แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1816 นายรังแกฉัน
ให้ตาย
เธอทำให้กานต์โกรธซะแล้วสิ!
ทำยังไงดี?
เมื่อไอราคิดถึงคำว่าไม่สนใจของกานต์ก่อนเขาจะเดินจากไป ก็อดที่จะถอดใจไม่ได้
แต่เมื่อเธอนึกถึงภาพที่กานต์ต้องไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เธอก็สูดลมหายใจฮึดสู้
โอเค ในใจของเธอยังคงขีดเส้นกั้น ยังคงไม่ปล่อยวางคำว่าบุญคุณที่เป็นเหมือนคำสาปนี้ แต่ถ้าเทียบกับการที่ต้องเสียกานต์ไป ไอราจะประนีประณอมให้ก็ได้
เธอวิ่งตามกานต์ไปอย่างรวดเร็ว
ด้านกานต์ก็ไม่ได้ไปไหน มุ่งตรงไปที่ห้องของกิจจา เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็หยิบขวดน้ำเงยหน้าขึ้นดื่มจนหมด
กานต์ในตอนนี้ทำให้กิจจาแปลกใจเป็นอย่างมาก
แต่ไหนแต่ไร กานต์เป็นคนนิ่งเงียบสุขรุมมาตลอด ทว่าท่าทางหัวเสียที่เขาพยายามข่มกลั้นมันเอาไว้ ทำให้กิจจาพลันนึกสงสัย
“เป็นอะไร?”
“เปล่า”
กานต์นั่งลงข้างๆ จากนั้นก็กวาดตาอ่านบันทึกข้อมูลของไตใหม่
เมื่อกิจจาเห็นสีหน้าขมุกขมัวของกานต์ จึงวางเคสคนไข้ในมือลง แล้วเอ่ยถามว่า “เพราะไอราเหรอ?”
“พี่ใหญ่ พี่ว่าพวกผู้หญิงคิดอะไรอยู่ในใจกันแน่?”
กานต์โมโหจริงๆ
เขาเองก็ถือเป็นความภาคภูมิใจของพ่อแม่ และถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงม เขาใช้ความรู้สึกและความอดทนกับไอราตั้งมากมาย เขารู้ตัวเองดีว่าเขาสามารถยอมอ่อนข้อให้ไอราได้มากแค่ไหน สามารถทำเรื่องที่ตัวเองไม่อยากทำเพื่อเธอก็ยังได้ ขอแค่เป็นเรื่องที่ไอราชอบ ต่อให้เป็นเรื่องเด็กๆเขาก็สามารถทำเพื่อเธออย่างไม่ถือตัว กับความเปลี่ยนแปลงนี้ไอราตาบอดเหรอ?
มองไม่เห็นหรือไง?
พูดมาได้ว่าเพราะบุญคุณ!
คนอย่างกานต์มีวิธีตอบแทนบุญคุณอีกตั้งมากมาย จำเป็นต้องเอาทั้งชีวิตของตัวเองมาตอบแทนด้วยเหรอ?
เมื่อได้ยินคำพร่ำบ่นของกานต์ กิจจาก็รู้ว่าระหว่างอีกฝ่ายกับไอรามีปัญหากัน
“ทำไม? จะผ่าตัดแล้วไม่ใช่เหรอ? การที่แกกับเธอทะเลาะกันมันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่หรอกนะ ถ้าหากอารมณ์ไม่คงที่ก่อนผ่าตัดล่ะก็ สามารถเกิดปฏิกิริยาต่อต้านได้ง่ายๆเลยนะ”
เมื่อได้ยินกิจจาพูดมาอย่างนี้ หัวคิ้วของกานต์ก็แทบจะผูกเป็นปม
“ผมก็ไม่ได้อยากทะเลาะหรอก แต่ว่าเธอเอาแต่คิดไปเองว่าที่ผมตกลงคบกับเธอเพราะอยากตอบแทนบุญคุณ คิดว่าผมจะเอาชีวิตของตัวเองมาล้อเล่นหรือไง? แล้วที่ผมพลาดทำให้พริมรตาไม่สามารถเป็นแม่คนได้ ผมต้องแต่งงานกับเธอเพราะรู้สึกผิดไหม? ถ้าเป็นแบบนี้เท่ากับว่าชีวิตของเธอสมหวังแล้ว ส่วนผมต้องชดใช้ความผิดไปตลอดชีวิตใช่ไหม?”
