แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1699 แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา
กานต์ทำไมไวต่อความรู้สึกและฉลาดขนาดนั้น?
เขาคิดเล็กน้อยก็เข้าใจแล้ว
“คุณวางแผนให้ผมไปรับพวกอาพฤกษ์? ถือโอกาสให้ผมก็แยกตัวอยู่ที่นั่นด้วยใช่ไหม?”
“ใช่”
ธเนศพลเห็นกานต์เดาออกแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ย “คนที่คุ้มกันพฤกษ์กลับมาคือคนของอรรณพ ฉันกับแด๊ดดี้ของแกคือเพื่อนรักกัน กับอรรณพกลับสัมผัสกันแค่ไม่กี่ครั้ง อีกทั้งฉันก็ไม่อาจจะไปด้วยตัวเองได้ ทหารทั้งหมดบนล่างมีคนที่รู้จักอรรณพไม่มาก แต่แกกลับรู้จัก ไม่ใช่แค่รู้จัก มิตรภาพของพวกแกยังมีไม่น้อย ดังนั้นแกไปเหมาะสมที่สุด ในขณะเดียวกันเขตกักตัวก็ค่อนข้างหลบซ่อน ทางนั้นต้องใช้สัญญาณบล็อคและขัดขวางการค้นหาขนาดเล็ก ด้านนี้แกคือผู้เชี่ยวชาญ ครอบคลุมหลายๆสิ่งแล้ว มีเพียงแค่แกไปถึงจะเหมาะสม”
คิ้วของกานต์ขมวดเข้าหากันลึกขึ้นกว่าเดิม
“เอาล่ะ เลิกขมวดคิ้วได้แล้ว อายุยังน้อยขมวดคิ้วอีกก็จะกลายเป็นเฒ่าเด็กแล้ว”
ธเนศพลรู้สึกว่ากานต์นับวันจะยิ่งเหมือนบุริศร์แล้วจริงๆ
กานต์กลับเอ่ยขึ้นอย่างค่อนข้างที่จะหงุดหงิดว่า “จิ้งจอกเงินก็ไปได้”
“เขาต้องไปสนามรบที่ต่างประเทศ”
“ทำไม?”
จิ้งจอกเงินเป็นคนของสหภาพQTเรื่องนี้กานต์รู้ แต่ก่อนที่วินเซนต์จะไปไม่ได้พาจิ้งจอกเงินไปด้วย ก็หมายความว่าไม่ได้ต้องการเขา แต่ว่าตอนนี้จิ้งจอกเงินอยู่ๆก็ต้องไป งั้นมีความเป็นไปได้เพียงแค่อย่างเดียว คนของสหภาพQTเกิดเรื่องแล้ว ต้องการจิ้งจอกเงินไปช่วยเหลือ
คนของสหภาพQTไปเพื่อแด๊ดดี้ ดังนั้นเขาก็คิดได้ว่าแด๊ดดี้เกิดเรื่องแล้วใช่หรือเปล่า?
หัวใจของกานต์ตกลงไปที่ตาตุ่มในทันที
ธเนศพลเห็นสีหน้าของกานต์ก็รู้ว่าเขาเดาออกแล้ว มีเด็กที่ฉลาดขนาดนี้อยู่ข้างกายบางครั้งก็รู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ
เขาไอออกมาทีหนึ่งแล้วเอ่ย “แด๊ดดี้ของแกกับเจตต์เข้าไปในเขตแดนศัตรูแล้วร่องรอยการเดินทางสูญหาย วินเซนต์พาคนไปช่วย ก็ไม่มีข่าว ดังนั้นจิ้งจอกเงินถึงได้กังวล อยากจะไปดู แต่ไม่มีข่าวคราวก็ไม่แน่ว่าจะต้องเป็นข่าวร้ายใช่หรือเปล่า? ฉันรู้แกร้อนรน แต่แกก็ควรจะรู้ว่า ภารกิจที่ตัวแกในตอนนี้ เทียบกับพวกแด๊ดดี้แล้ว ผู้ได้รับบาดเจ็บเหล่านั้นสำคัญยิ่งกว่า บนร่างกายของพวกเขาพกพาไวรัสอะไรมาจุดนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของทั้งประเทศ ไม่อย่างนั้นหม่ามี๊แกคงจะไม่จัดการพวกเขาตั้งแต่วินาทีแรกแล้วไม่ไปหาแด๊ดดี้ของแกหรอก กานต์ ต้องบอกว่าบนโลกใบนี้นอกจากแกแล้วยังมีใครเป็นห่วงแด๊ดดี้ของแกมากยิ่งกว่า ไม่ใช่หม่ามี๊ของแกหรอกหรอ? ในเมื่อเธอไม่ไป งั้นก็แสดงว่าแด๊ดดี้ของแกทางนั้นไม่ได้อันตรายมากไม่ใช่หรอ?”
