แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1777 ตกลงแกอยากถามอะไร (เนื้อหาหายไป1ท่อน)
บทที่ 1777 ตกลงแกอยากถามอะไร
“มองอะไร?”
กานต์พูดขอโทษเป็นครั้งแรก อารมณ์จึงไม่ดีเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นไอรามองมาที่เขาราวกับเห็นผี ก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด
เขาโยนเสื้อตัวนอกไปคลุมหัวไอรา เพื่อปิดบังสายตาอัดอั้นของเขา จากนั้นก็รีบเผ่นหนีออกไป
ไอรารู้สึกแค่ว่ากลิ่นที่คุ้นเคยปะทะใส่หน้า ต่อมาภาพเบื้องหน้าก็มืดไปหมด มองไม่เห็นอะไรเลย ในตอนที่เธอได้สติ ก็พบว่ากานต์หายไปแล้ว
เธอเองก็แยกแยะอารมณ์ของตัวเองในตอนนี้ไม่ถูก มีทั้งดีใจแล้วก็เสียใจ
สุดท้ายก็ยังไม่ได้บอกความจริงกับกานต์ทั้งหมด
แต่ถ้าให้เธอเลือกจริงๆล่ะก็ เธอยอมให้กานต์ไม่รู้ไปตลอดชีวิตยังจะดีกว่า
หลังจากที่กานต์วิ่งหนีออกมาจากห้อง ก็พบว่าตัวเองไม่มีที่ไปแล้ว
แม้ว่าที่นี่คือบ้านตระกูลโตเล็ก คือบ้านของตัวเอง แต่ก็ยังรู้สึกแปลกที่อยู่ดี
เฮ้อ!
เพราะไปอยู่กองทหารหลายปี เลยเกิดความรู้สึกห่างเหินกับบ้านตัวเองสินะ
กานต์คิดในใจอย่างวูบโหวง ทันใดนั้นก็เห็นว่าประตูห้องกิจจาปิดไม่สนิท เขาจึงเดินเข้าไปหา
“พี่!”
กานต์เคาะประตูอย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นก็เปิดออกแล้วเดินเข้าไป
กิจจายังคงทำหัวข้อวิจัยอยู่ เมื่อเห็นกานต์เดินเข้ามาก็แค่เงยหน้ามอง แล้วเอ่ยพูดว่า “แกนั่งรอไปก่อน รอฉันทำอันนี้เสร็จก่อน”
“ได้”
กานต์นั่งลงบนโต๊ะอย่างสบายๆ ยื่นมือออกไปหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมากัดกินโดยไม่คิดที่จะล้างก่อน
อืม หวานดีแฮะ
เสียงกานต์กัดแทะแอปเปิ้ลดังขึ้นมาภายในความเงียบอย่างชัดเจน ดังถึงขนาดที่รบกวนสมาธิของกิจจา เขาวางหัวข้อวิจัยในมือลง มองน้องชายที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆแต่ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน จึงอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “พูดมา มาหาฉันมีเรื่องอะไร?”
เขามองมาที่น้องชาย แล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นก็พูดเสียงเบาว่า “กานต์ ฉันเองก็เป็นคนอายุขึ้นเลขสอง อายุไม่ใช่น้อยๆแล้ว แก่กว่าแกตั้งหลายเดือนด้วย แกคิดว่าฉันจะไม่รับผิดชอบชีวิตและการแต่งงานของตัวเองเหรอ?”
“มันก็ไม่แน่หรอก คนบ้าเรียนอย่างพี่ จู่ๆก็มาบอกว่าจะหมั้น แถมยังเร่งรัดขนาดนี้อีก ทำไม? ไปทำผู้หญิงเขาท้องเหรอ?”
กานต์ก็แค่พูดไปเรื่อย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าดวงตาของกิจจากลับหรี่ลง ท่าทางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
กานต์เป็นตัวอะไรกันแน่?
ความสามารถในการมองทะลุปรุโปร่งนี่สุดยอดไปเลย
“พี่ นี่อย่าบอกนะว่าไปทำผู้หญิงท้องจริงๆ?”