ไอราที่ตามมาถึงหน้าประตูได้ยินคำพูดนี้ของกานต์เข้าพอดี ดวงตาจึงเบิกโพลง
หมายความว่ายังไง?
กานต์จะแต่งงานกับพริมรตา?
เธอกำลังจะพุ่งเข้าไปอย่างร้อนรน แต่กลับไม่กล้า สุดท้ายก็ทิ้งตัวหลบอยู่หลังประตู ทำตัวเป็นนักแอบฟัง
องค์หญิงผู้ยิ่งใหญ่อย่างเธอ จนมุมได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ น่าเศร้าจริงๆ!
เมื่อกิจจาได้ฟังคำพร่ำบ่นของกานต์ ก็อดพูดยิ้มๆออกมาไม่ได้ว่า “แล้วทำไมแกไม่แต่งกับพริมรตาล่ะ? ฉันได้ยินมาว่าเธอเคยคุกเข่าขอร้องไอราต่อหน้าทุกคน ให้ไอรายอมปล่อยแกและยกแกให้เธอนี่ นี่ถ้าพริมรตามาได้ยินที่แกพูดวันนี้ จะไม่ดีใจจนเสียสติไปเลยเหรอ?”
“พี่!”
กานต์ฮึดฮัด
เขาเป็นถึงขนาดนี้ พี่ชายของเขายังมีอารมณ์มาหยอกล้อเขาอีก สมกับเป็นพี่ชายเขาจริงๆ
“ผมกำลังพูดถึงยัยโง่ไอรานั่น พี่จะลากพริมรตาเข้ามาทำไม?”
ไอราที่แอบอยู่หลังประตูนิ่งค้างไป
เธอโง่เหรอ?
นี่กานต์มองเธออย่างนี้ลับหลังเหรอ?
กิจจาปรายตามองบางอย่างสีขาวๆตรงช่องประตู จึงพูดยิ้มๆขึ้นมาว่า “กานต์ ฉันรู้ว่าเจตนาของแกไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด แกควรบอกให้ไอรารู้นะ”
“ผมบอกไปแล้ว แต่เธอไม่เชื่อ เพราะว่ามีไตของเธออยู่ในร่างกายผม เธอเลยคิดว่าที่ผมทำดีกับเธอทุกอย่างเป็นเพราะบุญคุณ น่าขำไหมล่ะ คนอย่างกานต์นิสัยยังไง? เธอก็รู้มาตลอดไม่ใช่เหรอ? แต่ตอนนี้กลับมองว่าผมเป็นอย่างนี้ซะงั้น”
ยิ่งคิดกานต์ก็ยิ่งรับไม่ได้
“เอาแต่พูดว่าตามจีบผมมายี่สิบปีบ้างล่ะ รู้จักตัวผมดียิ่งกว่ารู้จักตัวเองบ้างล่ะ แล้วสุดท้ายเป็นไง? แค่ไตดวงเดียวก็เอาชนะเธอได้แล้ว คำก็บุญคุณสองคำก็ตอบแทน เออ! ก็แค่ไตดวงเดียว ผมคืนให้เธอก็ได้!พอไม่มีบุญคุณแล้ว ดูซิเธอจะยังว่าอะไรได้อีก”
เมื่อเห็นกานต์พูดออกมาอย่างโมโหโทโส กิจจาก็อดพูดกลั้วยิ้มออกมาไม่ได้ว่า “แกคิดว่ากำลังเล่นพ่อแม่ลูกกันอยู่เหรอ? ไตทั้งดวงคิดอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน คิดอยากจะให้ก็ให้? ทำตัวเด็กเกินไปหรือเปล่า? ลองถอยมาพูดคนละก้าว ต่อให้แกคืนไตให้ไอรา แต่ถ้าตอนนั้นไม่มีเธอ แกก็คงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ เพราะฉะนั้นบุญคุณนี้ถึงแกจะไม่อยากยอมรับแค่ไหนยังไงก็ต้องยอมรับอยู่ดี”
“เวรเอ้ย!”
