แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1569 นายกล้าทำร้ายฉันเหรอ
กานต์เห็นแล้ว แต่เขากลับไม่พูดอะไร
นรมนทานเสร็จ เธอไม่อยากมองหน้านิวัฒน์ เธอต้องการห้องเพื่อพักผ่อน
กานต์เข้าไปในห้องกับนรมน เมื่อปิดประตูลง ก็พบกล้องวิดีโอ เขาอดยกยิ้กมุมปากไม่ได้ จากนั้นเขายกมือขึ้น และพ่นหมากฝรั่งในปากไปบนเลนส์กล้อง เพื่อปิดบังภาพเอาไว้
นรมนเห็นเขาทำเช่นนั้น เธอไม่ได้ห้าม เพราะมาถึงที่นี่ ทำให้เธอได้อะไรบ้างแล้ว ได้เจอนิวัฒน์ตัวเป็นๆ
ทำไมเธอถึงแน่ใจว่าเป็นเขา อาจเป็นเพราะการรู้เอง แต่ความรู้สึกแบบนี้รุนแรงมาก
ความโกรธที่อยู่ในอก ไม่สามารถสงบลงได้ นรมนทำได้เพียงเทน้ำ และดื่มลงไป
กานต์ปกปิดการมองเห็นของกล้องบริเวณรอบๆ หมดแล้ว เขานั่งลงข้างนรมน แล้วพูดเบาๆ ว่า “หม่ามี้ มีแผนยังไง”
“ในเมื่อเจอนิวัฒน์แล้ว หม่ามี้ต้องรู้ให้ได้ว่าคุณยายกับผู้ชายคนนี้ มีบุญคุณความแค้นอะไรกัน ลูกพูดไม่ผิด ตอนที่เรามีประโยชน์ เขาไม่มีทางฆ่าเรา”
นรมนรู้สึกว่าน้ำสามารถทำให้เธอใจเย็นลงได้ และเทน้ำดื่มอีกแก้ว
กานต์เห็นคอมพิวเตอร์ในห้อง เขาเปิดคอม แต่พบว่าไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ เห็นได้ชัดว่ามันวางไว้เฉยๆ หรือไม่นิวัฒน์ก็จงใจวางไว้
นรมนเห็นกานต์มีท่าทีหมดหวัง เธอจึงพูดอย่างเจ็บปวดใจว่า “อย่าไปสนใจของพวกนั้นเลย เรื่องบางเรื่อง ถึงเขาไม่อยากให้เรารู้ แต่เราจะรู้เอง อีกอย่าง หม่ามี้เชื่อว่าแด๊ดดี้จะมาช่วยเรา”
“หม่ามี้หมายถึงผลไม้ลังนั้นเหรอ”
คำพูดของกานต์ ทำให้นรมนหัวเราะ แต่เธอไม่ตอบอะไร
ด้านบุริศร์ เขาพาคนมาที่ผับ ตามที่ได้วางแผนเอาไว้ล่วงหน้า ล่อทวีเข้ามา และจับเป็น
ทวีไม่คิดไม่ฝัน ว่าหลายปีมานี้ เขาจะตกอยู่ในมือพนอ ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ พนอคงโดนทวีสับเป็นหมื่นชิ้น
พนอตัวสั่นงันงก เขากลัวทวีมาก เมื่อคิดถึงว่าตัวเองเคยโดนคนตรงหน้าวางยาพิษ เขาตกใจจนเข่าอ่อน
บุริศร์ไม่สนใจว่าพนอกลัวหรือไม่ หลังจากคุมตัวทวีได้ เขาจึงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายเป็นอะไรกับนิวัฒน์”
“เกี่ยวอะไรกับนาย!”
ทวีดูเหี้ยมโหด ถึงอายุห้าหกสิบปีแล้ว แต่ใบหน้ายังดูดุดัน ดูเหมือนไม่ใช่คนดีอะไร
เบิร์ดเห็นเขาก็โกรธจนกัดฟันกรอด เพราะเขาโดนคนของบุริศร์จับตัวอยู่ จึงเข้าไปถีบหนึ่งที
“แปดปีก่อนแกทำลายตระกูลธีรกุลภักดีของเรา ทำให้ตระกูลเราไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก ต่อมายังสมคบคิดกับขวัญชนก บังคับให้น้ำแต่งงานกับฉัน หลายปีมานี้ พวกแกทำเรื่องเลวๆ ไปเพื่ออะไร”
ทวีใช้ชีวิตที่มีเกียรติมั่งคั่งและร่ำรวยจนเคยตัว ตอนนี้โดนเบิร์ดถีบ ถึงไม่เจ็บมาก แต่ทำให้เขาอับอายมาก จู่ๆ เขาโมโหขึ้นมา
“นายกล้าถีบฉันเหรอ ตระกูลธีรกุลภักดีกระจอกๆ อย่างนาย ตระกูลธีรกุลภักดีที่ย่อยยับ ยังกล้ามาทำร้ายฉัน! ฉันจะฆ่าพวกนายทั้งตระกูล!”
“นายกล้าขู่ฉันเหรอ ไอ้เวร!”
