แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1716 นี่คือธรรมชาติของมนุษย์
หลังจากบุริศร์กับวินเซนต์ฉีดยาถอนพิษไปแล้วพวกเขายังคงไม่ฟื้น ทำการตรวจสอบหลายๆอย่างก็ไม่พบอาการอื่นๆ ไม่มีไข้ด้วย แค่ไม่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น
นรมนขมวดคิ้วแน่น แต่กลับไม่ได้พูดอะไร มอบทุกอย่างในตอนนี้ให้กิมจิเป็นคนจัดการ
ภายใต้การตรวจสอบของกิมจิ ไม่นึกว่าในโรงพยาบาลของค่ายทหารจะตรวจสอบเจอพวกนั้นที่เคยเป็นลูกน้องเก่าของอาณาจักรรัตติกาล ตอนที่พวกเขาเห็นกิมจิก็เหมือนกับเด็กนักเรียนที่ทำอะไรผิด ยืนอยู่ต่อหน้ากิมจิไม่ยอมพูดยอมจา
ไม่อธิบาย แต่ก็ไม่ปฏิเสธ
สถานการณ์อย่างนี้ถ้าเป็นช่วงแรกเริ่มกิมจิคงจะรู้สึกเสียใจ แต่หลังจากที่รู้ถึงการตัดสินใจของ นรมนเขากลับปล่อยวางได้แล้ว
“ลูกน้องเก่าของอาณาจักรรัตติกาลกลับมาต่อกรกับเจ้านายของอาณาจักรรัตติกาล น่าสนใจจริงๆ”
คำพูดนี้ของกิมจิพูดอย่างไม่ใส่ใจ แต่กลับเหมือนฝ่ามือที่ตบลงไปบนใบหน้าของพวกเขา ทำให้สีหน้าของแต่ละคนดูไม่ได้เลย
แต่ตอนนี้กิมจิจะใส่ใจความคิดของพวกเขาอีกทำไมล่ะ?
“พวกนายคิดว่าอาณาจักรรัตติกาลควรจะเดินหน้าต่อไปยังไง? มอบฐานะและยศทหารทำให้พวกนายกลายเป็นทหารเหรอ?”
แค่กิมจิพูดออกไป พวกลูกน้องเก่าก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกัน สายตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
กิมจิจึงเข้าใจได้ในทันที
ดังนั้น บนโลกนี้สิ่งที่ยากจะคาดเดาที่สุดก็คือความรู้สึกของมนุษย์
เขาไม่คู่ควรกับอาณาจักรรัตติกาล ไม่คู่ควรกับนรมน ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกว่านรมนคงจะยิ่งคิดก็ยิ่งปวดร้าวสินะถึงได้ตัดสินใจในสิ่งที่ยากจะยอมรับได้อย่างนี้ออกมา
“พวกนายลืมกันหมดแล้วใช่ไหมว่าทำไมพวกนายถึงมาเป็นคนของอาณาจักรรัตติกาลได้?”
กิมจิละทิ้งความดุดันความเคร่งขรึมในตอนแรกไปแล้ว สีหน้าสุขุมขึ้นมาก แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความแปรปรวน
เขาชี้ไปที่ลูกน้องเก่าของอาณาจักรรัตติกาลคนหนึ่งตามอำเภอใจแล้วพูดขึ้น: “นาย ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนแรกแม่ของนายโดนพ่อของนายใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว ด้วยความทนไม่ไหวจึงพยายามตอบโต้และฆ่าพ่อของนาย จากนั้นก็ฆ่าตัวตาย นายจึงกลายเป็นลูกของฆาตกรในทันที โรงเรียนของนาย เพื่อนร่วมห้องของนาย ญาติๆของนายหลบเลี่ยงนาย ตอนนั้นอาณาจักรรัตติกาลเป็นผู้ที่รับนายมาดูแล ตอนนั้นนายยังเคยบอกว่าชีวิตนี้อาณาจักรรัตติกาลก็คือครอบครัวของนาย เพื่ออาณาจักรรัตติกาลแล้วนายทำได้ทุกอย่างใช่ไหมล่ะ?”
