แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1682 ฉันอยู่นี่
“คุณนาย ระวัง!”
โสธรแทบจะปกป้องนรมนเอาไว้ในทันที
เสียงดังลั่นจนทำให้ทุกคนรู้สึกหูชา
นรมนสูญเสียการได้ยินไปชั่วคราว เธอรีบผลักโสธรออก แล้ววิ่งไปที่หน้าต่างทันที
เปลวไฟที่ลุกไหม้ต่อเนื่องกัน เหมือนจะเริ่มทำสงครามแล้ว
นรมนยังไม่เคยเห็นสงครามด้วยตาตัวเอง เธอคิดว่าชีวิตของตนเองสงบเกินไปมาโดยตลอด ชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับอะไรที่เรียกว่าการทำสงครามอยู่แล้ว แต่วินาทีนี้เธอถึงได้พบว่าสงครามมันโหดร้ายขนาดไหน
ท่ามกลางห่ากระสุนปืนใหญ่ราวกับมีร่างของคนกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า ตอนนี้เสียงต่างๆนานาผสมปนเปเข้าด้วยกัน ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกทนไม่ได้
“คุณนายครับ ที่นี่อันตราย!”
โสธรอยากจะดึงนรมนออกไป แต่ไม่รู้ว่าวินเซนต์เดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่
“นี่คือสงคราม เทียบกับยุคสมัยนั้นของพวกเรา สงครามในตอนนี้โหดร้ายยิ่งกว่า เพราะอาวุธสงครามในตอนนี้มีความก้าวหน้า เป็นไปได้ว่าอาจจะใช้อาวุธนิวเคลียร์”
หัวใจของนรมนบีบตัวแน่น
ก่อนจะมา เธอไม่รู้เลยว่าสภาพแวดล้อมที่ด้านนี้จะเลวร้ายเช่นนี้ หลังจากที่มาถึงรู้ว่า คนที่นี่ใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัวขนาดไหน
“ฉันทำอะไรได้บ้าง?”
วินาทีนี้ นรมนเข้าใจคมทิพย์แล้ว
เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอเป็นห่วงพฤกษ์แต่ไม่ไปตามหา ทว่ากลับอยู่ที่นี่คอยช่วยเหลือคนเจ็บเหล่านั้นเท่าที่จะทำได้
เพราะเธอรู้ ถึงตนเองออกไปตามหา ก็อาจจะไม่เจอพฤกษ์อยู่ดี
พฤกษ์บุริศร์เจตต์พวกเขาเป็นทหารเหมือนกัน เป็นมีดคมๆของประเทศชาติ ในเมื่อพวกเขาออกไปปฏิบัติภารกิจ นั่นก็ไม่มีทางที่ผู้หญิงของพวกเขาที่ไม่เคยมีประสบการณ์การสู้รบเหล่านี้จะเจอได้อย่างแน่นอน
ที่มาที่นี่ เพราะแค่อยากห่างกับพวกเขาให้ใกล้ขึ้นอีกหน่อย จินตนาการถึงความหวังที่อาจมีไม่ถึง0.01ว่าจะได้เจอกันโดยบังเอิญ
แต่พวกเธอก็รออยู่เฉยๆไม่ได้ แค่อยากทำอะไรเพื่อผู้ชายของพวกเธอบ้าง แม้จะเป็นการบรรเทาความเจ็บปวดของสหายร่วมรบของพวกเขาก็ได้
เหมือนวินเซนต์จะประหลาดใจกับคำถามของนรมน
“ผมคิดว่าคุณจะถามผมว่าเฮียบุริศร์อยู่ที่ไหนซะอีก”
“ฉันอยากถาม แต่ก็รู้ว่าคุณอาจจะไม่รู้ อีกอย่างต่อให้รู้แล้ว คุณก็อาจจะไม่บอกฉัน เพราะคุณกลัวว่าฉันจะกลายเป็นภาระของเขา แล้วก็กลัวว่าถ้าฉันเกิดเรื่องคุณคงหมดหนทางที่จะอธิบายกับบุริศร์ คุณวางใจเถอะ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ฉันคุ้นเคย ฉันจะไม่พุ่งตัวไปโดยไม่คิดให้รอบคอบ และจะไม่ทำตัวเป็นฮีโร่ ฉันแค่จะทำเรื่องที่ฉันทำได้เท่านั้น อย่างเช่นที่คมทิพย์กำลังทำอยู่ ฉันจะอยู่ที่นี่รอพวกบุริศร์กลับมา!”
