แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1766 ฉันแบกเธอไป
เห็นรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของสายฟ้าถูกเก็บลง ไอราถึงได้โล่งอก
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้กานต์สังเกตเห็นแล้วหรือยังว่าตนเองหายไปแล้ว จะนึกว่าเธอมีธุระกลับประเทศYไปแล้วใช่หรือเปล่า?
ไอราอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล แต่ว่าเรื่องได้มาถึงจุดนี้แล้ว ที่เธอคิดก็คือจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร ส่วนสายฟ้า เธอกลับไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำอะไรกับตนเอง
กานต์พาคนมาถึงยังบริเวณทะเลหลวงด้วยความรวดเร็ว ไม่ช้าก็พบแล้วว่าผิดปกติ ที่นี่ดูเหมือนถูกคนห้ามผู้คนออกนอกบ้านภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว
ทะเลหลวงเป็นเขตแดนสาธารณะ อีกทั้งเป็นบริเวณที่ไม่ถูกประเทศและอำนาจใดๆปกครองดูแล ตอนนี้กลับถูกคนห้ามผู้คนออกนอกบ้านภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว เห็นได้ว่าที่นี่จะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
คิดถึงตรงนี้ ดวงตาของกานต์ก็เป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย
สิงหราชมองเห็นสีหน้าของกานต์ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ และก็ไม่ส่งเสียง รอคำสั่งและการส่งตัวออกไปอยู่อย่างนั้น
กานต์กลับพึงพอใจเขามาก
“อีกสักครู่ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไร นายก็ต้องรับประกันความปลอดภัยของตนเอง ฉันไม่มีเวลาและความสามารถที่จะไปดูแลนาย หากได้ล่ะก็ ฉันหวังว่านายจะสามารถเป็นกำลังสนับสนุนที่ดีกับฉันได้”
“ครับ คุณกานต์”
สิงหราชพยักหน้า
เดิมทีเขานึกว่ากานต์จะส่งเขาออกไปดำเนินภารกิจ กลับคิดไม่ถึงว่ากานต์จะลงไปด้วยตัวเอง สิงหราชมึนงงไปชั่วขณะ รอตอนที่เขาได้สติกลับคืนมากานต์ก็หายไปแล้ว
กานต์กระโดดเข้าสู่ทะเลหลวงด้วยความรวดเร็ว
น้ำทะเลที่เยือกเย็นทำให้เขามีช่วงเวลาหนึ่งที่ตัวสั่น แต่ว่าคิดถึงไอราที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว เขาก็ไม่มีเวลาไปสนใจมากมายขนาดนั้นแล้ว รีบว่ายน้ำขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว
ในบริเวณที่ไม่ไกลมีเรือกลไฟลำหนึ่ง ดูออกว่าเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล กานต์ไม่รู้ว่าไอราอยู่บนเรือลำนี้หรือเปล่า สัญญาณที่ทะเลหลวงก็ตัดขาดไปแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีคนใช้สัญญาณรบกวนระบบ
กานต์แอบขึ้นเรืออย่างเงียบๆ หลบเข้าไปในห้องโดยสารด้วยความรวดเร็ว หยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเป้ที่อยู่ด้านหลังแล้วเปลี่ยน จากนั้นเหน็บอาวุธพกติดตัวไว้ที่เอว
คราวนี้ไม่ใช่การออกภารกิจ แต่กลับทำให้เขาตื่นเต้นยิ่งกว่าการออกภารกิจ
ด้านนอกสะท้อนเสียงฝีเท้าเข้ามา กานต์รีบหลบอย่างรวดเร็ว ก็ได้ยินฝ่ายตรงข้ามเคาะห้องโดยสารที่อยู่ด้านข้าง เอ่ยว่า “คุณไอรา กินข้าวแล้วค่ะ”
“ฉันไม่หิว เอาออกไป!”
เสียงของไอราสะท้อนมา ทำให้ใจของกานต์ผ่อนคลายลงหลายระดับในทันที
เธออยู่ที่นี่จริงๆ?!
