แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1782 นี่ก็คือผู้หญิงสินะ
กานต์รู้สึกได้ว่ามีใครอยู่ที่หน้าประตู เมื่อหันกลับไปก็ได้เห็นความกังวลและความเสียใจที่แวบเข้ามาในแววตาของไอรา แต่ในวินาทีที่เขามองมาจึงอดกลั้นเอาไว้ แล้วยิ้มออกมา
“นายเสร็จหรือยัง? ฉันกับกมลรอนานแล้ว”
กานต์ไม่ได้มองข้ามความปวดใจที่แวบผ่านไปของเธอ นึกถึงการกระทำทั้งหมดของตนเองเมื่อกี้ เขาก็เข้าใจในทันที
กานต์ปิดตู้เสื้อผ้า แล้วเดินเข้ามาโอบไหล่ของไอรา พูดขึ้น: “ฉันจำได้ว่าแต่ก่อนเธอกล้าหาญ ไม่กลัวอะไรเลย แต่ตอนนี้เป็นอะไรไปล่ะ?”
“ฉันเป็นอะไรเหรอ?”
ไอราใจเต้นตึกตัก
ถ้ากานต์ไม่พูดเธอเองก็ไม่ได้สังเกตเลย แต่ก่อนเธอทำตามใจตัวเอง แม้จะชอบกานต์ก็ต้องป่าวประกาศให้ทั้งโลกได้รับรู้ เพียงแค่ในใจรู้สึกดีใจเสียใจก็เก็บซ่อนเอาไว้ไม่ได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้เป็นอะไรไปล่ะ?
วิตกกังวลกับผลดีผลเสียของตัวเองสินะ
กานต์เป็นแฟนของเธอแล้ว อีกไม่นานหลังจากนี้ก็คงจะเป็นสามีของเธอเช่นกัน แต่ทำไมนอกจากความดีใจในตอนแรก ในใจลึกๆกลับอึดอัดและทุกข์ใจมากขึ้นนะ?
นี่เป็นเพราะกานต์ยอมทิ้งกรมทหารเพื่อเธองั้นเหรอ?
หรือเพราะสุขภาพของเธอในตอนนี้จึงกลัวว่าจะเดินไปกับกานต์ได้ไม่ถึงปลายทาง?
ไอราไม่รู้ แค่รู้สึกกระวนกระวายใจ ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลย
กานต์มองเธอ รู้สึกว่าไอราเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ค่อนข้างอ่อนไหวง่าย หลายๆครั้งเธอมักจะครุ่นคิดอย่างหนัก ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไป
สำหรับไอราที่เป็นอย่างนี้ กานต์รู้สึกปวดใจ แต่กลับไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนดี
“ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
กานต์ยื่นมือออกไปทาบบนหน้าผากของเธอ
ตอนที่ฝ่ามืออุ่นๆทาบลงมาบนหน้าผากของไอรา ความไม่สบายใจและความลังเลทั้งหมดในใจของเธอราวกับสลายหายไปในทันที
ผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยที่สุดตอนนี้เขาก็เป็นของเธอ!
คิดถึงตรงนี้ ไอราจึงยื่นแขนออกไปโอบที่เอวของกานต์เอาไว้ แนบหน้าของตนเองลงไปที่หน้าอกของเขา พูดขึ้น: “กานต์ ฉันไม่เป็นไร แค่รู้สึกผิดอยู่บ้างที่นายต้องปลดประจำการเพื่อฉัน เห็นๆอยู่ว่านายชอบกรมทหารขนาดนั้น……”
“ใครบอกเธอว่าฉันปลดประจำการเพื่อเธอ? วันๆสมองเอาแต่คิดอะไรอยู่?”
กานต์ยื่นนิ้วออกไปดีดหัวของเธอทันที
ไอราขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความเจ็บ ยื่นมือออกไปลูบๆหน้าผากของตนเอง บ่นๆ: “แล้วไม่ใช่หรือไง? นายไปเพื่อช่วยฉันถึง……”
“ฉันรับภารกิจถึงได้เข้าไปต่างหาก ที่ช่วยเธอน่ะแค่เรื่องบังเอิญ”
คำพูดของกานต์ทำให้ไอราตะลึงเล็กน้อย
“เรื่องบังเอิญ?”
ราวกับเห็นแววตาที่สงสัยของไอรา จึงยิ้มพูดขึ้น: “สายฟ้ามันไม่ใช่คน ตั้งแต่ที่เขาปรากฏตัวออกมาฉันก็ให้คนจับตาดูเขาเอาไว้ ภายหลังเขาดันไปยุยงพริมรตาที่โรงพยาบาลหาเรื่องฉัน ฉันจึงรู้แล้วว่าไอ้นี่มันคิดไม่ซื่อ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่ ดังนั้นจึงให้คนจับตาดูเขาอยู่ตลอดไงล่ะ จากนั้นเขาได้ไปที่ทะเลหลวง ที่นั่นทำให้ฉันจัดการเขาได้อย่างเงียบๆ แต่ทว่าไม่สามารถใช้แรงของกองกำลังทหารได้ ฉันถึงบอกน้าพลว่าฉันจะปลดประจำการ เพื่อใช้พละกำลังของตระกูลโตเล็กไปจัดการเขาให้ตาย และเวลานั้นฉันจึงได้รู้ว่าเธอก็อยู่ด้วย ดังนั้นหลังจากช่วยเธอออกมาในทันทีฉันก็กลับไป ระเบิดรถลาดตระเวนของเขา แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะดวงแข็งขนาดนี้ ไม่นึกว่าจะไม่ตาย ต่อมาฉันจึงทำได้เพียงเสี่ยงอันตรายล่อเขามาถึงชายแดนที่ประเทศฉันให้พวกน้าพลโจมตีกลางอากาศ นี่มันไม่เกี่ยวกับเธอเลย อีกอย่างฉันคิดจะออกจากเขตทหารตั้งนานแล้ว อาการปวดตามเส้นประสาทของพ่อฉันเธอก็รู้นี่นา ช่วงนี้เกิดอาการบ่อยๆด้วย คุณลุงบอกฉันว่าเขาไม่ควรโหมทำงานหนักอีกแล้ว ฉันถึงได้ตัดสินใจปลดประจำการแล้วมารับช่วงต่อตระกูลโตเล็กไง สมองน้อยๆของเธอคิดมากไปแล้วนะ”
กานต์พูดอย่างมีเหตุมีผล แต่จู่ๆไอราก็รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
“ไม่นึกว่าที่นายช่วยฉันมันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ? กานต์ ในใจของนายฉันเป็นแค่เรื่องบังเอิญงั้นเหรอ?”
นี่คือผู้หญิงสินะ!
ตอนที่ได้ยินว่าผู้ชายที่ตนเองชอบไม่ได้นึกถึงตนเองเป็นคนแรก จึงระเบิดอารมณ์ออกมาทันที
ไอรายื่นมือออกมาบิดหูของกานต์เอาไว้ พูดอย่างดุดัน: “ในใจของนายฉันก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญใช่ไหม?”
กานต์โดนเธอบิดหูจนค่อนข้างเจ็บ แต่ทว่ามุมปากกลับยิ้มเล็กน้อย ร่างกายก็เอนเข้าไปข้างกายเธอ พูดขึ้น: “ฉันพูดความจริงก็ผิดเหรอ?”
“ผิดสิ นายต้องบอกว่าทำเพื่อฉันต่างหาก”
“ได้ ทำเพื่อเธอ ทำเพื่อเธอทั้งหมดเลย”
ท่าทางยอมรับผิดของกานต์ กลับทำให้ไอราพอใจ เธอจึงปล่อยมือออก แต่พอเห็นหูของกานต์ที่โดนเธอบิดจนแดง ก็รู้สึกสงสารขึ้นมา
“นายโง่หรือเปล่าเนี่ย? ฉันจะบิดหูนายนายหลบไม่เป็นหรือไง?”
