แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1753 คุณสุดยอดจริงๆ
“ฉันไม่ได้คิดที่จะแอบฟังนะ ฉันก็แค่อยากจะมาถามคุณว่าเมื่อไรจะออกไปได้?”
ไอรารู้สึกว่าตนเองทำตัวไม่ถูกเหลือเกิน โดยเฉพาะเธอได้ยินชื่อของสายฟ้า ถึงได้ชะงักไปชั่วครู่ คิดไม่ถึงว่าการชะงักครั้งนี้จะถูกกานต์พบเข้า
ที่จริงแล้วต่อให้พบเข้าก็ไม่อะไร ก็แค่สายฟ้าชื่อนี้ทำให้เธอคิดอะไรขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน
บางทีกานต์อาจจะรู้เรื่องที่สายฟ้าเคยมาหาตนเองแล้วก็ได้
เขากำลังหาสถานะของสายฟ้า สงสัยตนเองด้วยแล้วใช่หรือเปล่า?
คิดถึงตรงนี้ สีหน้าของไอราก็เริ่มซีดแล้ว
กานต์เก็บสายตาลงเล็กน้อย เอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบว่า “ไม่เป็นไร อยู่ข้างล่างคนเดียวน่าเบื่อมาก?”
“อือ”
ไอราพยักหน้าเบาๆ เธอเป็นเพราะเบื่อถึงได้ขึ้นมาจริงๆ ใครจะรู้ว่าจะได้ยินสิ่งเหล่านี้
“งั้นก็อยู่ต่อเถอะ ฉันค้นหาอะไรนิดหน่อย เธอเล่นไปคนเดียว”
กานต์กลับไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ก้มศีรษะเริ่มเคาะแป้นพิมพ์ต่อไป ทว่าไอรากลับลังเลขึ้นมา
“ฉัน ฉันลงไปดีกว่า อย่ารบกวนคุณทำงาน”
ยิ่งไปกว่านั้นลักษณะงานของกานต์เป็นความลับขนาดไหน เธอเข้าใจดี
รักคนๆหนึ่งก็อย่ากลายเป็นภาระของเขา ยิ่งอย่าอาศัยว่าตนเองเป็นคนโปรดจึงทำตัวใหญ่จนทำลายขีดจำกัดและหลักการของฝ่ายตรงข้าม
พูดจบไอราก็ไม่ได้รอปฏิกิริยาตอบสนองของกานต์ หมุนตัวจากไปด้วยความรวดเร็ว
สำหรับท่าทีและวิธีการของไอรา กานต์นั้นชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็รู้ว่าในใจของไอราจะต้องรู้สึกไม่ดีอย่างแน่นอน
เขายืนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“รอก่อน”
“หืม?”
ใจของไอราตกไปที่ตาตุ่มในทันที
เขาคงไม่ได้จะถามตนเองเกี่ยวกับเรื่องของสายฟ้าหรอกมั้ง?
อยู่ๆไอราก็ตื่นเต้นจนเหงื่อออกที่ฝ่ามือ
เธอมองดูกานต์เดินมาทางตนเองทีละก้าวๆ บนร่างกายราวกับแฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม ให้เธอคิดอยากถอยหลังหนึ่งก้าวโดยจิตใต้สำนึก แต่กลับถูกกานต์ดึงมือเอาไว้ เอ่ยขึ้นเบาๆว่า “ฉันลงไปทำของอร่อยให้เธอ ตอนที่เธออยู่คนเดียวน่าเบื่อก็กินหน่อยได้”
“หา?”
ไอราตะลึงงันในทันที
อะไรกัน?
ของอร่อย?
ไม่ใช่ว่าเพิ่งกินข้าวเสร็จไปชั่วโมงกว่าหรอ?
จะกินอะไรอีก?
กานต์กลับไม่ได้สนใจความประหลาดใจของไอรา จูงมือของเธอลงไปในทันที
ไอราคือถูกพาลงมาโดยสมบูรณ์แบบ ในใจตุ๊มๆต่อมๆ บอกไม่ถูกว่าคือความรู้สึกอะไร
หลายครั้งที่เธออยากจะบอกกับกานต์ว่าเธอก้บสายฟ้าที่จริงแล้วไม่ได้สนิทกัน แต่คำพูดมาถึงที่ริมฝีปากก็กลืนลงไปอีก
กานต์ไม่ได้ถาม เธอสารภาพออกไปก่อนล่ะก็ เรื่องมากมายก็ต้องพูดออกมาหมด
ในเมื่อตอนแรกเลือกที่จะไม่พูด ตอนนี้ก็ต้องพูดไม่ได้อย่างแน่นอนน่ะสิ
ไอรากัดริมฝีปากล่าง คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น
“นั่งอยู่บนโซฟาสักครู่”
กานต์กดตัวไอราให้นั่งลงบนโซฟา ส่วนตัวเองไปที่ห้องครัว
ไอราไม่รู้ว่าเขาจะไปทำของอร่อยอะไร ในใจกลับค่อนข้างที่จะเป็นกังวล
คิดไม่ถึงว่าสายฟ้าจะถูกกานต์เพ่งเล็งแล้ว
โดยปกติ คนที่ถูกกานต์เพ่งเล็งส่วนใหญ่ไม่มีทางหนีรอด
ทว่าแสดงตัวสายฟ้าออกมา การเจรจาต่อรองของเธอกับหัวหน้าของเขาไม่ใช่ว่าต้องถูกเปิดโปงแล้วหรอ?
จะต้องเตือนสายฟ้าสักหน่อยหรือเปล่านะ?
สมองของไอราว่างเปล่าไปหมด
กานต์เข้าไปในห้องครัวสักพัก จากนั้นไม่นานก็ยกเอาพุดดิ้งและวุ้นผลไม้ออกมา เป็นแบบทำเองทั้งหมด
ไอราถูกสิ่งเหล่านี้ทำให้สะดุดสายตาเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “คุณทำ?”
“สุดยอดล่ะสิ?”
กานต์หัวเราะเบาๆพร้อมกับลูบศีรษะของเธอแล้วจึงเอ่ย “เล่นเองสักพัก ฉันไปจัดการเรื่องบางเรื่องก่อน”
“อ้อ”
ไอรารีบก้มศีรษะลงในทันที
บางครั้งที่จริงแล้วเธอก็ขัดแย้งในตัวเองมาก
ด้านหนึ่งก็หวังว่ากานต์จะเอ่ยปากถามเธอ อีกด้านหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะถามเธอขึ้นมาอีก
เธอไม่รู้ว่าสภาพจิตใจนี้จะสามารถรักษาให้คงอยู่ต่อไปได้นานเท่าไร เพียงแต่ยิ่งรู้สึกทุกข์ทรมานมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
“กานต์”
ไอราเรียกกานต์เอาไว้อย่างกะทันหัน
กานต์ชะงักฝีเท้าเล็กน้อย หันมามองเธอแวบหนึ่ง “เป็นอะไรไป?”
“คุณไม่มีอะไรอยากจะถามฉัน?”
“เธอมีอะไรอยากจะบอกฉันหรือเปล่า?“
คำพูดของกานต์ทำให้ไอรารู้สึกติดอยู่ที่ลำคอ
ต้องพูดไหม?
พูดได้ไหม?
หากพูดได้ก็ไม่ถึงขั้นยืดเวลามาถึงตอนนี้หรอก
เธอส่ายศีรษะ ไม่กล้ามองตาของกานต์ไปในชั่วขณะ
ถึงขั้นเธอคิดอย่างเริ่มทุกข์ใจว่า กานต์รู้สึกเสียใจในภายหลังที่มีแฟนแบบเธอแล้วใช่หรือเปล่า?
เห็นไอราไม่พูด กานต์ก็ไม่บังคับเอ่ยขึ้นเบาๆว่า “เลิกคิดมากขนาดนั้นได้แล้ว กินพุดดิ้งอะไรไป อารมณ์จะได้ดีขึ้นหน่อย อีกสักพักฉันออกไปข้างนอกเป็นเพื่อนเธอ”
“ค่ะ”
ในเมื่อกานต์ตัดหัวข้อสนทนานี้ไปแล้ว ไอราก็ไม่ไปเหนี่ยวรั้งไม่ยอมปล่อยเป็นธรรมดา เพียงแต่เล็บที่อยู่บนสองมือนั้นได้ทำเอาฝ่ามือของเธอเลือดไหลออกมา
กานต์กลับไปที่ห้อง บุกเข้าไปในหน้าข้อมูลส่วนตัวของสายฟ้าด้วยความรวดเร็ว
หลังจากที่สายฟ้าจากไปพร้อมกับบิดาก็ไปยังเมืองH ทางนั้นติดกับชายแดน ตอนที่เพิ่งไปพวกเขาทั้งจนทั้งไม่มีความรู้ความสามารถ ยากจนราวกับถูกน้ำชำระล้างไปยังไงอย่างงั้น บิดาอาศัยท่าเรือขนถ่ายสินค้าในการประทังชีวิต เลี้ยงเขาจนถึงอายุสิบเจ็ดสิบแปด หลังจากที่สายฟ้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยการใช้ชีวิตของพวกเขาถึงได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
บอกว่าในช่วงมหาวิทยาลัยของสายฟ้าทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ฐานะบ้านพวกเขาถึงได้ดีขึ้นมา เพียงแต่สำหรับสายฟ้าทำอะไรอยู่ที่ด้านนอกนั้น ไม่มีใครรู้ ทว่าสถานะบ้านของพวกเขาร่ำรวยขึ้นมาด้วยความรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด
กานต์ค้นหาสถานที่ที่เขาทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยในช่วงมหาวิทยาลัยอย่างละเอียด ไม่อยู่นอกเหนือไปจากทำงานในร้านกาแฟและร้านอาหารอะไรทำนองนั้น แต่สายอาชีพแบบนี้สามารถสนับสนุนค่าใช้จ่ายระหว่างเรียนมหาวิทยาลัยของเขาก็ยากเย็นแล้ว จะมีเงินเหลือให้ครอบครัวร่ำรวยขึ้นมาได้ที่ไหนกัน?