กานต์ไม่พูดอะไรออกมา กลับก็รู้ว่าที่ธเนศพลพูดมาพอจะมีเหตุผล
ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง บนตัวของเขาติดเครื่องหมายแสดงยศเอาไว้ เขาเป็นทหารคนหนึ่ง
ต่อให้ตอนนี้จะเป็นห่วงพ่อแม่ยังไง เขาก็ต้องทำเรื่องที่ตนเองควรทำให้เรียบร้อย
“ครับ ผมไปรับพวกอาพฤกษ์”
“ฉันจะจัดการเครื่องบินส่งแกไปเดี๋ยวนี้ กิจจาก็จะไปกับแก ทักษะทางการแพทย์ของเขายอดเยี่ยม บางทีอาจจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง”
“ครับ”
คราวนี้กานต์ไม่ได้ปฏิเสธ
หลังจากที่กานต์จากไป ธเนศพลก็จัดหาคนสองคนไปเป็นบอดี้การ์ดข้างกายให้กับชัยยศ
ตระกูลนนท์กิจทัศน์นี้ไม่กำจัดไปในสักวัน สำหรับประเทศZแล้วก็เป็นภัยแฝงตั้งแต่ต้นจนจบ
ธเนศพลกลับเข้าไปในบ้านอย่างตึงเครียด ชมพูเห็นเขาสภาพนี้ ก็รู้ว่าเขายุ่งเรื่องงาน อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามว่า “แด๊ดดี้ พี่กานต์ล่ะคะ?”
“เขามีธุระต้องออกไปสักระยะ ช่วงนี้แด๊ดดี้ฝึกซ้อมเป็นเพื่อนลูก”
ธเนศพลมักจะค่อนข้างใจกว้างกับลูกสาวเสมอ
ชมพูผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังคงพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม
กานต์จะยังไงก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอไอราที่เขตกักตัว
ไอราในเวลานี้แตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสมบูรณ์แบบ
แม้ว่ายังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ แต่กลับสั่งลูกน้องให้เคลื่อนย้ายวัตถุอย่างมีระเบียบแบบแผน ตนเองก็ดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บเข้าไปในเขตกักตัว ทั้งยังจัดหมอตรวจสุขภาพและทำการตรวจเลือดให้กับพวกเขา
กานต์รู้สึกแปลกหน้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เด็กผู้หญิงที่จริงจังและถ่อมตนอ่อนโยนแบบนี้คือไอรา?
คือเด็กป่าที่จะต้องตามติดกับเขาตีกับเขาให้ได้ ทั้งยังวิ่งไปแอบดูตนเองที่ห้องน้ำชายคนนั้น?
แสงอาทิตย์สาดส่องไปบนร่างกายของไอรา ทำให้เธอดูเหมือนชุบด้วยแสงสีทอง ให้ความรู้สึกเลือนรางและห่างไกลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ไม่รู้เพราะอะไร อยู่ๆกานต์ก็รู้สึกเกลียดไอราที่เป็นแบบนี้ ราวกับระยะห่างระหว่างเธอกับเขาไกลกันขึ้นเรื่อยๆ
เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองคือความคิดแบบไหน
ตอนนี้ไอราตามติดตัวเองเขารังเกียจ ตอนนี้ไม่ตามติดเขาแล้ว เขายิ่งรังเกียจ
คิดถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้อยู่ที่ประเทศYเข้าใจผิดไอราขึ้นมา คิ้วของกานต์ก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก้าวเท้าเข้าไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ จับมือของไอราเอาไว้ ดึงเธอเข้ามา
“ไปกับผม”
ไอราชะงักเล็กน้อย องครักษ์ที่อยู่บริเวณโดยรอบคิดจะรั้งกานต์เอาไว้ในทันที แต่กลับถูกไอราห้ามเอาไว้
มองดูกานต์จับมือของตนเองเอาไว้ เธออึ้งไปเล็กน้อย
ในความทรงจำนี่ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่กานต์มาจูงมือของเธอก่อน
เขาไม่ใช่รังเกียจเธอหรอกหรอ?
