แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1619 นี่คือการกระทำอะไรของประธานพฤกษ์
บุลินนิ่งอึ้งไปเลยทั้งตัว
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?
เขาชอบลูกที่สุดเลยไม่ใช่เหรอ?
ทำไมตอนนี้สำหรับเขาแล้วลูกกลับไม่มีความดึงดูดแม้แต่น้อยเลยล่ะ?
“ไม่ ประธานพฤกษ์ คุณกำลังล้อฉันเล่นอยู่ใช่ไหมคะ? คุณไม่ได้ชอบคมทิพย์นะ ที่คุณชอบคือลูกต่างหาก คุณต้องการลูกคนหนึ่งที่เป็นของตัวเอง คุณอยู่กับเธอแล้วมีอะไร? เธอมีลูกให้คุณไม่ได้! แต่ฉันให้ได้นะคะ!”
พฤกษ์เตะเธอทีหนึ่งจนกระเด็น ร่างกายของบุลินโดยเตะออกไปไกลมาก รอยเลือดที่อยู่ใต้ร่างทำให้คนเห็นแล้วก็ตกใจ ทั้งห้องทำงานอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือด แต่ว่าสำหรับพฤกษ์แล้วกลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
“ใช่ฉันสนใจลูก ฉันอยากได้ลูกคนหนึ่ง แต่ว่าใครบอกเธอว่าฉันไม่รักคมทิพย์แล้ว? นั่นเป็นเมียฉันนะ! เป็นเมียที่ฉันเลือกมาเองกับมือนะ! ชีวิตนี้ของฉันยังสามารถให้ภรรยาได้เลย แล้วเธอมันตัวอะไร? เธอรู้ไหมว่าอะไรคือความรัก? แค่ดูจากท่าทีเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉันก็เอาไปเดาความคิดฉันเป็นตุเป็นตะแล้วเหรอ? เธอถามว่าฉันอยู่กับคมทิพย์แล้วได้อะไรเหรอ? ฉันจะบอกเธอให้นะ ฉันมีที่ให้เอาความรู้สึกไปลง มีความสงบสุขของจิตวิญญาณ ตั้งแต่เริ่มต้นฉันก็เคยพูดไว้แล้ว ว่าจะให้คมทิพย์รู้เรื่องไม่ได้ แต่เธอกลับแอบวางกับดักใส่คมทิพย์ลับหลังฉัน ทำให้คมทิพย์ต้องเป็นทุกข์และเสียใจ ฉันไม่ได้ไม่รู้เรื่อง แต่ใช่ ฉันเห็นแก่หน้าลูก ฉันจึงอดทนไว้ ฉันแค่อยากรอลูกคลอดออกมาแล้วค่อยมาคิดบัญชีกับเธอ น้ำตาที่คมทิพย์เสียไป เธอจะต้องคืนมาเป็นร้อยเท่าพันเท่า ความทรมานและความเจ็บปวดที่คมทิพย์ต้องมาทุกข์ทน เธอเองก็จะต้องมาเผญินทุกอย่าง แต่ว่าทำไมเธอถึงได้อยากหาที่ตายขนาดนี้นะ? แค่เก้าเดือนทนรอไม่ไหวเหรอ? ถึงได้กล้าลงมือวางยาพิษใส่คมทิพย์ของฉัน เธอควรจะดีใจที่ตอนนี้ฉันยังพอมีสติอยู่เสี้ยวหนึ่ง ไม่งั้นฉันก็คงจะฆ่าเธอไปตั้งแต่ตอนนี้แล้ว”
พฤกษ์พูดจบก็โทรศัพท์เรียกรถพยาบาลเลย ส่วนบุลินในที่สุดก็ยืนหยัดไว้ไม่ไหวจนหมดสติไปแล้ว เลือดสด ๆ ที่อยู่ใต้ร่างของเธอก็แปดเปื้อนพื้นไปไม่หยุด จนคนที่มองเห็นแล้วหวาดผวา
ผู้คนที่อยู่รอบข้างไม่มีใครกล้าทำเสียงดัง
พระเจ้า!
นี่พวกเขาได้ยินเรื่องร้ายแรงอะไรเข้าแล้วเนี่ย?
มามุงดู จนเกิดอันตรายขึ้นมาแล้วจะทำยังไงล่ะ?
ประธานพฤกษ์จะฆ่าคนปิดปากหรือเปล่านะ?
แต่ละคนต่างก็จิตใจตื่นตระหนก พฤกษ์กลับเหมือนกับว่ามองไม่เห็นยังไงอย่างงั้น พอเรียกรถพยาบาลให้บุลินเสร็จแล้วก็โทรแจ้งความเลย
ตอนที่ตำรวจมาถึงนั้น พฤกษ์ก็ไม่พูดอะไรเลย แล้วก็เดินตามตำรวจไปเลย
พนักงานที่เหลืออยู่ต่างก็งงเป็นไก่ตาแตกไปเลย
นี่คือการกระทำอะไรของประธานพฤกษ์เนี่ย?
แล้วบริษัทนี่จะทำยังไง?
ในตอนที่บุริศร์ได้รับข่าวแล้วรีบตามมาถึงนั้น พฤกษ์ก็โดนเอาตัวไปขังไว้วันหนึ่งแล้ว
สำหรับเรื่องที่ทำร้ายร่างกายบุลินนั้น เขายอมรับอย่างไม่ปฏิเสธอะไรเลย
ในที่สุดแล้วลูกของบุลินก็รักษาไว้ไม่ได้ หมอได้ทำการทำแท้งให้กับเธอ แต่ว่าทางตำรวจก็มาถึงพอดีเลย
พฤกษ์เอาคลิปกล้องวงจรปิดมอบให้กับตำรวจ และยังเอาประวัติการรักษาที่คมทิพย์ไปหาหมอมามอบให้ไปด้วย ส่วนชาช่าเองก็โดนควบคุมตัวไว้แล้ว อาหารเสริมถุงนั้นที่ยังกินไม่หมดก็โดนเอากลับไปตรวจสอบส่วนประกอบแล้ว
บริษัทตระกูลรัตติกรวรกุลก็วุ่นวายไปจนหมด
ตั้งแต่แรกพฤกษ์ก็เป็นคนดูแลบริษัทคนเดียว ส่วนเรื่องที่เหลือก็ให้บุลินช่วยดู พอมาตอนนี้ทั้งสองคนคนหนึ่งนอนโรงพยาบาล คนหนึ่งโดนจับกุมตัว บริษัทไม่มีทางที่จะดำเนินต่อไปได้แล้ว
หุ้นตกพรวดอยู่ตลอด
บุริศร์อยากจะอัดพฤกษ์สักรอบจริง ๆ
เจ้านี่มันกะว่าจะไม่สนใจอะไรแล้วเอาทุกอย่างชดใช้ให้คมทิพย์จนหมดจริง ๆ หนำซ้ำรวมทั้งอิสระของตัวเขาเองด้วยเหรอ?
บุริศร์เรียกคนไม่กี่คนจากบริษัทแม่มาเพื่อช่วยจัดการบริษัทของพฤกษ์อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เอาเรื่องนี้บอกกับนรมนและคมทิพย์เป็นอันดับแรก
ช่วงเวลานี้คมทิพย์จำเป็นที่จะต้องรับรู้ แถมยังจำเป็นที่จะต้องกลับไปจัดการด้วย
ตอนที่นรมนได้รับข่าวนั้นทั้งตัวก็นิ่งอึ้งไปเลย
เรื่องบ้าอะไรเนี่ย?
นี่มันการกระทำอะไรของพฤกษ์เนี่ย?
กะว่าทำอย่างนี้แล้วก็จะทำให้คมทิพย์ให้อภัยเขาเหรอ?
แต่ว่าจะไม่พูดก็ไม่ได้ ที่พฤกษ์ทำแบบนี้ก็ยังถือได้ว่าเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ก็ถือได้ว่ามีความรับผิดชอบอยู่บ้างนะ
นรมนรู้สึกชื่นชมเขาหน่อยแล้ว
ในตอนที่คมทิพย์ได้ยินเรื่องนี้นั้นก็ลุกยืนพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้เลย ทั้งหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
“เธอว่าอะไรนะ?”
นรมนเห็นท่าทีแบบนี้ของคมทิพย์ก็รู้แล้วว่าเธอคิดยังไง
“พวกเรากลับไปเถอะ ตอนนี้พฤกษ์โดนจับกุมตัวอยู่ บุลินก็เพิ่งทำการทำแท้งไป ทางตำรวจก็เฝ้าดูอยู่นอกห้องผู้ป่วย รอแค่เจ็ดวันแล้วก็จะพาตัวไปสถานีตำรวจเลย ทางด้านตระกูลรัตติกรวรกุลยังไงเธอก็ต้องกลับไปจัดการนะ”
สมองของคมทิพย์รู้สึกว่างเปล่าเล็กน้อย ดวงตาก็ฝืดเคือง
“นี่เขาหมายความว่ายังไงกันเนี่ย? เขาอยากจะได้ลูกมากที่สุดไม่ใช่เหรอ? เพื่อลูกแล้วเขาสามารถที่จะไม่สนใจความรักระหว่างพวกเราได้ เขาสามารถที่จะอดทนให้ผู้หญิงคนนั้นมาลงมือกับฉันครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเหมือนกับโดนสิ่งชั่วร้ายครอบงำ แล้วตอนนี้มันคือเรื่องอะไรกันล่ะ?”