คำพูดของนรมนทำให้วินเซนต์ตะลึงงันอีกครั้ง
เขามองนรมน ไม่พูดอะไรเลยอยู่พักใหญ่
บางทีการเติบโตของคนๆหนึ่งก็เกิดขึ้นในวินาทีนี้ บางทีความรู้สึกที่ลึกซึ้งก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับได้เกิดหรือตายไปพร้อมกัน
วินเซนต์มองห่ากระสุนปืนที่ดังขึ้นต่อเนื่องที่ด้านนอก พูดขึ้น: “ผมก็ไม่รู้ แต่ที่ผมรู้พวกเขาพอจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้แต่กลับไม่ใช้ ดันยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ นั่นแสดงว่าอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขาใช้งานไม่ได้แล้ว บางทีอาจจะบอกได้ว่าพวกเขาไม่กล้าใช้ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์แบบไหน ต่างก็กำลังบอกข่าวให้พวกเราได้รู้ พวกเฮียบุริศร์อาจจะทำสำเร็จแล้ว! เวลาที่พวกเขาจะกลับมาคงไม่นานแล้ว”
นี่อาจจะเป็นข่าวที่ดีที่สุดหลังจากที่นรมนมาถึงที่นี่
“นรมน! นรมน!”
จู่ๆเสียงตะโกนเรียกนรมนก็ลอยมาจากด้านหลัง น้ำเสียงทั้งเร่งรีบ ทั้งร้อนใจ
นรมนรีบหันไป
“ฉันอยู่นี่!”
เสียงของเธอดังมาก จึงดึงดูดความสนใจของคมทิพย์ได้ในทันที เห็นนรมนไม่เป็นอะไรเธอถึงคลายกังวลลงได้
“เธออย่าเดินไปไหนมาไหนมั่วซั่วนะ เธอเพิ่งมาถึงที่นี่ ไม่เข้าใจสถานการณ์ของที่ด้านนี้หรอก เธอตามติดอยู่ข้างๆฉันดีกว่า แต่ถ้าเป็นไปได้ เธอควรนั่งเฮลิคอปเตอร์กลับไปเลย ที่นี่ไม่ปลอดภัย!”
คมทิพย์พูดไม่หยุด ดึงมือของนรมนเดินไป
จู่ๆในใจของนรมนก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
ยัยคมทิพย์เอ้ย ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ไม่เคยลืมที่จะดูแลเธอ ในสายตาของเธอ คนอย่างนรมนไร้ความสามารถขนาดนั้นเลยเหรอ?
“เธอเดินช้าๆหน่อย ตัวเองท้องอยู่นะไม่รู้หรือไง? ยุ่งขนาดนี้ ถ้ามีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้น ฉันจะดูสิว่าเธอจะอธิบายกับพฤกษ์ยังไง”
คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์ยิ้มเยาะออกมา
“ฉันอธิบายกับเขา? นี่เธอไม่คิดว่าเขาควรจะเป็นคนให้คำอธิบายกับฉันงั้นเหรอ? เกิดเรื่องแย่ๆขนาดนั้น ตัวเองกลับหนีปัญหาด้วยการจากไป ทิ้งฉันเอาไว้แล้วยังจะให้ฉันอธิบายงั้นเหรอ? ฉันจะอธิบายบ้าอะไรล่ะ! คำสัญญาที่เขาพูดตอนแต่งงานลืมไปหมดแล้วงั้นสิ? เธอรอเขากลับมาจากการทำสงครามก่อนนะ เธอดูเลยว่าฉันจะจัดการเขายังไง!”
แม้คมทิพย์จะพูดด้วยความแค้นเคือง แต่นรมนฟังออกว่ามีความคิดถึงมากมายปะปนอยู่ในนั้น
เธอคิดถึงพฤกษ์แล้ว!
เหมือนที่เธอคิดถึงบุริศร์แล้ว!
แนวหน้ายังต่อสู้กันอยู่ คนเจ็บที่ด้านนี้ก็เยอะขึ้น รถเข้ามาในโรงพยาบาล เปลหามแต่ละคันที่เข็นเข้ามา สภาพน่าเวทนาจนทำให้คนที่ได้เห็นไม่สบายกายไม่สบายใจ
“หมอ! รีบมาตรงนี้!”