ดังนั้นในนี้จะต้องมีเรื่องอะไรที่พวกเขาละเลยไป ไม่ได้ตรวจสอบชัดเจนอย่างแน่นอน
ทว่าคนที่สายฟ้าติดต่อในช่วงเวลานั้นเยอะและซับซ้อนมาก คิดจะตรวจสอบทีละคนไม่ค่อยสมจริงเท่าไร
การตรวจสอบค้นหาของกานต์ตกเข้าสู่ทางตัน
หัวหน้าที่อยู่เบื้องหลังของสายฟ้านั่นเป็นใครกันแน่?
เป็นคนที่ตั้งแต่เขาอยู่ช่วงมหาวิทยาลัยก็สมคบคิดกันแล้วใช่หรือเปล่านะ?
คิ้วของกานต์ขมวดเข้าหากันแน่น
เรื่องที่คิดไม่ออกตอนนี้เขาก็ไม่คิดแล้ว กานต์จัดการล้างข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ปิดเครื่อง จากนั้นลงไปชั้นล่าง เห็นไอราถือพุดดิ้งที่ตนเองทำกับมือกินอย่างไม่ใช่ว่ามีความสุขมากหรอกหรอ ดวงตาที่ร้อนรนคู่นั้นสงบลงมาในชั่วพริบตา
“อร่อยไหม?”
“อร่อย คุณสุดยอดจริงๆ คิดไม่ถึงว่าแม้แต่อันนี้ก็ทำเป็น”
ไอราในตอนแรกเพียงแค่เพื่อให้อารมณ์ดีขึ้นหน่อยถึงได้กิน คิดไม่ถึงว่ากินไปคำเดียวหยุดไม่ลงเลยจริงๆ
กานต์คนนี้เรียกได้ว่าเป็นชายหนุ่มล้ำค่าคนหนึ่งเลยล่ะมั้ง!
คิดไม่ถึงว่ายังจะทำของหวานเป็น!
ไอรากินจนเลอะเต็มมุมริมฝีปาก กานต์เดินเข้าไป กานต์ยื่นมือออกไปเช็ดให้เธอเบาๆ เอ่ยขึ้นอย่างเอ็นดูว่า “กินช้าๆหน่อย ของเธอหมด ไม่มีใครแย่ง”
เดิมทีเป็นเพียงแค่การเคลื่อนไหวโดยไม่ได้ตั้งใจ กลับยังคงทำให้ไอราหน้าแดง
“รู้แล้ว”
เธอรีบก้มศีรษะกินพุดดิ้ง รู้สึกเริ่มไม่ค่อยเหมือนตัวเองไปหมดแล้ว
กานต์กลับหัวเราะเบาๆพร้อมเดินไปห้องน้ำ หยิบเสื้อเชิ้ตที่อบแห้งจากในเครื่องซักผ้าออกมาสวมใส่ จากนั้นถึงได้ยืดตัวขึ้นเดินออกไป
“กินเสร็จเราสองคนออกไปเดินเล่นข้างนอก เธอเลือกเสื้อผ้าอะไรพวกนี้ให้ฉันสองสามตัว”
“ค่ะ”
แน่นอนว่าไอรายินดีอยู่แล้ว
ในเวลานี้เอง ด้านนอกสะท้อนเสียงเครื่องยนต์ของรถเข้ามาอย่างกะทันหัน กานต์ได้ยินเสียงนี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไอรากลับดีดตัวยืนขึ้นมา ทั้งตัวเข้าสู่โหมดเตือนภัย