แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1740 ทำไมเธอจะยุ่งไม่ได้
การพยายามเปลี่ยนใจของใครสักคนมันยากขนาดนี้นี่เอง
กานต์ไม่ได้ช่ำชองเรื่องแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากทำร้ายใจของชมพู เขาตบไหล่ของชมพูเบาๆ แล้วพูดวาา “ช่วงนี้อย่ามาหาฉัน ตอนนี้ฉันตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลายอย่าง ถ้าเธอมาหาคงมีผลเสียกับเธอ”
“ฉันไม่สน!พี่กานต์ พี่คิดว่าฉันมาหาพี่เพราะเรื่องนี้เหรอ?”
ชมพูเจ็บปวดหัวใจเป็นที่สุด
เธอไม่ยอม!
ไม่ยอมเด็ดขาด!
แต่พี่กานต์เย็นชาขนาดนี้ เธอควรทำอย่างไรดี?
“พี่กานต์ ให้โอกาสฉันได้ไหม? พี่กลับไปเปรียบเทียบก็ได้ ว่าฉันกับไอรา……”
“ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบ ชมพู เธอก็คือเธอ ไอราก็คือไอรา แต่ละคนมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ฉันไม่รู้ว่าฉันชอบไอราตรงไหน ฉันรู้แค่ว่าฉันชินกับการมีอยู่ของไอรา ไอราอยู่กับฉันมาตั้งแต่ฉันสี่ห้าขวบ ฉันขอพูดอะไรที่มันอาจจะน่าอายหน่อยนะ ตอนสี่ขวบไอราตามไปแกล้งและถอดกางเกงฉันในห้องน้ำผู้ชาย และฉันก็เปลือยให้ไอราเห็นแล้ว ชมพู ฉันเป็นคนหัวโบราณ เธอน่าจะเข้าใจที่ฉันจะสื่อนะ”
คำพูดของกานต์ทำให้น้ำตาของชมพูพลันหยุดไหล
“สี่ขวบ? นั่นมันยังเด็กอยู่เลย!พี่กานต์ เหตุผลพี่มันดูฝืนๆยังไงไม่รู้นะ!”
“แต่ว่าฉันยังจำได้ไง!แค่คิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองเปลือยให้ไอราเห็นหมดเแล้วฉันก็ไม่สามารถทำใจมองผู้หญิงคนอื่นได้ ดังนั้นชมพู เธอเป็นคนดี เป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง แต่ว่าเราคงเป็นได้แค่พี่น้อง”
เมื่อชมพูเห็นท่าทางจริงจังของกานต์ ตอนแรกเธอกำลังจะพูดว่ามันแค่เด็กเล่นไม่รู้เรื่อง แต่ในตอนนี้เพิ่งได้รู้ว่า กานต์พูดจริงๆ
แปลว่าเขาปักใจไว้ที่ไอราตั้งแต่สี่ขวบแล้วเหรอ?
แค่เพราะไอราแกล้งถอดกางเกงจนเขาเปลือยให้อีกฝ่ายเห็นเนี่ยนะ?
ชมพูรู้สึกเหมือนโลกพังทลาย
เหตุผลไร้สาระอะไรเนี่ย?
แต่เธอก็รู้ว่าเหตุผลนี้มันดูเป็นจริงเป็นจังมากเท่าไหร่ในสายตาของกานต์
แปลว่าการที่เธอไม่ทำตัวเป็นอันธพาลแอบบุกเข้าไปดูกานต์อาบน้ำตอนเด็กๆเป็นความผิดของเธอสินะ?
ยิ่งคิดชมพูก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองถูกยัดเยียดให้แพ้
น้ำตาของเธอไหลออกมาเป็นสายอย่างต่อเนื่อง เธอไม่ได้ส่งเสียงดัง แต่กลับชวนรู้สึกสงสาร
“ชมพู อย่าเป็นอย่างนี้สิ”
“พี่กานต์ พี่คิดจะทำยังไง? พี่รู้ทั้งรู้ว่าถ้าทำผิดกฎจะถูกลงโทษ ที่พี่ทำอย่างนี้ก็เพื่อเธอจริงๆเหรอ?”