“ฉันกลัวเธอล้มลงไปน่ะสิ”
กานต์จึงโอบเอวบางๆของเธอเอาไว้แล้วเดินออกไปทันที
ไอราถึงได้พบว่าตนเองพิงอยู่ในอ้อมอกของเขา ทิ้งตัวลงไปบนร่างของกานต์ ถ้าหากกานต์หลบ เป็นไปได้มากว่าตนเองจะยืนไม่อยู่แล้วล้มลงไปบนพื้น
ก็ถือว่าตาบ้านี่ยังมีเมตตาอยู่บ้าง
“ครั้งนี้ฉันจะยกโทษให้นาย คราวหน้าถ้าบอกว่าฉันเป็นเรื่องบังเอิญอีก นายคอยดูเถอะว่าฉันจะจัดการนายยังไง”
ไอราพูดอย่างโหดร้าย แต่กานต์กลับกุมนิ้วมือของเธอเอาไว้ในมือ ไม่พูดไม่จา ยิ้มมุมปากบางๆ ดูแล้วคงจะอารมณ์ดีมากๆ
กมลรอจนร้อนรน อยากกลับเข้ามาดูสักหน่อย จึงโดนฉากนี้ทำให้สะเทือนใจพอดี
“ฉันคืนคำดีกว่า ไม่อยากให้พี่รองไปส่งแล้ว ไอรา พวกเธอไม่กลัวฉันตายเพราะเห็นคนอื่นรักกันหรือไง?”
“ไม่กลัว เธอก็หาคนมาอวดบ้างสิ”
“ไม่ได้!”
คำพูดของไอราเพิ่งจะจบ กานต์ก็หน้าตาเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
“กมลเพิ่งจะอายุเท่าไหร่? มีแฟนอะไรกัน? สนุกให้เต็มที่ไปอีกหลายปีก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
กมลกลุ้มใจขึ้นมาทันที
“เฮ้ๆๆ พี่รอง ฉันจำได้ว่าเราสองคนเป็นแฝดกันนะ พี่มีพี่ไอราแล้ว ฉันหาแฟนสักคนจะเป็นไรไป?”
“เธอมีแล้วเหรอ?”
กานต์ก้าวเข้ามาใกล้ๆ สายตาที่เข้มงวดนั้นทำให้กมลตกใจรีบถอยหลังลงไปแล้วพูดขึ้น: “ไม่มี”
“งั้นก็ใช้ชีวิตวัยรุ่นไปอีกหลายๆปีเลยแล้วค่อยว่ากัน อย่าให้พี่รู้นะว่าไอ้หนุ่มคนไหนมันกล้าพยายามเอาชนะใจเธอ พี่จะหักขาเขาก่อนเลย”
ใบหน้าที่เคร่งขรึมของกานต์ ไม่มีท่าทีล้อเล่นเลยสักนิด ทำให้ไอราตกใจขึ้นมาทันที ส่วนกมลก็ระเบิดอารมณ์ออกมา
“กานต์พี่เป็นบ้าหรือไง? พี่มีแฟนก็เลยไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันใช่ไหมล่ะ? มีเหตุผลอะไรที่พี่มีแฟนได้แต่ฉันมีไม่ได้?”
“เหตุผลที่พี่เป็นพี่ของเธอไง! ไม่ยอมรับเหรอ?”
“ไม่ยอมรับ!”
“งั้นก็กลับเข้าไปอยู่ในท้องแม่แล้วแย่งพี่มาเกิดใหม่สิ เป็นพี่สาวของพี่พี่ก็จะไม่ยุ่งกับเธอแล้ว”
คำพูดนี้แทบทำให้กมลโมโหจะตายอยู่แล้ว
ไอราหัวเราะออกมาทันที
“พอแล้วหน่า นายดูสิทำกมลโมโหแล้วเนี่ย เธอก็แค่พูดเฉยๆ ถ้าอยากมีแฟนจริงๆ นายคิดว่านายห้ามได้เหรอ?”
ไอราดึงๆกานต์
กมลพูดด้วยความโมโห: “ก็ใช่น่ะสิ”
“ใช่อะไรห๊ะ? ถ้าเธอกล้ามีแฟนลับหลังพวกพี่ เธอคิดว่าพี่จะไม่บอกเรื่องนี้ให้พ่อกับพี่ใหญ่รู้เหรอ”
แค่พูดออกไป กมลก็อยากร้องไห้ขึ้นมาทันที
เธอยี่สิบกว่าแล้วนะเข้าใจไหม? มีแฟนสักคนมันจะทำไมเหรอ?
เธอแค่อยากรู้ว่าเธออายุ25-26แล้ว มีแฟนสักคนมันจะเป็นไรไป?