“เรื่องนี้แกห้ามเอาไปพูดที่ไหนนะ แล้วก็อย่าให้พ่อกับแม่รู้ด้วย ตราบใดที่ฉันได้หมั้นเร็วๆ ทุกอย่างก็จะเข้าที่เข้าทางของมัน”
เมื่อได้ยินกิจจาพูดมาอย่างนี้ กานต์ก็นิ่งอึ้งไปทันที
พี่เขาเป็นคนยังไงเขารู้ดีที่สุด
แม้ว่าตอนเด็กๆกิจจาจะเป็นพวกขี้ขลาด แต่หลังจากที่แม่แท้ๆของเขาตายไป กิจจาก็โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ในบรรดาพี่น้อง กิจจาเป็นที่สุขรุมและมีวินัยที่สุดแล้ว
ถ้าบอกว่าภาคิณไปทำผู้หญิงท้อง เขายังจะเชื่อกว่าอีก แต่พอบอกว่าเป็นกิจจา ให้ตายยังไงเขาก็ไม่อยากเชื่อ
นอกเสียจากว่าพี่ชายของเขาถูกคนอื่นวางแผนเล่นงาน
ดวงตาของกานต์พลันหรี่ลงทันที
“พี่เต็มใจหรือเปล่า? หรือว่าไปติดกับดักใครเขาเข้า?”
“นี่ แกหยุดทายได้แล้ว เรื่องของฉันแกไม่ต้องยุ่งโอเคไหม?”
กิจจาอึดอัดขึ้นมาทันที จึงดึงคอเสื้อออกอย่างอดไม่ได้
สีหน้าของกานต์พลันอึมครึม
“ผมไม่ยุ่งเรื่องของพี่ก็ได้ แต่ผมขอถามพี่อย่างหนึ่ง พี่อยากแต่งงานกับคนนั้นจริงๆไหม?”
“อืม”
กิจจาพยักหน้า
ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วกานต์ยังจะพูดอะไรได้อีก?
จู่ๆเขาก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรง
กานต์เองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่จมอยู่ในวังวนแห่งรัก จึงมองออกเป็นธรรมดาว่าในแววตาของกิจจาไม่มีความรู้สึกใดๆเลย แม้จะเอ่ยถึงผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้แสดงท่าทางยินดียินร้ายหรือรักใคร่ให้เห็น
สีหน้าท่าทางแบบนี้มันไม่เหมือนว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังตั้งตารอคอยการแต่งงานเลยสักนิด
“พี่ เป็นเพราะว่าหลายปีที่ผ่านมาผมไม่ได้อยู่บ้าน เลยทำให้ระหว่างผมกับพี่ห่างเหินกันหรือเปล่า? ผมจำได้ว่าตอนเด็กพี่เคยวิ่งตามตูดผมเรียกผมว่าลูกพี่ หรือว่าตอนนี้พี่รำคาญน้องชายคนนี้แล้ว”
“กานต์”
กิจจาถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ
วันนี้เขาถอนหายใจใส่น้องชายคนนี้ไปไม่รู้ตั้งกี่รอบ แต่กระนั้นก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญอีกฝ่ายเลย จึงพูดออกมาอย่างเรียบนิ่งว่า “ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ที่ผ่านมาแกเคยเห็นฉันทำเรื่องไม่เป็นเรื่องไหมล่ะ? ที่ฉันไม่บอกแกไม่ใช่เพราะไม่เห็นแกเป็นน้องชาย ฉันแค่คิดว่าเรื่องนี้ฉันจัดการเองได้ ฉันอายุยี่สิบกว่าแล้วนะ ไม่ใช่เพิ่งจะสิบขวบ ฉันรู้ดีว่าตัวเองทำอะไรอยู่”
เมื่ออีกฝ่ายพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว กานต์ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้ ไว้ผมส่งของขวัญไปแสดงความยินดีกับพี่แล้วกัน ว่าแต่ให้ผมส่งไปให้ที่สถาบันวิจัยไหม?”
“เราเป็นพี่น้องของอย่างนี้มันไม่จำเป็นหรอก อีกอย่างแกกับไอราก็คบกันแล้วไม่ใช่เหรอ? วางแผนว่าจะหมั้นกันตอนไหนล่ะ?”
กิจจาเปลี่ยนหัวข้อมาที่เรื่องของกานต์
กานต์มองมาที่กิจจา แล้วพูดว่า “ก็น่าจะรอเวลาที่เหมาะสม”
พูดจบเขาก็ลุกเดินออกไป
กิจจาชะงักนิ่งไปเล็กน้อย
นี่กานต์กำลังโกรธเหรอ?