แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1589 ไม่สามารถชะล่าใจได้
อันที่จริงนรมนกังวลเล็กน้อย ระหว่างทาง ไม่รู้นภดลฟื้นหรือยัง กานต์มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ปาณีเป็นยังไงบ้าง
บุริศร์ดูออกว่าเธอกังวลใจ เขากุมมือเธอเบาๆ แล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ถึงที่นี่แล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ”
“อืม”
นรมนพยักหน้า
เพื่อทำให้นรมนผ่อนคลายลง บุริศร์เอามือถือขึ้นมา หาเกมจากแอพ แล้วยื่นให้เธอ
“เล่นสิ”
“หา?”
เมื่อนรมนเห็นเกม เธอถึงกับพูดไม่ออก แต่เมื่อเห็นสายตารอคอยของบุริศร์ เธอจึงรับมา แล้วเริ่มเล่นเกมตาแรก
นรมนค่อยๆ ผ่อนคลายลง บุริศร์ยกยิ้มมุมปาก
หลังจากคนจำนวนหนึ่งถึงท่าเรือ เพราะองครักษ์สั่งเอาไว้ก่อน ทำให้ที่นี่ถูกกวาดล้างจนหมด
นรมนกับบุริศร์ลงจากรถ ลมทะเลค่อนข้างแรง บุริศร์เอาเสื้อนอกที่เตรียมไว้ คลุมบนตัวนรมน
นรมนไม่เห็นเรือเข้ามาเทียบท่า เธออดร้อนใจไม่ได้
“ไหนบอกว่าพวกเขาจะถึงแล้ว ทำไมยังไม่มาอีก”
“ใจเย็น เดี๋ยวก็มา”
บุริศร์ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ปัจจัยในทะเลมีมากมาย ไม่รู้คุณท่านขันธ์ชัย จะกำราบได้หรือเปล่า
ขณะที่ทั้งสองกำลังรอคอย ในที่สุดเจตต์กับขวัญตาก็เข้ามาที่ท่าเรือ
นี่เป็นครั้งแรก ที่นรมนเห็นเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์ ดูมีอำนาจมาก มีใบเรือที่แสดงถึงตระกูลปวนะฤทธิ์ แขวนอยู่บนเรือ มองแล้วดูน่าเกรงขามและน่ากลัว
“นรมน”
ขวัญตาเดินออกมาก่อน
เธอสวมชุดสีน้ำตาล แบบจีนโบราณ ดูมีสง่าราศีมาก
หลังจากหนอนกู่ในตัวเธอ ถูกกำจัดออก สีหน้าดูสดใสขึ้นมาก คนก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้น เหมือนขวัญตาคนเดิมกลับมาแล้ว
นรมนรีบวิ่งเข้าไปด้วยความดีใจ
เจตต์เดินออกมาจากข้างใน เขาเบะปาก เมื่อเห็นบุริศร์ และเดินตามหลังขวัญตาลงจากเรือ
“ร่างกายเป็นไงบ้าง”
นรมนถามอย่างกังวล
ขวัญตาหัวเราะ แล้วพูดว่า “ยังดีอยู่ ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายเบามาก ยอดเยี่ยมไปเลย”
“แต่อย่าชะล่าใจนะ เดี๋ยวกลับไปให้พี่ชายฉันตรวจดูด้วย”
นรมนเห็น จณัตว์ เหมือนกับหมอในตระกูล แค่ใครเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ก็จะให้จณัตว์มาตรวจเสมอ ไม่รู้ว่าหลังจากจณัตว์รู้ เขาจะรู้สึกอย่างไร
ขวัญตาพูดอย่างมีความสุขว่า “ได้ งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ ฉันอยากตรวจร่างกายพอดี วางแผนว่าจะมีลูกกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ”
“จริงเหรอ ดีสุดๆ ไปเลย”
นรมนดีใจแทนพวกเขา
เธอมองข้างหลังขวัญตา แล้วถามว่า “คุณลุงโยธินอยู่ข้างบนไหม ฉันต้องไปทักทายไหม”
“พ่อฉันไม่ได้มา ที่นี่ไม่เหมือนประเทศเรา มีบางเรื่องที่พ่อฉันไม่อยากเข้าร่วม ดังนั้นการเดินเรือครั้งนี้ ฉันเป็นคนดูแล ทำไมเหรอ ดูถูกฉันเหรอ ฉันจะบอกให้นะ ฉันเริ่มเดินเรือในทะเลตั้งแต่อายุสิบแปด ถ้าเกิดขับคนเดียว พวกเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันหรอก”
ขวัญตาพูดอย่างได้ใจ เจตต์ที่ยืนอยู่ด้านหลังหัวเราะ แล้วพูดว่า “พอแล้ว รู้แล้วว่าเก่ง รีบให้พวกนรมนขึ้นไปรับคนเถอะ ไม่เห็นเหรอว่านรมนร้อนใจจนเหงื่อออกแล้ว”
“ที่ไหนกันล่ะ”
นรมนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
