แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1696 ฉันอยากแต่งงานแล้ว คุณขอฉันเถอะ
เสียงของพายุแฝงไปด้วยคำวิงวอน
สมจิตไม่รู้ว่าตัวเองควรจะตอบอย่างไร จึงไม่พูดอะไรเลย แทบจะเป็นการออกจากห้องของพายุอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ตอนที่กลับถึงห้องของตนเอง สมจิตรู้สึกโดดเดี่ยวเป็นอย่างยิ่ง
ที่นี่ล้วนเป็นคนในครอบครัวของเธอแท้ๆ ทว่าเธอกลับไม่สามารถรู้สึกได้ถึงความเป็นเจ้าของในแบบเลือดข้นกว่าน้ำได้
เธอสามารถดูออกถึงความรู้สึกผิด ความรักใคร่เอ็นดูที่มีต่อเธอของจันทราและพายุ สามารถดูออกถึงความชอบของคุณปู่จรัลที่มีต่อเธอ แต่เธอกลับหลอมรวมเข้าไปไม่ได้
บางทีนี่ก็คือทัศนคติไม่ตรงกันล่ะมั้ง บางทีอาจจะเป็นเพราะความเชื่อที่อยู่ในใจ เธอไม่รู้ แต่กลับรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเถาวัลย์เส้นหนึ่ง พันเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา ทั้งยังแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนหายใจไม่ออกยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
สมจิตไม่สนใจแล้วว่าคนตระกูลนนท์สัจทัศน์จะตรวจสอบพบเจออะไร เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดออกไปที่หมายเลขหนึ่ง แต่ในตอนที่ได้ยินเสียงตู้ดๆจากทางฝั่งนั้นกลับวางสายลงอีกครั้ง
พูดอะไรล่ะ?
ตั้งแต่แผนการนภดล เธอก็หายสาบสูญ ไม่ติดต่อกับเขามานานขนาดนี้ ตอนนี้อยู่ๆติดต่อเขาจะพูดอะไรได้ล่ะ?
สมจิตหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น โทรศัพท์กลับดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำเอาสมจิตตกใจจนแทบจะทิ้งมือถือ
บนจอแสดงผลสายเรียกเข้าคือเบอร์ที่คุ้นเคยฝังลงในจิตใจมาตั้งนานแล้ว แต่เธอกลับไม่กล้ารับ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำอย่างถึงที่สุด
ชัยยศไม่ได้ข่าวของสมจิตมานานมากแล้ว ในเวลานี้อยู่ๆเธอติดต่อหาตนเอง แต่กลับวางลงอย่างกะทันหัน ทำให้ชัยยศมีความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีนัก
คงจะไม่ได้ประสบปัญหาอะไรหรอกมั้ง?
ทว่าโทรศัพท์ดังอยู่ตลอดแต่กลับไม่มีคนรับ ดวงตาของชัยยศขมวดเข้าหากันแน่นขึ้นเรื่อยๆ
เขาก็เลยหาวีแชท ส่งคำเชิญวิดีโอคอลไป กลับถูกสมจิตตัดสายอย่างรวดเร็ว
ชัยยศโมโหขึ้นมาในทันที
“สมจิต หากคุณแม่งไม่รับสายอีก คุณเชื่อไหมว่าชาตินี้ผมจะไม่สนใจคุณแล้ว?”
ที่เขาส่งไปคือข้อความเสียงวีแชท
สมจิตได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของชัยยศ ก็กัดริมฝีปากล่างน้ำตาไหลออกมาอย่างทนต่อไปไม่ไหวอีก
พูดถึงเรื่องเมื่อก่อนเธอไม่ร้องไห้ ตอนที่โดดเดี่ยวอยู่ในตระกูลนนท์สัจทัศน์ไม่ร้องไห้ แต่กลับน้ำตาไหลในตอนที่ได้ยินชัยยศตะคอกเบาๆ
ผู้ชายคนนี้ตะคอกใส่เธอได้ยังไงกัน?
เธอถึงจะเป็นคนนั้นที่กดเขาเอาไว้แท้ๆ
ชัยยศรอไม่ได้รับการตอบกลับของสมจิต ส่งคำเชิญวิดีโอคอลไปให้เธออีกครั้ง ทีละครั้งๆ ไม่เบื่อเลยแม้แต่น้อย ราวกับเธอไม่รับเขาจะโทรต่อไปตลอดยังไงอย่างงั้น
สมจิตในที่สุดก็กดปุ่มรับในตอนที่ชัยยศส่งมารอบที่สิบ
“คุณแม่งในที่สุดยอมรับแล้วใช่หรือเปล่า? สมจิต คุณน่ะหากมีปัญญาชาตินี่ก็อย่ารับสายจากกูอีก!”
