แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1683 เธอจะดูแลแทนเอง
ตอนที่นรมนรู้ว่าวินเซนต์ออกไปก็ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว โสธรอยากจะบอกนรมนอยู่ตลอด แต่คนเจ็บเยอะมาก นรมนกับคมทิพย์จึงกำลังช่วยเหลือ ไม่มีเวลาปลีกตัวออกมาได้เลย
ตอนที่รอให้เธอมีเวลาว่าง เวลาก็ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว
นรมนชะงักเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร ให้โสธรไปช่วยดูแลคนเจ็บกับเธอ
สงครามที่แนวหน้ารบกันทั้งคืน ตอนที่แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องเข้ามา ในที่สุดก็ไม่มีเสียงปืนใหญ่แล้ว แต่ทว่าที่นี่กลับไม่เงียบ
หลังจากที่ยาชาหมดฤทธิ์คนไข้มากมายก็เริ่มร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
เป็นครั้งแรกที่นรมนได้รู้ถึงความลำบากในฐานะที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ในสนามรบ
คมทิพย์ไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้ว นรมนเห็นหน้าซีดเซียวของเธอ จึงอดไม่ได้ที่จะดึงเธอเอาไว้
“ไปพักผ่อน”
“ยังมีคนเจ็บอีกมากมายที่ต้องการฉัน……”
“ไปพักผ่อน!”
นรมนตัดบทคำพูดของคมทิพย์ ท่าทางเด็ดขาด
น้อยมากที่คมทิพย์จะเห็นท่าทางอย่างนี้ของเธอ จึงชะงักเล็กน้อย แล้วมองตามสายตาของนรมนมาเห็นท้องของตนเอง
“คมทิพย์ เธอจะทำอะไรฉันไม่ห้าม แต่เธอต้องนึกถึงสุขภาพของตนเองด้วย ตอนนี้เธอเป็นคนท้องนะ! ถ้ายังคิดจะคลอดลูกคนนี้ให้พฤกษ์ ก็ไปพักผ่อนซะ ส่วนที่ด้านนี้ฉันจัดการเอง!”
คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์เงียบ
เธอเหนื่อยจริงๆ
แต่เธอก็มีสิ่งที่อยู่ในใจเช่นกัน
เธออยากอยู่ที่นี่เพื่อดูคนเจ็บพวกนั้น เพื่อยืนยันด้วยตาตัวเองว่าในนี้ไม่มีพฤกษ์ บางทีการกระทำนี้อาจจะโง่มาก แต่ตอนนี้เธอทำอย่างนี้ออกมาแล้วมันยังไงล่ะ?
สนามรบต่างประเทศกว้างเกินไป กว้างขนาดที่ต่อให้เธอเดินวนรอบก็อาจจะไม่ได้เจอพฤกษ์น่ะสิ ดังนั้นเธอจึงรออยู่ที่นี่
ที่นี่เป็นโรงพยาบาลในเขตสนามรบเพียงแห่งเดียว ไม่ว่าใครได้รับบาดเจ็บก็ต้องส่งเข้ามา
ถ้าเธอไม่ได้เจอพฤกษ์ เธอก็จะสบายใจ
แต่คมทิพย์รู้ นรมนพูดถูก เธอต้องใส่ใจสุขภาพของตนเอง ถึงยังไงในท้องนี้ก็ยังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของพฤกษ์อยู่
“อื้ม ฉันจะไปพักครู่หนึ่ง ถ้ามีข่าวอะไร……”
“ฉันจะบอกเธอทันที”
คำสัญญาของนรมนทำให้คมทิพย์วางใจลงได้
ใต้ตาของเธอคล้ำไปหมด เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่มาถึงที่นี่คมทิพย์ก็ไม่ได้หลับสนิทเท่าไหร่เลย
นรมนสงสารจนทนไม่ไหว
ในที่สุดคมทิพย์ก็ไปพักแล้ว
โสธรเห็นท่าทางเหนื่อยล้าของนรมน จึงก้าวเข้าไปใกล้ๆพูดขึ้น: “คุณนายครับ คุณก็ไปพักหน่อยเถอะ”
สายตาของนรมนชะงักเล็กน้อย ถามขึ้น: “วินเซนต์ไปทั้งคืนแล้วใช่ไหม?”
“ครับ”
“มีข่าวอะไรบ้างไหม?”
“ไม่มีครับ”
ไม่รู้ว่านรมนกำลังคิดอะไรอยู่ แววตาลึกซึ้ง
โสธรเห็นเธออย่างนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะปลอบใจ: “คุณนาย ตอนที่คุณโน้มน้าวคุณนายรัตติกรวรกุลทำไมถึงไม่โน้มน้าวตนเองด้วยล่ะครับ? คุณไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะครับ”
“รอให้คมทิพย์ตื่นเถอะ รอเธอตื่นแล้วฉันค่อยไปพักหน่อย”
นรมนรู้ความในใจของคมทิพย์ ถ้าเธอไม่อยู่ เธอต้องอยู่ดูแลแทน!
แต่ทว่าที่เธอค่อนข้างอ่อนเพลียน่ะก็จริง
“นายดูตรงนี้นะ ฉันจะออกไปเดินดูรอบๆหน่อย”
กลิ่นคาวเลือดตรงนี้รุนแรงเกินไป รุนแรงจนทำให้เธอรับไม่ไหว
โสธรพยักหน้า
นรมนออกมาจากโรงพยาบาล เดินมาถึงป่าไผ่ด้านหลัง หาที่เงียบๆนั่งลงไป
ที่นี่กลับเป็นสถานที่ที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง
เธอพิงอยู่ในป่าไผ่ กำลังคิดว่าตอนนี้บุริศร์ทำอะไรอยู่ ตอนที่เขารู้ว่าตนเองมาที่สนามรบต่างประเทศจะโมโหไหมนะ?
คงโมโหแหละ!
ผู้ชายคนนั้นกลัวเธอเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดมาโดยตลอด
นึกถึงสีหน้าท่าทางของบุริศร์ที่จะปรากฏให้เห็น นรมนจึงอดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม
จู่ๆเสียงฝีเท้าก็ลอยเข้ามาจากด้านนอก
นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไม่ง่ายเลยที่เธอจะเจอสถานที่เงียบๆอย่างนี้อยากจะพักผ่อนสักหน่อย ใครจะมาซ่อนตัวที่นี่ด้วยใจที่ตรงกันขนาดนี้ได้นะ?
นรมนกำลังคิดจะออกไป แต่ได้ยินอีกฝ่ายพูดขึ้นด้วยภาษาอื่น
ร่างของเธอแข็งทื่อในทันที
ที่นี่มีแต่ทหารของประเทศตนเอง ทำไมถึงปรากฏภาษาอื่นออกมาได้ล่ะ?
ความระแวดระวังตัวของนรมนตื่นขึ้นมาทันที
ก็โชคดีที่อยู่ต่างประเทศมาห้าปี เพื่อการทำงานนรมนจึงเคยมุมานะเรียนภาษาอื่นๆมาอีกหลายภาษาด้วย ตอนนี้ไม่นึกว่าจะได้ใช้ประโยชน์แล้ว
เสียงที่กลัดกลุ้มของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
“เป็นยังไง? คนของพวกเราเข้าไปกันหมดหรือยัง?”
“เข้ามาแล้ว ทั้งหมดสิบสองคน เข้ามาด้วยตัวตนที่เป็นผู้บาดเจ็บ แค่ผ่านเช้าวันนี้ไปได้ ตอนเที่ยงพวกเราก็จะควบคุมที่นี่ได้แล้ว ฉันให้พวกเขาพกยาน้ำขวดเล็กๆไว้แล้ว ถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ทันระวังตัวเทลงไปในอาหารกลางวัน จัดเตรียมเอาไว้หมดแล้ว”
ผู้ชายคนหนึ่งตอบกลับ
นรมนหรี่ตาขึ้นมาทันที
ใช้สถานะที่เป็นคนบาดเจ็บปะปนเข้ามาเพื่อจะควบคุมโรงพยาบาลสนามรบงั้นเหรอ?