เสียงของสายฟ้าก็สะท้อนตามมาติดๆ
“องค์หญิงไอรา คุณทำแบบนี้ถือว่าเป็นการอดอาหารประท้วงงั้นหรอ? ไม่ว่าตอนนี้คุณทำอะไร กานต์ก็ไม่มีทางรู้หรอก แต่ว่าไม่ช้าผมก็จะโทรศัพท์ไปหากานต์แล้ว ถึงเวลาเขาจริงใจหรือว่าเสแสร้งกับคุณ คุณก็สามารถรู้ได้แล้วไม่ใช่?”
“ความรู้สึกที่กานต์มีต่อฉันไม่ได้ต้องการการทดสอบเลยแม้แต่น้อย สายฟ้า ทางที่ดีที่สุดแกอย่าตกลงมาในมือของฉัน ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!”
ไอราโมโหจนสีหน้าเริ่มหนักอึ้ง เสียงก็ยิ่งโหดเหี้ยม
สายฟ้ากลับเอ่ยขึ้นอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร “องค์หญิงไอรา คุณมีเวลามาข่มขู่ผม สู้คิดให้ดีๆว่าต่อไปกานต์จะทำยังไงยังจะดีกว่า หากในใจเขามีคุณ ก็ต้องรับปากเงื่อนไขของพวกเราเป็นธรรมดา แต่หากในใจเขาไม่มีคุณ คุณก็ควรพิจารณาข้อเสนอของพวกเราหน่อยใช่หรือเปล่า?”
“ไสหัวไป!”
ความโมโหของไอราระเบิดออกมา ภายในห้องล้วนเป็นเสียงขว้างปา
สายฟ้ากลับไม่ได้ใส่ใจอะไร ถึงอย่างไรสิ่งของเหล่านี้ก็ต้องมีคนชดใช้ เขาโบกมือเล็กน้อย สาวรับใช้ก็ยกอาหารจากไป
“ในเมื่อองค์หญิงไอราไม่หิว งั้นก็อยู่เงียบๆก็แล้วกัน ผมไปโทรศัพท์หากานต์ก่อน ดูว่าเขาจะเลือกยังไงค่อยว่ากัน”
พูดจบสายฟ้าก็จากไปเช่นเดียวกัน
ไอราโมโหแทบตาย แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ เธอนึกว่าตนเองระมัดระวังมากพอมาโดยตลอด กลับคิดไม่ถึงว่าจะยังติดกับแผนการของสายฟ้าไอ้เลวนั่น
เธอตอนนี้ปวกเปียกไร้กำลัง ออกไปจากที่นี่ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
น่ารังเกียจ!
สารเลว!
ไอราโมโหจนเตะของที่อยู่ข้างเท้าออกไปอีกครั้ง กลับพบว่าประตูห้องโดยสารถูกคนเปิดออกแล้ว
“ฉันให้พวกแกไสหัวไป ไม่ได้ยินหรอ?”
ไอราโมโหจนเงยหน้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดวงตาที่ดุร้ายยังไม่ทันได้มองชัด ก็ถูกคนกอดไว้เต็มอ้อมแขน
“ฉันเอง!”
เสียงของกานต์ผ่านเข้ามา แนบไปด้วยกลิ่นที่คุ้นเคย ชั่วพริบตาก็ทำให้ไอรานิ่งอึ้งไป
“กานต์?”
“อืม”
”คุณมาได้ยังไงกัน?”
“ฉันไม่ควรมา?”
ทั้วสองถามคำตอบคำ สุดท้ายต่างก็นิ่งเงียบไป
กานต์เป็นเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะพูดอะไรกับเธอ ไอราเป็นเพราะรู้สึกว่าตัวเองหลุดออกมาหน่อยแล้ว กานต์จะสงสัยว่าตนเองกับสายฟ้าวางกับดักหลอกล่อเขามาที่นี่หรือเปล่า?