ทหารหลายคนโดนยกขึ้นเปลหามเข้ามา เลือดท่วมตัว มองไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร
ฝีเท้าของคมทิพย์ชะงักเล็กน้อย จูงมือของนรมนแน่นขึ้น
นรมนรู้ว่าเธอกำลังกลัว กำลังกังวล กลัวว่าคนในนั้นที่เข้ามาจะมีพฤกษ์
ผู้หญิงคนนี้ถึงจะพูดจารุนแรง แต่จริงๆใจอ่อนกับพฤกษ์กว่าใครทั้งนั้น
“ไม่เป็นไรหรอก พฤกษ์เป็นทหารภายใต้การบังคับบัญชาของบุริศร์นะ ฉันเชื่อว่าเขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย”
เสียงของนรมนเบามาก ราวกับน้ำพุใสๆที่พาดผ่านเข้ามาในใจ ทำให้ใจที่กระวนกระวายของคมทิพย์เบาใจลงได้บ้าง
“ฉันเชื่อ! ฉันยังไม่ได้บอกเขาว่าฉันท้องเลยนะ คนอย่างเขาอยากมีลูกสักคนในชีวิตนี้ไม่ใช่เหรอ? เพื่อลูกคนหนึ่งถึงได้สร้างความวุ่นวายให้ฉันจนกลายเป็นอย่างนี้ ตอนนี้ฉันมีลูกของเขาแล้ว ฉันกลับอยากเห็นว่าเขาจะมีอาการยังไงกันแน่ ตอนที่ฉันยังไม่ได้เห็นทั้งหมดนี้ เขาห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด”
คำพูดของคมทิพย์ทำให้นรมนทุกข์ใจ
“ใช่ ห้ามเป็นอะไร ไปกันเถอะ ฉันจะไปช่วยเธอด้วย”
“เธอทำเป็นเหรอ?”
คมทิพย์ประหลาดใจ
นรมนยิ้มพูดขึ้น: “ไม่เป็น แต่ฉันเรียนรู้ได้ เธอเรียนได้ ฉันจะสู้คนท้องไม่ได้งั้นเหรอ?”
คมทิพย์จึงยิ้มขึ้นมาทันที
เห็นนรมนตามคมทิพย์เข้าไปช่วยเหลือ สายตาของวินเซนต์จึงหรี่ลงเล็กน้อย พูดกับคนของสหภาพQT: “พาสหายจำนวนหนึ่งไปกับฉัน เฮียบุริศร์ต้องทิ้งเครื่องหมายไว้ให้พวกเราที่สนามรบแน่ๆ เราต้องไปช่วยเขา”
หลังจากโสธรได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ไม่บอกคุณนายเหรอ?”
“พวกนายคนของอาณาจักรรัตติกาลอยู่ที่นี่ ปกป้องคุณนายกับคนเจ็บ ส่วนพวกฉันจะไปช่วยเฮียบุริศร์เอง”
เดิมทีวินเซนต์ก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของอาณาจักรรัตติกาลอยู่แล้ว มาที่นี่ก็เพื่อบุริศร์เท่านั้น โสธรค่อนข้างไม่เห็นด้วย จึงได้ยินวินเซนต์พูดขึ้น: “ในสนามรบ ฟังฉันน่ะถูกต้องแล้ว”
คำพูดนี้กลับทำให้โสธรสะอึกไปเลย
เคยเข้าสนามรบแล้วเจ๋งนักเหรอ?
งั้นตั้งแต่วันนี้ ฉันก็เป็นคนที่เข้าสนามรบแล้วเหมือนกัน
จะอวดอะไรกันล่ะ
แต่ทว่าคำพูดนี้ถึงยังไงเขาก็ไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าวินเซนต์
หลายปีนี้เขาคิดมาโดยตลอดว่าตนเองเติบโตขึ้นเยอะมากแล้ว มีประสบการณ์มากมาย สามารถแบกรับภาระเพียงคนเดียวได้ แต่วินาทีนี้ เขาถึงรู้ว่าเทียบกับพวกวินเซนต์แล้วตนเองยังขาดอะไรอยู่
เขาขาดความรู้สึกเย็นยะเยือกและความสงบในสนามรบยังไงล่ะ!