอะไร เร่งให้กานต์กับนรมนขึ้นรถ
หลังจากพวกเขาขึ้นรถ ทั้งสองโดนคนใช้ผ้าปิดตา นรมนรู้ว่าพวกเขากลัวเธอจะจำเส้นทาง เธออยากฟังเสียงบริเวณรอบๆ แต่คนขับรถกลับเปิดเพลงขึ้น ทำให้เสียงเพลงรบกวนเสียงต่างๆ นรมนกับกานต์จึงไม่มีสมาธิในการฟัง
รถเคลื่อนตัวไปประมาณชั่วโมงกว่า จากนั้นจึงหยุดลง นรมนกับกานต์ถูกพาตัวลงจากรถ และโดนคนพาเข้าไปในห้อง เดินไปสิบกว่านาทีจึงเข้ามาในห้อง ความอุ่นโถมเข้ามา ทำให้รู้สึกร้อนไปทั้งตัว
“เจ้านาย คุณนายบุริศร์มาแล้ว”
ขณะคนใช้พูด นรมนกับกานต์ถูกเปิดตา เมื่อตาเจอแสงอย่างกะทันหัน ทำให้พวกเขาปรับสายตาไม่ทัน ขณะนั้น มีคนค้นตัวกานต์จากด้านหลัง เครื่องมือติดตามตัวอันเล็กถูกค้นออกมา
“สมกับเป็นคุณชายน้อยของตระกูลโตเล็ก มีแผนการเสมอ!”
เสียงชายชราดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงล้อรถเข็นเสียดสีกับพื้น ชายแก่อายุประมาณเจ็ดสิบกว่าปี ถูกคนเข็นออกมา
กานต์ขมวดคิ้วเบาๆ นรมนใช้โอกาสสำรวจรอบๆ ห้อง
ที่นี่เป็นห้องแบบโบราณ สิ่งก่อสร้างสไตล์ยุคหลังราชวงศ์หมิงชิง อีกทั้งการตกแต่งที่นี่ล้วนเป็นของโบราณ แค่แก้วที่วางอยู่ข้างหน้า ก็เป็นแก้วสมัยปลายราชวงศ์ชิง เห็นได้ชัดว่าเจ้าของที่นี่เป็นคนมีฐานะ
เมื่อได้ยินเสียงคนแก่ นรมนเงยหน้าขึ้น เห็นคนแก่ท่าทางมีชีวิตชีวาอยู่ตรงหน้า หน้าตาดูคุ้นมาก
นรมนหรี่ตาลงเล็กน้อย
“คุณคือนิวัฒน์เหรอ”
เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่า คนที่เธอกับบุริศร์อยากเจอมาก จะโผล่มาตรงหน้าตัวเองตอนนี้
กานต์ตกใจจนสะดุ้ง
เขาเคยสืบเรื่องของนิวัฒน์ เขารู้ว่านิวัฒน์นั้นมีอำนาจ ตอนแรกคิดว่าโดนใครลักพาตัวมา จึงใช้ความสามารถของตัวเอง เพื่อแจ้งข่าวให้บุริศร์รู้ แต่เมื่อคนพวกนั้นเอาเครื่องมือติดตามออกจากตัวเขา กานต์รู้ทันทีว่าแผนการของเขาโดนจับได้แล้ว
นิวัฒน์หัวเราะแล้วมองนรมน แววตาของเขาดูมีเมตตา ถ้าไม่รู้เรื่องที่เขาทำ ดูเพียงภายนอก คงคิดว่าเป็นคนแก่ที่มีจิตใจเมตตา
กานต์ถามอย่างไม่เข้าใจ “ในเมื่อรู้ว่าในตัวผมมีเครื่องมือติดตาม ทำไมไม่เอาออกตั้งแต่อยู่บนรถล่ะ ไม่กลัวว่าผมจะส่งข้อมูลกลับไปเหรอ”