คิดถึงตรงนี้ ไอราก็รีบเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเอ่ย “ฉันเปล่า”
ประโยคนี้พูดขึ้นอย่างไม่มีเหตุไม่มีผล แต่กานต์ก็ฟังเข้าใจแล้ว
“ฉันรู้”
กานต์อุ้มไอราขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เอ่ยขึ้นเบาๆว่า “มีเรื่องอะไรออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน”
“ฉันถูกวางยา ทั่วทั้งร่างกายไร้เรี่ยวแรง ฉันอาจจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้ แต่ว่าพวกมันไม่กล้าทำอะไรฉัน กานต์ คุณรีบไป เป้าหมายของพวกมันคือคุณ สายฟ้าได้ไปโทรหาคุณแล้ว หากคุณตอนนี้โทรศัพท์ดังขึ้นก็จบเห่แล้ว”
ไอราตอนนี้ร้อนรนมาก เธอกลัวกานต์ถูกสายฟ้าลอบทำร้าย
กานต์กลับเอ่ยขึ้นเบาๆ “ฉันแบกเธอไป”
“ไม่ใช่ ที่นี่ไม่มีวิธีนำเรือหรือเครื่องบินเข้ามาโดยสิ้นเชิง พวกเราจะออกไปจากที่นี่ทำได้เพียงไปจากทางใต้ทะเล แต่ว่าคุณแบกฉันเอาไว้ก็ว่ายได้ไม่เร็วเลยสักนิด กานต์ คุณฟังฉัน คุณรีบไป กลับไปหาคนมาช่วยฉัน”
“นั่นก็ไม่ทันแล้ว”
กานต์พูดจบก็ไม่สนว่าไอราจะยอมหรือไม่ยอม เหวี่ยงเธอขึ้นไปบนหลังของตนเอง เสียงที่หนักแน่นก็ผ่านเข้ามาในหูของไอรา
“กอดฉันให้แน่น”
เวลานี้ไอรายังจะสามารถพูดอะไรได้อีกล่ะ?
ดวงตาของเธอเปียกชื้นขึ้นมาเล็กน้อยอย่างกะทันหัน
อยู่ๆก็รู้สึกว่าผู้ชายที่ตามจีบมายี่สิบปีไม่เลวจริงๆ
เธอรู้นิสัยของกานต์ หากเป็นเรื่องที่ตัดสินใจเพียงสักครั้งก็ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ เพื่อไม่เพิ่มภาระให้กับกานต์ เธอทำได้เพียงโอบรอบคอของกานต์เอาไว้ด้วยความรวดเร็ว
กานต์พาไอราลงทะเลอย่างไร้ซุ่มไร้เสียง
รอถึงตอนที่สายฟ้าพบเข้า กานต์ก็ได้พาเธอออกมาจากเขตควบคุม กลับมาถึงบนพื้นผิวทะเล
เขาส่งสัญญาณให้กับสิงหราช
เฮลิคอปเตอร์ปล่อยบันไดปีนลงมาอย่างรวดเร็ว
กานต์ดันไอราขึ้นไป
“เธอขึ้นไปก่อน”
“งั้นคุณล่ะ?”
“อย่าพูดจาไร้สาระ รีบขึ้น!”
ที่จริงแล้วกานต์เป็นคนที่พูดจาหวานไม่ค่อยเป็นเท่าไร ถึงขนาดกับไอราก็แทบไม่ค่อยมีตอนที่อ่อนโยน
ไอราก็ชินกับวิธีการพูดของเขาแล้ว กัดฟ้นเล็กน้อย แม้ว่าร่างกายจะยังคงไม่มีแรง แต่แช่อยู่ในน้ำทะเลมาสักพัก ก็ทำให้เธอดีขึ้นมาหน่อย
เธอรีบปีนอย่างรวดเร็วขึ้นไปตามบันไดปีน
กานต์พูดกับสิงหราชว่า “เธอคือนายหญิงในอนาคตของนาย พาเธอออกไปจากทะเลหลวง ไปรอฉันที่เมืองแถวนี้”
พูดจบกานต์ก็หมุนตัว กระโดดเข้าไปในทะเลที่กว้างใหญ่อีกครั้ง
ไอรากำลังจะปีนขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์แล้ว กลับได้ยินเสียงตุ๋มดังขึ้น ชั่วพริบตาหันหน้ากลับไป ก็เห็นเงาร่างของกานต์หายไปในทะเลอันกว้างใหญ่ด้วยความรวดเร็ว ใจของเธอตกไปที่ตาตุ่มในทันที