เลือดในตัวเบิร์ดพลุ่งพล่าน จู่ๆ เขาเตะทวีเหมือนคนบ้า บุริศร์ไม่ได้ห้ามเขา ความเกลียดชังและความคับข้องใจตลอดแปดปี เขาต้องระบายมันออกมา
พนอเห็นด้านแข็งแกร่งของ เบิร์ด เขาอดคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาของเราสองคนไม่ได้ จู่ๆ เขารู้สึกว่าก่อนหน้า ที่ได้รู้จักเบิร์ด เขาเหมือนภาพฝัน แต่ตอนนี้เบิร์ดกลับดูเหมือนคนแปลกหน้า
เขานึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองโดนบุริศร์จับตัวได้ยังไง เขาอดตกใจไม่ได้
เบิร์ดงั้นเหรอ
ไม่กี่ปีมานี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีมาก เขาคิดมาตลอดว่าเบิร์ดจริงใจกับเขา ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาคงคิดไปเอง
พนอมองเบิร์ด แต่เบิร์ดไม่รู้ตัว ตอนนี้เขาอยากฆ่าทวี ถ้าไม่ใช่เพราะทวีสามารถบอกอะไรได้ เขาคงฆ่าจริงๆ
หลังลงมือได้พักหนึ่ง เบิร์ดรู้สึกหอบ
บุริศร์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “พอแล้ว”
เบิร์ดยั้งมือ แต่แววตาเขา ฉายแววเคียดแค้น
ทวีใช้ชีวิตที่มีเกียรติมั่งคั่งและร่ำรวยจนเคยตัว ตอนนี้โดนเบิร์ดทั้งเตะทั้งต่อย จนปากแตก สีหน้าของเขาโหดเหี้ยม
บุริศร์ใช้ปลายเท้าเหยียบนิ้วมือเขา แล้วถามอย่างเย็นชา “เจตต์อยู่ไหน”
“ฝันไปเถอะว่าฉันจะบอกนาย”
ทวีเจ็บจนเกร็งไปทั้งตัว แต่เขาไม่ยอมปริปากพูด
บุริศร์แสยะยิ้ม และใช้แรงจนได้ยินเสียงเสียงกร๊อบ กระดูกนิ้วของทวีหัก
“อ๊าก!”
“ยังไม่บอกใช่ไหม ฉันมีเวลาเยอะ ไม่รีบหรอก นี่แค่นิ้วเดียวเอง เหลืออีกตั้งเก้านิ้ว เราค่อยๆ หักทีละนิ้ว”
บุริศร์พูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน เหมือนคุยเรื่องทั่วไปอย่างไรอย่างนั้น แต่ทวีกลับเหงื่อแตกพลั่ก
“นายกล้าทำกับฉันแบบนี้ พ่อฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่!”
“พ่อนาย นิวัฒน์งั้นเหรอ ดีเลย ฉันก็อยากเจอเขาเหมือนกัน ไม่รู้ว่านายสำคัญกับพ่อนายหรือเปล่า”
บุริศร์พูดกับเบิร์ดที่อยู่ข้างๆ ว่า “ฉันจะถามเขา ถ้าเขาไม่ตอบ หรือตอบไม่ตรงคำถาม นายหักนิ้วเขาทีละนิ้ว ทำได้ไหม”
“ทำได้”
เบิร์ดคิดเรื่องที่ตัวเองต้องเจอในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ล้วนเป็นเพราะทวี คิดถึงสถานการณ์ตอนนั้นกับตอนนี้ เขาจึงตัดสินใจได้
“ฉันถามอีกรอบ เจตต์อยู่ไหน”
บุริศร์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ทวีกลับโกรธมาก เขาตะโกนออกมาว่า “ฉันไม่บอกนายหรอก! มีปัญญาก็ฆ่าฉันสิ! อ๊าก!”
เมื่อเขาพูดจบ เบิร์ดหักนิ้วมือเขา บุริศร์อดมองสภาพอันน่าเวทนาไม่ได้
พนอยิ่งเห็นยิ่งตกใจ เขาถึงกับหายใจรุนแรง ขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนมีอะไรกัดกินหัวใจของเขา มันเจ็บขึ้นมาเป็นพักๆ
เมื่อบุริศร์ถามเป็นรอบที่สี่ ทวีทนไม่ไหวแล้ว เขารีบบอกสถานที่ขังเจตต์ บุริศร์ออกคำสั่งให้คนไปที่นั่น แต่พนอกรีดร้องออกมา แล้วนอนชักบนพื้น น้ำลายฟูมปาก เขาดูทรมานมาก
เบิร์ดตกใจ หน้าซีดเผือด แต่เขาตั้งสติได้รวดเร็ว และรีบไปจับตัวพนอ เพื่อให้คนของบุริศร์ออกไป
บุริศร์พูดตอนที่เดินผ่านเบิร์ดว่า “พิษกู่ที่อยู่ในร่างกายเขากำเริบ น่าจะไม่รอดแล้ว หาที่ฝังศพเขาซะ”
“ได้”
เบิร์ดตอบรับ สีหน้าเขาซีดเผือด เขามองลมหายใจสุดท้ายของพนอ จากนั้นจึงพาศพเขาออกไป
ส่วนบุริศร์มาถึงห้องที่ขังเจตต์เอาไว้ ข้างในมีเสียงร้องอย่างทุกข์ทรมานดังออกมาเบาๆ เสียงนั่นเหมือนเสียงของเจตต์
หรือว่าเจตต์โดนพวกเขาทำร้าย