สีหน้าของคนที่โดนเรียกชื่อซีดเผือดเล็กน้อยในทันที แต่กลับไม่ได้ตอบโต้
กิมจิก็ไม่ได้มองเขา เรียกอีกคนหนึ่งแล้วพูดขึ้น: “นาย ฉันจำได้ว่าตอนนั้นนายลักลอบข้ามฝั่งมาเงียบๆ ไม่มีสถานะตัวตน ถือเป็นคนเถื่อนคนหนึ่ง เพราะเดิมทีพ่อของนายก็เป็นคนที่ไม่มีตัวตน จึงไม่ได้ให้สถานะแก่นายไปด้วย นายโดนคู่อริไล่ฆ่า จนเกือบตายอยู่ในตรอกเล็กๆ แต่เป็นเพราะอาณาจักรรัตติกาลช่วยนายเอาไว้ ให้ตัวตนใหม่แก่นาย ทำให้นายมีชีวิตที่สะดวกสบาย ถึงขั้นมีแฟน ได้แต่งงานมีลูกกัน ลูกของนายก็มีตัวตน ไม่ต้องเป็นคนเถื่อนอีกแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนั้นนายพูดว่ายังไงนะ? นายบอกว่าอาณาจักรรัตติกาลทำให้นายได้เกิดใหม่ ชีวิตนี้ของนายจะเป็นของอาณาจักรรัตติกาลถูกไหม?”
ผู้ชายคนนั้นอายจนหน้าแดงไปหมด แทบจะต้องหาซอกเล็กๆแทรกตัวเข้าไปอยู่แล้ว
แต่กิมจิกลับเรียกชื่ออีกคนต่อพูดขึ้น: “ตอนนั้นนายเข้ามาในอาณาจักรรัตติกาลได้ยังไงนะ? อ้อ ใช่สิ นายอยากเป็นทหาร แต่วงศ์ตระกูลของนายมีคนทำผิดกฎหมาย ไม่ผ่านการตรวจสอบทางด้านการเมือง นายโกรธจึงคิดจะฆ่าตัวตาย ก็เป็นคนของอาณาจักรรัตติกาลที่ช่วยนายเอาไว้ มอบหนทางให้แก่นาย เป็นนายเองที่ตื๊อจะเข้ามาในอาณาจักรรัตติกาลให้ได้ถูกไหม?”
ผู้ชายคนนั้นก้มหน้า
กิมจิพูดถึงทีละคนๆ คนพวกนั้นต่างก็ละอายใจ แต่พวกเขายังคงไม่ยอมเปิดโปงคนที่อยู่เบื้องหลัง
แม้ว่ากิมจิกับนรมนจะเดาได้แต่แรกแล้ว แต่คนพวกนี้ไม่ยอมพูดความจริง พวกเขาจึงหมดหนทางที่จะได้รับการยืนยัน แต่ทว่าก็ไม่สนใจแล้ว
กิมจิยิ้มมองพวกเขา เป็นครั้งแรกที่หัวใจดวงนั้นเจ็บปวดจนอยากจะร้องไห้
“รู้ไหมว่าตอนไหนที่ฉันรู้สึกเสียใจเป็นครั้งแรก?”
คำพูดของกิมจิทำให้พวกเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ทุกคนมองกิมจิอย่างไม่เข้าใจ
เขาพูดขึ้น: “ครั้งแรกคือตอนที่ยุบอาณาจักรรัตติกาล อาณาจักรรัตติกาลเติบโตอยู่ในมือของฉัน พวกนายทุกคนเป็นครอบครัวของฉัน แต่ตอนที่ยุบก็แสดงว่าทุกคนต้องแยกย้ายกันไปแล้ว ฉันกับนายหญิงพยายามช่วยเหลือจัดการให้พวกนายมีที่ไปเท่าที่จะสามารถทำได้ กลัวว่าต่อไปพวกนายจะใช้ชีวิตได้ไม่เป็นสุข กลัวว่าพวกนายไม่มีพรรคพวกแล้วจะโดนใครรังแก ฉันยังจำท่าทีของนายหญิงที่ไปช่วยเหลือในตอนแรกได้อยู่เลย ถึงฉันจะไม่ได้บอกพวกนาย แต่วินาทีนั้นในใจของฉันก็ให้เธอเป็นนายหญิงไปตลอดชีวิตแล้วจริงๆ แต่พวกนายล่ะ?”
“ครั้งที่สองที่เสียใจก็คือวันนี้ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ฉันอบรมสั่งสอนมาด้วยตนเอง มิตรสหายที่ตนเองคิดว่าเป็นคนในครอบครัวไม่นึกว่าจะทรยศกลับมาเล่นงานนายหญิงกับประธานบุริศร์เช่นนี้ พวกนายเจริญก้าวหน้า ฉันก็สบายใจ เพราะในเมื่อไม่มีพวกฉันแล้ว พวกนายยังสามารถเหยียบอาณาจักรรัตติกาลโดยใช้ชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม ต่อไปฉันก็ไม่ต้องกังวลเหมือนนายหญิงอีกแล้วว่าชีวิตที่เหลือของพวกนายจะผ่านไปได้ไม่ดี จะไม่ดีได้ยังไง? หักหลังเจ้านายได้จะมีอะไรไม่ดีอีกล่ะ? ฉันจำได้ว่ากฎระเบียบบรรทัดแรกของอาณาจักรรัตติกาลก็คือไม่ว่าจะถูกหรือผิด ชีวิตนี้จะยอมรับแค่นายหญิงเท่านั้น! ดังนั้นพวกนายกำลังทำให้อาณาจักรรัตติกาลเสียชื่อหรือว่าส่งเสริมให้อาณาจักรรัตติกาลเจริญรุ่งเรืองกันแน่?”