กานต์เดือดดาลจนใช้เท้าถีบถังขยะข้างๆ
กิจจาเองก็เพิ่งเคยเห็นกานต์อารมณ์ร้อนขนาดนี้
ดูเหมือนไอ้เด็กนี่จะหวั่นไหวแล้วจริงๆ
“ตอนนี้แกจะไปโกรธเธอทำไม? แกก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าร่างกายของเธอไม่ค่อยดี ถ้าอารมณ์โมโหของแกไปทำให้อาการป่วยของเธอทรุดหนักขึ้นกว่าเดิมล่ะก็ ฉันจะรอดูว่าแกจะกลายเป็นหมาโบ้เสียใจแค่ไหน”
คำพูดของกิจจาทำให้โทสะของกานต์เหือดหายไป
เขาขมวดคิ้วแล้วเอ่ยพูดว่า “แล้วตอนนี้ผมต้องทำยังไง? ให้ตายยังไงยัยนั่นคงก้าวผ่านปัญหานี้ไปไม่ได้ หรือว่าผมต้องตามใจเธออย่างเดียวไม่ทำการทำงานแล้ว?”
“นั่นมันปัญหาของแก”
กานต์ฮึดฮัด
เขาหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่มอีกครั้งอย่างหงุดหงิด
“นี่ๆๆ นั่นมันน้ำเปล่า ไม่ใช่เหล้า แกหงุดหงิดแต่อัดแค่น้ำเปล่าๆเข้าไปมันจะไปหายได้ยังไง?”
กิจจาทนมองต่อไปไม่ได้
“ผมดื่มไม่ได้เหรอ? น้ำเปล่าแค่นี้ พี่ก็หวงเหรอ?”
กานต์หยิบอีกขวดขึ้นมาอย่างกระฟัดกระเฟียด
กิจจารู้สึกขำ แต่ก็กลั้นเอาไว้
“แกคิดจะตัดขาดกับไอราเหรอ?”
“เธอก็ต้องการแบบนั้นไม่ใช่หรือไง? เอาแต่พูดว่าผมคบกับเธอเพราะบุญคุณอยู่ได้ งั้นก็ดี หลังจากผ่าตัดให้เธอเสร็จ หนี้บุญคุณที่ผมติดค้างเอาไว้จะได้ถือว่าหายกัน วันข้างหน้าพี่บอกให้พ่อแม่หาคู่ดูตัวให้ผมได้เลยนะ เอาแค่พอดีๆ ถ้าไม่ได้จริงๆให้พริมรตามาแต่งกับผมก็ได้ บอกเองไม่ใช่เหรอว่าผมทำได้ทุกอย่างเพื่อชดใช้บุญคุณ? งั้นผมจะทำให้เธอเห็น ดีเหมือนกันถ้าเรื่องมันเป็นอย่างที่เธอคิด เธอจะได้ไม่ต้องคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอีก”
กานต์พูดจบไม่ทันไร ประตูก็ถูกคนข้างนอกถีบเข้ามา
“นายกล้าเหรอ!”
ไอราโกรธจนสั่นไปทั้งตัว
ตาหมาบ้านี่กล้าแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นเหรอ!
แล้วเธอล่ะ?
กานต์ไม่แปลกใจกับการโผล่มาของไอรา เพียงแค่กวาดตามองเธอนิ่งๆ จากนั้นก็ยกน้ำขึ้นมาดื่มต่อ ท่าทางขี้บ่นกับกิจจาเมื่อครู่พลันหายไป แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา ราวกับสร้างกำแพงที่มองไม่เห็นขีดเส้นแบ่งตัวเองกับไอราเอาไว้
ไอราเริ่มรู้สึกน้อยใจ และรู้สึกแสบจมูก
“กานต์ นายรังแกฉัน!”
เมื่อไอราพูดคำนี้ออกมา กานต์ก็ดึงมุมปากขึ้น
“ฉันรังแกเธอ? ไอรา นับวันเธอยิ่งโยนความผิดให้คนอื่นเก่งขึ้นนะ!”
หน้าของไอราพลันแดงซ่านขึ้นมา แต่ว่าตาหมาบ้านี่ไม่รู้เลยหรือไงว่าเธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป ที่อยากให้เขาง้อ?
“นายยุ่งอะไรด้วย ฉันก็เป็นคนอย่างนี้ นายก็รู้ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ? นายทำให้ฉันโมโห แถมตอนนี้ยังคิดจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอีก กานต์ นายเห็นฉันตายไปแล้วใช่ไหม?”
ไอราเดินพุ่งเข้าไป กำคอเสื้อของกานต์เอาไว้ เอ่ยขึ้นอย่างเหี้ยมๆว่า “นายกล้าแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นก็ลองดู!นายแต่งกับใครฉันก็จะทำลายคนนั้น!นี่ฉันไม่ได้ขู่นะ!”