เพราะอะไร?
เธอกลั้นหายใจแอบฟังต่อไป
ผู้หญิงคนก่อนพูดขึ้น: “ยาน้ำต้องระวังด้วยนะ อย่าให้โดนร่างกายของตนเอง คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นคนบาดเจ็บ ต้านทานไม่ไหวหรอก แค่พวกเขาติดเชื้อโรค อีกเดี๋ยวก็ต้องโดนส่งกลับประเทศ แล้วเชื้อโรคพวกนี้ก็จะใช้พวกเขาเป็นศูนย์กลางในการแพร่กระจาย ถึงตอนนั้นทั้งประเทศก็จะเหมือนโดนโรคระบาดกลืนเข้าไป ต่อให้ตอนนี้พวกเรารบแพ้แล้วจะเป็นยังไงล่ะ สุดท้ายชัยชนะก็ตกเป็นของพวกเราอยู่ดี!”
“อื้ม!”
ทั้งสองคนวางแผนการร้ายอีกนิดหน่อย แล้วจึงแยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งพวกเขาไปแล้วนรมนถึงได้คลายกังวลลงได้ เธอกลั้นหายใจจนเกือบตาย แต่ทว่าก็ขมวดคิ้วเพราะความลับที่น่าตกใจนี้
วินเซนต์พูดถูก สงครามตอนนี้ทั้งโหดเหี้ยมทั้งน่าหวาดกลัวจริงๆ มันไม่ใช่ยุคสมัยที่ใช้ปืนไรเฟิลอย่างที่เธอรู้จักจากในโทรทัศน์อีกแล้ว
แค่นึกว่าถ้าแผนการร้ายของคนพวกนั้นสำเร็จ จะมีคนมากมายที่ติดเชื้อ เจ็บป่วยเสียชีวิต เธอก็โมโหจนพูดไม่ออกแล้ว
นรมนรีบกลับไปที่โรงพยาบาล ตามหาโสธร
“รวมพลคนของพวกเรา ไปตรวจสอบคนเจ็บที่ส่งเข้ามาเมื่อคืนว่ามีใครบ้าง? ฉันต้องการรายชื่อของแต่ละคน”
โสธรตะลึงเล็กน้อย
“แต่ละคน? คุณนาย เมื่อคืนคนเจ็บที่ส่งเข้ามาไม่น้อยเลย อย่างน้อยๆก็ร้อยกว่าคน ตรวจสอบทีละคนเกรงว่า……” โสธรยังพูดไม่จบ สายตาที่เย็นชาของนรมนก็สาดเข้ามาทันที
“ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ!”
“จำไว้ว่า ตรวจสอบอย่างลับๆ อย่าให้ใครรู้!”
“ครับ!”
โสธรรับคำสั่งแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
นรมนดูเวลาแล้ว คมทิพย์หลับไปแค่ชั่วโมงกว่าเอง
แม้เธอจะไม่อยากปลุก แต่ก็ยังเดินเข้าไป เรียกคมทิพย์ขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น??”
คมทิพย์สะลึมสะลือ แค่ลืมตาก็เห็นสีหน้าเคร่งขรึมของนรมน จึงอดไม่ได้ที่จะชะงัก แล้วคิดว่าพฤกษ์เกิดเรื่องแล้ว จึงตกอกตกใจได้สติมากขึ้น
“พฤกษ์เป็นอะไรเหรอ?”
“เขาไม่เป็นอะไรหรอก แต่พวกเราน่ะน่าจะเกิดเรื่องแล้ว”
นรมนเล่าเรื่องที่ตนเองได้ยินมาให้คมทิพย์ฟังเบาๆ คมทิพย์จึงงุนงงไปหมด
“โหดเหี้ยมขนาดนั้นเลยเหรอ? แล้วเธอวางแผนจะทำยังไง?”