ในที่สุดคำพูดของกิมจิก็ทำให้พวกเขาทนไม่ไหว
“หัวหน้ากิมจิ ไม่ใช่อย่างนี้! พวกผมแค่หวังว่าอาณาจักรรัตติกาลกับทหารอื่นๆจะได้รับฐานะทางสังคมกับเกียรติยศเหมือนกัน! สิ่งที่พวกผมอาณาจักรรัตติกาลลงแรงออกไปก็แทบไม่ต่างจากทหารประจำการเลย ทำไมเกียรติยศพวกนั้นถึงไม่เป็นของพวกผมล่ะ?”
“ตอนที่นายถามคำถามปัญญาอ่อนอย่างนี้ออกมาฉันก็ไม่อยากฟังแล้ว”
จู่ๆกิมจิก็ยิ้ม เขามองคนพวกนี้ด้วยสายตาที่ทนไม่ไหว พูดขึ้นอย่างชัดเจน: “ทหารประจำการกลายเป็นทหารประจำการได้ยังไง? พวกเขาต้องผ่านการคัดเลือกทีละขั้นๆ ต้นตระกูลต้องผ่านการตรวจสอบด้านการเมืองถึงจะได้เข้าไปในเขตทหาร ตั้งแต่ได้เป็นทหาร การเลื่อนขั้นในทุกๆครั้งล้วนแต่เป็นผลลัพธ์ที่เอาตัวรอดหลังจากได้ผ่านเลือดและความดุเดือดในสนามรบมาอย่างโชกโชน ที่พวกเขาได้รับดอกไม้และเสียงปรบมือ เป็นเพราะใช้ชีวิตกับประวัติที่ใสสะอาดของครอบครัวแลกมา! แล้วพวกนายล่ะ? ถ้าใครสักคนท่ามกลางพวกนายแค่มีภูมิหลังครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ คงสามารถเดินมาในเส้นทางของทหารได้ แต่พวกนายใช่ไหมล่ะ? แม้แต่เงื่อนไขขั้นพื้นฐานสุดๆที่พวกนายจะเข้ามาในเขตทหารก็ยังไม่มีเลย กล้าเปรียบเทียบกับทหารได้ยังไง? หลายปีนี้อาณาจักรรัตติกาลให้เกียรติยศชื่อเสียงแก่พวกนาย ทำให้พวกนายต่างก็ลืมว่าตัวเองมาจากที่ไหนกันแล้วใช่ไหม? ถ้าไม่มีอาณาจักรรัตติกาล สิ่งที่พวกนายต้องการทั้งหมดในตอนนี้ พวกนายคู่ควรไหมล่ะ?”
เสียงของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็กระแทกไปที่ข้างหูของทุกคน ราวกับฝ่ามืออันหนักอึ้งที่สะบัดไปบนใบหน้า ทำให้เกียรติยศทั่วร่างของพวกเขาหลุดออกไปในทันที ตบกลับมาสู่โฉมหน้าเดิมอย่างฉับพลัน
นรมนที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยินอย่างชัดเจน จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะ
นี่คือธรรมชาติของมนุษย์สินะ!
มิน่าล่ะบุริศร์ถึงบอกว่าธรรมชาติของมนุษย์น่ะยากที่จะคาดเดาที่สุด
ที่แท้เขามองพวกนี้ออกแต่แรกแล้วใช่ไหม?
ดังนั้นตอนแรกที่จะยุบอาณาจักรรัตติกาลเขาถึงไม่พูดอะไรเลย ถึงกับไม่แสดงความรู้สึกออกมาด้วย
คนของอาณาจักรรัตติกาลเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่โดนสังคมทอดทิ้ง บุริศร์ใช้ประวัติของตระกูลโตเล็กเป็นที่ตั้งตัวของพวกเขา ถึงขั้นขอเกียรติยศที่ถือว่าค่อนข้างมีความภูมิฐานให้แก่พวกเขา แต่ทั้งหมดในตอนนี้กลับกำลังเยาะเย้ยอย่างเห็นได้ชัด
คนเราน่ะ ท้ายที่สุดก็ลืมรากเหง้าของตนเอง
แต่ทว่านรมนก็นับถือคนเบื้องบนคนนั้นนะ ที่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ คู่ควรที่จะอยู่ในตำแหน่งสูงๆจริงๆ!
เธอยิ้มเยาะ แต่กลับเห็นร่างร่างหนึ่งวิ่งมาทางตนเองอย่างรวดเร็ว