ชมพูกำมือแน่น
เธอรู้ดีว่าบทลงโทษของกานต์จะเป็นยังไง เมื่อใดที่ผลสรุปออกมาแล้ว เธอกับเขาก็จะไม่ได้มีโอกาสเจอกันอีก
หลายสิบปีที่ผ่านมาพวกเขาอยู่ด้วยกันมาตลอด ถ้าเขาต้องไปจากเธอแล้วเธอจะทำยังไง?
“พี่กานต์ ฉันไม่อยากให้พี่ไป พี่บอกเองว่าพี่จะอยู่ในค่ายทหารตลอดชีวิต พี่บอกเองว่าพี่จะทำหน้าที่นี้ให้ดีเพื่อช่วยพ่อไปพร้อมกับฉัน ทำไมตอนนี้พี่คิดจะไปก็ไปง่ายๆเลยล่ะ?”
กานต์เองก็เสียใจเหมือนกัน
เขาหยิบกระดาษทิชชูที่อยู่ข้างๆยื่นให้ชมพู เอ่ยพูดอย่างแผ่วเบาว่า “ชมพู เรื่องนี้เธอไม่ต้องยุ่งได้ไหม?”
“ไม่ได้!”
ทำไมเธอจะยุ่งไม่ได้?
ถ้าเธอไม่ยุ่งกานต์ก็จะไปจริงๆ!
เมื่อกานต์เห็นว่าพูดยังไงก็เอาชนะชมพูไม่ได้ ก็เริ่มรู้สึกปวดหัวขึ้นมา
เขาอดคิดถึงไอราขึ้นมาไม่ได้
ทั้งๆที่สารภาพรักเขาเหมือนกัน ไอราพูดออกมาอย่างเอาแต่ใจ ทว่าชมพูกลับทำให้เขารู้สึกผิดและสงสาร
นี่เขาถูกทารุณจนชินแล้วสินะ ถึงได้ชอบคนเผด็จการอย่างยัยลิงไอรานั่น
เมื่อสังเกตเห็นว่ากานต์กำลังเหม่อลอย ในใจของชมพูก็ยิ่งรู้สึกรับไม่ได้
“พ่อให้ฉันมาบอกพี่ สองสามวันนี้ให้อยู่ที่นี่ไปก่อน เรื่องอะไรก็ห้ามเข้าไปยุ่งทั้งนั้น และฉันก็จะอยู่ดูแลพี่ที่นี่ด้วย”
คำพูดของชมพูทำให้กานต์ชะงัก
“แปลว่าที่คุณปู่สามกลายมาเป็นผู้บังคับบัญชาฉันมาจากความเห็นชอบของน้าพลงั้นเหรอ?”
“ใช่”
“น้าพลรู้จักที่นี่ด้วย?”
“ใช่”
ชมพูนึกว่าเขาจะถามเยอะ แต่จู่ๆเขากลับเงียบไป
ผ่านไปพักใหญ่ถึงได้พูดขึ้นมาว่า “ที่นี่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สองสามวันนี้คงลำบากเธอแย่”
พูดจบกานต์ก็ลุกขึ้นเดินไปชั้นบน
ชมพูนิ่งอึ้งไปทันที
หมายความว่าไง?
เธอบอกว่าจะอยู่กับเขาที่นี่ระยะหลังจากที่ผิดหวังจากการสารภาพรักกับเขา แล้วเขาก็ไม่ว่าอะไรเนี่ยนะ?
ไม่กลัวว่าพอไอรารู้แล้วจะหึงเอาเหรอ?
หรืออาจเป็นเพราะความปกตินี้เขาถึงได้ตอบตกลงไอรา?
ในหัวของชมพูวุ่นวายซับซ้อนไปหมด ด้านกานต์เดินกลับมาห้องนอนเป็นที่เรียบร้อย
ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเทอร์เน็ต เขารู้สึกเหมือนได้กลับไปในช่วงเริ่มต้นเพียงชั่วข้ามคืน ช่วงเวลาที่ว่างจนไม่มีอะไรทำแบบนี้มันช่างทรมานจริงๆ
กานต์หากระดาษA4กับดินสอออกมา วาดอะไรเล่นไปพลางๆ ไม่ทันรู้ตัวก็วาดใบหน้าของไอราออกมาเสียแล้ว
เมื่อค้นพบว่าตัวเองก็มีพรสวรรค์ในด้านการวาดรูปก็อดที่จะอึ้งไม่ได้เหมือนกัน แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าคุณตากับคุณแม่ก็มีพรสวรรค์นี้ กานต์ก็เข้าใจในทันที
เมื่อมองภาพวาดที่เหมือนมีชีวิตบนหน้ากระดาษ มุมปากของกานต์ก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย ในหัวนึกย้อนไปถึงฉากที่ไอราแกล้งถอดกางเกงเขาในตอนนั้นอย่างห้ามไม่ได้
ไม่รู้ว่าตอนนี้ผู้หญิงคนนี้จะยังรุนแรงเหมือนตอนนั้นหรือเปล่า?