แทบอยากจะไม่มีการสัมผัสใดๆกับตนเองถึงจะดีไม่ใช่หรอ?
นี่เป็นอะไรไป?
ในช่วงเวลาที่ว่างของการตกใจไอราได้ถูกกานต์ลากไปไกลแล้ว มาถึงที่ที่เงียบและห่างไกลจากผู้คนแห่งหนึ่ง
กานต์ถึงได้พบว่าตนเองกำลังจูงมือของไอราอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ อดไม่ได้ที่จะรีบปล่อยออกด้วยความรวดเร็ว
“เธอรู้ไหมว่าที่นี่คือสถานที่อะไร? เธอนึกว่าเขตกักตัวคือที่น่าสนุกหรอ? เธอเพิ่งจะอายุเท่าไร? หากที่นี่มีเชื้อโรคที่พกติดมาด้วยอะไรแบบนั้นแล้วเธอติดเชื้อเข้าจะทำยังไง? ไอรา หากคุณติดเชื้อคือต้องกักตัว!นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่ร้ายแรง หากเชื้อโรคที่พกติดมาด้วยจัดการไม่ได้ภายในชั่วครู่ชั่วยาม เธอก็อาจจะต้องตายรู้หรือเปล่า?”
คำพูดของกานต์ทำให้ไอรานิ่งอึ้งเล็กน้อย
นี่เขากำลังเป็นห่วงเธอ?
คิดอีกที จะเป็นไปได้ยังไงกันล่ะ?
กานต์รังเกียจเธอยังจะแทบไม่ทัน จะเป็นห่วงเธอได้ยังไงกันล่ะ
ไอราเอ่ยขึ้นเบาๆ “แด๊ดดี้ของฉันเป็นผู้นำของประเทศY หากท่านมาทางนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นล่ะก็ ประชาชนของประเทศYจะทำยังไง? ฉันเป็นเจ้าหญิง นี่คือความรับผิดชอบในหน้าที่ของฉัน ต่อให้ติดขึ้นมา นั่นก็คือชีวิตฉัน กานต์ คุณวางใจได้ ฉันมาที่นี่มีธุระต้องทำ ไม่มีทางไปก่อกวนคุณ อีกทั้งวันนี้ฉันไอราอยู่ที่นี่สาบานต่อฟ้า ฉันจะไม่ทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีกับคุณอีกต่อไป ตอนนี้พวกเราสองประเทศร่วมมือกัน เป็นตัวแทนของประเทศตัวเอง แม้ว่าพวกเรายังเล็ก แต่ฉันรู้ว่าฉันเข้าใจได้คุณก็ต้องเข้าใจเป็นธรรมดา ฉันหวังเพียงแค่วันต่อไปในภายภาคหน้า ทุกคนจะสามารถร่วมมือกันอย่างมีความสุขได้ หากไม่มีเรื่องอะไรฉันไปก่อนล่ะ ทางนั้นยุ่งมาก”
พูดจบไอราก็หมุนตัวจากไป
เธอยังคงชอบกานต์อยู่ แต่เธอรู้ว่ากานต์ไม่ได้ชอบตนเอง
แด๊ดดี้บอกว่าเด็กผู้หญิงต้องมีศักดิ์ศรีของตัวเอง แม้ว่าจะชอบคนๆหนึ่งมากแค่ไหนก็ไม่สามารถทิ้งความหยิ่งและความทรนงในศักดิ์ศรีของตัวเองได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นเจ้าหญิง เป็นตัวแทนของประเทศหนึ่ง
ดังนั้นไอรากัดริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น
ถ้าหาก เธอกำลังคิดว่าถ้าหาก ถ้าหากกานต์ยังคงไม่ได้ชอบเธอล่ะก็ เธอก็จะไม่ฝืนให้ได้มาแล้ว
แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา เธอไอราก็ไม่มีความจำเป็นต้องหลงรักดอกไม้ดอกหนึ่งข้างเดียวใช่หรือเปล่า?
คิดเช่นนี้ ไอราถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย