แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1610 นายพยายามจะทำอะไรกับฉันกันแน่
“คมทิพย์!”
ถึงแม้จะรู้ว่ายานั้นไม่เป็นอันตรายต่อคมทิพย์ แต่เห็นเหตุการณ์อันน่าตกใจแบบนี้ นรมนก็ยังกลัวจนหน้าซีดไปหมด
คมทิพย์โบกมือ สีหน้าซีดเซียวน่ากลัว นั่งขึ้นมาด้วยตัวเอง
ตอนนี้ในใจเธอไม่แน่ใจว่ารู้สึกอย่างไร จะบอกว่ามีความสุข มีความตื่นเต้น และมีความปวดใจรู้สึกแย่ที่พูดไม่ออกอีกด้วย
ถ้าพฤกษ์ไม่ทำเช่นนั้น ตอนนี้เธอบอกเขาว่าตัวเองเป็นแม่คนได้แล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะดีใจขนาดไหน แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องพูดแล้ว
นรมนก็ไม่พูดอะไรอีก อยู่กับคมทิพย์เงียบๆ
ผ่านไปนานมาก คมทิพย์ก็พูดเสียงทุ้มขึ้นมา “นรมน ฉันอยากออกไปเดินเล่น”
“ฉันจะไปกับเธอ”
“ฉันอยากออกไปเดินคนเดียว ให้รถฉันคันหนึ่งได้ไหม? ฉันเห็นในโรงรถมีรถสปอร์ต”
คำพูดของคมทิพย์ทำให้นรมนค่อนข้างตกตะลึง แต่นึกถึงอารมณ์ของคมทิพย์ในตอนนี้ เธอก็พยักหน้า
“เธอต้องระวังตัวนะ มีอะไรก็แจ้งฉันได้ทุกเมื่อ”
“ได้”
คมทิพย์พยักหน้า
นรมนหารถสปอร์ตที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี ความปลอดภัยค่อนข้างสูงให้กับคมทิพย์
คมทิพย์รับกุญแจรถมาแล้วออกไป
รถของเธอขับเร็วมาก บนถนนหลวงยังมีความยับยั้งชั่งใจ แต่เมื่อออกจากเขตเมืองไป เธอก็ขับตรงไปที่เขตชานเมือง
ถ้ามองอย่างละเอียดรอบคอบ จะเห็นได้ว่าตำแหน่งในโทรศัพท์เธอกำลังเคลื่อนที่ เห็นได้ชัดว่ามีคนให้ตำแหน่งสถานที่กับเธอ เธอถึงได้รู้สถานที่
คมทิพย์ขับรถมาถึงชานเมืองทางตอนใต้ ที่นี่ขบวนรถกำลังแข่งกันอยู่พอดี
เธอสะบัดจอดรถอย่างสวยงาม จากนั้นก็เดินลงมา
รถคันหนึ่งไล่ตามอีกคัน ไล่ล่ากันอย่างจริงจัง
คมทิพย์ได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถสปอร์ต ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ไม่นานนัก ชายคนหนึ่งสวมชุดแข่งรถ สวมหมวกนิรภัยก็เดินมา
“ขับสักรอบไหม?”