อันที่จริง เธอเป็นห่วงพวกเขา
“วางใจเถอะ นภดลหลับอยู่ กานต์เมาเรือนิดหน่อย กินยาแล้วหลับไป มีแค่ปาณีที่เกิดเรื่อง”
คำพูดของขวัญตา ทำให้นรมนอึ้งไป
“เกิดเรื่องเหรอ เธอเป็นอะไร”
“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่เธอตื่นมาระหว่างทาง และโดดออกจากเรือ ตอนที่เราไม่ทันสังเกต ทะเลกว้างใหญ่ขนาดนี้ เราคิดว่าเธอจะเป็นอันตราย แต่หาอยู่นาน ดูจากท่าทางตอนที่เธอโดดลงจากเรือ เธอน่าจะมีความสามารถ”
เมื่อได้ยินที่ขวัญตาพูด นรมนหรี่ตาลงเล็กน้อย ในใจยังคงกังวล
“เธอว่ายน้ำได้ เคยฝึกพิเศษที่เกาะร้าง แต่ในทะเลอันกว้างใหญ่ ถึงจะว่ายน้ำเป็น ถ้าไม่สามารถเข้าฝั่งได้ ก็จะหมดแรง เมื่อถึงตอนนั้น กลัวว่าจะเป็นอันตราย”
ขวัญตารู้ว่านรมนเป็นกังวล เธอถอนหายใจแล้วพูดว่า “เราคำนึงถึงปัญหานี้ เลยหยุดเรือ ให้กลุ่มคนลงไปหา แต่หาอยู่สองชั่วโมง ก็ไม่มีข่าว บนเรือยังมีนภดลกับกานต์ เราเสี่ยงอันตรายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องกลับมาก่อน”
เมื่อได้ยินขวัญตาพูดเช่นนี้ นรมนจึงไม่สามารถตำหนิได้ อันที่จริง ขวัญตาทำดีที่สุดแล้ว
บุริศร์ขึ้นมาบนเรือ ตอนที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ เขากับเจตต์แบกนภดลขึ้นมา
นภดลหน้าซีดมาก ซีดจนเห็นเส้นเลือดสีเขียว
นรมนเห็นท่าทางอ่อนเพลียของเขา ไม่รู้หลังจากเขาฟื้นขึ้นมา แล้วรู้เรื่องที่ปาณีทำทั้งหมด เขาจะรู้สึกอย่างไร
แท้จริงแล้ว ความรักของทุกคนไม่ได้ราบรื่น
นรมนรู้สึกหดหู่ใจ และเดินตามขวัญตาขึ้นไปบนเรือ เพื่ออุ้มกานต์ ที่อ้วกจนมึนหัวลงจากเรือ
ตอนนี้เจ้าเด็กนี่ไร้เรี่ยวแรง หน้าซีดเล็กน้อย และกำลังหลับอยู่ ดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กนี่จะเมาเรือ ดังนั้นเราจึงตกใจมาก ยังดีที่เตรียมยาแก้เมาเรือเอาไว้ ให้เขากินไปสองสามเม็ด แต่มันทำได้เพียงบรรเทาอาการเท่านั้น จากนั้นจึงนอน จนถึงตอนนี้ เดี๋ยวให้คนตรวจดูอาการเขาหน่อย อย่าให้เกิดภาวะขาดน้ำ”
ขวัญตาเคยเจอแบบนี้ จึงรู้ว่ากานต์แค่เมาเรือเท่านั้น
“โอเค”
นรมนอุ้มกานต์ลงจากเรือ เจตต์กับขวัญตาไม่ได้เดินตามลงมา ทำให้นรมนอึ้งเล็กน้อย
“ไม่ลงมาด้วยกันเหรอ”
เจตต์ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “พ่อตาฉันสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ฉันกับขวัญตากะว่าจะกลับไปดูแล พวกเธออยู่เที่ยวที่นี่เถอะ ถ้าพ่อตาฉันอาการดีขึ้น ฉันค่อยแวะมาหาละกัน”
“คุณลุงโยธินเป็นอะไร หรือว่านิวัฒน์……”
เมื่อนึกถึงพวกคนใช้ตระกูลปวนะฤทธิ์ นรมนอดกังวลขึ้นมาไม่ได้
ขวัญตารีบพูดว่า “เปล่า โรคเก่าพ่อฉันกำเริบน่ะ อยู่บนทะเลเป็นเวลานาน พ่อฉันเป็นโรครูมาตอยด์ อาการรุนแรง ครั้งนี้อาการกำเริบ ปวดไปทั้งตัว ยังดีที่ประเทศข้างๆ มีหมอชื่อดัง ว่ากันว่าเชี่ยวชาญด้านโรครูมาตอยด์ ดังนั้นเรากะว่าจะพาพ่อไปให้เขาดูอาการ ถ้าบนเรือไม่มีพวกนภดล เราอาจไปจอดเทียบท่าที่นู่นเลย”
ขวัญตาสามารถพูดกับนรมนได้ทุกเรื่อง
ได้ยินพวกเขาพูดเช่นนี้ นรมนจึงไม่รั้งไว้ และกำชับให้พวกเขาระมัดระวังตัว
เจตต์กับขวัญตาพยักหน้า และหันใบเรือ เพื่อออกเรือ
จู่ๆ นรมนรู้สึกเจ็บปวด เธอรู้ว่าหลังจากทุกคนแต่งงาน มักมีที่พึ่งพาอาศัยได้ และมีคนให้ตัวเองกังวลใจ แต่คุณท่านขันธ์ชัย แค่โรครูมาตอยด์กำเริบจริงเหรอ ถ้าใช่จริง ทำไมประเทศข้างๆ ถึงบังเอิญมีหมอชื่อดังอยู่ด้วยล่ะ