ขณะที่กำลังคิด จู่ๆอวัยวะบางส่วนบนร่างกายก็เปลี่ยนไป
สีหน้าของกานต์แดงซ่าน เขาเก็บกระดาษกับดินสอเข้าลิ้นชัก แล้วพลิกตัวนอนหงายมองเพดาน เป็นครั้งแรกที่เขาเลื่อนลอยเพราะคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่ง
จะว่าไปก็แปลกเหมือนกัน เมื่อก่อนไม่เคยคิดถึงไอราบ่อยขนาดนั้น แต่ทำไมหลังจากที่ตกลงเป็นแฟนและจูบกันสองครั้งจะคิดถึงบ่อยขนาดนี้?
หรือเป็นเพราะหลังจากลงตราประทับว่าเป็นคนของตัวเองแล้ว เขาถึงได้คิดอะไรไปมั่วซั่วแบบนี้?
ยิ่งคิดกานต์ก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นเพราะเหตุผลนี้
ยังลิงไอรานั่นก็ถือว่ามีรูปร่างและหุ่นที่ดี
ยิ่งคิดแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าร่างกายเริ่มร้อนผ่าว ทันใดนั้นก็มีของเหลวอุ่นๆไหลออกมาจากโพรงจมูกของเขา กานต์ตาลีตาเหลือกรีบวิ่งไปล้างในห้องน้ำ
ช่วงพลบค่ำ กลิ่นอาหารส่งกลิ่นจากด้านล่างเป็นระยะๆ กานต์ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินลงไป ก็พบว่าชมพูในชุดผ้ากันเปื้อนกำลังทำอาหารอยู่ จึงอดพูดยิ้มๆขึ้นมาไม่ได้ว่า “ช่วงนี้ถือว่าเป็นลาภปากของฉันละ”
“พี่กานต์ ไปล้างมือก่อน อีกเดี๋ยวน่าจะได้กินแล้ว เหลือแค่ซุปอย่างเดียวก็จะเสร็จแล้ว”
“ได้”
กานต์เข้าไปล้างมือในห้องน้ำ ในตอนที่กลับมาอาหารก็มาครบแล้ว
เมื่อเห็นเมนูสี่อย่างกับซุปหนึ่งอย่างที่มีสีสันและกลิ่นหอมน่ารับประทานบนโต๊ะ จู่ๆในหัวของเขาก็คิดขึ้นมาว่าไอราจะกลับไปหรือยังก็ไม่รู้ ตอนนี้กำลังทานข้าวอยู่ที่ไหน
ยัยนั่นไม่เคยจับเคยถืออะไรทั้งนั้น นอกจากสั่งมากินแล้วก็ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ขนาดข้าวมือแรกที่ทำให้เขากินยังกินไม่ได้เลย
“พี่กานต์ คิดอะไรอยู่? กินได้แล้ว”
“อ่อ อืม”
กานต์ยิ้มออกมาบางๆ หยิบจากข้าวขึ้นมากิน
ขณะเดียวกัน ทางด้านไอราก็ติดแหงกอยู่ที่ท่าเรือ
ไปไหนก็มีแต่คนสะกดรอยตามเธอ มีทั้งนักฆ่า และคนของกองทหาร ลูกน้องของเธอตรวจสอบได้แล้วว่ารถคันที่เธอจอดทิ้งไว้โรงพยาบาลมีระเบิดติดตั้งอยู่ใต้ตัวเครื่อง นั่นก็แปลว่าถ้าตอนนั้นเธอขับรถกลับ คงตายไปแล้วแน่ๆ บางทีอาจทำให้คนร่วมถนนที่ไม่รู้ไม่ชี้ซวยไปด้วย
ใครกันนะที่วางแผนเพ่งเล็งเธอขนาดนี้?