“ฉันขับไม่เป็น”
คมทิพย์ปฏิเสธทันที
“นั่งข้างฉัน ฉันจะพาคุณขับสักรอบ มันตื่นเต้นมากนะ รับประกันว่าความหงุดหงิดต่างๆ ของคุณจะหายไปหมด”
เสียงชายคนนั้นมีมนต์สะกดเล็กน้อย
คมทิพย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ยังขึ้นรถชายคนนั้นไป
รถสตาร์ตแล้ว เสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังกึกก้อง ทำให้ปรับตัวไม่ค่อยได้ แต่ขณะที่รถขับแล่นขึ้นมา คมทิพย์เหมือนรู้สึกว่าวิญญาณทั้งร่างกำลังแผดเผา กำลังไล่ลา
ความรู้สึกสายลมไล่ล่านั้นมันตื่นเต้นและรุนแรง ทำให้เธอประหม่า หวาดกลัวในชั่วขณะหนึ่ง กำที่จับข้างๆ โดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ได้กรีดร้องแบบผู้หญิงคนอื่น
ผู้ชายมองออกว่าที่จริงแล้วคมทิพย์ตึงเครียดมาก เขาตะเบ็งออกไป “ที่นี่ไม่มีใครรู้จักคุณ ถ้ากลัวก็ตะโกนออกมา ตะโกนจนหมดเรี่ยวแรงถึงจะมีความรู้สึก”
เมื่อตอนเริ่มต้น คมทิพย์ไม่ค่อยเปิดใจ แต่เมื่อรถยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายคมทิพย์ก็ทนไม่ไหวกรีดร้องขึ้นมา
เสียงแสบแก้วหูดังก้องในรถ แล้วหายไปกับสายลมอีกครั้ง
มุมปากชายคนนั้นยกขึ้นเล็กน้อย ความเร็วของรถไม่ได้ลดลงสักนิด
ขับไปสองรอบ ทั้งร่างคมทิพย์ก็หมดแรง
เธอถูกผู้ชายคนนั้นประคองลงมา จากนั้นก็นอนหายใจหอบอยู่บนเนินข้างๆ ตามใจชอบ บนใบหน้าไม่รู้เป็นน้ำตาหรือว่าเหงื่อ
เป็นครั้งแรกที่ได้ระบายออกมาอย่างสบายใจหลังจากเกิดเรื่องกับพฤกษ์ ถึงจะเหนื่อยล้า แต่มันสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ความรู้สึกทั้งร่างถูกปิดกั้นมันถูกระบายออกมาหมดแล้ว
ผู้ชายคนนั้นถอดหมวกนิรภัย เผยใบหน้าเด็กอันหล่อเหลา
“เฮ้ ยังไงคุณก็เป็นดาราดัง นอนไม่มีภาพลักษณ์อยู่ตรงนี้ ไม่กลัวโดนพาดหัวข่าวเหรอ?”
“นายบอกว่าที่นี่ไม่มีใครรู้จักฉันไม่ใช่เหรอ?”
แม้แต่เรี่ยวแรงมองเขาคมทิพย์ยังไม่มีเลย
ผู้ชายคนนั้นหัวเราะคิกคัก
“ฉันพูดไปคุณก็เชื่อเหรอ? ฉันว่าทำไมผู้หญิงอย่างคุณถึงได้เชื่อคนอื่นง่ายแบบนี้ล่ะ? ทุกคนพูดว่าพลาดไปครั้งหนึ่ง ก็ฉลาดขึ้นมา งูกัดครั้งเดียวกลัวเชือกไปสิบปี แต่ทำไมคุณเอาแต่พลาดแต่ไม่รู้จักเอาชนะมันล่ะ?”
“ออกไปซะ!”
คมทิพย์กลอกตา แล้วหลับตาลง
แสงอาทิตย์ที่นี่กำลังดี อาบแดดบนร่างกายอบอุ่น ราวกับปัดเป่าสิ่งที่มืดมนที่สุดในก้นบึ้งหัวใจคนได้ และทำให้พลังงานลบเหล่านั้นมันเหือดแห้งได้
ผู้ชายคนนั้นไม่สนในคำพูดเธอ นอนลงข้างๆ เธอทันที ดึงหญ้าหนึ่งเส้นมาคาบไว้ในปาก สองมือพาดไว้หลังศีรษะ ดวงตาคู่สวยมองตรงไปที่ท้องฟ้าและเมฆสีขาว
ทั้งคู่ไม่มีใครพูด
ผ่านไปสักพัก แรงคมทิพย์ก็กลับมาแล้ว เธอหันศีรษะไปมองชายที่ไม่แยแสข้างๆ แล้วพูดเสียงทุ้ม “ขอบคุณนะ”
“หืม?”
ผู้ชายคนนั้นตกตะลึงเล็กน้อย แววตาประหลาดใจมองไปที่คมทิพย์
คมทิพย์ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ขอบคุณที่ช่วยฉัน”
“ฉันไม่ได้ช่วยคุณ ฉันแค่หาหนูทดลองฟรีๆ ยาประเภทนี้รักษาด้วยวิธีลับโบราณ ฉันกลัวตาย แน่นอนว่าต้องการให้คนอื่นมาช่วยฉันลองยา นอกจากคนโง่อย่างคุณ ก็ไม่มีใครกล้าลอง ตอนนี้คุณกินยานี้ไปหนึ่งเดือนแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง? ฉันเห็นสีหน้าคุณไม่ดีเลย ไม่งั้นหยุดก่อนดีไหม ฉันไม่อยากโดนฟ้องว่าฆ่าคน”
ดวงตาชายคนนั้นมีความกังวลเคลื่อนผ่านไป
เดิมทีแล้วนึกว่าคมทิพย์จะคัดค้านสักสองสามประโยค แต่ไม่คิดว่าคมทิพย์จะเงียบสงบผิดปกติ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เขาเพียงพูดขึ้น “แต่ไม่ว่าคุณจะตกลงไหม ฉันจะไม่ให้ยานี้กับคุณอีกแล้ว”
“อืม”
คมทิพย์พยักหน้า ทำให้ชายคนนี้ตกตะลึงเล็กน้อย
“ทำไมเหรอ? คิดออกแล้วเหรอ? อยากใช้ชีวิตกับเขาดีๆ? หรืออยากจะหยุด?”
ในที่สุดคมทิพย์ก็หันสายตามาหาเขา มองสักพักหนึ่ง แววตานั้นมีความตรวจสอบและสงสัย ทำให้ชายคนนั้นเห็นแล้วรู้สึกอายเล็กน้อย
“เฮ้ คุณอย่ามองฉันแบบนี้นะ มองแล้วในใจฉันขนลุก คุณคงไม่ได้ชอบฉันหรอกนะ?”
“นายคิดมากไปแล้ว”
คมทิพย์ละสายตาตัวเองกลับมา พูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน “ชญตว์ นายเป็นอะไรกันแน่?”
“เป็นผู้ชายไง”
ชญตว์พูดขึ้นมาอย่างไม่จริงจัง
คมทิพย์กลอกตาใส่เขาแล้วพูดขึ้น “นี่มันมองออกง่ายมากเลยโอเคไหม? ฉันถามถึงตัวตนของนาย”
ทันใดนั้นชญตว์ก็เอนตัวขึ้นมา ใบหน้าเด็กอันหล่อเหลานั้นทำให้คมทิพย์ตกใจมาก
“นายจะทำอะไร?”
“ฉันกำลังดูว่าคุณสนใจฉันจริงๆ ใช่ไหม”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
คมทิพย์ผลักเขา จากนั้นก็นั่งขึ้นมา
สายตาเธอมีความผ่อนคลาย พูดขึ้นเบาๆ “ฉันแค่สงสัย ทำไมผู้สร้างหนังธรรมดาๆ มียาประเภทนั้นได้ยังไง?”
“เมื่อกี้ฉันพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันแค่อยากหาคนทดลองยา คุณเป็นคนทดลองยาพอดี”
“แล้วทำไมนายมาอยู่ประเทศFล่ะ? ฉันเหมือนจำได้ว่าก่อนที่ฉันจะไป นายยังอยู่ที่ประเทศเรา ฉันกับนรมนนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาที่นี่กะทันหัน ทำไมนายบังเอิญมาอยู่ที่นี่? แถมยังส่งที่อยู่มาให้ฉัน เหมือนรู้ว่าฉันต้องมาหานาย ชญตว์ นายพยายามจะทำอะไรกับฉันกันแน่? หรือเป้าหมายนายไม่ใช่ฉัน แต่ใช้ฉันเป็นเหยื่อล่อคนข้างหลังฉัน? ใครเหรอ? บุริศร์หรือว่านรมน? หรือว่าจณัตว์?”
ดวงตาแหลมคมของคมทิพย์เหมือนลูกศรที่รวดเร็วฉับพลัน แทงตรงไปที่ชญตว์