ชัยยศตะคอกด้วยความโมโหเสร็จกลับพบว่าสมจิตร้องไห้
เขาทั้งคนตกใจจนอึ้งไปเลย
เชี่ย!
สมจิตร้องไห้?
นี่เรียกได้ว่าน่าช็อกยิ่งกว่าฝนสีแดงตกลงมาจากฟ้าอีกเอาดีๆ
“คุณร้องไห้? ใครรังแกคุณ? แม่งเอ๊ย คุณอยู่ไหน? ส่งตำแหน่งที่ตั้งมาให้กู ผมจะไปโค่นไอ้คนที่มันรังแกคุณ!”
ชัยยศเอะอะโวยวาย แต่กลับทำให้ในใจของสมจิตร้อนขึ้นเล็กน้อย เธอเช็ดน้ำตาแล้วเอ่ย “คุณพูดกูต่อหน้าใครน่ะ?”
“คุณยุ่งกับผม!”
ชัยยศเห็นความเผด็จการของสมจิตกลับคืนมานิดหน่อย เสียงก็อ่อนลงเล็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้
“หลายวันมานี้คุณอยู่ที่ไหนน่ะ? สบายดีหรือเปล่า? ไม่ดีแน่นอนเลยใช่ไหม? ถ้าดีคงไม่เห็นผมก็ร้องไห้ ทั้งๆที่คุณชอบรังแกผมแท้ๆ จะน้ำตาไหลต่อหน้าผมได้ยังไงกัน? สมจิต คุณแม่งเกินไปแล้ว!”
พูดไปพูดมา ชัยยศก็สะอึก ดวงตาคู่นั้นเริ่มแดงเล็กน้อย กลับทำให้สมจิตอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปชั่วขณะ
“คุณ…”
“คุณอะไรคุณ? ผมรู้ สถานะของคุณพิเศษ คุณมีภารกิจ คุณจากไปอย่างไม่มีทางเลือก คุณไม่สามารถบอกกับผมได้ แต่จะยังไงก็ทิ้งข้อความไว้ให้ผมหน่อยสิ ให้ผมรู้ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่!ให้ผมมีสักความหวังได้หรือเปล่า? คุณไปคราวนี้ก็เหมือนสาบสูญไปจากโลกยังไงอย่างงั้น คุณได้รับคำสั่ง มีภารกิจ ผมเข้าใจ แต่ในใจของคุณมีผมบ้างสักเล็กน้อยได้หรือเปล่า? ผมรู้ ผมผู้ช่วยเล็กๆคนหนึ่งอยากจะตามจีบคุณค่อนข้างเพ้อเจ้อ แต่คุณก็ต้องให้ผมสักโอกาสสิ อะไรคือโอกาส? โอกาสจะยังไงก็ต้องเป็นผมมองเห็นคุณ จับต้องคุณได้ถึงจะถูก เมื่อก่อนคุณเคยบอกว่า ขอเพียงแค่ผมสู้ชนะคุณก็จะให้โอกาสผมตามจีบคุณ หลายวันมานี้ผมฝึกซ้อมมาโดยตลอด ตอนนี้ผมมั่นใจว่าสามารถสู้ชนะคุณได้ จริงๆ สมจิต คุณกลืนคำพูดไม่ได้”
ชัยยศพูดยาวเหยียดเหมือนกับเด็กที่ได้รับความไม่เป็นธรรม พูดไปพูดมาก็รู้สึกแสบร้อนที่จมูกเริ่มสะอื้นขึ้นมา
“สมจิต ผมคิดถึงคุณแล้ว ผมอาจจะค่อนข้างทำตัวเสียฟอร์ม ไม่มีคนตีผม ทั่วทั้งร่างกายผมรู้สึกไม่สบาย ผมฝึกซ้อมทุกวัน ฝึกให้ตัวเองแข็งแกร่งหน่อย จะยังไงคุณตีขึ้นมาค่อนข้างสะดวกมือใช่ไหม? คุณทำแบบนี้ได่ยังไงกัน? คุณทำแบบนี้ได้ไง?”
ชัยยศก้มศีรษะลง น้ำตาหยดหนึ่งไหลตามหางตาหยดลงบนด้านหลังฝ่ามือ แต่กลับถูกเขาซ่อนเอาไว้ที่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ทำไมไม่ได้เรื่องขนาดนี้กันนะ?
แต่ว่าหลายวันมานี้เขาเป็นกังวลมากจริงๆ กังวลว่าตอนที่ได้ยินข่าวของสมจิตอีกครั้งเธอได้รับบาดเจ็บ หรือว่าสละชีพไปแล้ว?
พอคิดถึงสองคำนั้น ชัยยศก็ปวดใจจนถึงขีดสุด
เขาเกลียดความรู้สึกที่ตนเองไม่สามารถถามอะไรได้ ไม่รู้อะไรเลย
เขาบอกกับตัวเอง เปลี่ยนคนชอบเถอะ
ทว่าเขามองดูสาวโสดเหล่านั้นในบริษัท ในสมองก็เต็มไปด้วยดวงตาที่ดื้อรั้นและท่าทีที่เย็นชาจองหองของสมจิต
สมจิตรู้สึกขึ้นมาอย่างกะทันหันว่าชัยยศที่เป็นแบบนี้หล่อเหลาเป็นพิเศษ
ที่แท้นี่ก็คือความรู้สึกของการถูกอาลัยอาวรณ์
โตขนาดนี้ นอกจากยศพงศ์ ดูเหมือนก็มีเพียงแค่ผู้ชายโง่ๆคนนี้ที่อาลัยอาวรณ์ตนเอง และก็มีแค่เขาที่กลัวตนเองตาย
สมจิตอยู่ดีๆก็มีความรู้สึกการได้เป็นเจ้าของ
แบบที่ในโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลไม่ว่าจะเดินไปไกลแค่ไหน ไม่ว่าข้างกายจะผ่านเรื่องอะไร ก็ราวกับมีสายเส้นหนึ่งพันผูกตนเองเอาไว้ อ่าวจอดเรือที่ให้เธอทำงานเสร็จก็รีบกลับไปนั้น ที่แท้มีอยู่จริงๆ
“ชัยยศ”
สมจิตเอ่ยปากขึ้นมาอย่างกะทันหัน
แม้ว่าดวงตาของเธอจะแดง แต่เสียงของเธอกลับแนบไปด้วยความปิติยินดี ถึงขั้นหัวเราะออกมาต่อหน้าชัยยศ ทำให้ชัยยศปรับตัวไม่ค่อยทัน
“คุณ หัวเราะ? สมจิต ผมร้องไห้อย่างกับคนโง่ คุณกลับหัวเราะผม?”
ชัยยศเริ่มอารมณ์ร้อนขึ้นมา
เขารู้ว่าตัวเองขายหน้าแล้ว
แต่ขายหน้าก็ขายหน้าไป ทำไมยังต้องหัวเราะเยาะคนอื่นเขาอีก?
ไม่จริงใจเกินไปหน่อยแล้วล่ะมั้ง?
เห็นเขาเช่นนี้ สมจิตรู้สึกว่าหมอกควันที่อยู่ในใจหายไปอย่างกะทันหัน วันเวลาในวัยเด็กที่น่าอนาถเหล่านั้นราวกับไม่ได้ทำให้รู้สึกกดดันขนาดนั้นแล้ว
เธอหัวเราะอย่างสดใสมากยิ่งกว่าเดิม
“คุณยังขำ!”
“หากฉันสามารถกลับไปอย่างปลอดภัยได้ คุณขอฉันแต่งงานเถอะ”
ทำพูดของสมจิตทำให้ชัยยศนิ่งอึ้งไปทั้งตัว
“คุณพูดอะไรนะ?”
“ฉันบอกว่าฉันอยากแต่งงานแล้ว คุณขอฉันเถอะ”
ตอนที่สมจิตพูดประโยคนี้ออกไปอยู่ๆก็รู้สึกว่ามีรสชาติความหวานวนเวียนอยู่ในหัวใจ เหมือนกับลูกอมรสนมยี่ห้อกระต่ายขาวที่ตอนเด็กๆชอบกินไม่มีผิด
บางทีชัยยศก็คือกระต่ายขาวของเธอ
ชัยยศไม่ได้ยินอะไรแล้ว ในหัวเหลือเพียงแค่ประโยคเดียว
“คุณขอฉันเถอะ!”
อยู่ๆเขาก็หัวเราะขึ้นมาอย่างกับคนโง่
“สมจิต คุณพูดอีกรอบ”
“ชัยยศ ฉันอยากแต่งงานแล้ว คุณขอฉันเถอะ”
สมจิตพูดขึ้นอีกครั้งอย่างไม่รู้สึกว่ายืดยาวเลยสักนิด จากนั้นก็ได้ยินชัยยศเอ่ยขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ “ผมอัดเสียงแล้ว!สมจิต ผมจะบอกคุณให้ ผมเก็บหลักฐานเอาไว้แล้ว!คุณน่ะหากกล้ากลับคำ ผมจะไปพูดกับประธานบุริศร์และคุณนาย!หากไม่ได้อีกผมจะไปหาคุณท่านตนุวรให้อยู่ข้างผม!”
ดูสิ ท่าทางกะเปิ๊บกะป๊าบนี้ ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนั้นกันนะ?
ดวงตาของสมจิตสว่างสดใส เธอพูดอย่างช้าๆทีละคำทีละประโยคว่า “ชัยยศ รอฉัน