อารมณ์ของคมทิพย์แตกกระเจิงแล้ว
ในตอนที่รู้ว่าพฤกษ์กับผู้หญิงคนหนึ่งทำลูกขึ้นมานั้น เธอก็ไม่ได้ควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างตอนนี้
ไอ้ชั่วพฤกษ์!
นี่ตกลงเขาจะทำอะไรกัน?
น้ำตาของคมทิพย์เอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
จากคำพูดและแววตาของเธอนรมนสามารถดูออกถึงความเสียดายและความติดพันที่เธอมีต่อพฤกษ์
เธอเดินขึ้นหน้าไปก้าวหนึ่งแล้วกอดตัวคมทิพย์ไว้ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ ร้องเสร็จแล้วยังไงเรื่องก็ต้องจัดการอยู่ดี”
“นรมน ฉันมันไม่เอาไหนมากเลยใช่ไหม?”
คมทิพย์กัดริมฝีปากไว้แล้วร้องไห้ได้อย่างเสียอกเสียใจเป็นอย่างมาก
นรมนตบบ่าของเธอเล็กน้อย แล้วพูดอย่างปลอบใจขึ้นว่า “เธอเป็นผู้หญิง ไม่ได้เป็นคนเหล็ก เวลาผู้หญิงเจอเรื่องแบบนี้ส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นแบบเธอทั้งนั้น ไม่ว่าในใจของเธอจะยังมีเขาหรือเปล่า แต่ก็กลับไปดูสักหน่อยเถอะ”
คมทิพย์พยักหน้าเล็กน้อย
พวกเขากลับไปถึงเมืองBโดยใช้เวลาที่สั้นที่สุด
ในตอนที่เห็นบุริศร์ พอนรมนเห็นสภาพที่เหน็ดเหนื่อยไม่น่ามองของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะปวดใจขึ้นมาเล็กน้อย
“ไหนคุณไปร่วมงานฝังศพเพื่อนไม่ใช่เหรอคะ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละคะ?”
บุริศร์ถอนหายใจทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “พอพฤกษ์เกิดเรื่องแล้ว ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเขาก็โทรศัพท์หาผม ผมจึงต้องมาจัดการสักหน่อย บริษัทที่เข้าสู่ตลาดหุ้น อนาคตสดใสมาก แต่ตอนนี้หุ้นตกฮวบเป็นเพราะว่าประธานบริษัทโดนจับแล้ว ถ้าผมไม่มา คาดว่าบริษัทตระกูลรัตติกรวรกุลก็คงจะต้องเปลี่ยนเจ้าของแล้ว”
ในตอนที่พูดคำพูดนี้นั้นบุริศร์ก็ไม่ได้มองไปที่คมทิพย์ ก็ไม่ใช่ว่าจะโกรธอะไรเธอ เพียงแต่แค่รู้สึกว่าตอนนี้คมทิพย์ไม่ต้องการการใส่ใจจากเขา
นรมนฟังมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกทอดถอนใจอยู่บ้าง
คมทิพย์กลับอยู่ ๆ ก็พูดขึ้นมา
“บุริศร์ พฤกษ์ถูกขังไว้ที่ไหนคะ?”
“สถานกักกันเขตที่หนึ่ง”
“ขอบคุณค่ะ”
คมทิพย์พูดจบก็หมุนตัวจะจากไปเลย แต่กลับโดนนรมนดึงตัวไว้ซะก่อน
“เธอกะว่าจะไปดูเขาตอนนี้เลยเหรอ?”
“ฉันจะไมปถามเขาดูว่าตกลงอยากจะทำอะไรกันแน่?”
คมทิพย์พูดอย่างกัดฟันกรอก จากนั้นก็ขึ้นรถไปเลย
นรมนยังอยากจะพูดอะไร แต่กลับโดนบุริศร์ขวางไว้ซะก่อน
“เรื่องของพวกเขาให้พวกเขาจัดการกันเองเถอะ”
พอเห็นบุริศร์พูดเช่นนี้ นรมนก็หันหน้ากลับมามองเขา อยู่ ๆ ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา
“คุณพูดอะไรกับพฤกษ์ไปใช่หรือเปล่าคะ? ไม่งั้นจากความหลงใหลในลูกของเขาจะทำเรื่องอย่างนี้ออกมาได้ยังไงกัน? แถมยังเอาตัวเองแถมเข้าไปด้วย? นี่คือแผนการที่พวกคุณสองคนตกลงกันไว้แล้วเอามาต่อกรกับคมทิพย์ใช่ไหมคะ?”
“ในใจคุณนั้นผมชั่วช้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”
บุริศร์ยื่นมือออกไปดีดที่หน้าผากนรมนทีหนึ่ง แววตาเต็มไปความทะนุถนอม